- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 22 March 2016 10:12
- Hits: 1086
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นรับผลบวกน้ำมันดีดตัว-กลุ่มสื่อสารฟื้นหลัง JAS เบี้ยว
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโมเมนตัมปรับตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับขึ้น ด้านกลุ่มสื่อสารหลังจากที่กลุ่ม บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ไม่จ่ายค่าใบอนุญาต 4G คลื่น 900 MHz ก็จะทำให้การแข่งขันในอุตสาหกรรมไม่รุนแรงมาก ราคาหุ้นกลุ่มสื่อสารที่เคยปรับตัวลงไปก็น่าจะฟื้นตัวขึ้นมาในระยะสั้น ส่วนที่เหลือคงต้องขึ้นกับผลประกอบการแต่ละบริษัท เพราะ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ยังมีประเด็นเรื่องซิมดับ
ดังนั้น ตลาดฯน่าจะได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน-สื่อสาร รวมทั้งกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มท่องเที่ยวที่จะได้รับผลบวกจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ หลังวานนี้ รมว.คลังเตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในส่วนของการท่องเที่ยวและร้านอาหารในช่วงเทศกาลสงกรานต์มีสิทธิได้ลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา โดยเตรียมจะเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เร็วๆนี้
ด้านการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 23 มี.ค.นี้ ก็ให้ติดตามทิศทางอัตราดอกเบี้ย แต่คาดว่า กนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบคละกัน พร้อมให้แนวรับที่ 1,388-1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400-1,407 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (21 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,623.87 จุด เพิ่มขึ้น 21.57 จุด (+0.12%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,808.87 จุด เพิ่มขึ้น 13.22 จุด (+0.28%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,051.60 จุด เพิ่มขึ้น 2.02 จุด (+0.10%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 212.50 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 17.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 80.92 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 6.68 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.15 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.66 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (21 มี.ค.59) 1,393.63 จุด เพิ่มขึ้น 10.67 จุด (+0.77%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 99.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 มี.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (21 มี.ค.59) ปิดที่ 39.91 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 47 เซนต์ หรือ 1.2%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (21 มี.ค.59) ที่ 5.76 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 34.94 แนวโน้มอ่อนค่าหลังดอลล์แข็ง จากเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น มองกรอบ 34.90-35.00
- นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลจะทยอยออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่องไปจนถึงกลางปีนี้เพื่อพยุงเศรษฐกิจจนกว่าการลงทุนโครงการขนาดใหญ่เริ่มขึ้นจริง โดยในวันนี้จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณามาตรการลดหย่อนภาษีให้ผู้ที่ท่องเที่ยวในประเทศและรับประทานอาหารในร้านอาหารที่มีใบกำกับภาษีถูกต้อง วงเงินไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ช่วงเทศกาลสงกรานต์นาน 2 สัปดาห์ และมาตรการบ้านประชารัฐก็จะเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ด้วย
- ประธานกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เผยหลังบริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์ ไม่จ่ายเงินชนะประมูล 4จี คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ ตามกำหนดวันที่ 21 มี.ค.ว่า ทาง กทค.จะยึดหลักทรัพย์ค้ำประกันวงเงิน 644 ล้านบาท และฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายการประมูล 4จี จากแจส โดยจะประชุม กทค.อีกครั้งในวันที่ 23 มี.ค.เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา
- มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชื่อดังคาดการณ์ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% เนื่องจากภาคการส่งออกยังอ่อนแอ กระทบต่อภาคการผลิต และเศรษฐกิจในประเทศยังคงไม่ฟื้นตัว
- รมว.คลัง เผยตัวเลขส่งออก ก.พ.ในรูปดอลลาร์เบื้องต้นโต 10% จากมูลค่าการค้าทองพุ่ง
- อธิบดีกรมบังคับคดี เปิดเผยว่า ได้ปรับปรุงเงื่อนไขการวางหลักประกันการขายทอดตลาดสำหรับสินทรัพย์ราคาประเมินไม่เกิน 3 ล้านบาทใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถที่จะเข้าถึงการประมูลสินทรัพย์จากการขายทอดตลาดและสอดคล้องกับโครงการบ้านประชารัฐ
- สหพัฒน์ชี้กำลังซื้อและแนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น ดึงยอดขาย 2 เดือนโต 17% มั่นใจตั้งเป้าโตปีนี้ 10% ทำยอดทะลุ 3.2 หมื่นล้าน โชว์ยอดซื้อสินค้าคนยากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 'มาม่า' ขยายตัว 5% ฟื้นจากปีก่อนที่โตเพียง 0.4% แต่ยอมรับต้องปรับกลยุทธ์ทุก 3 เดือน
*หุ้นเด่นวันนี้
- TWPC (ไอร่า) เป้า 9.40 บาท นโยบายขยายธุรกิจ Aggressive มากขึ้น ปี 59 กำลังการผลิตแป้งมันเพิ่มขึ้น 32% ขณะที่วุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยวเพิ่ม 36% คาดผลงานเช้าสู่วงจรการเติบโต EPS Growth ปี 59 – 60 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 27% ส่วนปี 58 ที่ -12% เป็นจังหวะเข้าซื้อ เกิดจากการชะลอการส่งออกราว 2 สัปดาห์รับผลจากเปลี่ยนใบอนุญาตส่งออก และมีรายจ่ายจากการควบรวม/รายจ่ายพิเศษ อีกรวม 50 ล้านบาท
- PS (ยูโอบี เคย์เฮียน) บริษัทฯจะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นด้านอสังหาฯ ของรัฐบาลและความต้องการด้านอสังหาฯ ที่เกิดขึ้นจริงเนื่องจากเป็นผู้พัฒนาอสังหาฯ รายใหญ่ที่สุดในกลุ่มโครงการแนวราบ นอกจากนี้ ยอดจอง (พรีเซล) ของ PS อยู่ในระดับสูงและมี dividend yield สูงถึง 4.6%
- ADVANC (โกลเบล็ก) เป้า 192 บาท ได้รับ Sentiment เชิงบวกจาก JAS ไม่จ่ายค่าสัมปทาน 4G และคาดรายได้ปี 59 ยังคงขยายตัวจากการให้บริการข้อมูลที่ทรงตัวระดับสูงจากการทำ Market-Penetration แต่คาดกำไรสุทธิปี 59 ลดลงเล็กน้อย 7% YoY เป็น 34,338 ล้านบาท ตามภาวะการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ด้าน Div yield โดดเด่นราว 5.8%
- TKS (เคทีบี) เป้า 10.50 บาท คาดกำไรสุทธิปี 2559 จะกลับมาเติบโตเป็น 322 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.7% YoY และยังจัดเป็นหุ้นปันผลเด่น โดยมีประกาศจ่ายเงินปันผลงวด 2H58 ที่ 0.40 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 มี.ค. ทำให้งบการเงินรวมทั้งปี 2558 จ่ายปันผลที่ 0.50 บาท คิดเป็นเงินปันผลตอบแทนที่ 6.1% ต่อปี และคาดปันผลปี 2559 ที่ 7% ต่อปี
ตลาดหุ้นเอเชียบวกเช้านี้ ขานรับตลาดหุ้นญี่ปุ่นทะยาน, ราคาน้ำมันดีดตัว
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ทะยานขึ้นหลังเงินเยนอ่อนค่า ขณะเดียวกันตลาดยังได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 41 ดอลลาร์/บาร์เรล
ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.6% เมื่อเวลาประมาณ 9.05 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,937.31 จุด เพิ่มขึ้น 212.50 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,001.63 จุด ลดลง 17.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,765.07 จุด เพิ่มขึ้น 80.92 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,806.02 จุด ลดลง 6.68 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,993.37 จุด เพิ่มขึ้น 3.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,884.84 จุด เพิ่มขึ้น 4.15 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,716.70 จุด ลดลง 1.66 จุด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 5.06 จุด ตลาดจับตาการซื้อกิจการภาคเอกชน
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) หลังการราคาหุ้นกลุ่มธนาคารอ่อนแรงลง ในขณะที่ตลาดจับตาการเสนอซื้อกิจการของบริษัทเอกชนขนาดใหญ่
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลดลง 5.06 จุด หรือ 0.08% ที่ 6,184.58 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนเคลื่อนไหวไร้ทิศทางในขณะที่ตลาดจับตาดูข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทเอกชน โดยบริษัทเจ เซนส์เบอรี ระบุว่า บริษัทได้เสนอซื้อบริษัทโฮม รีเทล หลังจากที่ตลาดปิดทำการไปแล้ว โดยหุ้นโฮม รีเทล กรุ๊ป ลดลง 9.9%
หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด เพิ่มขึ้น 7.6% ในขณะที่หุ้นไวท์เบรด ผู้ให้บริการด้านการรับรองรายใหญ่ของอังกฤษพุ่งขึ้น 2.9% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัทเจฟเฟอรีส์ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัท
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นเหมืองร่วง ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.26% ปิดที่ 340.82 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,948.64 จุด ลดลง 2.16 จุด หรือ -0.02% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,427.80 จุด ลดลง 34.71 จุด หรือ -0.78% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,184.58 จุด ลดลง 5.06 จุด หรือ -0.08%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ดิ่งลง 1.1% หุ้นอาร์เซลอร์มิททัล ร่วงลง 4%
หุ้นกลุ่มพลังงานอ่อนแรงลงเช่นกัน โดยหุ้นทุลโลว์ ออยล์ ร่วงลง 1.4% และหุ้นซีดริลล์ ดิ่งลง 6.3%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรป โดยในวันนี้ ฝรั่งเศส และกลุ่มยูโรโซนจะเปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมี.ค. ขณะที่สถาบัน ZEW จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนมี.ค.ของยูโรโซน และอังกฤษจะเปิดเผยอัตราเงินเฟ้อเดือนก.พ.
ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : ดอลล์แข็งเทียบค่าเงินหลักๆ หลังจนท.เฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ.
สกุลเงินดอลล์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 มี.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาส่งสัญญาณว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเม.ย.
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 111.86 เยน จากระดับ 111.57 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9697 ฟรังก์ จากระดับ 0.9692 ฟรังก์
ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.1248 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1270 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4396 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4480 ดอลลาร์สหรัฐ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7595 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7602 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟดสาขาแอตแลนตา และนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโก ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนเม.ย.
ทางด้านนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ แสดงความเชื่อมั่นว่า อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐจะดีดตัวกลับสู่ระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% หากราคาเชื้อเพลิงมีเสถียรภาพและดอลลาร์ชะลอการแข็งค่า
ทั้งนี้ นายแลคเกอร์ระบุว่า หากไม่มีเหตุปัจจัยสุดวิสัยต่าง ๆ เกิดขึ้น เขาก็เชื่อว่าอัตราเงินเฟ้อจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับ 2% ตามที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ได้กำหนดไว้ในระยะกลาง
ส่วนเงินปอนด์ถูกกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งภายในพรรคอนุรักษ์นิยมของอังกฤษเกี่ยวกับสมาชิกภาพของอังกฤษใน EU หลังจากนายเอียน ดันแคน สมิธ ซึ่งสนับสนุนให้อังกฤษออกจาก EU ได้ประกาศลาออกจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เผชิญความยากลำบากในการทำให้พรรคเห็นชอบต่อการลงคะแนนเสียงสนับสนุนให้อังกฤษอยู่ใน EU ในการลงประชามติในเดือนมิ.ย.
สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงหลังจากนายมัลคอล์ม เทิร์นบูล นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ประกาศจะยุบสภา และจะจัดการเลือกตั้ง หากกฏหมายแรงงานไม่ผ่านการเห็นชอบ โดยคาดว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 2 ก.ค.
ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดระบุว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวออสเตรเลียไม่พอใจผลงานของนายกรัฐมนตรีมัลคอล์ม เทิร์นบูลแห่งออสเตรเลียมากขึ้น โดยระดับความไม่พอใจนั้น สูงกว่าความพอใจเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นายเทิร์นบูลก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งเดือนก.ย.ปีที่ผ่านมา
สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนก.พ.ดิ่งลง 7.1% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.08 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว หลังจากพุ่งขึ้นแตะ 5.47 ล้านยูนิตในเดือนม.ค. และ 5.45 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค.
อินโฟเควสท์