- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 25 August 2016 11:31
- Hits: 3242
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่ง Sideway ปัจจัยในประเทศหนุน-รอจับตานโยบายเฟด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ สำนักวิจัยทิสโก้ กล่าวว่า คาดตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ แกว่ง Sideway แม้ว่านักลงทุนต่างชาติยังคงเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยต่อเนื่อง
ภาพรวม นักลงทุนยังคงรอดูสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟดในรัฐไวโอมิ่งวันศุกร์นี้ ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันระหว่างวันที่ 25-26 ส.ค.ในหัวข้อ"การออกแบบกรอบนโยบายการเงินอย่างยืดหยุ่นสำหรับอนาคต"คาดว่าอาจจะมีการส่งสัญญาณทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด
นอกจากนี้ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงก็จะส่งผลกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มปิโตรเคมีให้ปรับตัวลดลงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกจากสถานการณ์ภายในประเทศ หลังจากหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทยอยจ่ายปันผลระหว่างกาล และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เตรียมจัดงานไทยแลนด์โฟกัส น่าจะส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุนในช่วงที่เหลือของปีนี้
ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคเปิดเช้านี้ติดลบ พร้อมมองกรอบแนวต้าน 1,550-1,558 จุด และมีแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,560 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,538-1,540 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ส.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,481.48 จุด ลดลง 65.82 จุด (-0.35%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,217.69 จุด ลดลง 42.39 จุด (-0.81%) และ ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,175.44 จุด ลดลง 11.46 จุด (-0.52%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 17.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 12.44 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 6.41 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 17.09 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 2.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.93 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.26 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ส.ค.59) 1,547.55 จุด เพิ่มขึ้น 7.49 จุด (+0.49%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,491.18 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ส.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ส.ค.59) ปิดที่ 46.77 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.33 ดอลลาร์ หรือ 2.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ส.ค.59) ที่ 4.14 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.62/63 แกว่งกรอบแคบ ตลาดรอจับตาสัญญาณดอกเบี้ยจากเฟดในวันศุกร์นี้
- เกิดเหตุแผ่นดินไหวระดับความแรง 6.8 ในประเทศพม่า ห่างตัวเมืองแม่ฮ่องสอน 509 กม. ความลึก 84 กม. แรงสั่นสะเทือนทำให้เจดีย์ยุคอาณาจักรพุกาม 66 แห่งพังเสียหาย หนุ่มวัย 22 เสียชีวิต ขณะที่ตึกสูงในเชียงใหม่ และกรุงเทพฯ เกิดการสั่นไหว ขณะที่แผ่นดินไหวที่อิตาลี มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 37 ราย
- นายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น (ประเทศไทย) เปิดเผยภายหลังแถลงการจัดงานวันต่อต้านคอร์รัปชั่น 2559 ว่าเตรียมส่งสมาชิกเข้าไปร่วมตรวจสอบความโปร่งใสโครงการลงทุนภาครัฐและรัฐวิสาหกิจในปีงบประมาณ 2560 จำนวน 9 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 6-7 หมื่นล้านบาท เช่น รถไฟฟ้ารางคู่ช่วงมาบกะเบา-ชุมทางจิระ-นครราชสีมา จัดซื้อรถมอเตอร์ไซค์ของตำรวจ การทำงานของกรมที่ดิน เป็นต้น
- ฉกรถ รพ.ซุกคาร์บอมบ์ 100 กก. ถล่มโรงแรมเซาท์เทิร์นวิว ปัตตานี ดับ 1 เจ็บ 30 แฉวางแสวงเครื่อง 'ดิสโก้เธค' ลวงก่อน 'จักรทิพย์' ถก 3 ฝ่าย รุดตรวจจุดเกิดเหตุ กำชับเฝ้าระวังคนร้ายเปลี่ยนยุทธวิธีใช้รถราชการก่อเหตุ
- "กรธ."เคาะแล้ว"ส.ว." หมดสิทธิเสนอชื่อนายกฯ ทุกกรณีแต่ให้ร่วมลงมติผู้ที่จะเป็นนายกฯ แต่ถ้ายังเลือกนายกฯ รอบแรกไม่ได้ ปล่อยเป็นหน้าที่ของ ส.ส.ปลดล็อกให้เลือก "คนนอก" ใช้เสียง 251 คน ขณะที่นายกฯ ทูลเกล้าฯ โผทหารแล้ว "สลายขั้วบูรพาพยัคฆ์" ดัน "บิ๊กเจี๊ยบ" คุม ทบ. หวังแก้ไฟใต้ ส่ง "บิ๊กแดง" นั่งกองทัพภาค 1 ฟากทัพฟ้า "บิ๊กจอม" ขึ้นเบอร์ 1 เพื่อวางยุทธศาสตร์การทำงานต่อเนื่อง 2 ปี
หุ้นเด่นวันนี้
- BDMS (เคจีไอ) แนะนำ "Outperform" ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท/หุ้น คงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มปี 59-60 หลังซัอีโอบอกบริษัทจะยังมุ่งเน้นไปที่การสร้างเติบโตระยะยาวในหลายๆ ด้าน เช่น ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์, การสร้างความสามารถในการแข่งขันในเอเซีย-แปซิฟิก, การขยายพอร์ตโรงพยาบาลให้ได้ตามเป้า 50 แห่งในอีก 2-3 ปี
- APURE (เคทีบี) เป็น Holding ผลงาน 2Q/59 มีกำไร 47.9 ล้านบาท +85% YoY และ +32% QoQ และกำไร 6 เดือนแรกเกือบเท่ากำไรทั้งปี 58 แนวโน้ม Q3/59 บริษัทมั่นใจจะโตต่อเนื่อง เนื่องจากจะทยอยส่งมอบออเดอร์ให้กับฐานลูกค้าญี่ปุ่น ตอ.กลาง ยุโรป และออสเตรเลีย พร้อมทั้งเจรจาออเดอร์ใหม่ๆ จากฐานลูกค้าหลักในญี่ปุ่น แต่ธุรกิจพลังงานทดแทน ยังไม่ได้ข้อสรุป ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปี 0.03 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันนี้
- LH (ธนชาต) แนะนำ"ซื้อ"เป้าพื้นฐาน 13.0 บาท ปรับจากเดิม 11.0 บาท แม้ปรับ Presale ปีนี้ลดลงจากการเลื่อนเปิดโครงการคอนโดฯ 3 แห่งมูลค่า 7.2 พันล้านบาท แต่ยังคาดการณ์กำไรขยายตัวได้ 12-13% ในปี 59-60 ประกอบกับกำไรจากการขายที่ดิน และกำไรทางบัญชีจากการ Dilute ถือหุ้น LHBANK จะทำให้ LH จ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นเป็น 0.68 บาท/หุ้น หรือคิดเป็น Dividend Yield สูง 6.9% ปีนี้
ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ หลังน้ำมันร่วง, จับตาประชุมเฟด
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงในเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงหลังราคาน้ำมัน WTI ร่วงลง จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด
ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% สู่ระดับ 138.72 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,580.15 จุด ลดลง 17.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,073.44 จุด ลดลง 12.44 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,814.37 จุด ลดลง 6.41 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,034.47 จุด เพิ่มขึ้น 17.09 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,041.58 จุด ลดลง 2.18 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,868.64 จุด ลดลง 0.93 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,679.80 จุด ลดลง 2.26 จุด
นอกจากนี้ นักลงทุนกำลังจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันศุกร์นี้ โดยนางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ "เครื่องมือด้านนโยบายการเงินของเฟด" รวมทั้งจะแถลงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วง ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 32.73 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) เนื่องจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากบริษัทเกลนคอร์เปิดเผยผลประกอบการในช่วง 6 เดือนแรกที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 32.73 จุด หรือ 0.48% ที่ระดับ 6,835.78 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่นำตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลง หลังจากบริษัทเกลนคอร์ เปิดเผยว่าบริษัทมีรายได้ลดลง 66% อันเนื่องมาจากการปรับตัวลดลงของราคาโลหะ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทร่วงลง 3.1% ในขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่รายอื่นๆก็ร่วงลงเช่นเดียวกัน โดยหุ้นแองโกล อเมริกันลดลง 3.1% ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นริโอ ทินโต ต่างก็ร่วงลงมากกว่า 2.5%
หุ้นดับเบิลยูพีพี ซึ่งเป็นบริษัทโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดีดตัวขึ้น 1.9% หลังเปิดเผยว่าบริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนแรกของปี เพราะได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินปอนด์
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : แรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร อันเนื่องมาจากมุมมองที่เป็นบวกว่า แนวโน้มของภาคธนาคารในยุโรปจะยังคงแข็งแกร่งในระยะยาว
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.4% ปิดที่ 344.93 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,435.47 จุด เพิ่มขึ้น 14.02 จุด หรือ +0.32% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ระดับ 10,622.97 จุด เพิ่มขึ้น 30.09 จุด หรือ +0.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,835.78 จุด ลดลง 32.73 จุด หรือ -0.48%
ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นยูนิเครดิต ธนาคารรายใหญ่ของอิตาลี พุ่งขึ้น 8% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทพีแซทยู ซึ่งเป็นบริษัทประกันของโปแลนด์ กำลังเจรจาเข้าซื้อกิจการ Bank Pekao SA จากยูนิเครดิต
ส่วนหุ้นยูบีเอส ทะยานขึ้น 1.81% หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ พุ่งขึ้น 3.2% หุ้นบังโค ซานตานเดร์ ปรับตัวขึ้น 2.4%
อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ขยับลง 0.8% หุ้น Eni SpA ปรับลง 0.8%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 3.1% และหุ้นโบลิเดน ปรับตัวลง 1.3%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวานนีว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2559 ขยายตัว 0.4% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่มีการขยายตัว 0.7%
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้จีดีพีไตรมาส 2 ของเยอรมนีขยายตัวช้าลงนั้น เนื่องจากการลงทุนที่ปรับตัวลดลง หลังจากที่ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงต้นปี นอกจากนี้ สภาพอากาศที่แปรปรวนยังส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างด้วยเช่นกัน
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 65.82 จุด เหตุนักลงทุนเทขายหุ้นเฮลธ์แคร์
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ หลังจากบริษัทมายแลน อิงค์ ผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐได้ถูกโจมตีอย่างหนัก จากการปรับขึ้นราคายาที่ใช้รักษาอาการแพ้ยา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน และรายงานยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนก.ค.
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,481.48 จุด ลดลง 65.82 จุด หรือ -0.35% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,217.69 จุด ลดลง 42.39 จุด หรือ -0.81% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,175.44 จุด ลดลง 11.46 จุด หรือ -0.52%
นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ หลังจากนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ได้ออกมาโจมตีบริษัทมายแลน อิงค์ (Mylan Inc.) อันเนื่องมาจากบริษัได้ปรับขึ้นราคายา "EpiPens" ที่ใช้รักษาอาการแพ้ยาขั้นรุนแรง
นางคลินตันกล่าวว่า การที่บริษัทมายแลนปรับขึ้นราคายา EpiPens จนสูงลิ่วนั้น ถือเป็นสิ่งที่ไม่มีคุณธรรม พร้อมกับเรียกร้องให้ทางบริษัทปรับลดราคายาดังกล่าวลงโดยเร็ว เนื่องจากเป็นกลุ่มยาที่ประชาชนใช้กันอย่างแพร่หลาย
การแสดงความเห็นของนางคลินตันส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ โดยหุ้นมายแลนร่วงลง 5.5% หุ้นเมอร์ก แอนด์ โค และหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ กรุ๊ป ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 1% หุ้นไฟเซอร์ ปรับตัวลง 0.8% หุ้นอัลเลอร์แกน ดิ่งลง 3.9% หุ้นไบโอเจน ร่วงลงกว่า 2.7%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวลงเนื่องจากความวิตกกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ร่วงลง 7.5% หุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง ดิ่งลง 7.5%
ตลาดได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนของของสหรัฐร่วงลง 3.2% ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.39 ล้านยูนิต ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดขายบ้านมือสองจะลดลง 0.4% สู่ระดับ 5.51 ล้านยูนิตในเดือนก.ค.
นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเยลเลน ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันศุกร์นี้ โดยการประชุมประจำปีของเฟดในครั้งนี้จะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ในวันที่ 25-26 ส.ค. และมีหัวข้อว่า "การออกแบบกรอบนโยบายการเงินอย่างยืดหยุ่นสำหรับอนาคต" ซึ่งที่ผ่านมานั้น เฟดมักจะแถลงนโยบายสำคัญในการประชุมดังกล่าว
ทั้งนี้ นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 26 ส.ค.ในหัวข้อ "เครื่องมือด้านนโยบายการเงินของเฟด" หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในปีที่แล้ว โดยนางเยลเลนจะกล่าวแสดงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค. จากคอนเฟอร์เรนซ์บอร์ด
ดาวโจนส์ไซด์เวย์แดนลบ หุ้นพลังงานถ่วงตลาด ขณะโฟกัสถ้อยแถลงเยลเลน
ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน ขณะที่นักลงทุนไม่ต้องการซื้อขายหุ้นล็อตใหญ่ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมประจำปีของเฟดในสัปดาห์นี้
ณ เวลา 20.40 น.ตามเวลาไทย ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์อยู่ที่ 18,532.23 จุด ลดลง 16.17 จุด หรือ 0.09%
หุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงนำตลาดวันนี้
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงลงเกือบ 2% ในวันนี้ จากความวิตกเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 19.42 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนต.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 93 เซนต์ หรือ 1.93% สู่ระดับ 47.17 ดอลลาร์/บาร์เรล
ทั้งนี้ API รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าสต็อกน้ำมันจะลดลง 455,000 บาร์เรล
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในคืนนี้
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในวันที่ 26-28 ก.ย.นี้ นอกรอบการประชุมพลังงานระหว่างประเทศ (IEF) ที่แอลจีเรีย แต่นักวิเคราะห์ไม่มั่นใจต่อการประชุมในครั้งนี้ เนื่องจากการเจรจาหลายครั้งก่อนหน้านี้ของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันต่างจบลงด้วยความล้มเหลว
นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเยลเลน ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันศุกร์นี้ โดยการประชุมประจำปีของเฟดในครั้งนี้จะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ในวันที่ 25-26 ส.ค. และมีหัวข้อว่า "การออกแบบกรอบนโยบายการเงินอย่างยืดหยุ่นสำหรับอนาคต" ซึ่งที่ผ่านมานั้น เฟดมักจะแถลงนโยบายสำคัญในการประชุมดังกล่าว
ทั้งนี้ นางเยลเลนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในวันที่ 26 ส.ค.ในหัวข้อ "เครื่องมือด้านนโยบายการเงินของเฟด" หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในปีที่แล้ว โดยนางเยลเลนจะกล่าวแสดงมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ดัชนีราคาบ้านเดือนมิ.ย. และยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.
อินโฟเควสท์