WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET37ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ เล็งกลุ่มพลังงานรับผลบวกราคาน้ำมันขึ้น-กลุ่มแบงก์คาดงบฯ Q3/59 ฟื้น

     นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสจะรีบาวด์ขึ้นได้ คาดว่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันเมื่อคืนที่ผ่านมาได้ปรับตัวขึ้นทดสอบระดับ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล

    นอกจากนี้ คาดว่าจะได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มธนาคารด้วย เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วง Preview งบการเงินไตรมาส 3/59 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่งต่างก็คาดการณ์กันว่าผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารจะมีการฟื้นตัวขึ้นได้

      ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งแคบทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้ เพราะจะเป็นตัวบ่งชี้ตัวหนึ่งในการพิจารณาการปรับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ

       พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,525 จุด

     ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 ต.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,281.03 จุด พุ่งขึ้น 112.58 จุด (+0.62%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,316.02 จุด เพิ่มขึ้น 26.36 จุด (+0.50%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,159.73 จุด เพิ่มขึ้น 9.24 จุด (+0.43%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 94.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 71.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 8.88 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 16.30 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 14.76 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.03 จุด

      ด้านตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ

       - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (5 ต.ค.59) 1,509.92 จุด เพิ่มขึ้น 0.14 จุด (+0.01%)

      - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,090.62 ล้านบาท เมื่อวันที่ 5 ต.ค.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 ต.ค.59) ปิดที่ 49.83 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.3%

       - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ต.ค.59) ที่ 5.28 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

       - เงินบาทเปิด 34.78/80 แข็งค่าหลังข่าว EU จะลดปริมาณการทำ QE,จับตาตัวเลข Non Farm Payroll

       - ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) สำนักงานประเทศไทย เปิดเผยรายงานการคาดการณ์เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและไทยว่า แรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยจะไม่อยู่ที่การส่งออกอีกต่อไปแล้ว ส่วนหนึ่งเพราะการค้าโลกหดตัวลงต่อเนื่อง แถมเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) ก็จะปรับลดลง โดยปีนี้และปีหน้าคาดว่าเอฟดีไอจะติดลบที่ 0.1% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี)

      - ราคาทองคำแท่งตลาดโคเม็กซ์ซื้อขายล่วงหน้างวดส่งมอบเดือน ธ.ค. ปรับตัวลง 3.3% เป็น 1,269.70 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ระหว่างการซื้อขายเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งปรับลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2013 ขณะที่ราคาทองคำโกลด์ สปอตปรับตัวลง 0.3% เป็น 1,272 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ระหว่างซื้อขายวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับลดลงติดต่อกันจากวันก่อนหน้าที่ปรับลดไปแล้ว 3.3% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.ค. 2015

       - นักวิชาการเครือข่ายเพื่อนตะวันออก วาระเปลี่ยนตะวันออก ยื่นหนังสือคัดค้านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2559 เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัด ได้แก่ จ.ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง เนื่องจาก มติ ครม.ได้เอื้อประโยชน์ให้กับนักลงทุนต่างชาติอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน อาทิ การอนุญาตให้ต่างชาติสามารถถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้ 50 ปี บวก 49 ปี เป็น 99 ปี

      - คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เห็นชอบให้คงราคาขายปลีกก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ประจำเดือน ต.ค. 2559 อยู่ที่ 20.29 บาท/กิโลกรัม (กก.) แม้ว่าราคาเฉลี่ยถ่วง น้ำหนักจะปรับตัวลดลง 0.1644 บาท/กก. จาก 13.1623 บาท/กก. เป็น 12.9979 บาท/กก. ก็ตาม แต่เพื่อเป็นการลดภาระการชดเชยของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในช่วงที่ผ่านมา กบง.จึงให้นำเงินดังกล่าวเก็บเข้ากองทุนน้ำมันฯ แทน

                - คมนาคมเดินหน้าเปิดประมูลไตรมาส 4 อีก 11 โครงการ วงเงิน 3.4 แสนล้านบาท ทั้งรถไฟทางคู่ รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีแดง สายสีม่วง มอเตอร์เวย์ กทม.-โคราช-กาญจนบุรี ขยายอาคารสนามบินสุวรรณภูมิ สร้างรถไฟฟ้าอัตโนมัติเชื่อมอาคาร เผยเบิกจ่ายงบประมาณปี'59 เข้าเป้า 93.08%

*หุ้นเด่นวันนี้

       - ORI (โกลเบล็ก) เป้า consensus 13.20-15 บาท อัตรากำไรขั้นต้น 44.63% ใน H1/59 สูงสุดในกลุ่ม สูงกว่าค่าเฉลี่ย 36% เป็นผลจากกลยุทธ์พัฒนาโครงการในทำเล Blue ocean ทำให้ต้นทุนที่ดินไม่สูง และปรับขึ้นราคาขายได้, ยอด Presale ล่าสุด 9,000 ล้านบาท (สูงกว่าเป้าที่ 8,500 ลบ.) หนุน backlog ขึ้นเป็น 10,245 ลบ.ทำให้เป้ารายได้ปีนี้ที่ 4,000 ลบ. มี backlog รองรับแล้ว 85% ส่วนเป้ารายได้ปีหน้า 6,000 ลบ.มีรองรับแล้วถึง 73% สูงสุดในกลุ่มอสังหาฯ และมีแผนสร้างรายได้ประจำ 10% ของรายได้รวม จากธุรกิจให้เช่าและโรงแรม โดยมีแผนพัฒนาโครงการ mix use มูลค่ารวม 4,000 ลบ.ในทำเลแหลมฉบัง-ศรีราชา เริ่มสร้างปี 60 อนาคตจะขายทรัพย์สินกลุ่มนี้ตั้งกอง REIT

       - BEAUTY (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 11.80 บาท คาดกำไรสุทธิ Q3/59 ทำสถิติใหม่ต่อเนื่อง 148 ล้านบาท +7% Q-Q, +45% Y-Y จากการเปิดสาขาใหม่ 10 อีกเป็น 367 แห่ง การออกสินค้าใหม่ ทำให้ยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาเดิม +25% Y-Y แม้ราคาหุ้นจะปรับขึ้นถึง 506% ใน 4 ปีที่ผ่านมาทำ new high ต่อเนื่อง สอดคล้องกับกำไรที่ทำ new high ทุกปีเช่นกันและโต 230% ในช่วง 4 ปี แม้กำไรจะโตไม่เร็วเท่าราคาหุ้น แต่เชื่อว่ามีตลาดในต่างประเทศให้ขยายได้อีกมาก

      - ALT (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ" ศาลปกครองกลางพิพากษาให้ ALT ชนะและให้คู่สัญญาชดใช้ค่าเสียหาย 13.5 ล้านบาท/เดือนนับตั้งแต่ ก.พ.56 รวมถึงปัจจุบันเป็นเงิน 600 ล้านบาท (0.60 บาท/หุ้น) แต่คู่กรณีมีสิทธิอุทธรณ์ใน 30 วัน พร้อมให้ราคาพื้นฐานที่เหมาะสม 9 บาท ซึ่งไม่ได้รวมข้อพิพาทดังกล่าว

      - PS (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 30 บาท ยอด Presale งวด Q3/59 กลับมาเติบโตได้ดีเพิ่มขึ้น 10% QoQ และ 24% YoY จากยอด Presale โครงการคอนโดมิเนียมที่เพิ่มขึ้นมาก โดยยังคงคาดกำไรสุทธิงวด H2/59 จะดีขึ้นจาก H1/59 อย่างไรก็ตาม โดยปรับลดคาดการณ์กำไรปี 59 ลง แต่คาดว่าจะดีขึ้นในปี 60 และราคาหุ้นปัจจุบันเทรด PER ไม่แพงราว 7.8 เท่า และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงราว 6%-7% ต่อปี

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส, น้ำมันพุ่ง

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นกว่า 2% รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

     ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 140.91 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,913.60 จุด เพิ่มขึ้น 94.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,859.41 จุด เพิ่มขึ้น 71.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,263.40 จุด ลดลง 8.88 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,069.30 จุด เพิ่มขึ้น 16.30 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,896.55 จุด เพิ่มขึ้น 14.76 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,663.95 จุด เพิ่มขึ้น 1.03 จุด ด้านตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ

     ทั้งนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ได้เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ระดับ 57.1 ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้นจากระดับ 51.4 ในเดือนส.ค. รวมทั้งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 53.0

     ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 80 โดยได้แรงหนุนจากกิจกรรมทางธุรกิจและการจ้างงาน ซึ่งต่างก็ปรับตัวดีขึ้นในเดือนก.ย.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : แรงเทขายทำกำไรฉุดฟุตซี่ปิดลบ 41.09 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 วันติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคารได้ช่วยสกัดแรงลบในตลาด

      ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 41.09 จุด หรือ 0.58% แตะที่ 7,033.25 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ตลาดพุ่งแตะระดับใกล้เคียงกับระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

     อย่างไรก็ตาม หุ้นเทสโก้พุ่งขึ้น 7.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 60% แตะที่ 596 ล้านปอนด์ (759 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งอยู่ที่ 523 ล้านปอนด์

      หุ้นบาร์เคลย์สเพิ่มขึ้น 1.3% หนุนหุ้นกลุ่มธนาคารของอังกฤษปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ธนาคารบรรลุข้อตกลงขายธุรกิจในอียิปต์

       หุ้นเอชเอสบีซีพุ่งแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2558 เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตก ECB ลดวงเงิน QE

      ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) อาจปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.6% ปิดที่ 344.20 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,489.95 จุด ลดลง 13.14 จุด หรือ -0.29% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,585.78 จุด ลดลง 33.83 จุด หรือ -0.32% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,033.25 จุด ลดลง 41.09 จุด หรือ -0.58%

      ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงหลังจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ECB อาจจะปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ปีหน้า

      นักวิเคราะห์จากบีเค แอสเซท เมเนจเมนท์กล่าวว่า นักลงทุนประหลาดใจกับการรายงานข่าวดังกล่าว เนื่องจากการปรับลดวงเงิน QE ก่อนกำหนดนั้น ถือเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปรกติ และแม้ว่านายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ได้ออกมาปฏิเสธข้อมูลดังกล่าวด้วยการระบุว่า ECB ไม่ได้มีการหารือกันในประเด็นนี้ แต่นักลงทุนก็ยังมองว่า มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ ECB จะดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินอีก

      หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ ปรับตัวลง 0.1% หลังจากนักวิเคราะห์ของบีเอ็นพี พาริบาส์ ได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

     อย่างไรก็ตาม หุ้นดอยซ์แบงก์ ดีดตัวขึ้น 2.8% หลังจากหนังสือพิมพ์ Der Platow Brief ของเยอรมนีรายงานว่า ดอยซ์แบงก์กำลังเจรจากับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐเพื่อลดค่าปรับจาก 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 4-5 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสิ้นเดือนนี้

    นอกจากนี้ ทางธนาคารกำลังพิจารณาทำการเพิ่มทุน และยกเลิกการจ่ายโบนัส

       หุ้นเทสโก้พุ่งขึ้น 10% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลกำไรจากการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 60% แตะที่ 596 ล้านปอนด์ (759 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ซึ่งอยู่ที่ 523 ล้านปอนด์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 112.58 จุด รับราคาน้ำมันฟื้น,ข้อมูลศก.สดใส

      ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (5 ต.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ทะยานขึ้นกว่า 2% ได้ช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีภาคบริการที่ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันยาวนานเป็นเดือนที่ 80

                ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,281.03 จุด พุ่งขึ้น 112.58 จุด หรือ +0.62% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,316.02 จุด เพิ่มขึ้น 26.36 จุด หรือ +0.50% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,159.73 จุด เพิ่มขึ้น 9.24 จุด หรือ +0.43%

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ได้เปิดเผยผลสำรวจซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM อยู่ที่ระดับ 57.1 ในเดือนก.ย. และเพิ่มขึ้นจากระดับ 51.4 ในเดือนส.ค. รวมทั้งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณืที่ระดับ 53.0

     ทั้งนี้ ดัชนีภาคบริการเดือนก.ย.ทำสถิติขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 80 โดยได้แรงหนุนจากกิจกรรมทางธุรกิจและการจ้างงาน ซึ่งต่างก็ปรับตัวดีขึ้นในเดือนก.ย.

    ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าทุนพื้นฐาน ที่ไม่รวมหมวดอาวุธและเครื่องบิน เพิ่มขึ้น 0.9% ในเดือนส.ค. โดยยอดสั่งซื้อดังกล่าวได้รับการจับตาว่าเป็นมาตรวัดความเชื่อมั่น และแผนการใช้จ่ายในภาคธุรกิจ

       หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นกว่า 2% ภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 6.8% ทำสถิติปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นพลังงานที่จดทะเบียนในดัชนี S&P500 ขณะที่หุ้นทรานส์โอเชียน พุ่งขึ้น 5.9%

      นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์ เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นเพียง 154,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 166,000 ตำแหน่ง

     ทั้งนี้ ก่อนที่ ADP จะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐนั้น นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก ได้กล่าวแสดงความเห็นที่เมืองอ็อคแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ว่า เขายอมรับได้ หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้ ถ้าหากว่าข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง

     นักลงทุนจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากตัวเลขจ้างงานในครั้งนี้จะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของเฟดในรอบ 10 ปี

      ขณะที่ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.ของสหรัฐมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น 175,000 ตำแหน่ง และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!