- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 16 August 2016 12:47
- Hits: 3129
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้า sideway up รับราคาน้ำมันดิบฟื้น-Fund flow ยังบวก-กำไรบจ.ดีกว่าคาด
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แนวโน้ม sideway up ขานรับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกฟื้นตัวขึ้น 3 วันติดกัน Fund flow ยังเป็นบวก ต่างชาติซื้อเข้ามาต่อเนื่อง การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกไปหมดแล้ว ภาพรวมดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ราว 6% มองว่าอาจจะมีการปรับประมาณการขึ้นได้ ซึ่งโดยรวมงบฯออกมาดี
ตลาดต่างประเทศเมื่อคืนดาวโจนส์บวกขึ้น ส่วนใหญ่บวกทั้งหมด ตลาดเอเชียเช้านี้บวกเล็กน้อยราว 0.1-0.3% คำแนะนำช่วงนี้เทรดดิ้งได้ และ Let profit run เพราะมองตลาดน่าจะไป 1,600 จุดได้
ให้แนวรับวันนี้ 1,542 และ 1,538 จุด แนวต้าน 1,560 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,636.05 จุด เพิ่มขึ้น 59.58 จุด (+0.32%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,262.02 จุด เพิ่มขึ้น 29.13 จุด (+0.56%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,190.15 จุด เพิ่มขึ้น 6.10 จุด (+0.28%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 9.10 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.33 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 75.58 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 2.42 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 11.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 6.39 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 9.06 จุด ,ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.53 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ส.ค.59) 1,549.11 จุด ลดลง 3.53 จุด (-0.23%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,661.66 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ส.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 ส.ค.59) ปิดที่ 45.74 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 2.8%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ส.ค.59) ที่ 3.33 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.60/62 แนวโน้มยังแข็งค่าจากเงินไหลเข้า คาดมีโอกาสทดสอบ 34.50
- รองนายกรัฐมนตรี ชี้จีดีพีไตรมาส 2 โต 3.5% สะท้อนพื้นฐาน เศรษฐกิจไทยแกร่ง เผยนายกฯพอใจโตต่อเนื่อง เชื่อเอกชนมั่นใจลงทุน สั่งผู้ว่าททท.ทำแผนรับผลกระทบเหตุระเบิด ด้านธปท.ประเมินกระทบช่วงสั้น ขณะนักวิเคราะห์ชี้ขยายตัวเกินคาด กสิกรไทยจ่อปรับจีดีพีใหม่
- ททท.เล็งเสนอกระทรวงท่องเที่ยวฯ ชงครม. อนุมัติวันหยุดยาว 4 วัน รับวันท่องเที่ยวโลก 24-27 ก.ย. กระตุ้นตลาดท่องเที่ยว ก่อนยอดเดินทางเดือน ก.ย.วูบ มั่นใจคนไทยใช้จ่ายเพิ่ม 10% บูม 5 โครงการรับไฮซีซัน ประเมินเหตุการณ์ระเบิดอาจสูญเสียรายได้ 5,000 -10,000 ล้าน "กอบกาญจน์" เปิดมาตรการ กระตุ้นท่องเที่ยววันนี้
- การบินไทย แจงผลประกอบการไตรมาสสอง ขาดทุน 2.9 พันล้าน ยอมรับเป็นช่วงที่แย่ที่สุด กางแผนครึ่งปีหลังเตรียมใส่กลยุทธ์ออนไลน์ มาร์เกตติ้ง หลังลงทุน2ระบบใหม่บริหารราคา และเส้นทางบินหนุนรายได้โต 6-9 พันล้าน พร้อมวางยุทธศาสตร์เส้นทางบินผนึกพันธมิตร สตาร์อัลไลแอนซ์ ดึงสัดส่วนรายได้เพิ่ม 20-25% ด้านนักวิเคราะห์คาดครึ่งปีหลังจะดีขึ้น
- ปตท. จับมือ 6 ค่ายรถยนต์ให้บริการสถานี "ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า" ประเดิม 20 สถานี ภายในปี 60 ด้าน สมาคมผู้ผลิตรถฯ แนะรัฐศึกษา ผลดี-ผลเสีย เคาะแผนแม่บทรองรับ หวั่น ส่งสัญญาณสับสน กระทบแผนลงทุน
- "ธนารักษ์" ประกาศยกเลิกโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐในเชียงใหม่ หลังชุมชนต่อต้านเพราะกลัวมีปัญหาจราจร และติดพื้นที่สีเขียว เผยแจ้งอารียาฯซึ่งเป็นผู้ชนะประกวดแบบแล้วคาดเจรจาได้ ไร้การฟ้องร้อง ส่วนอีก 4 แปลงไม่มีปัญหา เซ็นสัญญาเอกชนวันนี้ เปิดจองวันแรก 19 ส.ค.
*หุ้นเด่นวันนี้
- SAPPE (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 26 บาท กำไรสุทธิ 2Q16 ฟื้นตัวดีกว่าคาดอย่างน่าประทับใจ +124% Q-Q, +22% Y-Y จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีกว่าคาดมาก การเติบโตของกำไรไตรมาสนี้มาจากการฟื้นตัวของตลาดอินโดนีเซียเป็นหลัก ส่วนตลาดจีนยังค่อนไปในทางทรงตัว เรายังคาดกำไรทั้งปี +24% Y-Y ปีหน้า +16% Y-Y บนสมมติฐานการส่งออกไปจีนกลับมาอยู่ในระดับปกติและถ้าเติบโตมากกว่าเดิมก็จะเป็น upside ต่อประมาณการ
- AOT (แอพเพิล เวลธ์) "ซื้อ"เป้า 440 บาท งวด 3Q59 มีกำไรสุทธิ 5,065 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3%YoY แต่ลดลง 9%QoQ ตามฤดูกาลที่เป็นช่วง Low Season โดยกำไรที่ดีขึ้นต่อเนื่อง YoY มาจากรายได้รวมที่เติบโต 15.8%YoY เท่ากับ 12,572 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้เกี่ยวกับการบินเพิ่มขึ้น 11.4%YoY ด้วยแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้โดยสารทั้ง 6 ท่าอากาศยาน 11.1%YoY อยู่ที่ 28.7 ล้านคน ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการสายการบินต้นทุนต่ำ
นอกจากนี้ รายได้ค่าสนามบินและสิ่งอำนวยความสะดวกยังขยายตัวตามจำนวนเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้น 8.8%YoY รายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบินเติบโตขึ้น 22.1%YoY เนื่องจากรายได้ค่าบริการและรายได้ส่วนแบ่งผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ตามจำนวนผู้ใช้บริการภายในท่าอากาศยาน รวมถึงการปรับเพิ่มค่าส่วนแบ่งรายได้ตามสัญญา นอกจากนี้มีการบันทึกรายได้จากค่าสินไหมทดแทนค่าเสียหายกรณีน้ำท่วมท่าอากาศยานดอนเมืองในปี 2554 จำนวน 465 ล้านบาท ด้านค่าใช้จ่ายพบว่าปรับตัวเพิ่มขึ้นน้อยกว่ารายได้ที่ 15.6%YoY ส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบผู้โดยสารล่วงหน้า ผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และค่าเสื่อมราคา ซึ่งรวมแล้วส่งผลให้กำไรสุทธิงวด 9M59 เพิ่มขึ้น 18.5%YoY อยู่ที่ 15,257 ล้านบาท คิดเป็น 78.2% ของประมาณการในปี 2559
- GPSC(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 35 บาท กำไรยังเติบโต 26-19% ในช่วง 2016-17 แต่ในช่วง 2H16 จะไม่ตื่นเต้นนักจากค่า Ft ที่ลดลง และความต้องการไฟฟ้าในช่วง 2H ที่อ่อนแอกว่า 1H นอกจากนี้ยังมี Upside ทางพื้นฐานจำกัด
ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ ขานรับดาวโจนส์ปิดทะยาน
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดบวกเมื่อคืน หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น
ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.1% แตะที่ 139.98 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,878.66 จุด เพิ่มขึ้น 9.10 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,130.53 จุด เพิ่มขึ้น 5.33 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,008.09 จุด เพิ่มขึ้น 75.58 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,146.09 จุด ลดลง 2.42 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,056.00 จุด เพิ่มขึ้น 5.53 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,879.12 จุด เพิ่มขึ้น 11.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,683.94 จุด ลดลง 6.39 จุด
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้น 2.8% โดยได้รับแรงหนุนหลังจากนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียกำลังหารือกับซาอุดิอาระเบียและประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ เกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : เงินปอนด์อ่อนหนุนฟุตซี่ปิดบวก 25.17 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบมากกว่า 1 ปี โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์ และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของกลุ่มหุ้นบริษัทขนาดกลาง
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 25.17 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 6,941.19 จุด ทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่ผ่านมา
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวขึ้นของหุ้นขนาดเล็กและขนาดกลาง เพราะได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินสกุลปอนด์
อย่างไรก็ดี การซื้อขายเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากดัชนีอยู่ใกล้กับระดับแนวต้านทางจิตวิทยา
หุ้นเอ็นเตอร์เทนเมนท์ วัน พุ่งขึ้น 6.8% หลังจากได้รับข้อเสนอซื้อกิจการจากบริษัท เคเคอาร์ แอนด์ โค หลังจากที่บริษัทได้ปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการจากบริษัทไอทีวี
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ ตลาดผิดหวังข้อมูลเศรษฐกิจยูโรโซน-สหรัฐ
ตลาดุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐและยูโรโซน ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกของสหรัฐที่ทรงตัวในเดือนก.ค. และผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของกลุ่มยูโรโซนที่ชะลอตัวลงในไตรมาส 2
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 346.09 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,497.86 จุด ลดลง 2.33 จุด หรือ -0.05% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,739.21 จุด เพิ่มขึ้น 25.78 จุด หรือ +0.24% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,941.19 จุด เพิ่มขึ้น 25.17 จุด หรือ +0.36%
ตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนมิ.ย. ซึ่งผิดไปจากที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากที่ปรับตัวขึ้นมา 3 เดือนติดต่อกัน
ด้านสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/2559 ของกลุ่มยูโรโซน ขยายตัวเพียง 0.3% ซึ่งชะลอตัวลงจากไตรมาสแรกที่มีการขยายตัว 0.6%
หุ้น A.P. Moller-Maersk ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการขนส่งทางเรือของเนเธอร์แลนด์ ร่วงลง 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรลดลงในไตรมาส 2
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 4.2% หุ้นเอเมค ฟอสเตอร์ วีลเลอร์ ทะยานขึ้น 3.2% และหุ้นกัลป์ เอเนอร์จี ปรับขึ้น 1.6%
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 59.58 จุด รับราคาน้ำมันพุ่ง
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ส.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 2.8% ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้สร้างบ้านในสหรัฐปรับตัวขึ้นในเดือนส.ค. โดยปัจจัยเหล่านี้ได้ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ ดัชนี S&P500 และดัชนี NASDAQ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,636.05 จุด เพิ่มขึ้น 59.58 จุด หรือ +0.32% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,262.02 จุด เพิ่มขึ้น 29.13 จุด หรือ +0.56% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,190.15 จุด เพิ่มขึ้น 6.10 จุด หรือ +0.28%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดในแดนบวก โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีต่างก็ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ทะยานขึ้น 2.8% โดยได้รับแรงหนุนหลังจากนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รมว.พลังงานรัสเซีย เปิดเผยว่า รัสเซียกำลังหารือกับซาอุดิอาระเบีย และประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ เกี่ยวกับการรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน
นายโนวัคกล่าวว่า ยังคงมีโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับการหารือเกี่ยวกับการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันในอนาคต หากมีความจำเป็น พร้อมกับคาดการณ์ว่า ตลาดน้ำมันจะกลับสู่ภาวะมีเสถียรภาพในปีหน้า
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นโคโนโคฟิลิปส์ พุ่งขึ้น 2% หุ้นทรานส์โอเชียน พุ่งขึ้น 5.4% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 9.6%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 2 จุด สู่ระดับ 60 ในเดือนส.ค. โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่ระดับต่ำ และตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ ค่าดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงมุมมองโดยทั่วไปที่เป็นบวก
หุ้นกลุ่มธุรกิจสร้างบ้านพุ่งขึ้นขานรับดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งของสหรัฐ โดยหุ้นดีอาร์ ฮอร์ตัน อิงค์ และหุ้นเลนนาร์ คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1%
นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 ก.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณเรื่องแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ ได้แก่ ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนก.ค., อัตราเงินเฟ้อเดือนก.ค. และการผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนก.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิ่ง ในวันที่ 26 ส.ค. ซึ่งนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด จะขึ้นกล่าวในการประชุมครั้งนี้ หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมในปีที่แล้ว โดยอาจมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
อินโฟเควสท์