WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

bull market3ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซึมลงเหตุกังวลเฟดขึ้นดอกเบี้ย-หวั่นแรงขายทำกำไรหลังราคาน้ำมันขึ้นต่อเนื่อง

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะซึมตัวลง เนื่องจากมีความกังวลธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ได้ออกมาให้การสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ซึ่งสอดคล้องกับประธานเฟดสาขาอื่นที่ออกมาพูดในช่วงที่ผ่านมา จึงทำให้โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมีเพิ่มขึ้น

      นอกจากนี้ สัปดาห์นี้จะมีหุ้นที่จะขึ้นเครื่องหมาย XD หลายตัว ทำให้ไปกดดันตลาดฯได้ โดยคาดว่าจะมีผลต่อ SET ประมาณ 4 จุด ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมา 7 วันแล้ว ประมาณ 16% ทำให้นักลงทุนบางส่วนอาจมีการขายล็อคกำไรไว้ก่อน จึงมีโอกาสที่หุ้นจะปรับฐานได้

     ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย ราว 0.1-0.2%

     พร้อมให้แนวรับ 1,530-1,535 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (19 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,552.57 จุด ลดลง 45.13 จุด (-0.24%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,238.38 จุด ลดลง 1.77 จุด (-0.03%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,183.87 จุด ลดลง 3.15 จุด (-0.14%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 53.44 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.72 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 4.31 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 29.59 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 1.87 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.26 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.74 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (19 ส.ค.59) ,538.76  จุด ลดลง 8.25 จุด(-0.53%)

     - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 487.89 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ส.ค.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (19 ส.ค.59) ปิดที่ 48.52 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.6%

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (19 ส.ค.59) ที่ 3.96 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 34.69/70 ทิศทางอ่อนค่าตามภูมิภาค มองกรอบ 34.63-34.78

      - ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า ภาพรวมการส่งออกอาหารไทยในช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย. 2559) มีมูลค่า 4.74 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสินค้าส่งออกหลักขยายตัวเพิ่มขึ้นทั้งปริมาณและมูลค่าเกือบทุกกลุ่มสินค้า โดยสินค้าที่ขยายตัวสูง ได้แก่ กุ้ง น้ำผลไม้ สับปะรดกระป๋อง น้ำตาลทราย นมพร้อมดื่ม และกะทิสำเร็จรูป

     - ธปท.เผยหนี้เสียพุ่งในธุรกิจอุตสาหกรรมพาณิชย์ อุปโภคบริโภคส่วนบุคคล หนี้ใหม่-หนี้เก่ากลับเป็นหนี้อีกครั้งเพิ่มขึ้นเป็นอันดับต้นของภาคธุรกิจ แบงก์เร่งระบายเอ็นพีแอลส่วนหนึ่งมีการตัดขายหนี้ 2.89 หมื่นล้านบาทและโอนเป็นหนี้ปกติ 7.6 พันล้านบาท

     - ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) คาดการส่งออกไทยในครึ่งปีหลังจะชะลอตัวต่อเนื่องที่ร้อยละ 1.9 จากครึ่งปีแรกที่หดตัวร้อยละ 1.6 ทำให้ทั้งปี 2559 นี้จะหดตัวลงร้อยละ 1.8 จากอุปสงค์โลกที่ยังอ่อนแอและราคาสินค้าเกษตรที่อยู่ในระดับต่ำต่อไป อย่างไรก็ตามยังมองว่าการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ และ CLMV ยังสามารถเติบโตได้ในสินค้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และสินค้าอุปโภคบริโภค ตามลำดับ

      - ขสมก.เดินหน้าจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน งบ 3 พันล้าน ตามโรดแม็ปนายกฯ เผยกำลังรับฟังความคิดเห็นคาดเปิดขายซองประกวดราคาเดือน ต.ค. มีเอกชนสนใจจำนวนมาก นำร่องล็อตแรก 20 คัน ทดลองวิ่ง พร้อมตั้งสถานีชาร์จไฟ 4 จุดตามแนวเส้นทาง

*หุ้นเด่นวันนี้

    - ACAP-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญ ของ บมจ.เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) ครั้งที่ 1) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 62,499,957 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 1 สิงหาคม 2559) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย  กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 15 ธ.ค. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 31 ก.ค. 2561

                นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) ได้ขยายช่วงดำเนินการตามเกณฑ์ระดับ 1 : Cash Balance สำหรับหลักทรัพย์ บมจ. เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป (ACAP) และ ACAP-W1 โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.- 9 ก.ย.2559

     - KCE (ยูโอบี เคย์เฮียน)คาดผลประกอบการ 3Q59 จะออกมามากที่สุดของปีจากช่วง high season เนื่องจากแนวโน้มคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นจากการลดราคาสินค้า ซึ่งจะไม่กระทบต่ออัตรากำไรขั้นต้นเนื่องจากประสิทธิภาพของเครื่องจักรในโรงงานใหม่ที่ดีขึ้นและผลแห่งการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)

   - AP (ไอร่า) เป้า 7.90 บาท คาดยอดขายน่าจะดีขึ้นใน 2H/59 ซึ่งมีแผนเปิดทั้งหมด 13 โครงการ แบ่งเป็น 10 โครงการแนวราบ และ 3 โครงการคอนโดมิเนียม (ทำเลใจกลางเมือง ได้แก่ ซอยสุขุมวิท39 ซอยเอกมัย และถนนวิทยุ) พร้อมคาดผลการดำเนินงานใน 4Q59 จะโดดเด่นที่สุดสำหรับปี โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี’59 เดิมที่ 2,620 ล้านบาท

      - PLANB (เคจีไอ) เป้า Consensus 6.9 บาท ประเมินไตรมาส 2/59 เป็นจุดต่ำสุดของปี โดย Utilization rate ต่ำเพียง 59% ติดต่อเนื่องมา 2 ไตรมาส ขณะที่แนวโน้มการบริโภคในประเทศฟื้นตัวเป็นบวกต่อการเร่งงบโฆษณาช่วงปลายปีนี้ และพอร์ตสื่อในมือเพิ่ม +25% YTD แล้ว และกระแสฟุตบอลไทยดีต่อเนื่องเป็นบวกต่อการเป็นตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย โดยคาดไตรมาส 3/59 เริ่มรับรู้กำไรบางส่วนราว 10 ล้านบาทตามสัญญาตกค้างเก่า และคาดปีหน้าจะมีกำไร 100-150 ล้านบาท

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ หลังเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย

    ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลงในเช้าวันนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลายคนส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้ ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากได้รับปัจจัยบวกจากเงินเยนที่อ่อนค่าลง

   ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.1% สู่ระดับ 139 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,599.26 จุด เพิ่มขึ้น 53.44 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,107.38 จุด ลดลง 0.72 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,941.53 จุด เพิ่มขึ้น 4.31 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,004.68 จุด ลดลง 29.59 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,054.37 จุด ลดลง 1.87 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,843.76 จุด ลดลง 0.26 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,682.94 จุด ลดลง 4.74 จุด

     นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และตลาดแรงงานยังคงมีการสร้างงานเพิ่มมากขึ้น

    ส่วนนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวแสดงความคิดเห็นในการประชุมเศรษฐกิจซึ่งจัดขึ้นที่รัฐโคโลราโด โดยระบุว่า เฟดใกล้จะบรรลุเป้าหมายการผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อเคลื่อนไหวที่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า รองประธานเฟดยังคงเปิดกว้างสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

     ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด อาจส่งสัญญาณในการประชุมประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ็คสันโฮล ในสัปดาห์นี้ว่า เฟดอาจจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 10.01 จุด จากข่าวอังกฤษเริ่มเจรจา Brexit

     ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า อังกฤษอาจจะใช้กฎเกณฑ์เพื่อเริ่มการเจรจาต่อรองเพื่อถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) หรือ Brexit ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560

     ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 10.01 จุด หรือ 0.15% ที่ระดับ 6,858.95 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงหลังจากมีรายงานข่าวว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษมีแนวโน้มว่า จะใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอน ซึ่งจะปูทางให้มีการเริ่มการเจรจาอย่างเป็นทางการในเรื่องการถอนตัวจากสหภาพยุโรป

    หุ้นอีซีเจ็ทซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของอังกฤษเพิ่มขึ้น 2.5% หลังจากมีกระแสข่าวว่า บริษัทอาจจะตกเป็นเป้าหมายของการซื้อกิจการ

    หุ้นชโรเดอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทผู้จัดการทรัพย์สินยักษ์ใหญ่ปรับตัวลดลง 1.1% เนื่องจากถูกนักวิเคราะห์ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัท

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกภาคธนาคารอิตาลี

     ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (19 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของภาคธนาคารของอิตาลี และความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งในอิตาลีที่ใกล้จะมีขึ้น

   ดัชนี Stoxx 600 ลดลง 0.8% ปิดที่ 340.14 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,400.52 จุด ลดลง 36.54 จุด หรือ -0.82% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 10,544.36 จุด ลดลง 58.67 จุด หรือ -0.55% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,858.95 จุด ลดลง 10.01 จุด หรือ -0.15%

    ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลดลงหลังจากแหล่งข่าวเปิดเผยว่า นายฟาบริซิโอ ไวโอลา ประธานธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena SpA (BMPS) ของอิตาลีได้ถูกเจ้าหน้าที่ของอิตาลีสอบสวนในข้อหาตบแต่งบัญชีและปั่นตลาดในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับตราสารอนุพันธ์ในอดีต ซึ่งส่งผลให้หุ้นของธนาคารร่วงลง 2.6%

     นอกจากนี้ รายงานระบุว่า BMPS ยังมีทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในระดับสูง ส่งผลให้ตลาดวิตกกังวลว่า เรื่องดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบต่อธนาคารรายอื่นๆของอิตาลีและอาจจะส่งผลกระทบต่อสถานภาพสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ของอิตาลีด้วย

     หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลดลง โดยหุ้น UniCredit Spa ลดลง 6.3% หุ้น Banca Popolare dell’Emilia Romagna S.C.A.R.L. ลดลง 5.8% หุ้น Banca Popolare di Milano Scarl ลดลง 5.3% หุ้นดอยช์ แบงก์ เอจี ลดลง 3.1% และหุ้น Banco Popular Español SA ลดลง 1.7%

    หุ้นบีเอ็มดับเบิลยูลดลง 1.9% เนื่องจากนักวิเคราะห์ของบริษัทโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัทในรายงานการทบทวนอุตสาหกรรมยานยนต์ล่าสุด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 45.13 จุด เหตุวิตกเฟดขึ้นดอกเบี้ย

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (19 ส.ค.)  ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย หลังจากเจ้าหน้าที่หลายคนของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

   ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 45.13 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 18,552.57 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 3.15 จุด หรือ 0.14% ปิดที่ 2,183.87 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 1.77 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 5,238.38 จุด

     ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงหลังจากนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจได้รับความเสียหายหากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานานเกินไป และมองว่าเมื่อพิจารณาในแง่ของเศรษฐกิจแล้ว เดือนก.ย.ดูมีความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย

     ด้านนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ เมื่อพิจารณาจากเศรษฐกิจสหรัฐที่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวแข็งแกร่งขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง และตลาดแรงงานยังคงมีการสร้างงานเพิ่มมากขึ้น

     เช่นเดียวกับนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ที่กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรองรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 1 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่การจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้น และเงินเฟ้ออยู่ในทิศทางที่เหมาะสม

      ขณะที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฟดได้เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค. ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนมองว่าเฟดควรจะรอให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ก่อนที่จะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่กรรมการอีกส่วนหนึ่งมองว่า ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐจะสามารถปรับตัวรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้

    ทั้งนี้ เนื่องจากไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในวันศุกร์ นักลงทุนจึงซึมซับเอาปัจจัยรายงานของเฟดเป็นหลัก

     ในขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ็คสันโฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ซึ่งนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ และอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

    หุ้นแก็ป อิงค์ เพิ่มขึ้น 3.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

    หุ้นวอล-มาร์ท สโตร์ส อิงค์ ร่วงลง 2% จากแรงเทขายทำกำไร หลังจากที่พุ่งแรงในช่วงก่อนหน้านี้

    หุ้น Deere พุ่งขึ้น 13% หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์แนวโน้มกำไรสำหรับตลอดทั้งปี พร้อมกับประกาศปรับลดต้นทุนลง

  อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!