WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET22ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ยังมีลุ้นขึ้นหลัง Sentiment ภายนอกค่อนข้างดี,ราคาน้ำมันรีบาวด์

    นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ เนื่องจาก Sentiment จากภายนอกค่อนข้างดี โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างบวกเล็กน้อย และราคาน้ำมันก็รีบาวด์ขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา

     นอกจากนี้ ยังมีความคาดหวังว่าการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) วันนี้จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย พร้อมให้ติดตามตัวเลขการจ้างงานอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ และตัวเลขการว่างงานของสหรัฐฯ เพื่อมองแนวโน้มการปรับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในอนาคต

     สำหรับ บ้านเราก็มีเรื่องการลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญในปลายสัปดาห์นี้ ทำให้มองว่าตลาดหุ้นไทยอาจจะแกว่งต่างจากตลาดอื่นได้ในช่วงนี้

พร้อมให้แนวรับ 1,500 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (3 ส.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,355.00 จุด เพิ่มขึ้น 41.23 จุด (+0.23%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,159.74 จุด เพิ่มขึ้น 22.01 จุด (+0.43%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,163.79 จุด เพิ่มขึ้น 6.76 จุด (+0.31%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 85.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.05 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 134.24 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 7.58 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 11.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.15 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (3 ส.ค.59) 1,507.47 จุด เพิ่มขึ้น 9.96 จุด (+0.67%)

    - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,197.12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ส.ค.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (3 ส.ค.59) ปิดที่ 40.83 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 3.3%

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (3 ส.ค.59) ที่ 3.45 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 34.99 อ่อนค่าตามภูมิภาคหลังดอลลาร์ฟื้น,มองกรอบ 34.90-35.05

     - เลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเสี่ยงที่จะโตได้ต่ำกว่าที่คาดไว้ 3.1% จากความเสี่ยงในต่างประเทศเป็นหลัก เช่น การแข็งค่าขึ้นของเงินเยนญี่ปุ่น ทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเทียบกับเงินสกุลหลักบางสกุล ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดย กนง.มีการพูดคุยเรื่องเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น แต่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีเครื่องมือดูแลอยู่แล้ว และไม่จำกัดเฉพาะดอกเบี้ย ยังมีเครื่องมืออื่น รวมถึงการใช้นโยบายแม็คโคร พรูเดนเชียล (Macroprudential) ที่ผสมผสานการกำกับสถาบันเงิน

     - ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ขสมก.อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นร่างทีโออาร์ประกวดราคาจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 200 คัน วงเงินกว่า 2,000 ล้านบาท คาดจะขายซองประกวดราคาและจัดประมูลอี-ออกชั่น ใน 2-3 เดือนข้างหน้า

     - คมนาคมเร่งเครื่องลงทุนรถไฟฟ้า เตรียมทำแผนแม่บทโครงข่ายรถไฟฟ้าระยะ 2 ผุดอีก 10 สาย ขยายโครงข่ายเชื่อมชานเมืองกับกรุงเทพฯ วางเป็นแผนระยะ 10 ปี สนข.คาดเคาะจ้างที่ปรึกษาได้เดือนธันวาคม ใช้เวลาศึกษา 1 ปี ทำแผนได้เสร็จปี 60

*หุ้นเด่นวันนี้

    - IRPC (แอพเพิล เวลธ์) "ซื้อ"เป้า 5.60 บาท งวด 2Q59 รายงานกำไรสุทธิ 3.7 พันล้านบาท เติบโตต่อเนื่อง 23%QoQ หลัก ๆ เป็นกำไรจากรายการพิเศษ เช่น กำไรจากสต็อกน้ำมันรวม LCM 2,242 ล้านบาท, แนวโน้มค่าการกลั่นทรงตัวต่ำ แต่จะได้ UHV มาช่วยเติมเต็มช่วงครึ่งหลัง และโครงการ Everest เป็น Upside ส่วนเพิ่ม

    - AP (เคจีไอ) เป้า 8.8 บาท ยังคงประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมฯ พ้นจุดต่ำสุด ขณะที่การเร่งเปิดโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่ ๆ จะเป็น Sentiment บวกต่อผู้พัฒนาอสังหาฯติดแนวรถไฟฟ้า นอกจากนี้ PE ไม่แพง ประเมินปีนี้ 8.6 เท่า และลดเหลือ 6.5 เท่าในปีหน้า

    - BJCHI (โกลเบล็ก) เป้า Consensus 8.1 บาท คาดกำไร Q2/59 ราว 210-250 ลบ.(+38% YoY แต่-26% QoQ)จากรับรู้รายได้ 2 งาน 1,400 ล้านบาทซึ่งมี Margin ค่อนข้างต่ำ แต่มองเป็นจุดต่ำสุดของปีและจะดีขึ้นในครึ่งปีหลัง มีจุดเด่นปันผลสูง 6-7% ผู้บริหารยืนยันเป้าปี 59 รายได้ +10-15% เป็น 6.3 พันลบ.มี Backlog ราว 4.5 พันลบ.และจะรักษา Gross Profit ไว้ที่ 20%  Net Profit ที่ 15% และครึ่งปีหลังเตรียมเข้าประมูล 5 โครงการใหญ่ในออสเตรเลีย มาเลเซีย และสหรัฐ มูลกว่า 290 ล้านเหรียญฯ อีกทั้งตั้งเป้าประมูลงาน Renewable Energy  37 ล้านเหรียญฯ เช่น โซล่าฟาร์มลอยน้ำออสเตรเลีย และ Wind Farm อินเดีย

    - TVO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า 34 บาท แนวโน้มกำไรปกติปี Q2/59 จะสูงสุดในรอบ 15 ไตรมาสที่ 711 ล้านบาท +60% Q-Q, +37% Y-Y จากปริมาณขายเพิ่ม-ต้นทุนวัตถุดิบปรับลง แต่กำไร H2/59 จะแผ่วเพราะวัตถุดิบจะปรับขึ้นในช่วง Q3/59 ถึงต้น Q4/59 จากสต็อกถั่วเหลืองราคาสูงที่ซื้อไว้ในเดือน มิ.ย.เราปรับเพิ่มกำไรปกติปีนี้ขึ้น 14.8% เป็น +25% Y-Y (เดิมคาด +9% Y-Y) ส่วนปี 60 คาดกำไรปกติ +11.7% Y-Y และคาดปันผลระหว่างกาล 1.1 บาท/หุ้น (Yield 3.4%)

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับตลาดหุ้นญี่ปุ่น-สหรัฐดีดตัว

    ตลาดหุ้นเอเชีย ดีดตัวขึ้นในเช้าวันนี้ หลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวาน โดยได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

     ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 134.64 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,168.34 จุด เพิ่มขึ้น 85.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,976.41 จุด ลดลง 2.05 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,873.36 จุด เพิ่มขึ้น 134.24 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,009.29 จุด เพิ่มขึ้น 7.58 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,006.08 จุด เพิ่มขึ้น 11.29 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,839.11 จุด เพิ่มขึ้น 11.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,651.65 จุด เพิ่มขึ้น 3.15 จุด

     นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปรับตัวขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการเมื่อคืนนี้ หลังจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) รายงานว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 179,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง

   นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษในวันนี้ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษมีแนวโน้มประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% พร้อมกับขยายระยะเวลาโครงการให้เงินทุนสำหรับการปล่อยกู้ ซึ่งจะกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อในภาคธนาคาร

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 11 จุด ตลาดจับตาประชุมแบงก์ชาติอังกฤษ

     ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษในวันนี้

   ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 11.00 จุด หรือ 0.17% แตะที่ 6,634.40 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษในวันนี้ ขณะที่นักเศรษศาสตร์คาดว่า ธนาคารกลางอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

    นักวิเคราะห์จากโกลด์แมน แซคส์คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษมีแนวโน้มประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% พร้อมกับขยายระยะเวลาโครงการให้เงินทุนสำหรับการปล่อยกู้ ซึ่งจะกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อในภาคธนาคาร

    หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ เพิ่มขึ้น 4.5% หลังเปิดเผยแผนการซื้อคืนหุ้นในวงเงิน 2.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งช่วยชดเชยข้อมูลรายได้ที่ลดลงและการงดการปรับเพิ่มการจ่ายเงินปันผลของธนาคาร

    หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เพิ่มขึ้น 4.2% หลังเปิดเผยว่า มูลค่าการด้อยค่าของสินทรัพย์ของธนาคารปรับตัวลดลง 1 ใน 3 ในช่วงครึ่งปีแรก

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : แรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) โดยได้ปัจจัยบวกจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากโซซิเอเต เจเนราล (ซอคเจน) เปิดเผยผลประกอบการเพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/2559 และเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ประกาศแผนซื้อคืนหุ้นมูลค่ากว่า 2 พันล้านดอลลาร์

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.03% ปิดที่ 335.58 จุด

    ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,170.21 จุด เพิ่มขึ้น 25.87 จุด หรือ +0.26% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,321.08 จุด ลดลง 6.91 จุด, -0.16%  ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,634.40 จุด ลดลง 11.00 จุด หรือ -0.17%

    ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นซอคเจน ธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของฝรั่งเศส  พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากธนาคารรายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 8% ในไตรมาส 2/2559 สู่ระดับ 1.46 พันล้านยูโร (1.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เนื่องจากธนาคารได้ปรับลดเงินกันสำรองสำหรับหนี้เสีย

    หุ้นเครดิตสวิส ปรับตัวขึ้น 0.9% ส่วนหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 4.5% หลังจากเอชเอสบีซีประกาศแผนซื้อคืนหุ้นมูลค่า 2.5 พันล้านดอลลาร์

     อย่างไรก็ตาม เอชเอสบีซีเปิดเผยกำไรลดลง 29% ในไตรมาส 2/2559 สู่ระดับ 9.7 พันล้านดอลลาร์ หรือ 32 เซนต์/หุ้น ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 2558 ที่สามารถทำกำไรได้ 1.36 หมื่นล้านดอลลาร์

    สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจของยูโรโซนที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น มาร์กิต อิโคโนมิคส์ ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน อยู่ที่ 53.2 ในเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับตัวเลขเบื้องต้นที่ 52.9 และตัวเลขเดือนมิ.ย.ที่ 53.1

    ดัชนี ที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมในภาคธุรกิจมีการขยายตัว ขณะที่ดัชนีต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 41.23 จุด รับราคาน้ำมันฟื้น,ข้อมูลแรงงานสดใส

                ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ส.ค.) โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นกว่า 3% และรายงานจากออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ซึ่งระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนก.ค.

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,355.00 จุด เพิ่มขึ้น 41.23 จุด หรือ +0.23% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,159.74 จุด เพิ่มขึ้น 22.01 จุด หรือ +0.43% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,163.79 จุด เพิ่มขึ้น 6.76 จุด หรือ +0.31%

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเป็นวันแรกในรอบ 8 วันทำการ ขานรับข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดย ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 179,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 170,000 ตำแหน่ง

    ขณะเดียวกัน ADP ได้ทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนมิ.ย.สู่ระดับ 176,000 ตำแหน่ง จากเดิมที่ระดับ 172,000 ตำแหน่ง

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นกว่า 3% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินและการผลิตน้ำมันของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว

    การฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ออยล์ และหุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 4.5%

     หุ้นกลุ่มประกันปรับตัวขึ้น หลังจากบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดในไตรมาส 2 พร้อมทั้งประกาศแผนซื้อคืนหุ้นมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ หุ้น AIG ทะยานขึ้น 3.7% หุ้นพรูเดนเชียล ไฟแนนเชียล พุ่งขึ้น 2.9% และหุ้นเมทไลฟ์ ปรับขึ้น 2.95%

    ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 1.2% ขณะที่หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2% และหุ้นซิตี้กรุ๊ปพุ่งขึ้นกว่า 2%

    นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนมิ.ย.

     ส่วนในวันพรุ่งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค. โดยจะเป็นตัวเลขการจ้างงานทั้งภาครับและเอกชน และจะบ่งชี้แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปีนี้

     ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. หลังจากพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย.

     นอกจากนี้ นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษในวันนี้ ขณะที่โกลด์แมน แซคส์คาดว่า ธนาคารกลางอังกฤษมีแนวโน้มประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% พร้อมกับขยายระยะเวลาโครงการให้เงินทุนสำหรับการปล่อยกู้ ซึ่งจะกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อในภาคธนาคาร

         อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!