- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 30 August 2016 10:50
- Hits: 2426
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบแต่ยังมีลุ้นฟื้นตัวหลังรับรู้เฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยไปแล้ว
นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะฟื้นตัวขึ้นได้ แต่ภาพรวมน่าจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ ภายหลังจากที่ตลาดฯได้เริ่มรับรู้ไปบ้างแล้วว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยขณะนี้โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น
อย่างไรก็ดี ก็ต้องติดตามวันศุกร์นี้ที่สหรัฐฯจะประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และตัวเลขว่างงาน ซึ่งจะเป็น Key สำคัญในการประชุมเฟดในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ซึ่งถ้าตัวเลขออกมาดีก็มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ ซึ่งทำให้ตลาดฯอาจเจอแรงขายทำกำไรออกมา และยังทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ส่วนเงินบาทก็จะอ่อนค่าลง ซึ่งเช้านี้ก็เริ่มเห็นเงินบาทอ่อนค่าลงบ้างแล้ว
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ยกเว้นตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ที่ติดลบเล็กน้อย ดังนั้นตลาดบ้านเราอาจติดลบเล็กน้อยได้เหมือนกัน แต่ถ้าบวกก็คงจะไม่มาก ขณะที่ราคาน้ำมันก็ทรง ๆ ตัว
พร้อมให้แนวรับ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 ส.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,502.99 จุด พุ่งขึ้น 107.59 จุด (+0.58%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,232.33 จุด เพิ่มขึ้น 13.41 จุด (+0.26%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,180.38 จุด เพิ่มขึ้น 11.34 จุด (+0.52%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 46.51 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.41 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 123.74 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 3.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 16.75 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.02 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 17.66 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ส.ค.59) 1,544.15 จุด ลดลง 5.26 จุด (-0.34%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,784.26 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ส.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 ส.ค.59) ปิดที่ 46.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 66 เซนต์ หรือ 1.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ส.ค.59) ที่ 5.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.56/60 รอปัจจัยใหม่ จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯศุกร์นี้
- สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานภาวะการจ้างงานในไตรมาส 2 ของปีนี้ การจ้างงานและชั่วโมงการทำงานลดลง โดยมีการจ้างงาน 37,393,472 คน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.9% ส่วนการว่างงานในไตรมาส 2 มีจำนวน 411,124 คน เพิ่มขึ้น 22.3% และคิดเป็นอัตราการว่างงานเท่ากับ 1.08% เทียบกับ 0.88% ในไตรมาสเดียวกันของปี 2558
- สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า นโยบายรัฐที่ประกาศการส่งเสริมรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ค่ายรถยนต์ทั้งหมดก็ออกมาส่งสัญญาณแล้วว่ารัฐบาลไม่ควรจะเร่งรีบ ควรจะไปส่งเสริมให้เกิดอีก 5-10 ปีข้างหน้ามากกว่า เพราะสิ่งที่จะกระทบมากคือผู้ประกอบการชิ้นส่วน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการไทย เนื่องจากรถอีวีเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงและใช้อะไหล่น้อยมากจึงต้องมีเวลาปรับตัว
- นายกฯ เปิดเดินขบวนรถรุ่นใหม่เที่ยวปฐมฤกษ์ในเส้นทางกรุงเทพฯ-นครปฐม ให้บริการ 4 เส้นทาง ด้าน ร.ฟ.ท.คาดเปิดประมูลรถไฟทางคู่ ประจวบฯ-ชุมพร 1.7 หมื่นล้านบาท ต้น ก.ย.นี้
- "ชาติศิริ โสภณพนิช" กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ มองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยครึ่งหลังปีของปีนี้จะปรับตัวดีและมีเสถียรภาพขึ้น จากการที่ภาครัฐมีมาตรการต่างๆ ผลักดันออกมาอย่างเต็มที่ และเห็นว่าอัตราการขยายตัวของจีดีพีปี 59 จะเติบโตได้ 3-3.5% ดังนั้นการปล่อยสินเชื่อครึ่งหลังปีนี้ของธนาคารยังเป็นไปตามเป้าหมายเติบโต 3-5% เน้นกระจายสินเชื่อทั่วประเทศในทุกกลุ่มทั้งรายเล็ก กลางและใหญ่ ส่วนความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนภาครัฐได้มีมาตรการดูแลช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะผู้ส่งออก และผู้ประกอบการเองได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้ทั้งหมดแล้ว
*หุ้นเด่นวันนี้
- BA (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 28 บาท เริ่มเปิดบินเส้นทางดานังตั้งแต่ พ.ค.59 ในปัจจุบัน load factor อยู่ที่ 77% เพิ่มขึ้นจาก 2-3 เดือนก่อนที่ประมาณ 73% สะท้อนอุปสงค์ผู้โดยสารแข็งแกร่งมาก ดังนั้น บริษัทจึงมีแผนเพิ่มความถี่ของเที่ยวบินเป็น 7 เที่ยวต่อสัปดาห์ภายในเดือน มี.ค.60 จาก 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ในปัจจุบัน เชื่อเส้นทางนี้จะช่วยสร้างศักยภาพการเติบโตใน 2-3 ปีข้างหน้า
- WHA (ยูโอบี เคย์เฮียน) ประโยชน์ซื้อ HEMRAJ เริ่มเห็นเด่นชัดมากขึ้น รวมทั้งภาระดอกเบี้ยลดลงต่อเนื่อง ทำให้คาดแนวโน้มผลประกอบการเริ่มฟื้นช่วงครึ่งปีหลัง, เตรียม Spin-off ธุรกิจสาธารณูปโภคเข้าตลาดหุ้น รวมทั้งเตรียมการเข้าร่วมทุนกับพันธมิตร 2 รายทำธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ เบื้องต้นคาดบริษัทร่วมทุนจะบันทึกรายได้ 1,000 ล้านบาท/ปี และคาดจะกลับมาจ่ายปันผลได้อีกครั้งปีนี้
- KTC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้าปีหน้า 168 บาท ผู้บริหาร Update ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตร (Spending) 7 เดือนแรกปี 59 ยังเป็นไปได้ดีที่ 9.5 หมื่นลบ. +15%Y-Y ผู้บริหารคาดทั้งปียอดใช้จ่ายผ่านบัตรโตราว 16-17% ดีกว่าเป้าหมาย การเติบโตของยอดใช้บัตรเป็นปัจจัยสำคัญของประมาณการกำไร เพราะจะนำไปสู่ค่าธรรมเนียมการใช้วงเงินและค่าธรรมเนียมจากร้านค้ารับบัตรที่มากขึ้น และไม่มีภาระสำรองฯ โดยยังคาดกำไรสุทธิปี 59-60 เติบโตราว 18% ต่อปี
- CK (ไอร่า) เป้า 37.50 บาท ยังมีประเด็นความน่าสนใจจาก Backlog แข็งแกร่งทั้งจากงานใหม่ที่รับเข้ามาในช่วง 8 เดือนแรกปีนี้รวม 24,145 ล้านบาท และอยู่ระหว่างรอลงนามอีก 1 โครงการ อีกประมาณ 25,000 ล้านบาท ทำให้งานเพิ่มปีนี้สูงถึง 49,000 ล้านบาท และคาด Backlog สิ้นปีไม่ต่ำกว่า 90,000 ล้านบาท และมีแผนเข้าประมูลงานต่อเนื่องถึง H1/60 รวม 370,000 ล้านบาท คาดได้ 20-25% หรือไม่ต่ำกว่า 75,000 ล้านบาท
ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังมีรายงานว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลงเพราะได้รับแรงกดดันจากเงินเยนที่แข็งค่า
ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 138.33 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.15 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,690.98 จุด ลดลง 46.51 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,071.44 จุด เพิ่มขึ้น 1.41 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,945.08 จุด เพิ่มขึ้น 123.74 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,113.34 จุด เพิ่มขึ้น 3.17 จุด
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,038.60 จุด เพิ่มขึ้น 6.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,846.18 จุด เพิ่มขึ้น 16.75 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,686.62 จุด เพิ่มขึ้น 5.02 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,863.15 จุด เพิ่มขึ้น 17.66 จุด
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนก.ค. โดยปรับตัวขึ้น 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการซื้อรถยนต์
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ จากคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ยเดือนหน้า
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 343.20 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,424.25 จุด ลดลง 17.62 จุด, -0.40% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 10,544.44 จุด ลดลง 43.33 จุด, -0.41% ส่วนตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการวันจันทร์ที่ 29 ส.ค. เนื่องในวันหยุดธนาคารของอังกฤษ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้
นักวิเคราะห์ของบริษัทโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. โดยคาดว่ามีโอกาส 40% จากเดิมที่ 30% และปรับเพิ่มคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่ามีโอกาส 80% จากเดิมที่ 75%
การปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ปัจจัยต่างๆที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ทางด้านนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวว่า ถ้อยแถลงของนางเยลเลน บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ และยังสะท้อนให้เห็นว่า มีโอกาสค่อนข้างมากที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน โดยหุ้น Eni SpA ร่วงลง 1% หุ้นโททาล ปรับตัวลง 0.9% และหุ้นเรพซอล ดิ่งลง 1.3%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 107.59 จุดรับการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐสดใส
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ส.ค.) ขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐซึ่งระบุว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นด้วย
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,502.99 จุด พุ่งขึ้น 107.59 จุด หรือ +0.58% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,232.33 จุด เพิ่มขึ้น 13.41 จุด หรือ +0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,180.38 จุด เพิ่มขึ้น 11.34 จุด หรือ +0.52%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนก.ค. โดยปรับตัวขึ้น 0.3% ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการซื้อรถยนต์
ส่วนในไตรมาสแรกปีนี้ การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.5% และพุ่งขึ้น 4.4% ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นขานรับกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด โดยหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับขึ้น 1.1% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก พุ่งขึ้น 2.2%
หุ้นเฮอร์บอลไลฟ์ พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากมีรายงานว่า นายคาร์ล ไอห์คาน มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังได้เข้าซื้อหุ้นเฮอร์บอลไลฟ์เพิ่มอีก 2.3 ล้านหุ้น
สำหรับ หุ้นตัวอื่นๆที่ดีดตัวขึ้นและช่วยหนุนตลาดหุ้นปรับฐานขึ้นด้วยนั้น รวมถึงหุ้นวอล ดิสนีย์ หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส หุ้นไนกี้ และหุ้นแอปเปิล
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งหากออกมาแข็งแกร่ง ก็จะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. แต่ถ้าตัวเลขจ้างงานออกมาต่ำกว่าคาด ก็จะลดแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นักวิเคราะห์ของบริษัทโกลด์แมน แซคส์ ปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย. โดยคาดว่ามีโอกาส 40% จากเดิมที่ 30% และปรับเพิ่มคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้งในปีนี้ โดยคาดว่ามีโอกาส 80% จากเดิมที่ 75%
การปรับเพิ่มคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด กล่าวในการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า ปัจจัยต่างๆที่สนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ได้เพิ่มมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
ทางด้านนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวว่า ถ้อยแถลงของนางเยลเลน บ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ และยังสะท้อนให้เห็นว่า มีโอกาสค่อนข้างมากที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
อินโฟเควสท์