WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวนติดตามสถานการณ์ยูเครน-สัญญาณขายนักลงทุนสถาบัน

     นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.เอเชียพลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีมีแนวโน้มผันผวน โดยตลาดหุ้นช่วงนี้อยู่ระหว่างการรอรับปัจจัยใหม่ๆ เช้ามา ซึ่งปัจจัยในต่างประเทศจับตาสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศยูเครน หลังจากมีเหตุการณ์ยิงเครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ตก

    ส่วนปัจจัยในประเทศ ต้องติดตามสัญญาณขายของนักลงทุนสถาบัน หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาขายออกไปราว 4,000 ล้านบาท

    ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียช่วงเปิดตลาดภาคเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อย

     พร้อมให้แนวต้านวันนี้ที่ 1,550 จุด แนวรับ 1,520 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(18 ก.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,100.18 จุด เพิ่มขึ้น 123.37 จุด(+0.73%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่  1,978.22 จุด เพิ่มขึ้น 20.10 จุด หรือ (+1.03%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,432.15 จุด เพิ่มขึ้น 68.70 จุด (+1.57%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 29.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 1.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 52.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.60 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.37 จุด

    ทั้งนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันแห่งทะเล

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(18 ก.ค.) 1,533.41 จุด ลดลง 2.25 จุด(-0.15%)

    - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 761.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ก.ค.57

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(18 ก.ค.)ที่ 103.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 6 เซนต์

   - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(18 ก.ค.)ที่ 4.45 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

   - เงินบาทเปิด 32.12/14 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาค สัปดาห์นี้มีลุ้นแตะ 32.00

   - ราคาที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาขยับตัวแรง หลังทุนอสังหาฯ-ค้าปลีก แห่ขึ้นโครงการขนาดใหญ่ คอนโดมิเนียมทยอยเปิดตัวย่านเจริญกรุง-เจริญนคร ระบุปริมาณคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยาครึ่งปีแรก สูงถึง 16,450 ยูนิต หลังบูมสุดขีดจากย่านการค้าและแหล่งชอปปิง ส่งผลราคาที่ดินริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณฝั่งธนฯ พุ่ง 300 % ในรอบ 3 ปี

    - โบรกเกอร์หลายแห่งปรับเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้น หลังสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ-การลงทุนรัฐ คาดเงินลงทุนต่างชาติยังไหลเข้าต่อเนื่อง เหตุพอใจเสถียรภาพการเมือง ขณะเตือนยังมีปัจจัยเสี่ยงทั้งใน-ต่างประเทศ

   - "ประยุทธ์" เตรียมประกาศนโยบายปฏิรูปพลังงาน จับตาแนวทาง"กลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน"หลังปรับเปลี่ยนผู้บริหารครั้งใหญ่ ด้าน ปตท.พร้อมลดหุ้นโรงกลั่น-แยกท่อก๊าซ ขณะ "สุรงค์" ชงระดับนโยบายชี้ขาดระบุต้องชัด คาดแยกท่อก๊าซเสร็จต้นปีหน้า

    - อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมสรรพากรจะเข้มงวดกับการเสียภาษีนิติบุคคลของผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก 2557 ที่ต้องยื่นแบบและชำระภาษีในเดือนส.ค.นี้ โดยนิติบุคคลที่จะยื่นแบบควรประเมินกำไรทั้งปีให้รอบคอบ แม้ว่าครึ่งปีแรกเศรษฐกิจไม่ดี แต่ครึ่งปีหลังแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้นหลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาบริหารประเทศ ทำให้ความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจกลับมาและมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่องจากเดิมที่คาดว่าทั้งปีจะขยายตัวได้ 1.5% ต่อปี แต่ตอนนี้มีการประเมินกันว่าครึ่งปีหลังของปีจะขยายตัวได้ถึง 3.5% จะทำให้เศรษฐกิจทั้งปีขยายตัวมากขึ้น

   - นางอังคณา ปิลันธน์โอวาท ไชยมนัสกรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. เตรียมวงเงิน 5,000 ล้านบาท ออกโครงการสินเชื่อ ธอส. มีบ้านมีสุข ดอกเบี้ยคงที่ 3.50% ต่อปี นาน 2 ปีแรก

*หุ้นเด่นวันนี้

     - SPCG(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 27.60 บาท คาดการณ์กำไรสุทธิ 2Q57 เติบโตทั้ง yoy และ qoq พร้อมทำระดับสูงสุดใหม่ เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่รับรู้รายได้จากโครงการโซลาร์ฟาร์มครบทั้ง 36 แห่ง และทิศทางกำไร 3Q57 จะทำระดับสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากการรับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มทั้ง 36 แห่งแบบเต็มไตรมาส ผู้บริหารของ SPCG จะเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อสรุปการลงทุน Solar Farm ในญี่ปุ่น ขนาด 50-100 MW ซึ่งเป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการ จะมีการประชุมบอร์ดบริษัทในสัปดาห์นี้ และคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลครั้งแรกราว 0.20 บาท / หุ้น

   - AOT(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 260 บาท แม้จำนวนนักท่องเที่ยวผ่านสนาบบินทั้ง 6 แห่งจะหดตัวลง 11% ในเดือน มิ.ย. แต่ยังเติบโต 2.6% y-y ในช่วง 9M14 คาดการณ์จำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในช่วง High Season หรือตั้งแต่ ต.ค.นี้เป็นต้นไป หลังสถานการณ์การเมืองมีเสถียรภาพมากขึ้น และเริ่มออกนโยบายส่งเสริมอุตสาหกรรมท่องเที่ยว อย่างเช่นการยกเว้นค่าธรรมเนียมการทำ Visa ของนักท่องเที่ยวจีน และไต้หวันเป็นเวลา 3 เดือน การเปิด Terminal 2 ของสนามบินดอนเมืองในเดือน ต.ค.นี้ จะเป็นการเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร และพื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์ระยะยาว โดยถ้าพิจารณาในช่วงเดือน มิ.ย.แม้จำนวนผู้โดยสารผ่านสนามบินสุวรรณภูมิจะลดลง 24.5% y-y แต่จำนวนผู้โดยสารผ่านสนามบินดอนเมืองเพิ่มขึ้นถึง 18% y-y

    - TCAP(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า43 บาท 2Q57 ถูกกกดันจากการตั้งสำรองฯ ใน 2H57 ฟื้นตัวอย่างช้าๆ แต่จะเร่งตัวขึ้นในปี 58 โดยสินเชื่อ Corporate และ SME มีแนวโน้มดีขึ้นใน 2H57 ส่วนสินเชื่อรายย่อยยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ยังอยู่ในภาวะ Over supply ค่อนข้างมาก

ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นเช้านี้ ตามทิศทางตลาดทั่วโลก

    ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซียตกในยูเครน และเหตุการณ์สู้รบในฉนวนกาซา

   ดัชนี MSCI Asia Pacific ไม่รวมญี่ปุ่น ขยับขึ้น 0.1% เมื่อเวลา 9.01 น.ตามเวลาฮ่องกง

    ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,484.53 จุด เพิ่มขึ้น 29.74 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,057.77 จุด ลดลง 1.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,453.78 จุด เพิ่มขึ้น 52.81 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,028.02 จุด เพิ่มขึ้น 8.60 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,874.34 จุด เพิ่มขึ้น 1.37 จุด

  ทั้งนี้ ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันแห่งทะเล

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 123.37 จุด ตลาดคลายวิตกสถานการณ์ตปท.

   ดัชนี ดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในต่างประเทศ รวมถึงเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ตกในยูเครน และเหตุการณ์สู้รบในฉนวนกาซา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกูเกิล

  ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,100.18 จุด พุ่งขึ้น 123.37 จุด หรือ +0.73% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,432.15 จุด เพิ่มขึ้น 68.70 จุด หรือ +1.57%  ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,978.22 จุด เพิ่มขึ้น 20.10 จุด หรือ +1.03%

  ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.9% ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 0.5% และดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้น 0.4% อันเนื่องมาจากผลประกอบการของบริษัทเอกชนและข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากข่าวที่ว่าเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ได้ถูกยิงตกในยูเครน ใกล้กับชาวแดนของรัสเซีย ส่งผลให้ผู้โดยสารเกือบ 300 คนเสียชีวิตทั้งหมด นอกจากนี้ ตลาดยังผ่อนคลายจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงในฉนวนกาซา

    ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากหุ้นกูเกิล อิงค์ ที่พุ่งขึ้น 4.2% หลังจากนายแลร์รี เพจ ซีอีโอของกูเกิลได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่บนบริการโทรศัพท์มือถือ วีดิโอ และเว็บ เพื่อดึงดูดผู้ใช้งานในด้านการตลาด และเพื่อเสริมฐานธุรกิจของกูเกิลให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย นอกจากนี้ หุ้นกูเกิลยังได้รับแรงบวกจากรายงานที่ว่า จำนวนคลิกเพื่อดูโฆษณาบนยูทูบและกูเกิลเสิร์จ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 33% ในไตรมาส 2 ปีนี้

   หุ้นกลุ่มสายการบินดีดตัวขึ้นหลังจากที่ถูกกระหน่ำขายเมื่อวันพฤหัสบดี อันเนื่องมาจากข่าวเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ตก โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ หุ้นสปิริท แอร์ไลน์ และหุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนตัล ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2%

   หุ้นไชร์ ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ ปรับตัวขึ้น 2.60% หลังจากบริษัท AbbVie ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์อีกรายหนึ่งนั้น ประกาศบรรลุข้อตกลงซื้อกิจการของไชร์ มูลค่า 5.4 หมื่นล้านดอลลาร์

   ตลาดหุ้นนิวยอร์กแทบจะไม่ได้รับแรงกดดันจากรายงานของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในช่วงต้นเดือนก.ค.นั้น ลดลงสู่ระดับ 81.3 จากช่วงท้ายเดือนมิ.ย.ที่ 82.5 ขณะที่ผู้บริโภคในสหรัฐวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจในอนาคตมากขึ้น รายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ออกมาล่าสุดนี้อยู่สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 83.0

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ก.ค. 2557

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์ก                ปิดที่ 17,100.18 จุด เพิ่มขึ้น 123.37 จุด, +0.73%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก          ปิดที่ 4,432.15 จุด            เพิ่มขึ้น 68.70 จุด, +1.57%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์ก                        ปิดที่ 1,978.22 จุด            เพิ่มขึ้น 20.10 จุด, +1.03%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส             ปิดที่ 4,335.31 จุด เพิ่มขึ้น 19.19 จุด, +0.44%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน                 ปิดที่ 9,720.02 จุด ลดลง 33.86 จุด, -0.35%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน        ปิดที่ 6,749.45 จุด เพิ่มขึ้น 11.13 จุด, +0.17%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดีย             ปิดที่ 25,641.56 จุด เพิ่มขึ้น 80.40 จุด, +0.31%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์          ปิดที่ 3,310.53 จุด เพิ่มขึ้น 3.64 จุด, +0.11%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย      ปิดที่ 5,087.01 จุด เพิ่มขึ้น 15.81 จุด +0.31%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย          ปิดที่ 1,872.97 จุด ลดลง 10.17 จุด, -0.54%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง                   ปิดที่ 23,454.79 จุด ลดลง 66.08 จุด, -0.28%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดที่ 6,853.07 จุด ลดลง 14.29 จุด, -0.21%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน        ปิดที่ 2,059.07 จุด เพิ่มขึ้น 3.48 จุด, +0.17%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย            ปิดที่ 5,531.60 จุด เพิ่มขึ้น 9.20 จุด, +0.17%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้             ปิดที่ 2,019.42 จุด ลดลง 1.48 จุด, -0.07%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น          ปิดที่ 15,215.71 จุด ลดลง 154.55 จุด, -1.01%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน               ปิดที่ 9,400.97 จุด ลดลง 7.27 จุด, -0.08%

ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในต่างประเทศ รวมถึงเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ตกในยูเครน และเหตุการณ์สู้รบในฉนวนกาซา นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกูเกิล

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,100.18 จุด พุ่งขึ้น 123.37 จุด หรือ +0.73% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,432.15 จุด เพิ่มขึ้น 68.70 จุด หรือ +1.57%  ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,978.22 จุด เพิ่มขึ้น 20.10 จุด หรือ +1.03%

                ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสายการบิน อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวเครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ถูกยิงตกในยูเครน

          ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 339.66 จุด

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,720.02 จุด ลดลง 33.86 จุด หรือ -0.35% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,335.31 จุด เพิ่มขึ้น 19.19 จุด หรือ +0.44% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,749.45 จุด เพิ่มขึ้น 11.13 จุด หรือ +0.17%

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากความตื่นตระหนักเกี่ยวกับข่าวเครื่องบินของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ถูกยิงตกในยูเครน

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 7.5 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 1309.4 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปรับตัวลง 24.8 เซนต์ ปิดที่ 20.886 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 13.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1489.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 3.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 881.50 ดอลลาร์/ออนซ์

                สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากที่คลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ถูกยิงตกในยูเครน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ปรับตัวลดลงด้วย

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 6 เซนต์ ปิดที่ 103.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 65 เซนต์ ปิดที่ 107.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาช้อนซื้อดอลลาร์ หลังจากที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์เครื่องบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ถูกยิงตกในยูเครน

          ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.37 เยน จากวันพฤหัสบดีที่ระดับ 101.31 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8980 ฟรังค์ จากระดับ 0.8976 ฟรังค์

          ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3526 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3527 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.7094 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.7113  ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.9398  ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ  0.9379 ดอลลาร์สหรัฐ

                ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (18 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ หลังจากมีรายงานว่าบริษัทไชร์ยอมรับข้อเสนอการซื้อกิจการจากบริษัท AbbVie

          ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,749.45 จุด เพิ่มขึ้น 11.13 จุด หรือ +0.17%

         ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 732.00 จุด ลดลง 6.00 จุด, -0.81%

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!