WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET18 copyโบรกฯ คาดสัปดาห์หน้า SET แกว่งผันผวน อิงปัจจัยต่างประเทศ ติดตามผลประชุมเฟด-บีโอเจ

     โบรกฯ คาดสัปดาห์หน้าหุ้นไทยแกว่งผันผวนอิงทางลง รอดูความชัดเจนผลประชุมเฟด-บีโอเจ แต่เชื่อ downside จำกัด หลังเริ่มเห็นนลท. ต่างชาติซื้อสุทธิ แนะเก็งกำไร KBANK-BBL-CK-STEC-BEM-ERW พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,420-1,415 จุด แนวต้าน 1,450 จุด

     นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลการลงทุนยุทธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเอเชียและยุโรป เพื่อรอดูความชัดเจนในสัปดาห์หน้า ต่อการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และธนาคารกลางญี่ปุ่น คาดว่าจะยังคงนโยบายทางการเงินเหมือนเดิม อีกทั้งได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันโลกที่เริ่มอ่อนตัวลงอีกครั้ง

    ทั้งนี้ การประชุมเฟดช่วงกลางสัปดาห์หน้า เสียงคาดการณ์ส่วนใหญ่ในตลาดฯ คาดว่าเฟดจะคงดอกเบี้ย โดยมองโอกาสที่เฟดจะปรับขึ้นไปในรอบการประชุมเดือน ก.ค. (บล.โนมูระ มองเดือย ก.ย.) ส่วนการประชุมบีโอเจ คาดว่าจะคงนโยบายการเงินดังเดิม โดยมองว่ามีโอกาสที่จะออกนโยบายเพิ่มเติมในเกือน ก.ค. ส่วนการให้สัมภาษณ์ล่าสุดของนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) พูดเป็นนัยว่า ยังไม่มั่นใจภาพการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งอาจจะทำให้อีซีบีมีโอกาสผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม แต่เชื่อว่าอีซีบีรอดูผลประชุมเฟดและบีโอเจก่อนเช่นกัน

    สัปดาห์หน้า คาดหุ้นไทยแกว่งผันวนอิงทางลง เนื่องจากได้รับผลกระทบความผันผวนจากต่างประเทศ แต่เชื่อว่า downside จำกัด หลัง 12 วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นส่วนใหญ่ รวมถึง long ใน Futures ด้วย ตลอดจนแรงเก็งกำไรหุ้นรายตัวต่อประเด็นหุ้นที่จะถูกปรับเข้า-ออกในการคำนวณ SET50 และ SET100 และการให้สัมภาษณ์ของรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ ที่ระบุว่า ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ชมพู และเหลืองจะชัดเจนภายในเดือนนี้

   สำหรับ กลยุทธ์ แนะเก็งกำไร (ซื้อเมื่ออ่นตัว) หุ้น KBANK-BBL-CK-STEC-BEM-ERW พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,420-1,415 จุด แนวต้าน 1,450 จุด

     ด้านนายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสแผนกวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)วันนี้(10มิ.ย.) เปิดตลาดในแดนลบ ก่อนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1,438.66 จุดและกลับมาแกว่งตัวในกรอบแคบตลอดวัน โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากที่ปรับตัวลดลงในช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา

     ในขณะที่ได้รับแรงฉุดจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ถูกขายทำกำไรออกมา เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงกว่า 1.31% สู่ระดับ 50.56 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อคืนที่ผ่านมา ประกอบกับการขายหุ้นทำกำไรในช่วงก่อนวันหยุด ทำให้ดัชนีฯปรับตัวลดลงแรงก่อนปิดตลาด

     สำหรับ ดัชนีฯในสัปดาห์หน้าประเมินว่าดัชนีฯจะมีลักษณะการเคลื่อนไหวผันผวนคล้ายสัปดาห์นี้ โดยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ และอาจถูกเทขายในช่วงท้ายของสัปดาห์

     โดยปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้าแนะนำจับตาราคาน้ำมันดิบ และปัจจัยการลงประชามติของสหราชอาณาจักรในการออกจากสหภาพยุโรป(Brexit) ในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ ซึ่งคาดว่าหากผลประชามติออกมาว่าสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรปจะไม่ส่งผลกระทบในแง่ลบต่อตลาดหุ้นไทยมากนัก แต่คาดว่าจะส่งผลให้เฟดอาจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยออกไปอีก ซึ่งจะทำให้กระแสเงินทุนจากต่างประเทศกลับเข้ามาในประเทศเกิดใหม่อีกครั้ง

    กลยุทธ์ยังแนะนำให้ซื้อขายหุ้นเป็นรอบ เนื่องจากดัชนีฯมีความผันผวน โดยเลือกซื้อหุ้นที่จับตาไว้เมื่อราคาลงมาต่ำ และขายเมื่อดัชนีฯปรับตัวขึ้นสูง ให้กรอบการลงทุนสัปดาห์หน้าแนวรับ 1,430 จุด แนวต้าน 1,450

   แนะนำหุ้น BANPU-CPALL-TASCO

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!