WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET29ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามภูมิภาค เงินทุนต่างชาติไหลกลับ-เก็งผลประกอบการ Q1/59

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้น ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นภูมิภาคที่ช่วงเช้านี้ปรับตัวอยู่ในแดนบวกได้เกือบทั้งหมด หลังแนวโน้มเงินลงทุนต่างชาติเริ่มไหลกลับเข้ามาอีกครั้ง ประกอบกับวานนี้ตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นมาอยู่ในแดนบวก หลังนักลงทุนให้ความสนใจต่อการรายงานผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชนสหรัฐ ขณะที่ช่วงเช้านี้สัญญาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น

     ส่วนของปัจจัยภายในประเทศเอง เชื่อว่านักลงทุนจะเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/59 มากขึ้นหลังผล

     ประกอบการของธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) มีกำไรเติบโตกว่าที่ตลาดคาดถึง 17%

พร้อมให้แนวรับ 1,385-1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (18 เม.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,004.16 จุด พุ่งขึ้น 106.70 จุด (+0.60%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,960.02 จุด เพิ่มขึ้น 21.80 จุด (+0.44%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,094.34 จุด เพิ่มขึ้น 13.61 จุด (+0.65%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 13.47 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 276.63 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.81 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.67 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 35.74 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.00 จุด, +0.30% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 306.71 จุด

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 เม.ย.59) 1,398.77 จุด เพิ่มขึ้น 13.35 จุด (+0.96%)

    - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,786.34 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 เม.ย.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (18 เม.ย.59) ปิดที่ 39.78 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 58 เซนต์ หรือ 1.4%

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 เม.ย.59) ที่ 4.42 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 34.95/97 ทิศทางแข็งค่าจากแรงขายดอลล์ หลังตัวเลขศก.สหรัฐอ่อนแอ

     - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีนโยบายให้กระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารออมสิน ร่วมกันหามาตรการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของผู้มีรายได้น้อยที่ต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราที่สูง โดยแนวทางแก้ไข กระทรวงการคลังจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ออกกฎหมายพิเศษ โดยให้เจ้าหนี้นอกระบบยังดำเนินการปล่อยกู้ต่อไปได้ แต่ต้องคิดดอกเบี้ยในอัตราที่กฎหมายพิเศษกำหนดไว้ ซึ่งยังไม่ได้สรุปว่าจะให้คิดอัตราดอกเบี้ยเท่าไหร่

      - นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในภาวะทรงตัวต่อเนื่องใน 4 เดือนที่ผ่านมาสภาพเศรษฐกิจยังไม่เติบโต แต่ไม่สามารถลงลึกได้ว่าถึงจุดต่ำสุดแล้วหรือไม่ โดยเชื่อว่าหลังจากภาครัฐมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวชัดเจนในไตรมาส 3 และ 4 แต่จะเติบโตหรือไม่ยังต้องขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจโลกด้วย

      - การเจรจาคงกำลังการผลิตที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ไม่ได้ข้อสรุป หลังซาอุดิอาระเบียขอเพิ่มข้อตกลงให้ทุกชาติสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก (โอเปก) ยินยอมคงกำลังการผลิต แต่อิหร่านซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกโอเปกไม่เข้าร่วม และยืนยันจะผลิตให้ได้ระดับเดียวกับก่อนการคว่ำบาตรต่อไป

       - นายด่านศุลกากรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว เผยหลังประเทศไทยเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซี มาแล้วกว่า 3 เดือน แนวโน้มการส่งออกสินค้าเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยในปีงบประมาณ 2559 ช่วงไตรมาสแรกมีมูลค่าสินค้าส่งออกทั้งสิ้น 16,041 ล้านบาท สินค้านำเข้ามูลค่า 3,682 ล้านบาท ได้ดุลการค้า 12,359 ล้านบาท

     - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ลงนามเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแล้ว ขึ้นอยู่กับเลขา ครม.ว่าจะบรรจุเป็นวาระเมื่อใด

     - รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยต่ำจะเกิดการนำเงินไปลงทุนที่เสี่ยงเพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นกันมากขึ้น ซึ่ง ธปท.ได้ติดตามดูมาระยะหนึ่งแล้ว ทั้งการซื้อลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชน ลงทุนในหุ้น และซื้อลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

                - เอไอเอสย่องรับเอกสารประมูล 4จี คลื่น 900 เจ้าแรกแต่ยังกั๊กร่วมหรือไม่ร่วมประมูล ด้าน 'ฐากร' มั่นใจ ไม่มีผู้เล่นรายใหม่ร่วมประมูลแน่ เผยอาจมีแค่เอไอเอสเข้าประมูลเจ้าเดียวก็ได้ ระบุหากรายเก่าร่วมทุกรายจะไม่ตรวจคุณสมบัติ

*หุ้นเด่นวันนี้

     - กกพ.ประกาศรายชื่อ solar สหกรณ์ที่ผ่านคุณสมบัติ 167 โครงการ 835MW โดยจะจับสลากคัดเลือกเหลือ 300MW ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ เป็นจังหวะ เก็งกำไร" กลุ่มพลังงานทางเลือก อย่าง GUNKUL IFEC AKR TSE SUPER (ธนชาต)

      - CHG (ธนชาต) "ซื้อ"เป้า 3.3 บาท โรงพยาบาล CHG3 เปิดให้บริการตั้งแต่ มี.ค.และสามารถเพิ่ม Utilization Rate ได้สูงถึง 85% ในปัจจุบันดีกว่าที่คาด ขณะที่การรักษาโรคหัวใจยังเติบโตดี ด้วยคาดการณ์กำไรเติบโตเฉลี่ย23.5% ต่อปีช่วง 2016-18 สูงสุดในกลุ่มโรงพยาบาล

      - BEAUTY (ฟินันเซีย ไซรัส) แม้ราคาหุ้นจะเหลือ upside เพียง 8% จากราคาพื้นฐาน 6.10 บาท แต่แนะ"ซื้อเก็งกำไร"ผลประกอบการ 1Q16 ที่คาดออกมาดี +51% Y-Y จากยอดขายเฉลี่ยต่อสาขาเดิมที่ยังโตเป็นเลขสองหลัก แต่กำไรน่าจะ -12% Q-Q ตามฤดูกาล

     - TISCO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"รับปันผล 2.40 บาท/หุ้น (Yield 5%) XD 27 เม.ย. แม้กำไรน้อยกว่าคาดเพราะสำรองเพิ่ม กำไร 1Q16 +1% Q-Q, +5.2% Y-Y หากไม่รวมการตั้งสำรองฯ กำไรแกร่งตามคาด +5.2% Q-Q, +8% Y-Y ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยยังเป็นขาขึ้นตามต้นทุนการเงินที่ลดลง ส่วน NPL ratio ลดลงเป็นลำดับเหลือ 3.07% จาก 3.23% ไตรมาสก่อน โดย TISCO เป็นแบงก์เดียวที่ไม่ได้ปรับลดประมาณการ และได้อานิสงส์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง พร้อมให้ราคาพื้นฐาน 52 บาท

     - IRPC (โกลเบล็ก) เป้า 5.85 บาท คาดกำไร 1Q59 ราว 2.6 พันล้านบาท +484%QoQ แต่-32%YoY โดยอัตราการกลั่น 187 พันบาร์เรล/วันเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปี 58 ค่าการกลั่นรวมอยู่ที่ราว 14 ดอลลาร์/บาร์เรลใกล้เคียงปี 58 แม้ค่าการกลั่นน้ำมันจะปรับตัวลงตามส่วนต่างน้ำมันสำเร็จรูป แต่ค่าการกลั่นธุรกิจปิโตรเคมีสูงขึ้นจากต้นทุนแนฟทาลดลง โดยได้รับผลกระทบขาดทุนสต๊อกน้ำมันดิบราว 55 ล้านดอลลาร์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง 10 ดอลลาร์/บาร์เรลสู่ แต่มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 340 ล้านบาท และยังมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอีกราว 820 ล้านบาทเนื่องจากมี Loss carry forward อีก 4.1 พันล้านบาท

ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกถ้วนหน้า ขานรับราคาน้ำมันฟื้นตัว

    ตลาดหุ้นเอเชียเปิดบวกถ้วนหน้าในวันนี้ ขานรับราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 18,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน

    ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,047.13 จุด เพิ่มขึ้น 13.47 จุด, +0.44% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,438.13 จุด เพิ่มขึ้น 276.63 จุด, +1.31% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,713.87 จุด ลดลง 3.81 จุด, -0.22% ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,930.42 จุด เพิ่มขึ้น 12.67 จุด, +0.43% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,701.75 จุด เพิ่มขึ้น 35.74 จุด, +0.41%

     ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,015.10 จุด เพิ่มขึ้น 6.00 จุด, +0.30% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,582.66 จุด เพิ่มขึ้น 306.71 จุด, +1.88%

     ในช่วงเช้าวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนพ.ค. ขยับขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.20% แตะที่ 39.86 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากที่สัญญาร่วงลงในช่วงก่อนหน้านี้ ภายหลังจากที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต

    นอกจากนี้ ตลาดหุ้นในเอเชียยังได้รับปัจจัยบวกจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 18,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน เมื่อคืนนี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 9.77 จุด จากแรงซื้อเก็งกำไร

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) จากแรงช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากที่ดัชนีปรับตัวลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่ม ที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์ ที่ไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต

    ดัชนี FTSE 100 ปิดขยับตัวขึ้น 9.77 จุด หรือ 0.15% แตะที่ 6,353.52 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยว โดยหุ้น TUI AG เพิ่มขึ้น 2.3% และหุ้น โธมัส คุ๊ค กรุ๊ป เพิ่มขึ้น 0.7% หลังจากบริษัทเบเรนเบิร์กปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของทั้งสองบริษัท

     หุ้นกลุ่มพลังงานเคลื่อนไหวในทิศทางที่แตกต่างกัน โดยหุ้นบีพีลดลง 0.04% ในขณะที่หุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ลดลง 0.7% และหุ้นทูลโลว์ ขยับขึ้น 0.1%

    สำหรับ ข่าวความเคลื่อนไหวของภาคเอกชน หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ลดลง 0.5% หลังจากหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ส รายงานว่า ประธานบริหารของบริษัทมีแผนจะลาออกภายในอีก 2 ปี

       หุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนประกอบสมาร์ทโฟนรายใหญ่ของบริษัทแอปเปิล อิงค์ ร่วงลง 3.8% หลังจากบริษัทเจฟเฟอรีส์ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัท

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก เหตุนักลงทุนเมินผลประชุมผู้ผลิตน้ำมัน

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนลดการให้ความสำคัญต่อข่าวที่ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.4% ปิดที่ 344.20 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,506.84 จุด เพิ่มขึ้น 11.67 จุด หรือ +0.26% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,120.31 จุด เพิ่มขึ้น 68.74 จุด หรือ +0.68% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,353.52 จุด เพิ่มขึ้น 9.77 จุด หรือ +0.15%

    ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนเนื่องจากนักลงทุนเมินข่าวที่ว่า ที่ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่ม ไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์

    นายมูฮัมหมัด บิน ซาเลห์ อัล-ซาดา รัฐมนตรีพลังงานของกาตาร์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า "ที่ประชุมลงมติว่า เราต้องการเวลามากขึ้น เพื่อที่จะปรึกษาหารือและพูดคุยกันมากขึ้น โดยที่ประชุมได้หารือกันในหลายประเด็น และในบางประเด็นที่เป็นหลักการพื้นฐานนั้น มีความคืบหน้าด้วยดี แต่ถึงกระนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมก็มีความเข้าใจตรงกันว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหารือกันมากขึ้น ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลง"

    หุ้นกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอ็มดับเบิลยู พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นเดมเลอร์ ปรับขึ้น 1.6% และหุ้นเรโนลท์ เพิ่มขึ้น 1.8%

    ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลง หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นสแตทออยล์ ร่วงลง 1.2% หุ้นซับซี เซเว่น เอสเอ ดิ่งลง 2.1% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับลง 0.7%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 106.70 จุด รับผลประกอบการเอกชนสดใส

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเหนือระดับ 18,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือนเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนลดการให้ความสำคัญต่อข่าวที่ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต และหันไปให้ความสนใจต่อรายงานประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชนสหรัฐ

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,004.16 จุด พุ่งขึ้น 106.70 จุด หรือ +0.60% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,960.02 จุด เพิ่มขึ้น 21.80 จุด หรือ +0.44% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,094.34 จุด เพิ่มขึ้น 13.61 จุด หรือ +0.65%

     ดัชนี ดาวโจนส์ปิดที่เหนือระดับ 18,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.2558 เนื่องจากนักลงทุนลดการให้ความสำคัญต่อข่าวที่ว่า ประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่ม ไม่สามารถตกลงกันได้ในประเด็นการตรึงกำลังการผลิต โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นที่เมืองโดฮา ประเทศกาตาร์

     นายมูฮัมหมัด บิน ซาเลห์ อัล-ซาดา รัฐมนตรีพลังงานของกาตาร์ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมว่า "ที่ประชุมลงมติว่า เราต้องการเวลามากขึ้น เพื่อที่จะปรึกษาหารือและพูดคุยกันมากขึ้น โดยที่ประชุมได้หารือกันในหลายประเด็น และในบางประเด็นที่เป็นหลักการพื้นฐานนั้น มีความคืบหน้าด้วยดี แต่ถึงกระนั้น ผู้เข้าร่วมประชุมก็มีความเข้าใจตรงกันว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหารือกันมากขึ้น ก่อนที่จะมีการทำข้อตกลง"

      นักลงทุนหันมาให้ความสนใจต่อรายงานผลประกอบการของบริษัทเอกชนรายใหญ่ของสหรัฐ รวมถึงมอร์แกน สแตนเลย์ ซึ่งเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 1.06 พันล้านดอลลาร์ หรือ 55 เซนต์/หุ้น ในไตรมาสแรก ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะมีกำไร 46 เซนต์/หุ้นในไตรมาสแรก

      นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน แม้ว่าราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ก็ตาม โดยหุ้นเอนเนอร์จี ทรานส์เฟอร์ อิควิตี้ พุ่งขึ้น 10% หุ้นโคโนโคฟิลิปส์ ดีดขึ้น 3% และหุ้นเฮสส์ คอร์ป พุ่งขึ้น 4.7%

    หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ปรับตัวขึ้น โดยดัชนี Biotechnology Index ดีดตัวขึ้น 1.5% หุ้นเอนโด อินเตอร์เนชันแนล ทะยานขึ้น 8.2% และหุ้นเรเจเนรอน ฟาร์มาซูติคอลส์ พุ่งขึ้น 3.9%

  หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและซอฟท์แวร์ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ ดีดตัวขึ้น 1.4% หุ้นเปย์พอล โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 2.8%

    อย่างไรก็ตาม หุ้นเป๊ปซี่โค ขยับลง 0.05% หลังจากเป๊ปซี่โคเปิดเผยว่า ยอดขายและผลกำไรดิ่งลงในไตรมาสแรก โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และอุปสงค์ที่ลดลงในต่างประเทศ

    ทั้งนี้ เป๊ปซี่โคเปิดเผยว่า ยอดขายลดลง 3% สู่ระดับ 1.186 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.190 หมื่นล้านดอลลาร์

   นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค., สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนเม.ย.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ดัชนีราคาบ้านเดือนก.พ. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.โดยมาร์กิต

         อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!