ดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นตามตลาดตปท. ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาสูงเกินคาด

Details: Category: หุ้นเด่นวันนี้; Published: Monday, 11 July 2016 10:38; Hits: 1195

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นตามตลาดตปท. ขานรับตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาสูงเกินคาด

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้า ภายหลังจากที่ตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปปรับตัวขึ้นแรง รับผลจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาดีมาก เพิ่มขึ้น 278,000 ตำแหน่ง ถือว่าขึ้นสูงสุดในรอบ 8 เดือน

อย่างไรก็ดี การปรับตัวขึ้นของดัชนีฯคงจะไม่แรงมาก เนื่องจากตลาดบ้านเราได้ปรับตัวขึ้นไปแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ แต่เชื่อว่าตลาดฯคงจะบวกต่อไปได้

พร้อมให้แนวรับ 1,450 จุด ส่วนแนวต้าน 1,465 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 ก.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,146.74 จุด เพิ่มขึ้น 250.86 จุด (+1.40%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,956.76 จุด เพิ่มขึ้น 79.95 จุด (+1.64%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,129.90 จุด เพิ่มขึ้น 32.00 จุด (+1.53%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 268.96 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 387.00 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 87.32 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 35.24 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.30 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 58.98 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 ก.ค.59) 1,455.65 จุด ลดลง 1.07 จุด (-0.07%)

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 655.22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ก.ค.59

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 ก.ค.59) ปิดที่ 45.41 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.60%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 ก.ค.59) ที่ 5.16 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 35.18/20 แนวโน้มแข็งค่า มองกรอบวันนี้ 35.00-35.30

- รมว.คลัง เปิดเผยว่า แนวโน้มเศรษฐกิจปี 2560 ยังขยายตัวไปได้ หากทุกหน่วยงานทำได้เต็มศักยภาพลงแรงเต็มที่จะทำให้เศรษฐกิจเติบโตได้ 4-5% ซึ่งหากสามารถขยายตัวได้ระดับนี้ จะใช้เวลาอีก 20 ปี ประเทศไทยถึงจะหลุดจากประเทศที่มีรายได้ระดับกลาง

- ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) และโฆษกกระทรวงพลังงาน เปิดเผยสถานการณ์การใช้พลังงานในปี 2559 ว่า ทิศทางราคาน้ำมันในประเทศจะทรงตัวตามความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบดูไบ เฉลี่ยอยู่ที่ 45-50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่งผลให้ราคาขายปลีกกลุ่มแก๊สโซฮอล์ และดีเซลจะอยู่ที่ระดับ 25 บาท/ลิตร และปรับขึ้นลงไม่เกิน 1-2 บาท/ลิตร

- พาณิชย์ถกเอกชนประเมินส่งออกรายกลุ่ม ต่างมั่นใจฟื้นตัวดีขึ้นแน่ในครึ่งปีหลัง เผยข้าว น้ำตาล สดใส แต่ยางพารา มันสำปะหลังลด ส่วนกลุ่มอาหารดีขึ้นทุกตัว หลังตลาดมีความต้องการสูง ยืนเป้าหมายทั้งปีโต 5% เช่นเดิม

- คลังล้มแผนรีดภาษีน้ำหวาน ระบุยังไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ห่วงกระทบความเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษี พร้อมหวั่นส่งผลกระทบอุตสาหกรรมน้ำตาลทรุด

- อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯได้ประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการภาคเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร และภาคอุตสาหกรรม เพื่อประเมินแนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปี 59 ซึ่งส่วนใหญ่ประเมินว่า แนวโน้มการส่งออกกำลังฟื้นตัวดีขึ้น โดยกลุ่มสินค้าเกษตรและอาหาร คาดว่าจะมีมูลค่าส่งออก 33,939 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 3% จากปีก่อน จากเดิมคาดขยายตัว 1.9% กลุ่มอุตสาหกรรมหนัก 123,900 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 3.1% จากเดิมคาดขยายตัว 4.9% กลุ่มแฟชั่นมูลค่า 13,859 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดิมคาดขยายตัว 4.8% กลุ่มไลฟ์สไตล์ 2,915 ล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้น 4.9% จากเดิมคาดขยายตัว 3.5%

*หุ้นเด่นวันนี้

- BTW (บมจ.บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์) เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยเสนอขาย IPO ที่ 3.75 บาท/หุ้น โดย BTW ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) มีบริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด

เป็นบริษัทแกนซึ่งประกอบธุรกิจให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กและโครงสร้างเหล็ก (Steel Fabrication) สำหรับงานก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมหนักทั้งในและต่างประเทศเช่น อุตสาหกรรมเหมืองแร่ ก๊าซและปิโตรเลียม และพลังงาน ทั้งนี้บริการของบริษัทแบ่งได้เป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ งานแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ (Modularization) และงานแปรรูปชิ้นงานเหล็ก (Parts Fabrication)

- SMT-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) (SMT)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 167,295,007 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 8.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี 11 เดือน 30 วัน นับจากออกใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งออกวันที่ 30 มิ.ย.2559 และวันครบกำหนดอายุตรงกับวันที่ 28 มิ.ย.2562 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 ก.ย. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 28 มิ.ย. 2562

- TNPC-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. ไทยนามพลาสติกส์ (TNPC) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 53,252,049 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.25 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งออกวันที่ 9 มิถุนายน 2559 ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 พ.ค. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 9 มิ.ย. 2562

- CK (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดผลการดำเนินงานปี 59 จะโดดเด่น เนื่องจากอาจมีการรับรู้งานส่วนเพิ่มเติมในโครงการเขื่อนไซยะบุรีมูลค่ากว่า 1.4 หมื่นล้านบาท อีกทั้งยังมีงานประมูลของทางภาครัฐและเอกชนออกมาเรื่อยๆไม่ว่าจะป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสี ส้ม เหลือง ชมพู และสุวรรณภูมิเฟส 2 นอกจากนี้ CK ได้รับผลประโยชน์จากการเป็นผู้ถือใหญ่ในบริษัทฯ BEM CKP และ TTW ซึ่งอยู่ในอุตสาหกกรมที่แข็งแกร่งและมีแนวโน้มเติบโต

- GLOBAL (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 14.8 บาท ประเมินแนวโน้มกำไรไตรมาส 2/59 โต +27.5% YoY เป็น 336 ล้านบาท (คาด SSSG เริ่มดีขึ้นเป็น 3% + สัดส่วนสินค้า House brand เพิ่มขึ้น) โดยยังคงประเมินแนวโน้มการบริโภคในประเทศโดยเฉพาะในต่างจังหวัดจะฟื้นตัวตามรายได้ภาคเกษตร ที่เริ่มดีขึ้น (ฝนเริ่มตกส่งผลต่อ Sentiment การใช้จ่ายของคนในต่างจังหวัด)

- PACE (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"ช่วงเวลาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จะเริ่มตั้งแต่ปีนี้จากการทยอยรับรู้รายได้ของโครงการมหานครและมหาสมุทร ซึ่งคาดทำให้พลิกจากขาดทุน 1.79 พันล้านบาทปีก่อนเป็นกำไร 456 ล้านบาทปีนี้ และเป็น 1.3 พันล้านบาทปีหน้าหนุนด้วยธุรกิจร้านอาหาร Dean & Deluca เราประเมินมูลค่าพื้นฐาน 4.20 บาท ราคาหุ้นปรับลงรับข่าวเพิ่มทุน 5% เพื่อแลกกับที่ดินที่ญี่ปุ่นไปแล้วและปรับลงมาใกล้ราคาหุ้นเพิ่มทุนที่ 3 บาท

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐสดใส

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังสหรัฐเผยตัวเลขการจ้างงานที่สูงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่ง

ดัชนี MSCI Asia Pacific ทะยาน 0.5% สู่ระดับ 128.88 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,375.94 จุด เพิ่มขึ้น 268.96 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,993.75 จุด เพิ่มขึ้น 5.66 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,951.17 จุด เพิ่มขึ้น 387.00 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,728.23 จุด เพิ่มขึ้น 87.32 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,979.36 จุด เพิ่มขึ้น 16.26 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,882.28 จุด เพิ่มขึ้น 35.24 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,645.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.30 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,830.50 จุด เพิ่มขึ้น 58.98 จุด

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 287,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. จากระดับ 38,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 175,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 56.85 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐสดใส

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่เพิ่มขึ้นสูงเกินคาดในเดือนมิ.ย.

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,590.64 จุด เพิ่มขึ้น 56.85 จุด หรือ +0.87%

ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 287,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. จากระดับ 38,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.9% หลังจากอยู่ที่ 4.7% ในเดือนพ.ค.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. และอัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.8%

หุ้นก่อสร้างปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเทเลอร์ วิมพีย์ และหุ้นบาร์แรตต์ ดีเวลลอปเมนต์ พุ่งขึ้นอย่างน้อย 6.9%

ขณะที่หุ้นแอสโซชิเอเต็ด บริติช ฟูดส์ เพิ่มขึ้น 1.65% หลังบริษัทปรับเพิ่มแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทในปีนี้สู่ระดับทำกำไร

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐแกร่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่สูงเกินคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงตลาดแรงงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 1.62% ปิดที่ 327.35 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,190.68 จุด เพิ่มขึ้น 72.83 จุด หรือ +1.77% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,629.66 จุด เพิ่มขึ้น 210.88 จุด หรือ +2.24% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,590.64 จุด เพิ่มขึ้น 56.85 จุด หรือ +0.87%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ ขานรับรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 287,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. จากระดับ 38,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.9% หลังจากอยู่ที่ 4.7% ในเดือนพ.ค.

ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ ได้เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนมิ.ย.

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงเป็นสัปดาห์ที่ 5 ในรอบ 6 สัปดาห์ โดยในสัปดาห์นี้ตลาดปรับตัวลง 1.5%

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น โดยหุ้นธนาคารอิตาลี ได้แก่ Banco Popolare SC พุ่งขึ้น 18% และหุ้น Banca Popolare dell’Emilia Romagna SC พุ่ง 16% หลังธนาคารทั้งสองแห่งเผยการทดสอบภาวะวิกฤต (Stress Test) เป็นไปในทางที่ดี

หุ้นยานยนต์ปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเฟียต ไครสเลอร์ ออโตโมบิลส์ และหุ้นหุ้นเรโนลท์ ต่างพุ่งขึ้น 5.7%

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : ดอลล์ผันผวน เหตุนลท.ไม่มั่นใจท่าทีเฟดต่อตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวนเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ เมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) แม้ว่าตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนมิ.ย.แข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับข้อมูลดังกล่าว

เงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1043 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1055 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าที่ระดับ 1.2953 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2900 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะ 0.7568 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7477 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 100.54 เยน จากระดับ 100.76 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9834 ฟรังก์ จากระดับ 0.9790 ฟรังก์ ในขณะที่แข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ 1.3047 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3017 ดอลลาร์แคนาดา

อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์เคลื่อนไหวอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะนำข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งนี้มาประกอบการตัดสินใจในการขึ้นดอกเบี้ยหรือไม่ หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนมิ.ย.ของเฟด ระบุว่า คณะกรรมการเฟดเห็นพ้องให้ชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจนกว่ามีข้อมูลบ่งชี้ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของ Brexit โดยเฟดประชุมกำหนดนโยบายการเงินในวันที่ 14-15 มิ.ย. ก่อนที่อังกฤษจะลงประชามติในวันที่ 23 มิ.ย.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 250.86 จุด ขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐแกร่ง

ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งเมื่อคืนนี้ (8 ก.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่สูงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,146.74 จุด เพิ่มขึ้น 250.86 จุด หรือ +1.40% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,956.76 จุด เพิ่มขึ้น 79.95 จุด หรือ +1.64% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,129.90 จุด เพิ่มขึ้น 32.00 จุด หรือ +1.53%

ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ โดยดัชนี S&P500 จ่อเข้าใกล้สถิติสูงสุด เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 287,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. จากระดับ 38,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.9% หลังจากอยู่ที่ 4.7% ในเดือนพ.ค.

ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 265,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 22,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐยังได้ทบทวนปรับลดตัวเลขการจ้างงานในเดือนพ.ค. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้นเพียง 11,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 38,000 ตำแหน่ง และทบทวนปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนเม.ย. โดยปรับเป็นเพิ่มขึ้น 144,000 ตำแหน่ง จากที่มีการรายงานก่อนหน้านี้ว่าเพิ่มขึ้น 123,000 ตำแหน่ง

ส่วนตัวเลขอัตราการเข้าสู่ตลาดแรงงานของสหรัฐอยู่ที่ระดับ 62.7% ในเดือนมิ.ย.

หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค หุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นพรูเดนเชียล ไฟแนนเชียลพุ่งขึ้นกว่า 2%

หุ้นเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นไมโครซอฟท์และหุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวขึ้นกว่า 1% ขณะที่หุ้นอินเทลพุ่งขึ้น 2.41%

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ก.ค. 2559

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,146.74 จุด เพิ่มขึ้น 250.86 จุด, +1.40%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,956.76 จุด เพิ่มขึ้น 79.95 จุด, +1.64%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,129.90 จุด เพิ่มขึ้น 32.00 จุด, +1.53%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,190.68 จุด เพิ่มขึ้น 72.83 จุด, +1.77%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,629.66 จุด เพิ่มขึ้น 210.88 จุด, +2.24%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,590.64 จุด เพิ่มขึ้น 56.85 จุด, +0.87%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,126.90 จุด ลดลง 74.59 จุด, -0.27%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,847.04 จุด ลดลง 15.13 จุด, -0.53%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,644.54 จุด ลดลง 6.17 จุด, -0.37%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,564.17 จุด ลดลง 142.75 จุด, -0.69%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,771.52 จุด เพิ่มขึ้น 18.06 จุด, +0.23%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,988.09 จุด ลดลง 28.75 จุด, -0.95%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,230.50 จุด เพิ่มขึ้น 2.60 จุด, +0.05%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,315.60 จุด เพิ่มขึ้น 4.60 จุด, +0.09%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,963.10 จุด ลดลง 10.98 จุด, -0.56%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,106.98 จุด ลดลง 169.26 จุด, -1.11%

* ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดทำการวันศุกร์ที่ 8 ก.ค. เนื่องในเทศกาลฮารีรายออีฏิ้ลฟิตริ

* ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันศุกร์ที่ 8 ก.ค. เนื่องจากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นเนพาร์ตัก

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่สูงเกินคาด ซึ่งบ่งชี้ถึงเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่สูงเกินคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงตลาดแรงงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 1.62% ปิดที่ 327.35 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐที่เพิ่มขึ้นสูงเกินคาดในเดือนมิ.ย.

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,590.64 จุด เพิ่มขึ้น 56.85 จุด หรือ +0.87%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ค.) หลังจากข้อมูลตัวเลขจ้างงานสหรัฐออกมาแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.60% ปิดที่ 45.41 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.78% ปิดที่ 46.76 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (8 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนมิ.ย.สูงเกินคาด

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. ลดลง 3.70 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,358.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 26.10 เซนต์ หรือ 1.32% ปิดที่ 20.099 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.47% ปิดที่ 1,100.20 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 7.75 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่ 617.10 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวนเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ เมื่อวันศุกร์ (8 ก.ค.) แม้ว่าตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนมิ.ย.แข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับข้อมูลดังกล่าว