WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET26

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งในกรอบหลังไร้ปัจจัยใหม่หนุน-ติดตามการประชุมกนง.วันนี้

     นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ เนื่องจากตลาดไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะที่หุ้นในกลุ่ม ICT ก็คาดว่าจะปรับตัวขึ้นไม่ได้มากแล้วหลังจากที่ตอบรับเรื่องบมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ไม่จ่ายค่าใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ไปแล้ว อย่างไรก็ดี ดัชนีฯก็ยังมีโอกาสที่จะขึ้นทดสอบระดับ 1,400 จุดได้ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติก็ยังซื้อสุทธิอยู่บ้าง

     อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ในวันนี้ ซึ่งก็คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม แต่ก็ให้ติดตาม comment ว่าจะมีการปรับลดตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) หรือไม่

    ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย พร้อมให้แนวรับ 1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,582.57 จุด ลดลง 41.30 จุด (-0.23%),   ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,821.66 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด (+0.27%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,049.80 จุด ลดลง 1.80 จุด (-0.09%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 17.72 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 8.19 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 37.35 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 7.80 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.02 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 3.25 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 มี.ค.59) 1,397.20 จุด เพิ่มขึ้น 3.57 จุด (+0.26%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 599.22 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 มี.ค.59

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 มี.ค.59) ปิดที่ 41.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ขยับลง 7 เซนต์ หรือ 0.2%

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 มี.ค.59) ที่ 6.11 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 34.93/95 แนวโน้มแกว่งแคบ รอผลประชุมกนง.ช่วงบ่าย คาดกรอบวันนี้ 34.88-35.00

                - รัฐบาลหลายประเทศสั่งตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยเข้มตามสนามบินและรถไฟใต้ดินทั่วยุโรปทันที หลังเกิดเหตุโจมตี 3 ครั้งในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของสหภาพยุโรป (อียู) โดยเกิดระเบิดถึง 2 ครั้งในสนามบินซาเวนเทม ตามมาด้วยระเบิดที่สถานีรถไฟใต้ดินมาลบีคใกล้ศูนย์บัญชาการคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 คนและบาดเจ็บอีกราว 170 คน

                - เปิดฉากงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 ค่ายรถขนรถรุ่นใหม่เปิดตัวมากกว่า 25 รุ่น พร้อมอัดแคมเปญร้อนแรง คาดยอดจองทะลุ 4 หมื่นคัน หวังงานนี้ช่วยผลักดันยอดขายรถช่วงไตรมาสสองกลับมาทะยานได้

                - ครม.ไฟเขียว"บ้านประชารัฐ"เปิดโอกาสประชาชน ข้าราชการพลเรือน ทหาร ตำรวจ บุคลากรทางการศึกษา ซื้อบ้านหลังแรก ไม่กำหนดเพดานรายได้ โยน ธอส. ออมสิน กรุงไทยปล่อยกู้วงเงิน 7 หมื่นล้านบาท กำหนดเอกชนรับภาระภาษี 3% ส่วนลดเพิ่ม 2% ด้าน ธอส.-ออมสิน รับลูกให้กู้ดอกเบี้ยต่ำเริ่มเปิดรับคำขอสินเชื่อ 23 มี.ค.

                - ครม.ไฟเขียว พ.ร.บ. ธปท.ฉบับแก้ไขให้นำเงินทุนสำรองของฝ่ายกิจการธนาคารไปลงทุนหุ้นในต่างประเทศได้ และเห็นชอบแผนพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ระยะที่ 3 รองรับการแข่งขันในอนาคต "วิรไท" เผยระยะแรกลงทุนหุ้นสัดส่วน 4% ลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป "ทองอุไร" หวังภายใน 5 ปีจะสร้างแบงก์ไทยอย่างน้อย 1 แห่งให้มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค

                - ผู้บริหารของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วที่สุดในการประชุมนโยบายครั้งถัดไปในปลายเดือน เม.ย.ที่จะถึงนี้ เนื่องจากสัญญาณข้อมูลทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่เข้มแข็ง แม้ว่าจะยังมีความผันผวนของเศรษฐกิจจากประเทศอื่นๆ เป็นปัจจัยลบก็ตาม

*หุ้นเด่นวันนี้

                - GTB (บมจ.เจตาแบค)เทรดวันนี้วันแรกที่ราคา IPO หุ้นละ 1.15 บาท  บล.โกลเบล็ก แนะ"ซื้อ"ประเมินมูลค่าพื้นฐานสำหรับปี 59 ได้เท่ากับ 1.62 บาท ประมาณการกำไรสุทธิปี 59 และ 60 อยู่ที่ 85 และ 99 ล้านบาทตามลำดับซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 18% ต่อปี

                GTB เป็นผู้ผลิต จัดจำหน่าย รวมถึงการติดตั้ง และซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องกำเนิดไอน้ำ ซึ่งสามารถเลือกใช้เชื้อเพลิงก๊าซ เชื้อเพลิงน้ำมัน เชื้อเพลิงถ่านหิน และเชื้อเพลิงชีวมวล การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้เพื่อขยายกำลังการผลิต ลงทุนการพัฒนาโปรแกรมคำนวณและออกแบบ ขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในบริษัท

                - CPF (ยูโอบี เคย์เฮียน) คาดว่ากำไรหลักจะฟื้นตัวขึ้นแข็งแกร่งจาก 1,200 ล้านบาทในปี 58 มาอยู่ที่ 6,000 ล้านบาทในปี 59 ด้วยปัจจัยหนุนจากสภาวะเศรษฐกิจและความต้องการที่ดีขึ้น, ผลผลิตไก่และหมูที่ลดลงซึ่งจะช่วยทำให้ราคาขายสูงขึ้น, ธุรกิจกุ้งและโรงงานผลิตไก่ที่ประเทศตุรกีที่ฟื้นตัวขึ้นหลังประสบผลขาดทุนในปี 58 และกำไรพิเศษ 1,500 ล้านบาทจากบริษัทไก่ในรัสเซียคือ S&W ที่ทาง CPF เข้าซื้อกิจการในเดือน ธ.ค.58 นอกจากนี้ โดยคาดว่า dividend yield ในปี 59 จะอยู่ที่ 4%

                - COM7 (โกลเบล็ก) คาดกำไรปี 59 ราว 350-400 ล้านบาทโตราว 30-49% YoY จากปิดร้าน Mango(รับชำระค่าโทรศัพท์ทุกเครือข่าย)ทำให้ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุน 30 ล้านบาท/ปี และในเม.ย.59 จะสั่งซื้อไอโฟนตรงจากแอปเปิ้ลช่วยประหยัดต้นทุนราว 2% จากยอดขาย 4,000 ล้านบาทหนุนกำไร และวางแผนขยายอีก 35 สาขาจาก 285 สาขา คาดเพิ่มยอดขายราว 7% มีแผนเปิด Banana SURE ขายคอมพิวเตอร์มือสองอัตรากำไรสูงกว่ามือ 1 ผ่านดีลเลอร์ บริษัทตั้งเป้ายอดขายปีนี้ราว 220 ล้านบาท

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ หลังเกิดโศกนาฏกรรมในเบลเยียม

            ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คน

                ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.4% สู่ระดับ 129.37 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.45 น.ตามเวลาโตเกียว

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,066.27 จุด เพิ่มขึ้น 17.72 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,991.17 จุด ลดลง 8.19 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,629.40 จุด ลดลง 37.35 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,777.88 จุด ลดลง 7.80 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,996.47 จุด ลดลง 0.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,888.67 จุด เพิ่มขึ้น 8.02 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,721.50 จุด ลดลง 3.25 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน :ฟุตซี่ปิดบวก 8.16 จุด ขณะตลาดยังวิตกเหตุโจมตีเบลเยียม

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีในเบลเยียม โดยหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวร่วงลงอย่างหนัก

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 8.16 จุด หรือ +0.13% ที่ 6,192.74 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดตลาดดีดตัวขึ้น หลังจากที่ร่วงลงในช่วงแรก อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุวินาศกรรมในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่สนามบินซาเวนเทมและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

    เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายซาเลห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยที่เป็นแกนนำก่อเหตุโจมตีกลางกรุงปารีสในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โดยเขาถูกรวบตัวที่กรุงบรัสเซลส์

     หุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวต่างก็ปรับตัวลดลง โดยหุ้นโธมัส คุ๊ค กรุ๊ป และหุ้น TUI AG ลดลง 4.3% และ 2.8% ตามลำดับ หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดท แอร์ไลน์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้บริหารสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ปรับตัวลง 1.5%

 ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวินาศกรรมเบลเยียมฉุดหุ้นสายการบินร่วง

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คน โดยข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มโรงแรมร่วงลง

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.2% แตะที่ 340.30 จุด

   ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,431.97 จุด เพิ่มขึ้น 4.17 จุด หรือ +0.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,990.00 จุด เพิ่มขึ้น 41.36 จุด หรือ +0.42% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,192.74 จุด เพิ่มขึ้น 8.16 จุด หรือ +0.13%

   ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุวินาศกรรมในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่สนามบินซาเวนเทมและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

      เหตุระเบิดดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายซาเลห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยที่เป็นแกนนำก่อเหตุโจมตีกลางกรุงปารีสในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา โดยเขาถูกรวบตัวที่กรุงบรัสเซลส์

     ด้านกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์โจมตีในครั้งนี้ โดยระบุว่านักรบของ IS ได้ระเบิดตัวเองด้วยการจุดชนวนระเบิดบนเข็มขัดพลีชีพ และยังได้ทำการระเบิดพลีชีพในสถานีรถไฟใต้ดินเช่นกัน

     หุ้นกลุ่มสายบินและกลุ่มโรงแรมร่วงลงเนื่องจากเหตุการณ์โจมตีดังกล่าว โดยหุ้นอินเตอร์เนชันแนล โฮเทล กรุ๊ป ดิ่งลงกว่า 3.3% หุ้นแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ร่วงลง 4% หุ้น Accor SA ซึ่งเป็นผู้ประกอบการโรงแรมรายใหญ่ในฝรั่งเศส ดิ่งลง 3.9% หุ้นอินเตอร์เนชันแนล คอนโซลิเดท แอร์ไลน์ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้บริหารสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ปรับตัวลง 1.5% หุ้นไรอันแอร์ ร่วงลง 2.2% และหุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ปรับตัวลง 1.3%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : เหตุวินาศกรรมเบลเยียม ฉุดดาวโจนส์ปิดลบ 41.30 จุด

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คน โดยข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มขนส่งร่วงลงอย่างหนัก

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,582.57 จุด ลดลง 41.30 จุด หรือ -0.23% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,821.66 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด หรือ +0.27% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,049.80 จุด ลดลง 1.80 จุด หรือ 0.09%

     ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุวินาศกรรมในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม โดยเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตามเวลาไทย ได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่สนามบินซาเวนเทมและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 30 คนและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

    รายงานระบุว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์โจมตีในครั้งนี้ โดยระบุว่านักรบของ IS ได้เปิดฉากกราดยิงที่สนามบิน พร้อมระเบิดตัวเองด้วยการจุดชนวนระเบิดบนเข็มขัดพลีชีพ นอกจากนี้ สมาชิกของ IS อีกรายหนึ่งยังได้ทำการระเบิดพลีชีพในสถานีรถไฟใต้ดินเช่นกัน

   เหตุวินาศกรรมในเบลเยียมส่งผลให้นักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มขนส่ง โดยหุ้นเดลต้า แอร์ไลนส์ และหุ้นอเมริกัน แอร์ไลนส์ ร่วงลงกว่า 1.4% หุ้นเรลโร้ด ยูเนียน แปซิฟิก ดิ่งลง 2.3%

    หุ้นกลุ่มสันทนาการร่วงลงเนื่องจากเหตุการณ์โจมตีในเบลเยียมเช่นกัน โดยหุ้นแมริออท อินเตอร์เนชันแนล ดิ่งลง 1.2% หุ้นวินด์แฮม เวิล์ดไวด์ ดิ่งลง 1.1% หุ้นรอยัล คาริบเบียน ครู๊ซ ปรับตัวลง 2.1% หุ้นคานิวัล คอร์ป ดิ่งลง 2.15% และหุ้นไพรซ์ไลน์ กรุ๊ป ร่วงลง 2.3%

     อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ ภาคการผลิตในภูมิภาคแอตแลนติคตอนล่างมีการขยายตัวอย่างมากในเดือนมี.ค. โดยแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี

     ทั้งนี้ เฟดสาขาริชมอนด์ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจของภาคการผลิตดีดตัวสู่ระดับ +22 ในเดือนมี.ค. หลังจากอยู่ที่ระดับ -4 ในเดือนก.พ.

     นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยในวันนี้ สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่เดือนก.พ. และ สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ส่วนวันพฤหัสบดี จะมีการเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดส่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเดือนก.พ. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนมี.ค.โดยมาร์กิต

     สำหรับ วันศุกร์จะมีการเปิดเผยการประมาณการครั้งสุดท้ายของตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/2558 และการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 4/2558

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 มี.ค.2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,582.57 จุด                         ลดลง 41.30 จุด       -0.23%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,821.66 จุด                      เพิ่มขึ้น 12.79 จุด      +0.27%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,049.80 จุด                        ลดลง 1.80 จุด        -0.09%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,192.74 จุด                    เพิ่มขึ้น 8.16 จุด       +0.13%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,990.00 จุด                             เพิ่มขึ้น 41.36 จุด      +0.42%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,431.97 จุด                        เพิ่มขึ้น 4.17 จุด       +0.09%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,230.80 จุด      เพิ่มขึ้น 5.90 จุด       +0.11%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,166.60 จุด           ไม่เปลี่ยนแปลง

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,785.68 จุด                           ลดลง 27.02 จุด       -0.31%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,048.55 จุด                     เพิ่มขึ้น 323.74 จุด     +1.94%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,996.81 จุด                        เพิ่มขึ้น 7.05 จุด       +0.35%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,999.36 จุด                     ลดลง 19.44 จุด       -0.64%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,342.03 จุด             ลดลง 34.38 จุด       -0.47%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,666.75 จุด                               ลดลง 17.40 จุด       -0.08%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,856.11 จุด      ลดลง 29.05 จุด       -0.59%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,724.75 จุด                     เพิ่มขึ้น 6.39 จุด       +0.37%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,880.65 จุด                      ลดลง 0.04 จุด         0.00%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,330.49 จุด                        เพิ่มขึ้น 45.12 จุด      +0.18%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดลบเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คน โดยข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มขนส่งร่วงลงอย่างหนัก

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,582.57 จุด ลดลง 41.30 จุด หรือ -0.23% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,821.66 จุด เพิ่มขึ้น 12.79 จุด หรือ +0.27% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,049.80 จุด ลดลง 1.80 จุด หรือ 0.09%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่สนามบินและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียม ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 คน โดยข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นกลุ่มสายการบินและกลุ่มโรงแรมร่วงลง

         ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.2% แตะที่ 340.30 จุด

         ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,431.97 จุด เพิ่มขึ้น 4.17 จุด หรือ +0.09% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,990.00 จุด เพิ่มขึ้น 41.36 จุด หรือ +0.42% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,192.74 จุด เพิ่มขึ้น 8.16 จุด หรือ +0.13%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีในเบลเยียม โดยหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวร่วงลงอย่างหนัก

          ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 8.16 จุด หรือ +0.13% ที่ 6,192.74 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) ขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีในเบลเยียม นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันหลังจากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดขยับลง 7 เซนต์ หรือ 0.2% แตะที่ 41.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดบวก 25 เซนต์ หรือ 0.6% แตะที่ 41.79  ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากเหตุวินาศกรรมที่สนามบินและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในเบลเยียมได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดบวก 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.35% แตะที่ระดับ 1,248.60 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดบวก 3.80 เซนต์ หรือ 0.24% แตะที่ 15.885 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 15 ดอลลาร์ หรือ 1.53% แตะที่ 996.80 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 2.65 ดอลลาร์ หรือ 0.4% แตะที่ 605.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินยูโรร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) หลังเกิดเหตุเหตุระเบิดหลายครั้งในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ซึ่งส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิตมากกว่า 30 คน

          เงินยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1212 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1248 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ปรับตัวลงสู่ระดับ 1.4201 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4396 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7615 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7595 ดอลลาร์สหรัฐ

          ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 112.41 เยน จากระดับ 111.86 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9730 ฟรังก์ จากระดับ 0.9697 ฟรังก์

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 398.00 จุด ไม่เปลี่ยนแปลง

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!