WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET30ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับฐานระยะสั้น หลังราคาน้ำมันร่วง, ต่างชาติยังซื้อช่วยประคองตลาด

     นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลง อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่อง ทำให้มองว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะเป็นการปรับฐานระยะสั้น ๆ เท่านั้น

     ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็ปรับตัวลงด้วย โดยปัจจัยนอกประเทศเวลานี้ยังไม่มีอะไร พร้อมให้แนวรับ 1,540 จุด ส่วนแนวต้าน 1,560 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (10 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,495.66 จุด ลดลง 37.39 จุด (-0.20%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,204.58 จุด ลดลง 20.90 จุด (-0.40%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,175.49 จุด ลดลง 6.25 จุด (-0.29%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 80.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 31.72 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 2.00 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 16.97 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.00 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 5.07 จุด

     ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Mountain Day

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 ส.ค.59) 1,548.13 จุด ลดลง 0.08 จุด (-0.01%)

     - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,508.94 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ส.ค.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (10 ส.ค.59) ปิดที่ 41.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.06 ดอลลาร์ หรือ 2.5%

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ส.ค.59) ที่ 2.87 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 34.78/80 กลับมาอ่อนค่าก่อนหยุดยาว ตลาดรอปัจจัยใหม่สนับสนุน

     - ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า คลังกำลังจัดทำรายละเอียดของร่าง พ.ร.บ.กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) ในส่วนของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพภาคบังคับที่จะดำเนินการภายใต้กฎหมาย กบช.จะหารือกับผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง โดยอยู่ระหว่างการพิจารณายกเว้นไม่ต้องตั้งกองทุนให้ธุรกิจเอสเอ็มอีที่มีรายได้ 100-200 ล้านบาท

    - กระทรวงพลังงานได้รายงานความคืบหน้าแผนการขับเคลื่อนภารกิจด้านพลังงานเพื่อส่งเสริมการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทย ต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) โดยกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จะสนับสนุนการลงทุนผุดปั๊มชาร์จไฟรถยนต์ สถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า สำหรับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน 100 สถานี

    - สหภาพทีโอทีมีมติเอกฉันท์คัดค้าน คนร.นำทรัพย์สินไปตั้ง 3 บริษัทลูก ยืนกรานไม่เห็นด้วย ทำให้เสียประโยชน์ หมดโอกาสทำธุรกิจตามกระแสตลาด แนะแยกหน่วยธุรกิจให้ชัดแทน สัปดาห์หน้าเสนอไอซีทีทบทวน หากไม่เห็นด้วยจะยื่น สรส.ช่วยต้าน ด้าน กสท.เดินหน้าจัดเสวนาค้าน

    - "สมคิด" จี้ ร.ฟ.ท.-ทอท.เบิกจ่ายให้ได้ตามเป้า ขู่กระทบผลประเมินการทำงานของ "ซีอีโอ" เตรียมเดินสายตรวจเยี่ยมรัฐวิสาหกิจเป็นรายเดือน ด้านแอร์เอเชียดอดพบขอร่วมลงทุนพัฒนาสนามบินดอนเมือง หลังอุตสาหกรรมการบินขยายตัวสูง

     - ตลท.การันตีตลาดหุ้นไทยยังไม่ถึงขั้นฟองสบู่หรือแพงเกินไป เพราะสัดส่วนราคาปิดต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (พี/อี) 16 เท่า ถือว่าเป็น พี/อี อนาคตที่เท่ากับ 2-3 ปีในอดีตที่ผ่านมาเฉลี่ยอยู่ที่ 15-17 เท่า เพียงแต่ต้องรอดูว่ากำไรของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 2 จะปรับขึ้นได้ตามที่หลายฝ่ายคาดว่าจะออกมาดีหรือไม่เท่าที่ดู บจ.ที่ไม่ใช่กลุ่มพลังงานฟื้นตัวดีขึ้น แม้การส่งออกจะติดลบอยู่แต่ภาพรวมเศรษฐกิจไทยดูดีขึ้นหลายฝ่าย คาดปีนี้จะเติบโต 3.1-3.2%

*หุ้นเด่นวันนี้

     - IVL (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 38 บาท งบ 2Q59 กำไรดีเยี่ยม แนวโน้ม 2H59 ดีต่อเนื่อง จากปริมาณการผลิตและ Margin ของ PTA ที่เพิ่มขึ้น

     - SPRC (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดกำไร Q2/59 ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ส่งผลให้กำไรครึ่งปีแรกโดดเด่นที่ประมาณ 4.5 พันล้านบาท ส่งผลให้ตลาดจะปรับประมาณการขึ้น นอกจากนี้คาดบริษัทจะประกาศจ่ายปันผลสำหรับในงวดครึ่งปีแรกคิดเป็นอัตราผลตอบแทนกว่า 5% อีกทั้งแนวโน้มผลประกอบการใน 3Q59 ยังอยู่ในระดับสูงจากค่าการกลั่นที่ยังดีอยู่ประกอบกับนโยบายการลดต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ

     - ILINK (แอพเพิล เวลธ์) "ซื้อ"เป้าปี 60 ที่ 26.90 บาท ยังมีประเด็นบวกจากการนำบริษัทลูก ITEL เข้าตลาด mai ใน 3Q59 โดยจะให้สิทธิการจองซื้อแก่ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วน 6.0404 หุ้น ILINK ต่อ 1 หุ้น ITEL (XB : 15/08/59) ผลประกอบการ 2Q59 นับเป็นจุดต่ำสุดของปี  แม้พลาดงาน "NONSEE Project" แต่ยังมีงานอื่นรออยู่

    - CPALL (ดีบีเอส วิคเคอร์ส) "ซื้อ"เป้า 60 บาท กำไร 2Q59 โตแกร่งถึง 34%YoY อยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท (+34%YoY) ส่วนงวด 6M59 มีกำไรสุทธิ 8.3 พันล้านบาท (+26%YoY) ปัจจัยหนุน คือ รายได้เพิ่มขึ้น (งวด 2Q59 : +14%YoY โดยมาจากสาขาเพิ่มขึ้น 783 แห่งในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมาเป็น 9,252 สาขาในสิ้นมิ.ย.59) ส่วน SSSG อยู่ที่ 5% ซึ่งแข็งแกร่งมากและ Outperform อุตสาหกรรม) รวมทั้งดอกเบี้ยจ่ายลดลง โดยยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อการเติบโตของธุรกิจบริษัทและคาดการณ์ว่ายอดขาย-กำไรมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้าจากการขยายสินค้าและบริการ การขยายสาขา และการปรับ Product Mixed ซึ่งรวมถึงการขายสินค้า House brand ที่มีมาร์จิ้นสูงมากขึ้นด้วย

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนลงเช้านี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์ก

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อคืน หลังราคาน้ำมันดิบร่วงลงราว 2.5% และหลังจากที่บริษัทจดทะเบียนบางแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ย่ำแย่

    ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,412.31 จุด ลดลง 80.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,168.70 จุด ลดลง 31.72 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,042.64 จุด ลดลง 2.00 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,858.60 จุด ลดลง 16.97 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,675.03 จุด เพิ่มขึ้น 2.00 จุด ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Mountain Day

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 15.12 จุด รับผลประกอบการแข็งแกร่ง

     ตลาดหุ้นลอนดอนทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) ขานรับข่าวการควบรวมกิจการและการรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของภาคเอกชน

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 15.12 จุด หรือ 0.22% แตะที่ 6,866.42 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากการรายงานผลประกอบกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง โดยหุ้น G4S ผู้ให้บริการด้านการรักษาความปลอดภัยพุ่งขึ้น 16% หลังเปิดเผยรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและระบุว่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ

    หุ้นพรูเดนเชียลเพิ่มขึ้น 2.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรจากการดำเนินงานที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

    หุ้นเอนเตอร์เทนเมนท์ วัน เจ้าของลิขสิทธิ์ตัวการ์ตูน Peppa Pig พุ่งขึ้น 10% หลังจากบริษัทได้ปฏิเสธข้อเสนอในการเข้าซื้อกิจการของไอทีวี เนื่องจากราคาที่เสนอซื้อต่ำเกินไป

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นพลังงานร่วง ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงกว่า 2% อันเนื่องมาจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่พุ่งขึ้นสวนทางกับตัวเลขคาดการณ์

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.2% ปิดที่ 343.98 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,452.01 จุด ลดลง 16.06 จุด หรือ -0.36% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,650.89 จุด ลดลง 42.01 จุด หรือ -0.39% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,866.42 จุด เพิ่มขึ้น 15.12 จุด หรือ +0.22%

     ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงราว 2.5% เมื่อคืนนี้ ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ส.ค. เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ซึ่งสำรวจโดยวอลล์สตรีท เจอร์นัลคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลง 800,000 บาร์เรล

     การร่วงลงของราคาน้ำมันได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง โดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ดิ่งลง 2.1% หุ้นสแตท ออยล์ ร่วงลง 1% และหุ้นเอเมค ฟอสเตอร์ วีลเลอร์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านน้ำมัน ดิ่งลง 3.6%

     หุ้น E.ON ซึ่งเป็นบริษัทสาธารณูปโภคด้านพลังงานของเยอรมนี ร่วงลง 7.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

     อย่างไรก็ตาม หุ้น G4S ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยรายใหญ่ของอังกฤษ ทะยานขึ้น 16% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 37.39 จุด เหตุราคาน้ำมันร่วงฉุดหุ้นพลังงาน

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (10 ส.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงราว 2.5% ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง ซึ่งรวมถึง ไมเคิล คอร์ ผู้ผลิตกระเป๋าแบรนด์ดัง

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,495.66 จุด ลดลง 37.39 จุด หรือ -0.20% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,204.58 จุด ลดลง 20.90 จุด หรือ -0.40% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,175.49 จุด ลดลง 6.25 จุด หรือ -0.29%

      ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดอ่อนแรงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงราว 2.5% เมื่อคืนนี้ ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA)  เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ส.ค. เพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ซึ่งสำรวจโดยวอลล์สตรีท เจอร์นัลคาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะปรับตัวลดลง 800,000 บาร์เรล

     การร่วงลงของราคาน้ำมันได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล ร่วงลง 1.7% หุ้นเชฟรอน ดิ่งลง 1.1% หุ้นทรานส์โอเชียน ปรับตัวลง 1.7%

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนบางแห่ง โดยไมเคิล คอร์ เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ อันเนื่องมาจากยอดขายที่ซบเซา ซึ่งส่งผลให้หุ้นไมเคิล คอร์ ปิดตลาดดิ่งลง 2.7% เมื่อคืนนี้

    หุ้นเวนดี้ส์ โค ซึ่งเป็นเชนร้านอาหารฟ้าสท์ฟู๊ด ร่วงลง 2.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ลดลงมากกว่าคาด

     อย่างไรก็ตาม หุ้นราล์ฟ ลอเรน พุ่งขึ้น 8.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้นวอลท์ ดิสนีย์ ปรับตัวขึ้น 1.2% ขานรับผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน

     นักวิเคราะห์จับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ ทางการสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนในวันพรุ่งนี้จะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ค., ยอดค้าปลีกเดือนก.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมิ.ย.

    อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!