WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET28ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่ง Sideway อิงบวกเล็กน้อยรับราคาน้ำมันขึ้น,แต่กังวลเฟดยังกดดัน

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway อิงบวกเล็กน้อย เนื่องจากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้น แต่นักลงทุนยังคงระวังในเรื่องโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอยู่ แต่ก็ต้องต่างรอรอดูการประชุมประจำปีของเฟด ที่เมืองแจ๊คสัน โฮ ในสัปดาห์หน้าราววันที่ 25-27 ส.ค.

     ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กนอ้ย พร้อมให้แนวรับ 1,540 จุด  ส่วนแนวต้าน 1,555-1,560 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

   - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,597.70 จุด เพิ่มขึ้น 23.76 จุด (+0.13%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,240.15 จุด เพิ่มขึ้น 11.49 จุด (+0.22%), ดัชนี S&P500 ปิดที่  2,187.02 จุด เพิ่มขึ้น 4.80 จุด (+0.22%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 72.37 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 130.58 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.46 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,139.69 จุด เพิ่มขึ้น 17.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,057.90 จุด เพิ่มขึ้น 2.43 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.56 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 3.72 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.65 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 ส.ค.59) 1,547.01 จุด เพิ่มขึ้น 15.38 จุด(+1.00%)

      - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 254.34 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ส.ค.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 ส.ค.59) ปิดที่ 48.22 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.43 ดอลลาร์ หรือ 3.1%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 ส.ค.59) ที่ 3.94 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 34.61/63 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ รอปัจจัยใหม่ มองกรอบวันนี้ 34.55-34.70

      - มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยจากการสำรวจผู้ประกอบการ วันที่ 9-14 ส.ค. 2559 รวม 600 ตัวอย่าง พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจตลอดปี 2559 อยู่ที่ 98.3 ซึ่งยังต่ำกว่า 100 เนื่องจากช่วงไตรมาส 1-2 เศรษฐกิจโลกไม่ดี จึงทำให้นักธุรกิจไม่เชื่อมั่นต่อสถานการณ์ปัจจุบัน แต่ส่วนใหญ่เชื่อว่าในช่วงครึ่งหลังของปีนี้สถานการณ์จะดีขึ้น และคาดว่าดัชนีในปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 119.5

    - ประธานสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย เปิดเผยว่า จากการสำรวจการแข่งขันสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในงานอภิมหกรรมบ้าน-คอนโดฯ และ สินเชื่อปี 2559 ซึ่งจัดขึ้นวันที่ 18-21 ส.ค.นี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เริ่มเห็นหลายแบงก์นำแคมเปญสินเชื่อดอกเบี้ย 0% มาใช้อีกครั้ง หลังจากไม่เห็นมาระยะหนึ่งแล้ว โดยคาดว่าเป็นเพราะแบงก์ต้องการสร้างสีสันในงานลักษณะนี้ ซึ่งไม่น่าเป็นห่วง และถือเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ช่วงเวลาหนึ่งผู้ซื้อบ้านได้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ

       - กสิกรไทยเตรียมปรับประมาณจีดีพีเพิ่มจากเดิม 3% หลังสภาพัฒน์ประกาศตัวเลขครึ่งปีแรกดีเกินคาด หวังช่วยดันสินเชื่อขยายตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มโครงการรัฐ ท่องเที่ยว พร้อมเตรียมหารือแบงก์หารือออกแพกเกจรับท่องเที่ยว

     - คลังได้ผ่อนผันการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2560 ที่จะเริ่มใช้ 1 ต.ค. 2559 โดยโครงการมูลค่าไม่เกิน 5 แสนบาท ให้ใช้วิธีการตกลงราคา โครงการมูลค่า 5 แสนบาท ไม่เกิน 2 ล้านบาท ให้ใช้วิธีสอบราคา และโครงการมูลค่าตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป ให้ใช้วิธีอี-บิดดิ้ง หรือ อี-มาร์เก็ต แล้วแต่กรณี

*หุ้นเด่นวันนี้

      - TFD-W4 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ไทยพัฒนาโรงงานอุตสาหกรรม(TFD)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 427,825,468 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 3.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 ปี 11 เดือน 4 วัน นับจากออกใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งออกวันที่ 26 ก.ค.2559 และวันครบกำหนดอายุตรงกับวันที่ 29 มิ.ย.2561 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 29 มิ.ย. 2561

     - TWPC (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 10 บาท ประกาศลงทุนโรงไฟฟ้า Bio gas โดยจะยื่นขอ PPA ประมาณ 9 MW โดยส่วนหนึ่งจะใช้เองในการผลิตช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าประมาณ 80-100 ล้านบาทต่อปี และระยะต่อไปจะขายให้กับการไฟฟ้า พร้อมคาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และจะเห็นการฟื้นตัวอย่างโดดเด่นใน 3Q16 จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น 32% และ Utilization rate กลับมาเพิ่มขึ้น จาก 50% ใน 2Q16 เป็น 70% และ 80% ใน 3Q16 และ 4Q16

     - EPG (โกลเบล็ก) เป้า consensus เฉลี่ย 17.50 บาท Q2/59 (แต่เป็น Q1/60 ของบริษัท) มีกำไร 381 ลบ. (+32% YoY และ 9.5% QoQ) จากรายได้โตขึ้นเป็น 2.3 พันลบ. (+14%YoY) ทั้งนี้ Consensus คาดกำไรปีนี้ที่ 1,400-1,600 ล้านบาท บริษัทยืนยันเป้ารายได้โต 20-25% เป็น 1-1.1 หมื่นลบ.จากเน้นสินค้า Innovation ทำให้ Demand เพิ่มขึ้นมาก ตั้งเป้า Gross Margin ที่ 28 - 32%  Net Margin ที่ 15% และโรงงานใหม่ EPP เฟส 2 พร้อมเดินเครื่อง Q2/60 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ซึ่งหากเดินเครื่องเต็มจะเพิ่มยอดขายได้เป็น 4,000 ลบ./ปี

      - CK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 44 บาท มุมมองสดใสในแง่ทั้งผลประกอบการและ Backlog ที่ปัจจุบันมี 7.9 หมื่นล้านบาท บวกกับโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นอีก 2.4 แสนล้านบาท คือรถไฟฟ้าสายสีส้ม เหลือง และชมพู มอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี ถ้าอิง Success rate 20-25% จะเพิ่ม Backlog ให้อีก 4.8-6 หมื่นล้านบาท และถ้า BEM สามารถเจรจาลงนามงานสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายได้ในปีนี้ จะเพิ่ม Backlog อีก 2.5 หมื่นล้านบาท ทั้งหมดนี้จะรองรับรายได้ได้อีก 3-4 ปีข้างหน้า

ตลาดหุ้นเอเชียดีดขึ้นเช้านี้ รับราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 3%

     ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ หลังจากราคาน้ำมันนิวยอร์กดีดตัวขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,558.38 จุด เพิ่มขึ้น 72.37 จุด, +0.44% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,153.74 จุด เพิ่มขึ้น 130.58 จุด, +0.57% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,848.44 จุด เพิ่มขึ้น 11.46 จุด, +0.40% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,139.69 จุด เพิ่มขึ้น 17.19 จุด, +0.19% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,057.90 จุด เพิ่มขึ้น 2.43 จุด, +0.12%  ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ที่ 5,468.01 จุด เพิ่มขึ้น 6.56 จุด, +0.12%

     อย่างไรก็ตาม ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,100.39 จุด ลดลง 3.72 จุด, -0.12% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,693.22 จุด ลดลง 1.65 จุด, -0.10%

     ตลาดหุ้นเอเชียได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ นอกจากนี้ ตลาดยังคงขานรับรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นเหมืองแร่พุ่ง หนุนฟุตซี่ปิดบวก 9.81 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) เพราะได้ปรับปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังราคาโลหะปรับตัวสูงขึ้น

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 9.81 จุด หรือ 0.14% แตะที่ 6,868.96 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ นำโดยหุ้นอันโตฟากัสตาที่เพิ่มขึ้น 5.3% ในขณะที่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน เพิ่มขึ้น 2.8% เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์หนุนราคาโลหะปรับตัวสูงขึ้น

    หุ้นพรีเมียร์ ออยล์ เพิ่มขึ้น 2.6% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลผลิตสำหรับตลอดทั้งปีของบริษัท

   หุ้นคิงฟิชเชอร์เพิ่มขึ้น 1.9% หลังเปิดเผยยอดขายในไตรมาส 2 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้น 5.9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้น และเงินปอนด์ที่อ่อนค่า

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับรายงานประชุมชี้เฟดยังไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า เฟดยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มทรัพยากร

   ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 342.91 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,437.06 จุด เพิ่มขึ้น 19.38 จุด หรือ +0.44% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,603.03 จุด เพิ่มขึ้น 65.36 จุด หรือ +0.62% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,868.96 จุด เพิ่มขึ้น 9.81 จุด หรือ +0.14%

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ค.ของเฟดระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากมุมมองที่ต่างกันเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ

    เจ้าหน้าที่เฟดบางส่วนมองว่า เฟดควรจะรอให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ก่อนที่จะตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่กรรมการอีกส่วนหนึ่งมองว่า ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐจะสามารถปรับตัวรับมือกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้

   หุ้นกลุ่มทรัพยากรดีดตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 2.8% หุ้นแองโกล อเมริกัน ปรับขึ้น 1.7% หุ้นโบลิเดน เพิ่มขึ้น 1.6%

    หุ้นเนสท์เล่ ปรับตัวขึ้น 1.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งในตลาดอเมริกาเหนือ

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากผลการสำรวจของ Ipsos MORI ซึ่งระบุว่า ชาวอังกฤษที่มีมุมมองในแง่ลบต่อเศรษฐกิจ มีจำนวนลดลงในเดือนส.ค.

    ทั้งนี้ ชาวอังกฤษที่คาดว่าเศรษฐกิจจะย่ำแย่ลงในปีหน้ามีจำนวน 43% ลดลงจากจากเดิมที่ 57% ซึ่งมีการสำรวจในเดือนก.ค.

    ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.4% จากเดือนมิ.ย. และเพิ่มขึ้น 5.9% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยได้รับปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้น และเงินปอนด์ที่อ่อนค่า

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 23.76 จุด รับราคาน้ำมันพุ่ง,ข้อมูลศก.สดใส

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 ส.ค.) ขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นของสวัสดิการว่างงานซึ่งปรับตัวลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นกว่า 3% และผลประกอบการที่สดใสของบริษัทวอลมาร์ท

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,597.70 จุด เพิ่มขึ้น 23.76 จุด หรือ +0.13% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,240.15 จุด เพิ่มขึ้น 11.49 จุด หรือ +0.22% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,187.02 จุด เพิ่มขึ้น 4.80 จุด หรือ +0.22%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 262,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ส.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะลดลงสู่ระดับ 265,000 ราย

    ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 2.0 ในเดือนส.ค. ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมัน WTI ที่พุ่งขึ้นกว่า 3% ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยหุ้นมาราธอน ออยล์ พุ่งขึ้น 6.2% หุ้นเดวอน เอนเนอร์จี ปรับขึ้น 3.3%

     หุ้นวอลมาร์ท บริษัทค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดในโลก พุ่งขึ้น 1.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้และกำไรในไตรมาส 2 ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

    ทั้งนี้ วอลมาร์ทระบุว่า ทางบริษัทมีกำไร 1.07 ดอลลาร์/หุ้น โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.02 ดอลลาร์/หุ้น ส่วนรายได้ของวอลมาร์ทเพิ่มขึ้น 0.5% สู่ระดับ 1.2085 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.2016 แสนล้านดอลลาร์

    หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ ปรับตัวลงติดต่อกันวันที่ 2 หลังจากมีรายงานว่า ทางบริษัทเตรียมปลดพนักงานจำนวน 14,000 คน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ของพนักงานทั่วโลก โดยคาดว่าซิสโกจะประกาศแผนการปลดพนักงานดังกล่าวในอีกไม่กี่สัปดาห์ ขณะที่ทางบริษัททำการปรับโครงสร้างจากที่เน้นธุรกิจฮาร์ดแวร์ ไปสู่ธุรกิจซอฟท์แวร์

   หุ้นบริษัทคอร์เรคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น ออฟ อเมริกา และบริษัท จีอีโอ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือนจำเอกชนรายใหญ่ของสหรัฐ ทรุดฮวบลง 35.5% และ 39.6% ตามลำดับ หลังจากมีรายงานว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐมีแผนที่จะยุติการใช้เรือนจำของภาคเอกชน

    หุ้นฮาร์เลย์ เดวิดสัน ร่วงลง 1.7% หลังจากรัฐบาลสหรัฐระบุว่า อุปกรณ์ racing tuner ของฮาร์เลย์ เดวิดสัน เป็นสาเหตุที่ทำให้มอเตอร์ไซค์บางคันปล่อยมลพิษสูงเกินกำหนด อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุว่า ฮาร์เลย์ เดวิดสัน ได้ยอมตกลงยุติคดีความด้วยการซื้อคืนและทำลายอุปกรณ์ดังกล่าว และยอมจ่ายเงิน 15 ล้านดอลลาร์ในการยุติคดีความ

   ตลาดจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ซึ่งนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในปีที่แล้ว โดยอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

 อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!