- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 15 March 2016 10:12
- Hits: 1849
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้พักตัว คาดเจอแรงขายทำกำไรต่อเนื่องระหว่างรอผลประชุมเฟด
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้พักตัว ซึ่งตลาดฯคง Wait & See ต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ที่ดัชนีฯปรับตัวขึ้นไปและก็มีแรงขายทำกำไรออกมา โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ติดลบกัน
ทั้งนี้ ตลาดฯน่าจะโฟกัสไปที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีขึ้นในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้มากกว่า เนื่องจากการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังไม่มีอะไรออกมา แต่ก็ต้องรอดูวันนี้ด้วย ส่วนเฟดทางตลาดก็คิดว่าไม่น่าจะทำอะไร เพราะตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯก็ดีขึ้นเรื่อยๆ และตัวเลขเงินเฟ้อก็สอดคล้องไปกับราคาน้ำมันอยู่แล้ว อย่างไรก็ดีให้โฟกัสไปที่ความคิดเห็นของประธานเฟด โดยรอดูว่าจะมีสัญญาณเป็นอย่างไร ถ้าไม่มีอะไรการปรับขึ้นของดัชนีฯน่าจะมีจำกัด
ดังนั้น วันนี้จึงมองตลาดฯมีทิศทางขาลงมากกว่าหลังจากที่ได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว พร้อมให้แนวรับ 1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400-1,410 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (14 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,229.13 จุด เพิ่มขึ้น 15.82 จุด (+0.09%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,750.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.81 จุด (+0.04%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,019.64 จุด ลดลง 2.55 จุด (-0.13%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 13.86 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 5.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 137.19 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 2.33 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 4.86 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.70 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (14 มี.ค.59) 1,394.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.86 จุด (+0.06%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,106.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 14 มี.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (14 มี.ค.59) ปิดที่ 37.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.32 ดอลลาร์ หรือ 3.4%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (14 มี.ค.59) ที่ 7.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.12/13 กลับมาอ่อนค่า นักลงทุนชะลอดูการประชุม BOJ วันนี้
- คจร.ประชุมวันนี้ (15 มี.ค.) เคาะรถไฟฟ้าสายใหม่ บรรจุในแผนแม่บทระยะ 2 กทม.ชงลงทุน 4 สาย สายบางนา-สุวรรณภูมิ, สีเทา, สีทอง และสายบางหว้า-ตลิ่งชัน ส่วนรฟม.ขอต่อสายสีม่วงใต้อีก 5 กิโลเมตร และร่างเอ็มโอยู โอนเดินรถสายสีเขียวเหนือและใต้ให้กทม.
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษเรื่อง "เศรษฐกิจฐานรากกับการพัฒนาเกษตรกรรมสู่ความมั่นคง มั่งคั่งยั่งยืน" ว่า ข้อมูลในขณะนี้บ่งชี้ได้ว่าเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะไม่ดีไปอีก 1-2 ปี เพราะว่าจีนเป็นตลาดที่เป็นที่พึ่งของประเทศผู้ส่งออกมีการส่งออกติดลบ 25% ขณะที่ญี่ปุ่นเองก็ไม่ดี ดอกเบี้ยติดลบ ผู้ฝากจะต้องจ่ายเงินให้กับธนาคาร ขณะที่ธนาคารกลางยุโรปได้ประกาศดอกเบี้ยอ้างอิง 0% ธนาคารพาณิชย์ที่จะฝากเงินกับธนาคารกลางยุโรปจะต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ 0.4% เป็นการผลักเงินฝากออกไปสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
- "ธีรัชย์ อัตนวานิช" รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า หนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ม.ค. 2559 มีจำนวน 5.98 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 44.06% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อนหน้าหนี้สาธารณะลดลง 2.43 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาล 4.38 ล้านล้านบาท ลดลง 2.28 หมื่นล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1.04 ล้านล้านบาท ลดลง 431 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) 5.31 แสนล้านบาท ลดลง 1,137 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ 1.74 หมื่นล้านบาท ลดลง 5 ล้านบาท
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน (KR-ECI) เดือน ก.พ. 2559 ยังคงลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองมาที่ 44.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน จาก 45 ในเดือน ม.ค. โดยครัวเรือนส่วนใหญ่มีมุมมองในด้านลบมากขึ้นต่อภาวะตึงตัวระหว่างสภาพคล่องในกระเป๋ากับภาระหนี้สินและค่าใช้จ่าย
- กสทช.แจกใบอนุญาต 4จี ให้ทรูแล้ว ส่งผลเวลา 24.00 น. 15 มีนาคม ลูกค้าเอไอเอสในระบบ 2จี ซิมดับทันที ตั้งวอร์รูมส่องการโรมมิ่งกับดีแทคมีปัญหาใช้งานหรือไม่ ปัดข้อเสนอเอไอเอส ขอใช้คลื่นแจสทำโอทีเอ
*หุ้นเด่นวันนี้
- SENA (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 3.80 บาท คาดกำไรสุทธิปี 2559 จะกลับมาเติบโตได้โดดเด่นทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 492 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 94% YoY จาก 1.) ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะมีรายได้เติบโตแข็งแกร่งถึง 48% YoY และ 2.) ธุรกิจโซลาร์ฟาร์ม ขนาด 46.5 เมกกะวัตต์ (SENA ถือหุ้นในโครงการนี้ 51%) เริ่ม COD ไปตั้งแต่ปลายปี 2558 ทำให้ในปี 2559 จะรับรู้รายได้เต็มปี คาด SENA จะมีส่วนแบ่งกำไรจากโครงการนี้ปีละ 45 ล้านบาท นอกจากนั้น ในปี 2559 คาดว่ากำไรสุทธิในงวด 2Q59 จะมีโอกาสทำสถิติกำไรรายไตรมาสสูงสุดใหม่ เนื่องจากคาดว่าจะมีการโอนโครงการคอนโดมิเนียมเข้ามาค่อนข้างมาก ด้านราคาหุ้นปัจจุบันยังค่อนข้างถูก และคาดอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงราว 7% ต่อปี
- EPG (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 16.75 บาท ปัจจัยหลักที่หนุนผลการดำเนินงาน Q4 (ม.ค.-มี.ค.59) มาจากการเติบโตขึ้นของยอดขาย เนื่องจากยังเป็น High Season ของธุรกิจ พร้อมประเมินกำไรปกติที่ระดับ 430 ล้านบาท เติบโต 140% yoy โดยยังคงคาดหมายการเติบโตเฉลี่ยของกำไรสุทธิในช่วง 5 ปีข้างหน้าสูงถึงระดับ 36.5% ต่อปี เนื่องจากผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะทยอยออกสู่ตลาดจะเป็นกลุ่มสินค้าที่มีอัตรากำไรสูงกว่าระดับปัจจุบันมาก
- BIG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.50 บาท แนวโน้มกำไร 1Q59 อาจดีกว่าที่คาดไว้เดิม เพราะเพียงครึ่งไตรมาสทำได้แล้วเกือบเท่า 1Q58 ที่ราว 70 ลบ. จากการรุกตลาดกล้อง Mirrorless ระดับบนที่ผู้ผลิตทุกค่ายทยอยออกรุ่นใหม่มาตั้งแต่ต้นปี นอกจากนี้ยังมี Loss carry forward ที่ยังใช้ได้อีกราว 30 ลบ. จึงเป็นไปได้ที่กำไร 1Q59 จะโตในระดับ 100% Y-Y มาที่ 140-150 ล้านบาท ส่วนนโยบายจ่ายปันผลจะปรับเพิ่มเป็น 2 ครั้งต่อปี โดยคาดงวดละ 0.04 บาท/หุ้น เพิ่มจากทั้งปี 2015 ที่จ่าย 0.06 บาท/หุ้น (XD 9 พ.ค.)
ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ ขณะจับตาผลประชุม BOJ
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเปิดเผยผลการประชุมนโยบายในวันนี้
ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% สู่ระดับ 127.66 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,219.89 จุด ลดลง 13.86 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,853.98 จุด ลดลง 5.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,298.15 จุด ลดลง 137.19 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,745.57 จุด ลดลง 2.33 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,975.61 จุด เพิ่มขึ้น 3.34 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,851.92 จุด เพิ่มขึ้น 4.86 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,695.61 จุด ลดลง 4.70 จุด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน :ฟุตซี่ปิดบวก 34.78 จุด จากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเหมืองแร่
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 34.78 จุด หรือ 0.57% แตะที่ระดับ 6,174.57 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นเกลนคอร์ต่างก็ปรับตัวเพิ่มเขึ้นมากกว่า 4.4%
สำหรับ ข่าวความเคลื่อนไหวของบริษัทเอกชน หุ้นสเตจโค้ช กรุ๊ป ลดลง 5.4% หลังจากบริษัทเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัท โดยอ้างถึงธุรกิจรถรางที่อ่อนแอ
หุ้นแอดไมรอล กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทประกันรถยนต์ลดลง 2% หลังจากแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป และเอสเอสบีซี ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัท
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับ ECB ออกมาตรการกระตุ้นศก.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายยังคงได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานได้สกัดแรงบวกในตลาด และส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.7% ปิดที่ 344.66 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,506.59 จุด เพิ่มขึ้น 13.80 จุด หรือ +0.31% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,990.26 จุด พุ่งขึ้น 159.13 จุด หรือ +1.62% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,174.57 จุด เพิ่มขึ้น 34.78 จุด หรือ +0.57%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกเนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของ ECB โดยรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร สู่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 0.05% ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ECB ยังได้ประกาศเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) สู่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากเดิมที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยจะรวมถึงการซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนที่ไม่ใช่ธนาคารด้วย
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 6% หุ้นเกลนคอร์ ปรับขึ้น 4.4% และหุ้นโบลิเดน เพิ่มขึ้น 1.8%
อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานได้สกัดแรงบวกในตลาด โดยหุ้นโททาล ปรับตัวลง 0.6% หุ้นบีพีปรับลง 0.9%
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลง 2% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากรายงานที่ว่า อิหร่านวางแผนที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันในระดับเท่ากับช่วงก่อนถูกคว่ำบาตร นอกจากนี้ อิหร่านประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมเจรจากับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) หากยังผลิตน้ำมันได้ไม่ถึง 4 ล้านบาร์เรล/วัน
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 15.82 จุด ขณะนักลงทุนจับตาประชุมเฟด
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มขึ้นในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,229.13 จุด เพิ่มขึ้น 15.82 จุด หรือ +0.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,750.28 จุด เพิ่มขึ้น 1.81 จุด หรือ +0.04% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,019.64 จุด ลดลง 2.55 จุด หรือ -0.13%
ดัชนี ดาวโจนส์ปิดในแดนบวกหลังจากหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภคดีดตัวขึ้น โดยหุ้น Amazon.com หุ้นสตาร์บัคส์ และหุ้นวอลท์ ดีสนีย์ ต่างก็ปรับตวขึ้นแข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ WTI ได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงมากกว่า 3% หลังจากมีรายงานว่าอิหร่านเตรียมเพิ่มการผลิตน้ำมัน
การร่วงลงของราคาน้ำมันส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตราคาพลังงาน โดยมอร์แกน สแตนเลย์ออกรายงานเตือนว่า ภาวะเศรษฐกิจซบเซาทั่วโลก และการผลิตน้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับสูง จะสกัดการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน
มอร์แกน สแตนเลย์ยังระบุว่า ภาวะราคาน้ำมันถูกไม่ได้ช่วยกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้ โดยเมื่อราคาน้ำมันร่วงลงต่ำกว่าต้นทุนการผลิต ผลบวกด้านรายได้ที่ผู้บริโภคได้รับ จะน้อยกว่าต้นทุนของผู้ผลิตน้ำมัน ทำให้การดิ่งลงของราคาน้ำมันกลายเป็นสิ่งที่ให้ผลเป็นลบในที่สุด
นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมเฟดจะเริ่มขึ้นในวันที่ 15-16 มี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า เฟดจะประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และนักลงทุนจะคอยดูการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ด้วยเช่นกัน
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมัน โดยหุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี และหุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ต่างก็ร่วงลงกว่า 6.7%
หุ้นกลุ่มค้าปลีกปรับตัวลง โดยหุ้นดอลลาร์ ทรี อิงค์ ปรับตัวขึ้น 1.2% และหุ้นเกมสต็อป คอร์ป พุ่งขึ้น 3%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนก.พ., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.,
ดัชนี ภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนมี.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนมี.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB)
อินโฟเควสท์
