ดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ตามภูมิภาค หลังมีข่าวดอยซ์แบงก์เจรจากับสหรัฐฯขอลดจ่ายค่าปรับ

Details: Category: หุ้นเด่นวันนี้; Published: Monday, 03 October 2016 11:00; Hits: 3643

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวด์ตามภูมิภาค หลังมีข่าวดอยซ์แบงก์เจรจากับสหรัฐฯขอลดจ่ายค่าปรับ

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะรีบาวด์ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า เนื่องจากผ่อนคลายเรื่องของ"ดอยซ์แบงก์"หลังจากที่มีข่าวออกมาว่ากำลังเจรจากับสหรัฐฯให้ลดค่าปรับลงเหลือ 5,400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากเดิมที่ต้องจ่าย 14,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งก็ทำให้เห็นโอกาสในการเจรจากันได้

นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจจีนก็ออกมาไม่ได้แย่ และทางกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ก็จะลดกำลังการผลิตน้ำมันด้วย ขณะเดียวกันก็ยังไม่ค่อยมีข่าวลบเข้ามาในตลาดฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,477-1,460 จุด ส่วนแนวต้าน 1,491-1,498 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (30 ก.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,308.15 จุด เพิ่มขึ้น 164.70 จุด (+0.91%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,312.00 จุด เพิ่มขึ้น 42.85 จุด (+0.81%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,168.27 จุด เพิ่มขึ้น 17.14 จุด (+0.80%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 116.19 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 355.68 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 52.67 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.38 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีน ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ, ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันสถาปนาประเทศ และตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดชดเชยปีใหม่อิสลาม

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 ก.ย.59) 1,483.21 จุด ลดลง 8.22 จุด (-0.55%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 540.75 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ก.ย.59

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (30 ก.ย.59) ปิดที่ 48.24 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 41 เซนต์ หรือ 0.9%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (30 ก.ย.59) ที่ 6.78 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 34.59/61 มองกรอบวันนี้ 34.50-34.75 รอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯสัปดาห์นี้

- ธปท.เผยประชาชนก่อหนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดยอดคงค้างหนี้แตะ 11.24 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.67 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่แหล่งเงินกู้ครัวเรือนมาจากแบงก์พาณิชย์-แบงก์รัฐสหกรณ์

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้าย 8 เดือนแรกของปีนี้ว่า ไหลออกสุทธิ 5,697 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.98 แสนล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนปิดตลาดวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่ 34.67 บาท/เหรียญสหรัฐ ซึ่งไหลออกต่อเนื่องจากปีที่แล้วที่ 1.71 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6 แสนล้านบาท

- บีโอไอ เตรียมชงบอร์ด ยกเว้นภาษีลงทุนรถอีวีในประเทศ สูงสุดไม่เกิน 8 ปี พร้อมนำเข้าชิ้นส่วนปลอดภาษี เพื่อตอบสนองนโยบายรัฐ เร่งให้มีรถวิ่ง พ.ย.นี้

- คลังวาดแผนเบิกจ่ายเงินไตรมาสสุดท้าย แจงตุนเงินคงคลัง 3 แสนล้านบาทรองรับใช้จ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจ หวังดันจีดีพีสิ้นปีโตตามเป้าหมาย 3.3% พร้อมจี้สรรพากรตรวจสอบธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ สั่งต้อนเข้าระบบภาษีให้ถูกต้อง

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มดอกเบี้ยนโยบาย และดอกเบี้ยเงินกู้เงินฝากของธนาคารพาณิชย์ไทย ยังทรงตัวในระดับต่ำไปอีกนานกว่า 1 ปี โดยเฉพาะดอกเบี้ยสินเชื่อรายย่อยสำหรับการกู้ซื้อบ้าน รถยนต์ รวมถึงสินเชื่อบุคคล

*หุ้นเด่นวันนี้

- TPCH (เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า 22 บาท หลุดแคชบาลานซ์วันแรก คาดมีแรงเก็งกำไรเข้ามา ประเมินแนวรับ 18.5 บาท แนวต้านแรก 19 บาท และถัดไปที่ 19.6 บาท (กรอบ Uptrend line channel 18.3 – 19.6 บาท) ในเชิงพื้นฐานยังคงประเมินแนวโน้มกำไรจะทำนิวไฮ 3-5 ไตรมาสติด จากแผนการทยอย COD โรงไฟฟ้าชีวมวลที่มี PPA ในมือ และรอลุ้นการเปลี่ยนสัญญา LOI 20MW ที่ จ.ปัตตานี เป็น PPA เร็ว ๆ นี้

- KBANK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 232 บาท คาดกำไรสุทธิ 3Q59 จะดีที่สุดในรอบปีนี้ที่ 1.08 หมื่นล้านบาท +15% Q-Q, +7% Y-Y จากการตั้งสำรองลดลง ขณะที่ NIM คาดทรงตัวที่ 3.5-3.55% ตามสินเชื่อที่คาดเพิ่มขึ้น 1-2% Q-Q และต้นทุนการเงินต่ำ ข่าวดีคือสถานการณ์ NPL ที่ดีขึ้น แม้จะยังเพิ่มขึ้นแต่อัตราการเพิ่มมีความคงที่และบริหารจัดการได้ ยังคงประมาณการกำไรปีนี้ -2.3% Y-Y และปีหน้า +12.8% Y-Y

- SNC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 21 บาท Valuations น่าสนใจมาก แม้จะคาดว่ากำไรสุทธิ 3Q59 -26.7% Q-Q เพราะ low season แต่ +12.2% Y-Y จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในเกือบทุกกลุ่มสินค้าหลังได้ลูกค้าเพิ่ม รวมถึงโมเดลใหม่ๆจากลูกค้าเดิม และการควบรวมงบการเงินของ SSMA หลังถือหุ้นเพิ่มจาก 49% เป็น 51% แนวโน้มผลการดำเนินงานในระยะถัดไปน่าจะเห็นการเติบโตในอัตราเร่งหลังย้ายโรงงานแล้วเสร็จ ซึ่งทำให้ได้รับออร์เดอร์เพิ่ม และประสิทธิภาพการดำเนินงานดีขึ้น โดยคาดกำไรปีนี้ +8.2% Y-Y ปีหน้า +14.7% และคาด Dividend yield 7%

- BJC (โกลเบล็ก) เป้า Consensus 51.86 บาท โดย Consensus คาดกำไรปี 2559 ที่ 3.7 พันล้านบาท(+36%YoY) โดยคาดกำไร Q3/59 จะโตก้าวกระโดดเป็น 2.2 พันล้านบาท จาก FX Gain ราว 1.3 พันล้านบาท หลังบริษัทคืนเงินกู้ราว 3.1 พันล้านยูโร ประกอบกับธุรกิจ Packaging ขยายตัวจาก order ขวดแก้วเขียวแบบใหม่ตั้งแต่ต้นปี และคาดกำไรปี 2017 ขยายตัวขึ้นเป็น 6.7 พันล้านบาท (+79%YoY) จากการรับรู้รายได้และกำไรจากการเข้าซื้อ BIGC เต็มปี, ภาระดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจากการเพิ่มทุนกว่า 8 หมื่นล้านบาท รวมถึงออกหุ้นกู้ 5.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีดอกเบี้ยต่ำ รวมถึงธุรกิจกระป๋องและขายสินค้าในเวียดนามของ BJC มีการขยายตัวต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ หลังดาวโจนส์พุ่งรับข่าวดอยซ์แบงก์

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดทะยานขึ้นเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับธนาคารดอยซ์แบงก์ หลังมีข่าวว่าทางธนาคารใกล้บรรลุข้อตกลงกับทางการสหรัฐในการลดการจ่ายค่าปรับเหลือเพียง 5.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งลดลงเป็นอย่างมากจากระดับ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องในเบื้องต้น

ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 140.12 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,566.03 จุด เพิ่มขึ้น 116.19 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,652.83 จุด เพิ่มขึ้น 355.68 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,219.52 จุด เพิ่มขึ้น 52.67 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,879.85 จุด เพิ่มขึ้น 10.38 จุด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันสถาปนาประเทศ และตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้เนื่องในวันหยุดชดเชยปีใหม่อิสลาม

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 20.09 จุด หลังหุ้นเหมืองแร่-น้ำมันร่วง

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และน้ำมันที่ร่วงลง แม้ว่านักลงทุนจะคลายวิตกกังวลเกี่ยวกับธนาคารดอยซ์แบงก์แล้วก็ตาม

ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวลดลง 20.09 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 6,899.33 จุด

หุ้นริโอ ทินโต ร่วงลง 2.3% หุ้นเกล็นคอร์ ลดลง 1.7% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ลดลง 1.3% ขณะเดียวกันหุ้นบีพี ขยับลง 0.2% และหุ้นรอยัลดัทช์ เชลล์ ลดลง 1.2%

ทั้งนี้ แหล่งข่าวระบุว่า ดอยซ์แบงก์ใกล้บรรลุข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เกี่ยวกับการจ่ายค่าปรับเพียง 5.4 พันล้านดอลลาร์เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกในปี 2551

หากรายงานข่าวดังกล่าวเป็นความจริง ค่าปรับที่ดอยซ์แบงก์จะต้องจ่ายต่อทางสหรัฐก็จะลดลงเป็นอย่างมากจากระดับ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ทางกระทรวงยุติธรรมสหรัฐได้เรียกร้องในเบื้องต้น

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวก รับข่าวดอยซ์แบงก์เจรจาลดค่าปรับ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับธนาคารดอยซ์แบงก์ หลังมีข่าวว่าทางธนาคารใกล้บรรลุข้อตกลงกับทางการสหรัฐในการลดการจ่ายค่าปรับเหลือเพียง 5.4 พันล้านดอลลาร์

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 342.92 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,448.26 จุด เพิ่มขึ้น 4.42 จุด หรือ +0.10% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,511.02 จุด เพิ่มขึ้น 105.48 จุด หรือ +1.01% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,899.33 จุด ลดลง 20.09 จุด หรือ -0.29%

หุ้นดอยซ์แบงก์ทะยาน 14% หุ้นเครดิต อะกริโคล บวก 1% หุ้นยูบีเอส กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1.5% หุ้นแอร์บัส กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 1%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดทะยาน 164.70 จุด รับข่าวดอยซ์แบงก์ใกล้บรรลุข้อตกลงลดค่าปรับ

ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับธนาคารดอยซ์แบงก์ หลังมีข่าวว่าทางธนาคารใกล้บรรลุข้อตกลงกับทางการสหรัฐในการลดการจ่ายค่าปรับเหลือเพียง 5.4 พันล้านดอลลาร์

ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 164.70 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 18,308.15 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 17.14 จุด หรือ 0.80% ปิดที่ 2,168.27 จุด ดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้น 42.85 จุด หรือ 0.81% ปิดที่ 5,312.00 จุด

แหล่งข่าวระบุว่า ดอยซ์แบงก์ใกล้บรรลุข้อตกลงกับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เกี่ยวกับการจ่ายค่าปรับเพียง 5.4 พันล้านดอลลาร์เพื่อยุติการสอบสวนในคดีที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤตการเงินโลกในปี 2551

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น หลังจากที่ประชุมโอเปกมีมติปรับลดการผลิตน้ำมันลงสู่ระดับ 32.5 - 33 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปัจจุบันที่ระดับ 33.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น โดยหุ้นดอยซ์แบงก์พุ่งขึ้นกว่า 14% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา เพิ่มขึ้น 3.2% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ บวก 3.3%

ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอ็นเนอร์จี บวก 4.85% ขณะที่หุ้นอีคิวที คอร์ป เพิ่มขึ้น 4.41%

อินโฟเควสท์