- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 17 June 2016 18:37
- Hits: 3490
โบรกฯประเมิน SET สัปดาห์หน้าผันผวนแรง ใกล้ดีเดย์ Brexit แนะถือเงินสด
โบรกฯประเมิน SET สัปดาห์หน้าผันผวนรุนแรง เนื่องจากเข้าใกล้วันลงประชามติ Brexit แนะจับตาจำนวนหัวขุดเจาะน้ำมันสหรัฐคืนนี้ หากเพิ่มขึ้นกดน้ำมันดิบร่วงยาว แนะนำถือเงินสดรอดูความชัดเจนหรือซื้อขายระยะสั้น ให้แนวรับ 1,380 จุด แนวต้าน 1,430 จุด แนะเก็บหุ้นค้าปลีก, ท่องเที่ยว เมื่อราคาอ่อนตัว
นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีSET เคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน รับแรงหนุนจากการรีบาวน์ของหุ้นขนาดใหญ่ ประกอบกับนางโจ ค็อกซ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนให้อังกฤษยังคงอยู่ในยุโรปถูกสังหาร ทำให้การรณรงค์ประชามติการออกจากสหภาพยุโรปของประเทศอังกฤษ (Brexit) ต้องหยุดชะงักลงชั่วคราว อย่างไรก็ตาม ปัจจัย Brexit ยังคงกดดันต่อเนื่อง
สำหรับ สัปดาห์หน้าประเมินดัชนีฯจะมีความผันผวนรุนแรง จนถึงวันลงคะแนนเสียงประชามติ Brexit ในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ แนวโน้มราคาน้ำมันอาจปรับตัวลดลงแตะระดับ 45 ดอลลาร์/บาร์เรลและ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล ในสัปดาห์หน้า อาจก่อให้เกิดแรงเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมากดดันตลาดอีกครั้ง
ด้านกลยุทธ์ยังแนะนำให้ถือเงินสดเพื่อหลีกเลี่ยงตลาดหุ้นที่จะผันผวนรุนแรงในสัปดาห์หน้า หรือเน้นซื้อขายระยะสั้นด้วยการเลือกหุ้นขนาดใหญ่ที่ถูกเทขายออกมาจนราคาอยู่ในระดับต่ำ ประกอบกับระมัดระวังแรงเทขายที่คาดว่ายังมีอีกมาก ให้กรอบการลงทุนสัปดาห์หน้า แนวรับ 1,380 จุด แนวต้าน 1,430 จุด แนะนำหุ้นกลุ่มค้าปลีกและ หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว แต่ให้รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยดีดฟื้นตัวขึ้นมา หลังจากวันก่อนปรับตัวลงแรง เนื่องจากนัลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับผลการลงประชามติของอังกฤษ (Brexit) ว่าจะคงความเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ต่อไปหรือไม่ หลังนายกรัฐมนตรีอังกฤษสั่งระงับการรณรงค์หาเสียงต่อการลงประชามติดังกล่าว เพราะมีสมาชิกรัฐสภาหญิงของอังกฤษคนหนึ่งถูกยิงเสียชีวิต จึงทำให้ผลสำรวจล่วงหน้า คะแนนว่าโหวตออกที่นำอยู่ลดลง
ทั้งนี้ หากผลโหวตในวันที่ 23 มิ.ย. นี้ อังกฤษออกจากอียูจริง จะทำให้ค่าเงินปอนด์อ่อนค่า สิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่อังกฤษได้รับจากการทำการค้ากับอียูอาจจะหายไป และการลงทุน การจับจ่ายใช้สอยของประชาชนชาวอังกฤษจะชะลอตัวลง เพราะยังไม่ชัดเจนว่าสิ่งที่จะเปลี่ยนไปมีอะไรบ้าง แม้ว่าอังกฤษจะมีเวลา 2 ปี ในการเจรจาต่อรองกับอียูก็ตาม
ขณะที่ผลกระทบต่อไทยถือว่าจำกัดมาก เนื่องจากไทยส่งออกไปอังกฤษเพียง 2% นักท่องเที่ยวอังกฤษที่มาเที่ยวในไทย 5-6% แต่ผลกระทบจะมากขึ้น กรณีส่งผลผ่านมายังอียู ที่มีการค้ากับไทยราว 10% และนักท่องเที่ยวสัดส่วน 16%
ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง 5 วันทำการติดต่อกัน จนหลุด 50 เหรียญ/บาร์เรล มองว่า มีโอกาสรีบาวน์ทางเทคนิค แต่เชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลัง ราคาน้ำมันยากที่จะกลับขึ้นไปที่ระดับ 50 เหรียญ/บาร์เรลอีกครั้ง ซึ่งคืนนี้ต้องติดตามตัวเลขรายงายแท่นขุดเจาะน้ำมัน หากมีจำนวนเพิ่มขึ้น ก็จะเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน
สำหรับสัปดาห์หน้า คาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวต่อ หากวันนี้ปิดเหนือ 1,420 จุดได้ แต่ไปได้ไม่ไกล เพราะยังเผชิญแรงกดดันจากผลลงประชามติของอังกฤษในช่วงปลายสัปดาห์หน้า ส่วนปัจจัยในประเทศ ยังไม่มีอะไรโดเด่นมากนัก มีเพียงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม หลังผู้ว่าแบงก์ชาติออกมาบอกว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังการประชุมล่าสุด เฟดคงอัตราดอกเบี้ย แต่ยังคงมุมมองว่าจะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปีนี้ แต่คาดว่า การประชุมรอบถัดไปในเดือน ก.ค. ยังไม่น่าจะปรับขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
ด้านกลยุทธ์ แนะ Wait&See เพื่อรอดูข้อสรุปผล Brexit พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,410 จุด แนวต้าน 1,435 จุด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย