WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET52ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นต่อจาก Flow ที่ยังไหลเข้า-จับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนนี้

      นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ต่อหลังแนวโน้มเงินทุนต่างชาติยังไหลเข้าต่อ อย่างไรก็ตามยังต้องติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนพ.ค. ของสหรัฐ ที่จะออกมาในคืนนี้ ซึ่งจะปัจจัยที่จะส่งสัญญาณต่อธนาคารกลางสหัรฐ (FED) ในการพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ย

     สำหรับ การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังไม่ได้มีการส่งสัญญาณไดๆออกมาเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต แต่ปริมาณสต๊อกน้ำมันของสหรัฐปรับลดลงทำให้เชื่อว่าราคาน้ำมันจะยังทรงตัวอยู่ในระดับราคาที่สูงต่อไป

ในส่วนของตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนบวกราว 0.3-0.4%

พร้อมให้แนวรับ 1,418-1,420 จุด ส่วนแนวต้าน 1,430-1,435 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (2 มิ.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,838.56 จุด เพิ่มขึ้น 48.89 จุด (+0.27%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,971.36 จุด เพิ่มขึ้น 19.11 จุด (+0.39%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,105.26 จุด เพิ่มขึ้น 5.93 จุด (+0.28%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 36.96 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 96.86 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 9.16 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.47 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 13.42 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.22 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 47.12 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 มิ.ย.59) 1,424.06 จุด เพิ่มขึ้น 8.30 จุด (+0.59%)

   - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,032.60 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.59

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (2 มิ.ย.59) ปิดที่ 49.17 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.3%

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 มิ.ย.59) ที่ 5.13 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 35.57 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ รอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯที่จะประกาศคืนนี้

     - ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย บริษัท ปตท. เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการศึกษาเพื่อนำธุรกิจค้าปลีกน้ำมันของ ปตท.เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยได้ว่าจ้างบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เจพี มอร์แกน และ บล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ หลังจากนั้นจะนำเสนอต่อคณะกรรมการ ปตท.เพื่อพิจารณาอนุมัติต่อไป และจะเข้าจดทะเบียนในปี 2560

      - นายซึโตะมุ ชิมุระ รองอธิบดีกรมการรถไฟ กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน การขนส่งและการท่องเที่ยวญี่ปุ่น เข้าหารือกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ถึงความคืบหน้าการพัฒนารถไฟระหว่างไทยและญี่ปุ่นในโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง เส้นทางกรุงเทพฯ-พิษณุโลก-เชียงใหม่ ซึ่งใช้เทคโนโลยีชินคันเซน (Shinkansen) โดยญี่ปุ่นได้เสนอรายงานผลการศึกษาขั้นกลางในส่วนมูลค่าลงทุน ปรากฏว่ามูลค่าโครงการรถไฟเส้นนี้สูงถึง 5.3 แสนล้านบาท สูงกว่าที่ไทยประเมินไว้ที่ 4.4 แสนล้านบาท หรือต่างกัน 9 หมื่นล้านบาท

     - นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมออกผลิตภัณฑ์เน้นช่วยผู้ประกอบการเอสเอ็มอีผู้ส่งออกที่มียอดส่งออกไม่เกิน 1 ล้านบาท เช่น กลุ่มที่ทำการค้าชายแดนกับกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน (ซีแอลเอ็มวี) ที่ยังมียอดการส่งออกขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

    - ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลร่อนหนังสือถึงบอร์ด กสท.หลังกลับลำไม่ให้ร่วมทีวีพูลถ่ายทอดสดโอลิมปิก เหตุ ทรท.ทำเรื่องแย้งอ้างอาจผิดสัญญาลิขสิทธิ์ 'สุภิญญา' เล็งชงบอร์ดทบทวนมติอีกครั้ง

    - บอร์ด กบง.ตรึงราคาขายปลีกแอลพีจีเดือนมิถุนายนไว้ที่ 20.29 บาทต่อกก. ดึงเงินกองทุน น้ำมันฯ ชดเชยต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากเงินบาทอ่อนค่า หายห่วงฐานะกองทุนเป็นบวกกว่า 4.4 หมื่นล้าน ด้านธพ.เผยกำลังผลิตพุ่ง ขณะที่ยอดการใช้ลดลง ลุ้นเดือนกรกฎาคมไม่ต้องนำเข้า

*หุ้นเด่นวันนี้

      - TVT-W1 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.ทีวี ธันเดอร์ (TVT)) เทรดวันนี้วันแรก จำนวน 199,999,976 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 17 พฤษภาคม 2559)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 มิ.ย. 2560 วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 16 พ.ค. 2561

    - CIG-W6 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.ซี.ไอ.กรุ๊ป (CIG)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 216,191,596 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิวันที่ 19 พฤษภาคม 2559 - 31 พฤษภาคม 2561 (2 ปี 13 วัน) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 มิ.ย. 2559 วันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 31 พ.ค. 2561

      - ANAN (เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า 4.7 บาท ยังคงประเมินอัตราการเติบโตของกำไรปีนี้เด่นสุดในกลุ่มฯ (คาด ANAN กำไรปีนี้โต 28% YoY ขณะที่คาดกลุ่มฯโตเพียง 1%) และ PE เท่ากับค่าเฉลี่ยกลุ่มฯที่ 8 เท่า โดยวันนี้หนังสือพิมพ์ระบุว่า คุณอนันต์ อัศวโภคิน ผู้บริหาร LH ประเมินอสังหาฯผ่านจุดต่ำสุด เป็นบวกต่อ Sentiment กลุ่มฯ

    - SPA (เคจีไอ) เป้า Consensus 11 บาท คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2/59 ทรงตัว QoQ แม้เป็น Low season และโต YoY  และการเปิดร้านสปาระดับ 3 ดาว (เน้นลูกค้าคนไทย) ช่วยลดปัจจัยฤดูกาล (ปัจจุบันรายได้ราว 5-10%) รวมถึงเตรียมขายแฟรนไชส์ ร้านสปา ให้กับพาร์ทเนอร์จีน (SPA ได้ส่วนแบ่งรายได้ 5%)

   - KTC (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 123 บาท ต้องการก้าวขึ้นเป็นผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตด้วยการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดของยอดใช้จ่ายผ่านบัตรและลูกหนี้บัตรเครดิตเป็น 51% ภายใน 2-3 ปี ส่วนปีนี้ผู้บริหารตั้งเป้าเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรอีก 15% แม้จะมีศักยภาพเติบโตสูงสุดถึง 20% จากการทำแคมเปญทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง ใช้กลยุทธ์แบ่งส่วนตลาด (segmentation) และการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย จึงมองว่าปัจจัยผลักดันราคาหุ้นจะมาจากการที่ตลาดปรับเพิ่มประมาณการ ปัจจุบัน KTC ซื้อขายอยู่ที่ P/E 9.8x และ P/BV 2.3x ในปี FY16 มองว่าน่าสนใจเมื่อประเมินอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 4.1% และ ROE ที่ 25.5%

     - AIT (เออีซี) "ซื้อ"เป้า Consensus 34.7 บาท ผู้บริหารยังคงเป้ารายได้ปีนี้โต 11%YoY หนุนด้วย Backlog ที่มีราว 2.7 พัน ลบ. (คาดรับรู้ช่วงที่เหลือปีนี้ 2 พันลบ.) อีกทั้งยังมีงานจะเข้าประมูลอีก 1.8 หมื่น ลบ. บวกกับ มีแผนรุกตลาดกัมพูชาและลาว ทำให้คาดปี 59-60 กำไรโตเฉลี่ยปีละ 9.1% และมี Upside 22% และคาดให้ Div. Yield 7%

ตลาดหุ้นเอเชียขยับขึ้นเช้านี้ ขณะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจจีน-สหรัฐ

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูจีนเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ค.จากไฉซิน

    ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 128.27 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,599.51 จุด เพิ่มขึ้น 36.96 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,929.79 จุด เพิ่มขึ้น 4.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,956.08 จุด เพิ่มขึ้น 96.86 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,565.18 จุด เพิ่มขึ้น 9.16 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,991.58 จุด เพิ่มขึ้น 6.47 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,808.51 จุด เพิ่มขึ้น 13.42 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,633.75 จุด เพิ่มขึ้น 3.22 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,511.71 จุด เพิ่มขึ้น 47.12 จุด

      นอกจากนี้ ตลาดยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนพ.ค., ยอดนำเข้า ยอดส่งออก และดุลการค้าเดือนเม.ย., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ค.โดยมาร์กิต, ดัชนีภาคบริการเดือนพ.ค. โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) และยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนเม.ย.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : แรงขายหุ้นพลังงาน ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 6.32 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) โดยตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการควบคุมราคาและปริมาณน้ำมันในตลาด

   ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 6.32 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 6,185.61 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงหลังจากการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งเสร็จสิ้นลงเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยนั้น ที่ประชุมไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการควบคุมราคาและปริมาณน้ำมันในตลาด

    หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นบีพีลดลง 0.1% ในขณะที่หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ลดลง 0.3%

    หุ้นจอห์นสัน แมทเธย์ ผู้ผลิตสารเคมีและบริษัทด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่พุ่งขึ้น 5.9% หลังคาดว่าผลประกอบในปี 2559/2560 ของบริษัทจะสูงกว่าในปี 2558/2559

    หุ้นวอลเซลีย์ ผู้ผลิตอุปกรณ์ด้านการประปา ร่วงลง 1.1% เนื่องจากผลประกอบการของบริษัทมีแนวโน้มปรับตัวลดลง

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับ ECB เพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจยูโรโซน

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) ขานรับธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซน และอัตราเงินเฟ้อในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการควบคุมราคาและปริมาณน้ำมันในตลาด

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 344.35 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,466.00 จุด ลดลง 9.39 จุด หรือ -0.21% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,208.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.56 จุด หรือ +0.03% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,185.61 จุด ลดลง 6.32 จุด หรือ -0.10%

     ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนหลังจาก ECB ประกาศปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในยูโรโซน และอัตราเงินเฟ้อในปีนี้

     นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB  กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า ECB คาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะมีการขยายตัว 1.6% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.4% ที่คาดการณ์ในเดือนมี.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 0.2% ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจากระดับ 0.1% ที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้

    นอกจากนี้ ECB คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ และฟื้นตัวขึ้นต่อไปในปี 2017 และ 2018

    นายดรากีคาดการณ์ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะอยู่ในระดับปานกลาง และมีความต่อเนื่อง

    อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากที่ประชุมโอเปกไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการควบคุมราคาและปริมาณน้ำมันในตลาด โดยหุ้นโททาล เอสเอ และหุ้นเทคนิป เอสเอ ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 1.6%

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : ดอลล์แข็งเทียบยูโร รับข้อมูลแรงงานสหรัฐแข็งแกร่ง

     สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) หลังจาหสหรัฐเปิดเผยข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่ง รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานที่ลดลงสูงเกินคาด

   เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1152 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1182 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.4430 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4406 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7226 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7254 ดอลลาร์สหรัฐ

   ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 108.84 เยน จากระดับ 109.51 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9902 ฟรังก์ จากระดับ 0.9883 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3112 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3072 ดอลลาร์แคนาดา

   ดอลลาร์สหรัฐได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 1,000 ราย สู่ระดับ 267,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 28 พ.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 270,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

    ขณะที่ ADP เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐประจำเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่ง โดยภาคบริการมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ค. ส่วนภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลง 2,000 ตำแหน่ง

     นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากนายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัสกล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า เนื่องจากเศรษฐกิจกำลังมีการปรับตัวเข้าใกล้ภาวะการจ้างงานเต็มที่

    ทั้งนี้ นายแคปแลนสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมิ.ย.หรือก.ค.นี้ หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งตามที่เขาคาดไว้

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!