WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

bull market1ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ซิกแซกขึ้นต่อรับกระแสทุนไหลเข้า-ผลบวกรับร่างรธน.-เก็งงบฯ

    นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังให้น้ำหนักทางซิกแซกขึ้นไปต่อ เนื่องจากยังมีกระแสเงินทุนยังไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง และผลบวกจากร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติ อีกทั้งยังมีการเข้ามาเล่นเก็งกำไรผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน หลังจากวานนี้บริษัทส่วนใหญ่ที่ประกาศผลประกอบการออกมาดีกว่าตลาดคาด อย่างเช่น TOP, TU, THCOM จึงอาจมีแรงซื้อเข้ามา และยังเก็งปันผลช่วยหนุนด้วย

     ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดฯ อาจเริ่มกลับมากังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาดไว้ หากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาดีกว่าคาดอย่างต่อเนื่อง

พร้อมให้แนวรับ 1,532-1,535 จุด ส่วนแนวต้าน 1,550 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,529.29 จุด ลดลง 14.24 จุด (-0.08%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,213.14 จุด ลดลง 7.98 จุด (-0.15%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,180.89 จุด ลดลง 1.98 จุด (-0.09%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 18.16 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.97 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิด ลดลง 30.66 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 3.74 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 2.40 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.81 จุด

      ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ส.ค.59) 1,542.26 จุด เพิ่มขึ้น 23.57 จุด (+1.55%)

     - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 6,822.07 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ส.ค.59

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 ส.ค.59) ปิดที่ 43.02 ดอลลาร์/บาร์เรล  พุ่งขึ้น 1.22 ดอลลาร์ หรือ 2.9%

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ส.ค.59) ที่ 2.98 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 34.98 ทรงตัวจากวานนี้ ประเมินกรอบ 34.90-35.05 รอปัจจัยใหม่

     - กสทช. นัดผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 5 รายถกวันนี้ หารือแนวทางป้องกันและเฝ้าระวังการเล่นเกมโปเกมอนโก หวั่นเกิดบิลช็อก หากกดซื้อไอเทมโดยไม่ระวัง ตำรวจเตือนเล่นไปขับรถไปเจอจับ โทษ 400-1,000 บาท พร้อมสั่งล้อมคอก หวั่นมิจฉาชีพใช้เป็นช่องทางก่ออาชญากรรม ปล่อย LURE MODULE ล่อนักจับ ฮือฮาโปเกมอนโผล่ทำเนียบรัฐบาล แถมเป็นจุดโปเกสต็อป เผยล่าสุดอิหร่านสั่งแบนเกมแล้วเป็นประเทศแรก

     - ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผย ธปท.จะทบทวนตัวเลขอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) อีกครั้งในวันที่ 14 ก.ย.นี้ และจะประกาศตัวเลขจีดีพีใหม่ในวันที่ 23 ก.ย. หลังจากที่ประเทศไทยผ่านประชามติจะทำให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ปีนี้ปรับดีขึ้นหรือไม่นั้น ธปท.มองว่าต้องรอการประเมินเศรษฐกิจจริงและปัจจัยอื่น ๆ ประกอบด้วย

    - กฟผ.ผุดแผนลงทุน 10 ปี ควักเงิน 1.2 ล้านล้านบาท พัฒนาระบบสายส่งไฟฟ้า-โรงไฟฟ้าใหม่รองรับความต้องการใช้ไฟปลายแผนพีดีพีกว่า 5 หมื่นเมกฯ พร้อมเร่งศึกษาสร้างคลังแอลเอ็นจีลอยน้ำป้อนโรงไฟฟ้าพระนครเหนือและใต้ คาดแล้วเสร็จต้นก.ย.

     - ธปท.มองร่างรัฐธรรมนูญผ่านด้วยดี หนุนเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติ คาดเม็ดเงินไหลเข้าหุ้น-ตราสารหนี้หนุนเงินบาทแข็งระยะสั้น ด้านเอกชนชี้สะท้อนความต้องการปฏิรูปของประชาชน ขณะที่นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้น กระตุ้นการลงทุน

    - "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากผลการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ไม่ใช่เรื่องที่จะมีใครแพ้ หรือชนะ ซึ่งมีผลทำให้เมฆหมอกทางการเมืองจากความไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นผ่านพ้นไป เพราะมีความชัดเจนแล้วว่าอย่างน้อยจะมีการเลือกตั้งภายในปี 2560 นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศมีความมั่นใจ โดยจากนี้ไปจะติดตามงานด้านเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด ซึ่งวันที่ 10 ส.ค.นี้ จะประชุมหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ เพื่อเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐวิสาหกิจในปี 60 ให้เร็วขึ้น รวมทั้งเร่งรัดการเบิกจ่ายของส่วนราชการด้วย

*หุ้นเด่นวันนี้

       - TOP (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 74.54 บาท ค่าการกลั่นส่งสัญญาณฟื้นราว 1-2 เหรียญฯต่อบาร์เรล โดยเฉพาะกลุ่ม middle distillate ในช่วง 4Q59,  ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าเติบโต ประเมินที่ 2 พันล้านบาทต่อปีช่วยลดความผันผวนธุรกิจหลัก, DY ปี 59 กว่า 5% คาด 2Q59 กำไร 7,753 ล้านบาทดีกว่าคาด จากกำไรสต๊อกน้ำมันดิบสุทธิ 4,106 ล้านบาท แต่ธุรกิจหลักอ่อนตัวจากค่าการกลั่น-อัตรากำไรปิโตรเคมีปรับลดลง รับรู้ Market GRM และ Accounting GIM ที่ 4.4 เหรียญฯ และ 11.1 เหรียญ/บาร์เรลตามลำดับ กำไรปกติไม่รวมผลกระทบสต๊อกน้ำมันดิบอยู่ที่ 3,537 ล้านบาทลดลงจาก 1Q59

      - BIG (กรุงศรี) "ซื้อ"ปรับใช้เป้าปีหน้า 6 บาท กำไรสุทธิ 2Q16 โตถึง 162% yoy เป็น 186 ล้านบาท จากยอดขายกล้องที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงเป็นประวัติการณ์  แนวโน้ม 2H16 คาดกำไรสุทธิจะโดดเด่นกว่า 1H16 เนื่องจากเป็นช่วง high season ซึ่งจะมีการออกกล้องรุ่นใหม่ และมีการจัดงาน camera fairs โดยคาดกำไรสุทธิ 2H16 จะเติบโตกว่า 33% hoh

    - CK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 40 บาท คาดกำไรปกติ 2Q16 +172% Q-Q เป็น 827 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนจากการดำเนินงาน 3.4 ล้านบาทใน 2Q15 จากการรับรู้รายได้ส่วนเพิ่มของโครงการไซยะบุรีเกือบ 1.4 หมื่นล้านบาท และรับเงินปันผลของ TTW สำหรับ 2H16 จะได้ส่วนแบ่งกำไรจาก BEM เพิ่มขึ้นหลังเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีม่วงและทางด่วนศรีรัชช่วงวงแหวนรอบนอกตั้งแต่เดือน ส.ค.

      - MTLS (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 25 บาท กำไรสุทธิดีตามคาด +7% Q-Q, +64% Y-Y แต่กำไรก่อนสำรองแกร่งกว่าคาด +16% Q-Q, +102% Y-Y จากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม ทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยดีขึ้นเป็น 20% จาก 19.5% ใน 1Q16 ขณะที่ยอดปล่อยสินเชื่อดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 8.75 พันล้านบาท โดยมีแนวโน้มปรับกำไรขึ้นเพราะกำไร 1H16 +59% Y-Y และคิดเป็น 52% ของคาดการณ์ทั้งปี

      - IVL (โกลเบล็ก) เป้าเฉลี่ย Consensus  35.6 บาท คาดกำไร Q2/59 เติบโตขึ้น QoQ ตามปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นราว 20% หลังไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน ขณะที่ส่วนต่างผลิตภัณฑ์โดยรวมปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจาก Q1/59 ช่วยหนุนกำไรปกติเพิ่มเติม ในช่วงครึ่งปีหลังและปี 2017 จะมีกำลังการผลิตใหม่จากการซื้อโรงงานเก่ามาปรับปรุงเพิ่มเติม ช่วยหนุนให้ปริมาณขายเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมได้อานิสงส์ราคาฝ้ายทำ High ในรอบ 2 ปี ล่าสุด 76.3 US/Tons

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ หลังดาวโจนส์ปิดลบ-น้ำมันพุ่ง

     ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในเช้าวันนี้ หลังจากที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืน แต่ในขณะเดียวกันราคาน้ำมันก็ดีดตัวขึ้น ขานรับรายงานที่ว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเดือนก.ย. เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,632.41 จุด ลดลง 18.16 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,001.31 จุด ลดลง 2.97 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,464.10 จุด ลดลง 30.66 จุด

    ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,154.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,033.52 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,674.49 จุด เพิ่มขึ้น 1.81 จุด ส่วนตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นเหมืองแร่พุ่งแรง หนุนฟุตซี่ปิดบวก 15.66 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) โดยดัชนีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี เพราะได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์

   ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 15.66 จุด หรือ 0.23% แตะที่ 6,809.13 จุด

      ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่สามติดต่อกัน นำโดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ได้รับอานิสงส์จากการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเชิงรุกของธนาคารกลางอังกฤษและข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

    หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ผู้ผลิตแร่เหล็กรายใหญ่เพิ่มขึ้น 3.3% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ผู้ผลิตพลาตินัมและทองแดงเพิ่มขึ้น 1.8% หุ้นอันโตฟากัสตา ผู้ผลิตทองแดงเพิ่มขึ้น 3.3%

    หุ้นบาร์เคลย์เพิ่มขึ้น 3.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทบีเอ็นพี พาริบาส์ ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของธนาคาร

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : แรงซื้อหุ้นแบงก์ หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร และผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดของเยอรมนี

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้นราว 0.1% ปิดที่ 341.53 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,415.46 จุด เพิ่มขึ้น 4.91 จุด หรือ +0.11% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,432.36 จุด เพิ่มขึ้น 65.15 จุด หรือ +0.63% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,809.13 จุด เพิ่มขึ้น 15.66 จุด หรือ +0.23%

     ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นดอยช์แบงก์ พุ่งขึ้น 3.1% หุ้นบาร์เคลย์ส ทะยานขึ้น 3.6% ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารของอิตาลีนั้น หุ้น Banca Popolare Societa Cooperativa  พุ่งขึ้น 5.1% และหุ้น Mediobanca SpA ปรับขึ้น 3%

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนมิ.ย.ของเยอรมนี ขยับตัวขึ้น 0.8% โดยมากกว่าตัวเลขคาดกาณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะขยายตัว 0.7%

      อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากหุ้นแอร์บัสร่วงลง 1.3% หลังจากมีรายงานว่า สำนักงานการตรวจสอบทุจริตร้ายแรงของอังกฤษ หรือ SFO ได้ทำการสอบสวนถึงธุรกรรมที่ไม่เหมาะสมของบริษัทที่ปรึกษา และบริษัทคอนแทรคเตอร์ของบริษัทผลิตเครื่องบินแอร์บัสว่า มีส่วนพัวพันในการฉ้อโกง ให้สินบน และคอรัปชัน หรือไม่

    ก่อนหน้านี้ แอร์บัสได้ออกมายอมรับว่า ทางบริษัทได้ให้ข้อมูลที่มีความคลาดเคลื่อนเกี่ยวข้องกับการยื่นแบบฟอร์มการขอรับความช่วยเหลือทางการเงินที่เรียกว่า “export credit financing applications" ต่อทางสถาบันการเงินเพื่อการส่งออกอังกฤษ หรือ UK Export Finance และทางหน่วยงานภาครัฐบาลอังกฤษแห่งนี้ได้ส่งต่อเอกสารของแอร์บัสไปให้ SFO ทำการตรวจสอบ

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : แรงขายทำกำไร ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 14.24 จุด

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดาวโจนส์ทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่ดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้น ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานฟื้นตัวขึ้นด้วย

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,529.29 จุด ลดลง 14.24 จุด หรือ -0.08% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,213.14 จุด ลดลง 7.98 จุด หรือ -0.15% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,180.89 จุด ลดลง 1.98 จุด, -0.09%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 190 จุดเมื่อวันศุกร์ ภายหลังจากกระทรวงแรงงานเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 255,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. โดยตัวเลขดังกล่าวดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 180,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค.

   หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพร่วงลง นำโดยหุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ ร่วงลง 4.7% หลังจากมีรายงานว่า ยา Opdivo ซึ่งเป็นยารักษาโรคมะเร็งของบริษัท ไม่ผ่านการทดสอบสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งในปอด ขณะที่หุ้นอัลเลอร์แกน ผู้ผลิตโบท็อกซ์รายใหญ่ ดิ่งลง 2.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 2 ที่อ่อนแอเกินคาด

    หุ้นวอลมาร์ท บริษัทค้าปลีกรายใหญ่ระดับโลก ปรับตัวลง 0.6% หลังจากมีรายงานว่า วอลมาร์ทบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการ Jet.com ธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลีกผ่านช่องทางออนไลน์ เป็นเงิน 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    รายงานระบุว่า ภายหลังการซื้อกิจการเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้ง 2 แบรนด์ได้วางแผนที่จะใช้แบรนด์แยกจากกันต่อไป โดยเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าของวอลมาร์ทจะยังคงใช้กลยุทธจำหน่ายสินค้าราคาถูก ส่วน Jet.com จะยังคงเจาะกลุ่มลูกค้าชาวมิลเลนเนียล

      หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ปรับตัวลง 0.6% หลังจากมีรายงานว่า เดลต้า แอร์ไลน์ประกาศระงับเที่ยวบินขาออกทั่วโลก  เพราะเหตุไฟฟ้าดับในเมืองแอตแลนตาได้ส่งผลกระทบต่อระบบคอมพิวเตอร์ของสายการบินฯ จนส่งผลให้เที่ยวบินทั่วโลกของเดลต้าต้องล่าช้ากว่ากำหนดหรือถูกยกเลิก

    อย่างไรก็ตาม เดลต้า แอร์ไลน์ ได้เริ่มกลับมาให้บริการเที่ยวบินบางส่วนได้ตามปกติแล้วในช่วงเช้าวานนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยเที่ยวบินขาออกบางเที่ยวบินได้กลับมาให้บริการได้ตามปกติ ขณะที่อีกหลายเที่ยวบินยังคงล่าช้ากว่ากำหนดหรือถูกยกเลิก

    ทั้งนี้ แม้ตลาดปิดในแดนลบ แต่ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงในกรอบจำกัด เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้น 2.9% หลังจากมีรายงานว่า กลุ่มประเทศส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เตรียมจัดการประชุมอย่างไม่เป็นทางการในเดือนก.ย.ที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย เพื่อหารือถึงแนวทางการสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน

     การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงานช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยเอ็กซอนโมบิล พุ่งขึ้น 1.2% หุ้นเชฟรอน ปรับตัวขึ้น 0.7% หุ้นมาราธอน ออยล์ พุ่งขึ้น 2.7% หุ้นเทโซโร ปรับขึ้น 3.7% และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 2.5%

     นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึงผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นไตรมาส 2/2559 และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ค.

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!