WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET40ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าพักตัวลดร้อนแรง หลัง ECB ไม่มีเพิ่มมาตรการ-น้ำมันลง-จบรอบงบฯแบงก์

   นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้พักฐานลดความร้อนแรง หลังหุ้นไทยปรับขึ้นเร็ว ผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่มีเพิ่มมาตรการตามตลาดคาด ผลประกอบการแบงก์ออกมาโดยรวม In-line (กับประมาณการ) อาจมีการขายในลักษณะ sell on fact เกิดขึ้น เมื่อคึนราคาน้ำมันดิบปรับลงจะกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน

   ตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่พักตัวแต่ไม่มากเพราะแนวโน้มยังดีอยู่ Fund flow ยังอยู่

พร้อมให้แนวรับ 1,495 และ 1,490 จุด แนวต้าน 1,510 จุด

   คำแนะนำสำหรับนักลงทุนเล่นสั้น ให้แนวรับที่ 1,490 จุด เป็นจุด stop loss ถ้าเล่นตามรอบสะสมเพิ่มเมื่ออ่อนตัวเพราะ ทิสโก้มยังมองหุ้นไทยเดือนส.ค.จะปรับขึ้นต่อได้ เพราะผ่านร่างรัฐธรรมนูญ วันที่ 7 ส.ค.

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 ก.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,517.23.01 จุด ลดลง 77.80 จุด (-0.42%),  ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,073.90 จุด ลดลง 16.03 จุด (-0.31%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,165.17 จุด ลดลง 7.85 จุด (-0.36%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 197.32 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.89 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 87.45 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 1.39 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 6.85 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 14.84 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.41 จุด

   - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 ก.ค.59) 1,502.70 จุด ลดลง 7.33 จุด (-0.49%)

   - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,681.91 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ก.ค.59

   - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 ก.ค.59) ปิดที่ 44.75 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 2.2%

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 ก.ค.59) ที่ 4.65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 34.92/96 แข็งค่าจากเย็นวานนี้ รับเม็ดเงินไหลเข้า มองกรอบวันนี้ 34.90-35.00

    - "แบงก์ชาติ"เล็งเปิด"สนามทดลอง"ให้ผู้ประกอบการฟินเทคหวังเปิดช่องทางพัฒนาบริการทางการเงิน รูปแบบใหม่ ลดต้นทุนผู้บริโภค-ภาคธุรกิจ ด้านคลังห่วงความเข้าใจประชาชน ภาคเอกชนชี้ จะประสบความสำเร็จ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ทั้งภาครัฐ-เอกชน

    - อสังหาฯ ตั้งรับวิกฤติรับเหมา-แรงงานขาดแคลนปีหน้า หลังรัฐลุยเมกะโปรเจค มูลค่ากว่า 1.7 แสนล้าน ดันปริมาณงานก่อสร้างเพิ่มเท่าตัว ผู้ประกอบอสังหาฯ แห่พึ่งเทคโนโลยีก่อสร้างเร็ว ทั้งระบบสำเร็จรูปพรีคาสท์-บ้านเอสซีจี ฮาม สร้างบ้านระบบโมดูลาร์ 4 เดือนเสร็จ

    - "ไอคอนสยาม" ทุ่มอีก 2,000 ล้านบาท ผนึก "ทรู" สร้างศูนย์ประชุม-จัดแสดงสินค้าระดับโลก ภายใต้ชื่อ "ทรู ไอคอนสยาม ฮอลล์" ยกระดับอุตสาหกรรมไมซ์ รับงานระดับโลก หวังชิงตลาดประชุม-นิทรรศการระดับโลก"แสนล้าน" ดึงทรูร่วมวางโครงสร้างพื้นฐานทั้งหมด ตั้งเป้าศูนย์ประชุมครบวงจรในเอเชีย

   - รัฐบาลเร่งดันมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอี คลังชงครม.สัปดาห์หน้า ตั้งกองทุนเติมทุนเอสเอ็มอี 2 พันล้าน พร้อมดันมาตรการลดภาษี 2 เท่า โครงการพี่ช่วยน้อง ด้านออมสินปล่อยกู้ซอฟท์โลน ระยะ 3 อีก 3 หมื่นล้าน ขณะแบงก์พาณิชย์ร่วมวง ปล่อยกู้สมทบ 10-30%

    - ผลงานแบงก์ทั้งระบบครึ่งปีดีเกินคาด กวาดกำไร 101,410 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 4.8% จากงวดเดียวกันปีก่อน ผลจากเร่งตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มเตรียมพร้อมรับมือเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่ส่วนใหญ่มีส่วนต่างดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้น

    - ดิจิทัลเวนเจอร์สเตรียมใช้เงิน 1 ใน 3 ของเงินทุนตั้งต้น 50 ล้านดอลลาร์ ลงทุนฟินเทคในและต่างประเทศ จัดงบที่ได้รับคัดเลือก 3 แสนทันทีหากไปได้พร้อมลงทุนเริ่มต้น 1 ล้านบาทขึ้นไป เปิดระบบให้ฟินเทคใช้ข้อมูลแบงก์ทดลองผลิตภัณฑ์

    - "เบรกซิท" หนุนแรงซื้อทะลักเข้าตลาด หุ้นไทย ดันดัชนีปรับตัวขึ้น 100 จุด ตลาดหลักทรัพย์ยอมรับทุนต่างชาติรอบนี้ เป็นเงินร้อนเข้ามากกว่าปกติ เตือนนักลงทุนระมัดระวัง ชี้การเมืองนิ่งช่วยเพิ่มความ มั่นใจ ส่วนความคืบหน้ากองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ คาดเข้าเทรดปีหน้า

*หุ้นเด่นวันนี้

    - SCC (ไอร่า)"ซื้อ"เป้า 565 บาท เป็นโอกาสในการเข้าลงทุน โดยเฉพาะในช่วงที่ราคาลดลงตามภาวะตลาด โดย SCC ยังมีประเด็นความน่าสนใจเฉพาะตัวในเชิงพื้นฐาน และมีมุมมองในเชิงบวก หลัง SCC มีการลงทุนต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้ง Green Field และ M&A เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาค คาดหลังจากนี้เป็นช่วงเวลาที่ SCC เริ่มเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ ขณะที่คาดแนวโน้ม 2Q/59 ยังดีต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี แม้ส่วนต่างระหว่าง HDPE – Naphtha จะลดลง qoq แต่ยังอยู่ในระดับที่ดีเฉลี่ย ประมาณ 700USD/ตัน และได้รับการชดเชยจากส่วนต่างของ PP – Naphtha ที่เพิ่มขึ้นเกือบ 100USD/ตัน จาก 589USD/ตัน เมื่อ 1Q/59 จากความต้องการที่ยังดี โดยที่ยังไม่มี Supply ใหม่ๆ เข้ามา และคาดดีต่อเนื่องหลังจากนี้ไปอีก 3 ปี คาดช่วยชดเชยผลการดำเนินงานธุรกิจปูนซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างที่ได้รับผลกระทบจากช่วงวันหยุดยาวใน 2Q/59 โดยคาดธุรกิจกระดาษกระดาษยังมีแนวโน้มที่ดี และคาดผลการดำเนินงานทั้งปี 59 มีกำไรสุทธิ ประมาณ 46,290 ล้านบาท ทำจุดสูงสุดใหม่

   - KTB (เคจีไอฯ)"ซื้อ"เป้า 18.4 บาท Valuation ยัง Laggard ด้วย PBV 0.9 เท่า ขณะที่ฝ่ายวิจัยฯประเมิน ROE ปี 2559-60 ไว้ที่ 12-13% (ในเชิงทฤษฎีมูลค่าเหมาะสมควรมากกว่า 1 เท่าของ Book Value) รายงานกำไรไตรมาส 2/59 ที่ 8.7 พันล้านบาท ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยฯและ Consensus คาด 20% และ 13% ตามลำดับ ราคาหุ้น Laggard หุ้นกลุ่มที่ได้อานิสงส์งานโครงการภาครัฐฯ ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2H59 คาดจะดีขึ้น HoH ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย

   - CPALL (ซีไอเอ็มบีฯ)"ซื้อ" CPALL เป้า 55.70 บาท Bloomberg consensus คาด CPALL จะมีกำไรไตรมาส 2/59 เติบโตโดดเด่นเป็น 3,952 ล้านบาท (+26% yoy, +25.8% qoq) จากการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องและการฟื้นตัวของยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) มองว่าการแข่งขันฟุตบอล UEFA EURO 2016 ที่จัดขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.-10 ก.ค.จะส่งผลดีต่อยอดขายอาหารและเครื่องดื่มของร้าน 7-Eleven เลือก CPALL เป็นหุ้น top pick ในกลุ่มค้าปลีกด้วยสถานะที่แข็งแกร่งในธุรกิจร้านสะดวกซื้อและกำไรที่มีแนวโน้มเติบโตสดใส ขณะที่การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องและมาร์จินที่เพิ่มขึ้นช่วยสนับสนุนประมาณการที่คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิเติบโต 18.5% CAGR ในปี FY15-18 ปัจจุบัน CPALL ซื้อขายในราคาน่าสนใจที่ P/E 27x หรือ -0.25SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต รวมทั้งต่ำกว่า P/E เฉลี่ยของกลุ่มที่ 28x

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 29.10 จุด หลังหุ้นสายการบินร่วง

   ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) เนื่องจากการปรับตัวลดลงของหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบิน อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเตือนภัยการก่อการร้าย ซึ่งส่งผลให้ยอดการจองปรับตัวลดลง

   ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 29.10 จุด หรือ 0.43% แตะที่ 6,699.89 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนปรับคัวลดลงหลังจากสายการบินดอยช์ ลุฟท์ฮันซ่า แอลเอชเอ ของเยอรมนี ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับภันก่อการร้าย ซึ่งส่งผลให้ยอดการจองสายการบินลดลง

   หุ้นบริติช แอร์เวย์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดดเต็ด แอร์ไลน์ส กรุ๊ป เอสเอ ลดลง 3.6% ในขณะที่หุ้นคาร์นิวัล ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเรือสำราญลดลง 0.6%

   หุ้นอีซีเจ็ท ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของอังกฤษลดลงร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 31 ปี อันเนื่องมาจากความผันผวนของค่าเงินปอนด์ ซึ่งเป็นผลพวงของ Brexit

   หุ้นยูนิลีเวอร์ลดลง 1.2% แม้ว่าผู้ผลิตสินค้าผู้บริโภคยักษ์ใหญ่รายนี้เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น 2% ในครึ่งปีแรก

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัว หลัง ECB คงนโยบายการเงินตามคาด

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดเกือบทรงตัวเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ในการประชุมเมื่อวานนี้

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลงเกือบ 0.1% ปิดที่ 340.58 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,376.25 จุด ลดลง 3.51 จุด หรือ -0.08% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ระดับ 10,156.21 จุด เพิ่มขึ้น 14.20 จุด หรือ +0.14% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,699.89 จุด ลดลง 29.10 จุด หรือ -0.43%

   ผลการประชุม ECB ออกมาตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ โดยที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และได้ประกาศคงวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน

   นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่า ECB จะรอดูข้อมูลเศรษฐกิจมากขึ้นในปีนี้ ก่อนที่จะตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการ QE โดยโครงการซื้อพันธบัตรจำนวน 8 หมื่นล้านยูโร/เดือนมีกำหนดสิ้นสุดในเดือนมี.ค.2017 หรืออาจนานกว่านั้น หากมีความจำเป็น หรือจนกระทั่งสภาบริหารของ ECB เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อมีความยั่งยืนสอดคล้องกับเป้าหมายของ ECB

   หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลง หลังจากดอยช์ ลุฟฮันซา ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2559 เนื่องจากความกังวลที่ว่า เหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมานั้น ส่งผลให้จำนวนผู้โดยสารปรับตัวลดลง

  ทั้งนี้ หุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ปรับตัวลงกว่า 4% หุ้นไรอันแอร์ ดิ่งลง 5.2% หุ้นแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ร่วงลง 4.1% หุ้นคอนโซลิเดท แอร์ไลน์ส ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ปรับตัวลง 3.6%

   หุ้นแอร์เมส อินเตอร์เนชันแนล พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากนักวิเคราะห์ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกของแอร์เมส ขณะที่หุ้นเดมเลอร์ ผู้ผลิตรถยนต์ของเยอรมนี ปรับขึ้น 1.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 7% ในไตรมาส 2 ปีนี้

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 77.80 จุด ตลาดผิดหวังผลประกอบการ อินเทล

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลประกอบการของบริษัทอินเทล คอร์ป นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันและหุ้นกลุ่มสายการบิน ขณะเดียวกันนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า

  ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,517.23 จุด ลดลง 77.80 จุด หรือ -0.42% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,073.90 จุด ลดลง 16.03 จุด หรือ -0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,165.17 จุด ลดลง 7.85 จุด หรือ -0.36%

   ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงหลังจากบริษัทจดทะเบียนบางแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง โดยบริษัทอินเทล คอร์ป เปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 2 อยู่ที่ 1.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 27 เซนต์ต่อหุ้น โดยตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และได้ฉุดราคาหุ้นอินเทลร่วงลง 4%

   หุ้นกลุ่มสายการบินร่วงลงอย่างหนัก เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่ชะลอตัวลงในอุตสาหกรรมการบิน โดยหุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส ดิ่งลง 11.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส หุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล และหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 2.7%

  หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ปรับตัวขึ้น 1.71% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่หุ้นอีเบย์ และหุ้นควอลคอมม์ พุ่งขึ้น 11% และ 7.4% ตามลำดับ หลังจากทั้งสองบริษัทเปิดเผยผลประกอบที่สูงกว่าคาด

   ตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

    นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟดในวันที่ 27 ก.ค.ตามเวลาสหรัฐ และผลการประชุมบีโอเจในวันที่ 29 ก.ค.นี้

    ผลสำรวจของนักวิเคราะห์บ่งชี้ว่า ที่ประชุมเฟดอาจจะส่งสัญญาณการชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันมีรายงานว่ารัฐบาลญี่ปุ่นกำลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงินอย่างน้อย 20 ล้านล้านเยน เพื่อผลักดันเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด และป้องกันผลกระทบจากการที่อังกฤษแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

   สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน โดยลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 253,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 ก.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.

   ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมิ.ย.พุ่งสู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 9 ปี โดยได้แรงหนุนจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองที่อยู่ในระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013

 

           อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!