- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Monday, 11 April 2016 10:34
- Hits: 2009
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งแคบ แม้ราคาน้ำมันปรับขึ้นแต่เจอแรงกดดันจากการเมืองในปท.
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งแคบ แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นได้ แต่ก็มีแรงกดดันทางปัจจัยการเมือง หลังจากที่ทางสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทำให้อาจไปกดดันตลาดฯได้
นอกจากนี้ ตลาดบ้านเราจะมีวันเทรดเพียงแค่ 2 วันก่อนที่จะเข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ เนื่องจากในช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยพิเศษจากนอกประเทศ
พร้อมให้แนวรับ 1,360 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (8 เม.ย.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,576.96 จุด เพิ่มขึ้น 35.00 จุด (+0.20%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,850.69 จุด เพิ่มขึ้น 2.32 จุด (+0.05%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,047.60 จุด เพิ่มขึ้น 5.69 จุด (+0.28%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 59.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 21.95 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 114.56 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 22.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 10.96 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.21 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (8 เม.ย.59) 1,369.64 จุด เพิ่มขึ้น 12.95 จุด (+0.95%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,778.00 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 เม.ย.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (8 เม.ย.59) ปิดที่ 39.72 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.46 ดอลลาร์ หรือ 6.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (8 เม.ย.59) ที่ 5.75 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.07/09 คาดแกว่งแคบให้กรอบวันนี้ 35.00-35.15
- แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะทำงานปฏิรูปภาษีกำลังหนักใจกับการปรับปรุงภาษีทั้งระบบ ซึ่งรายได้ของคลังจะหายไปจากการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โครงสร้างภาษีเพื่อการลงทุนเพื่อใช้เป็นมาตรการจูงใจให้เกิดการลงทุนในประเทศ ซึ่งจำเป็นต้องมีรายได้มาชดเชยส่วนที่หายไป ซึ่งทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็เสนอแนะให้คลังทยอยขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต)
- ปตท.มองภาพรวมใช้น้ำมันปีนี้สูงขึ้น 8-10% ปัจจัยหลักจากราคาน้ำมันถูกลง ทำให้ความต้องการเพิ่ม การปรับโครงสร้างแอลพีจี ส่งผลยานยนต์เปลี่ยนไปใช้เบนซินมากขึ้น คาดทั้งปีต้องนำเข้าเบนซินถึง 160 ล้านลิตร ชี้ผลกระทบส่วนหนึ่งจากโรงกลั่นปิดซ่อม ไม่เห็นด้วยเก็บเงินวัตถุดิบผลิตปิโตรเคมีเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง
- ธปท.เผยคนยังมีกำลังซื้อต่อเนื่อง พบยอดการใช้จ่ายบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 1.7 หมื่นล้านบาท เติบโต 13.5% ทุกประเภทการใช้จ่าย ส่วนการปล่อยสินเชื่อและปริมาณบัตรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ด้านแบงก์ไม่สดใสในธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการในปัจจุบันเพิ่ม แต่ดัชนีอนาคตปรับลดลง ห่วงอุปสงค์ภายในประเทศฉุดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
- สมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) เตรียมผลักดันให้รัฐบาลอนุมัติให้โรงแรมที่มีค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง หรือรีโนเวต ด้านสิ่งแวดล้อม หรือ เลือกใช้สินค้าวัสดุที่มาจากการผลิตในประเทศ สามารถนำค่าใช้จ่ายดังกล่าวมาหักลดหย่อนภาษีได้ เพื่อเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระของโรงแรมที่ดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้มากขึ้น ที่ผ่านมาสมาคมได้เสนอแนวคิดให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) แต่ไม่ได้รับการตอบรับ เพราะบีโอไอต้องการสนับสนุนเรื่องภาษีกับโรงแรมที่ลงทุนใหม่เท่านั้น
*หุ้นเด่นวันนี้
- STA (ยูโอบี เคย์เฮียน) เป้า 14 บาท ราคายางโลกเข้าสู่ช่วงร้อนแรงเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน กำไรมี correlation เชื่อมโยงกับราคายางมากถึง 80% จึงได้ผลบวกสูง และตั้งแต่ มี.ค.59 ไทยจะจับมือกับอินโดนีเซียลดการผลิตและส่งออกยางพาราจนถึง ส.ค.59 เชื่อจะมีผลให้ราคายางพาราปรับขึ้นต่อตั้งแต่ เม.ย.59 เป็นต้นไป โดยช่วงไตรมาส 2 หลายพื้นที่ในประเทศไทยเข้าสู่ช่วงยางผลัดใบ ทำให้ปริมาณ supply ยางลดลงและหนุนราคาขึ้น
- BKD (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 4.50 บาท ราคาหุ้นยังน่าสนใจเมื่อเทียบกับกำไรอยู่ในช่วงเร่งตัวตามอุตสาหกรรมที่ขยายตัวโดยเฉพาะงานโรงพยาบาลและโรงแรม ขณะที่ BKD เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมตกแต่งภายในโครงการขนาดใหญ่ มี Backlog 1.75 พันล้านบาทรองรับรายได้ทั้งปีนี้แล้ว ดกำไรสุทธิปีนี้โต 28% Y-Y ส่วน EPS โต 9% Y-Y บริษัทยังเข้าร่วมงานประมูลอีกกว่า 3 พันล้านบาท
- ADVANC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 193 บาท แม้การกลับมาสนใจใบอนุญาตคลื่น 900MHz จะสร้างSentiment เชิงลบเพราะราคาประมูลตั้งต้นที่สูงถึง 7.5 หมื่นล้านบาท โดยคาดกำไรปี 59 หดตัวเพิ่มเป็น -20% Y-Y จากปัจจุบันที่คาด -15% Y-Y และกำไรปี 60 โตเพียง 2.8% Y-Y แต่ราคาหุ้นปรับลง 12% ในสัปดาห์ที่ผ่านมาสะท้อนข่าวไปแล้ว ส่วนความกังวลเรื่องการจ่ายปันผลที่จะลดลงจากจ่าย 100% ของกำไร เชื่อว่าจะรักษาระดับ Dividend yield ที่ 7% ต่อปีได้
- BANPU (โกลเบล็ก) เป้า 22 บาท คาดปี 59 พลิกเป็นกำไรที่ 1,510 ลบ. (+198% YoY) จากโรงไฟฟ้า BLCP และโรงไฟฟ้าหงสาจะทำการผลิตครบทั้ง 3 หน่วย ซึ่งจะชดเชยผลประกอบการของธุรกิจถ่านหินที่ปรับตัวลงตามภาวะตลาดที่ซบเซา โดยปรับลดการลงทุนในธุรกิจถ่านหินเพื่อเน้นธุรกิจโรงไฟฟ้าสู่ 2.4 GW ในปี 63 จากปัจจุบัน 1.63 GW เตรียมนำ BANPU POWERเข้าตลท.ใน 2H59 ช่วยชำระคืนเงินกู้แก่ BANPU ราว 400 ล้านดอลลาร์ และลดภาระดอกเบี้ยได้ราว 800 ล้านบาทต่อปี
ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ ขณะนักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อจีน
ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาข้อมูลเงินเฟ้อจีน โดยมีกระแสคาดการณ์ว่า ตัวเลขเงินเฟ้อของจีนอาจจะทำให้ทางการจีนไม่สามารถผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมได้อีก
ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.4% สู่ระดับ 125.83 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,761.57 จุด ลดลง 59.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,006.91 จุด เพิ่มขึ้น 21.95 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,255.84 จุด ลดลง 114.56 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,518.96 จุด ลดลง 22.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,972.25 จุด เพิ่มขึ้น 0.20 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,797.36 จุด ลดลง 10.96 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,716.19 จุด ลดลง 2.21 จุด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นกลุ่มเหมืองแร่หนุนฟุตซี่ปิดบวก 67.52 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 67.52 จุด หรือ 1.10% ที่ระดับ 6,204.41 จุด และปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกันในสัปดาห์นี้
ตลาดหุ้นลอนดอนได้ปรับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน หุ้นเกลนคอร์ และหุ้นริโอ ทินโต ต่างก็พุ่งขึ้นมากกว่า 2.8%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รับแรงหนุนจากปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร นำโดยหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด และหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ที่ต่างก็เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 1.5%
สำหรับ ความเคลื่อนไหวของบริษัทจดทะเบียน หุ้นดีเอฟเอส เฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นร้านค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่ของอังกฤษลดลง 5% หลังจากบริษัทแอดเวนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ป ระบุว่า กองทุนซึ่งบริษัทเป็นผู้บริหารได้ตกลงขายหุ้นจำนวน 30 ล้านหุ้นในดีเอฟเอส
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน
หุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (8 เม.ย.) เนื่องจากการเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุน หลังราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดัชนี Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 1.2% ปิดที่ 331.86 จุด แต่ยังคงปรับตัวลดลง 0.4% ในสัปดาห์นี้ และสถิติลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,303.12 จุด เพิ่มขึ้น 57.21 จุด หรือ +1.35% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 9,622.26 จุด เพิ่มขึ้น 91.64 จุด หรือ +0.96% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,204.41 จุด เพิ่มขึ้น 67.52 จุด หรือ +1.10%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดน้ำมัน และการแสดงความเห็นของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง และไม่มีสัญญาณของเศรษฐกิจฟองสบู่
ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวในการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่ International House ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่ง ตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังใกล้เข้าสู่ภาวะแข็งแกร่งอย่างเต็มที่ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันปรับตัวลดลงเนื่องจากปัจจัยชั่วคราว
การประชุมดังกล่าวมีบรรดาอดีตประธานเฟดเข้าร่วมประชุมด้วย รวมถึงนายเบน เบอร์นันเก้ และนายพอล วอล์คเกอร์ และนายอลัน กรีนสแปน
หุ้น UniCredit SpA พุ่งขึ้น 9.7% ที่ตลาดหุ้นอิตาลี หลังระบุว่า ธนาคารกำลังทำงานหนักเพื่อแก้ปัญหาในเรื่องกองทุนไพรเวทและปัญหานี้เสีย
หุ้นแอกเซล สปริงเกอร์ เอสเอ พุ่งขึ้น 8% หลังจากบริษัทเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัท
หุ้นแอร์ ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม เพิ่มขึ้น 2% หลังรายงานว่า สายการบินมีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค.
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 35 จุด รับราคาน้ำมันพุ่งแรง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (8 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวย้ำถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 35.00 จุด หรือ 0.20% ปิดที่ 17,576.96 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 5.69 จุด หรือ 0.28% ปิดที่ 2,047.60 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.32 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 4,850.69 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากนางเยลเลนกล่าวในการประชุมซึ่งจัดขึ้นที่ International House ว่า เศรษฐกิจของสหรัฐยังคงอยู่ในทิศทางที่แข็งแกร่ง ตลาดแรงงานของสหรัฐกำลังใกล้เข้าสู่ภาวะแข็งแกร่งอย่างเต็มที่ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันปรับตัวลดลงเนื่องจากปัจจัยชั่วคราว
การประชุมดังกล่าวมีบรรดาอดีตประธานเฟดเข้าร่วมประชุมด้วย รวมถึงนายเบน เบอร์นันเก้ และนายพอล วอล์คเกอร์ และนายอลัน กรีนสแปน
ในขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นสหรัฐยังขานรับคำพูดของนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์กที่ระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างระมัดและค่อยเป็นค่อยไปเป็นเรื่องที่เหมาะสม โดยอ้างว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง
นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยพุ่งขึ้นประมาณ 6% อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต
อินโฟเควสท์