- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 10 March 2016 09:59
- Hits: 1240
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นทดสอบ 1,400 จุด ตาม Sentiment บวกจากตปท.
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับแนวต้านที่ 1,400 จุดได้ ตาม Sentiment ที่เป็นบวกจากต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก และราคาน้ำมันดิบก็ปรับตัวขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี ตลาดฯอาจจะยังรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ ซึ่งตลาดฯก็คาดหวังว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย, เพิ่มวงเงินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือขยายระยะเวลาการใช้ QE แต่ถ้าทาง ECB ไม่มีการพูดออกมาอย่างชัดเจน ตลาดฯก็อาจจะปรับตัวลงได้ในวันพรุ่งนี้ ดังนั้นเรื่องของ ECB จึงเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ จึงมองว่าตลาดฯคงจะปรับขึ้นก็ไม่แรง และหากจะปรับตัวลงก็ไม่มาก เพราะทุกคนต่างรอดูผลการประชุมจาก ECB
ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,380 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (9 มี.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,000.36 จุด เพิ่มขึ้น 36.26 จุด (+0.21%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,674.38 จุด เพิ่มขึ้น 25.56 จุด (+0.55%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,989.26 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด (+0.51%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 168.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 14.99 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 59.16 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 0.45 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 5.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 17.71 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.66 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 มี.ค.59) 1,390.66 จุด เพิ่มขึ้น 16.04 จุด (+1.17%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 477.51 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 มี.ค.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (9 มี.ค.59) ปิดที่ 38.29 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.79 ดอลลาร์ หรือ 4.9%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (9 มี.ค.59) ที่ 6.37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.27 แนวโน้มยังแข็งค่าได้ต่อ ตลาดรอลุ้นผลประชุม ECB วันนี้
- ผู้ช่วยเลขาธิการอาวุโส สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ตามกฎเกณฑ์การทำหน้าที่ของคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทจดทะเบียน เมื่อมีการขยายการลงทุนหรือการทำอะไรที่ปกติเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท กรรมการควรมีการเปิดเผยรายละเอียดให้ผู้ลงทุนชัดเจน อาทิ ความพร้อมทางการเงิน เช่นเดียวกับการซื้อหุ้นคืน กรรมการบริษัทก็ควรทำหน้าที่เปิดเผยข้อมูลอย่างชัดเจน แต่โดยหลักในการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนที่ครบถ้วนเป็นบทบาทของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
- สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ( สศค.) เปิดเผยรายงานสถานการณ์การเงินฐานราก ณ สิ้นไตรมาส 4 ปี 2558 ว่า สินเชื่อทั้งระบบของประเทศไทยมีรวม 18.56 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ 12.96 ล้านล้านบาท สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (แบงก์รัฐ) 4.07 ล้านล้านบาท และผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นันแบงก์) 1.3 แสนล้านบาท
- รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยความคืบหน้าการพัฒนาระบบชาระเงินอาเซียน (เอพีเอ็น) ว่า การเชื่อมโยงระบบชาระเงินมีพัฒนาการที่ดี ขณะนี้มีการเชื่อมโยงระบบเอทีเอ็มในรูปแบบของเอพีเอ็นในลักษณะการจับคู่ประเทศ เพื่อให้สามารถถอนเงินและสอบถามยอดระหว่างไทยกับอีก 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้ โดยไม่ต้องผ่านตัวกลางระหว่างประเทศแล้ว
- กนอ.เร่งหาพื้นที่เขตอีสเทิร์นซีบอร์ดรับซุปเปอร์คลัสเตอร์ ต่อยอดอุตฯขั้นสูงยานยนต์-ไฟฟ้า-ปิโตรเคมี คาด 2 สัปดาห์เสร็จ ชง 'สมคิด' อนุมัติ เผยนิคมอุตฯยางหรือรับเบอร์ซิตี้ เอกชนรายเล็ก-ใหญ่สนลงทุนแล้ว 17 ราย วางเป้าหมาย 3 ปีพื้นที่เต็ม
*หุ้นเด่นวันนี้
- CPF (ยูโอบี เคย์เฮียน) ราคาหุ้นผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วและจะกลับมาดีขึ้นในปี 59 เพราะราคาเนื้อหมูและไก่ฟื้นตัว และราคากากถั่วเหลืองซึ่งเป็นต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีแนวโน้มทรงตัวหรือลดลง รวมถึงปัญหา EMS ในกุ้งคลี่คลายไปเยอะแล้วในไตรมาส 4 ที่ผ่านมาและต้นทุนธุรกิจกุ้งลดลงจากการลดขนาดโรงงานแปรรูปกุ้ง ธุรกิจนี้จึงมีแนวโน้มกลับมาเป็นกำไรปีนี้หลังจากขาดทุนไปเยอะเมื่อปีก่อน แนะนำหุ้น CPF สำหรับทั้งเล่นสั้นและถือยาว
- CK (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 32.75 บาท คาดผลการดำเนินงานกลับเข้าสู่ระดับปกติใน 1Q/59 และมองว่าเป็นโอกาสในการเข้าลงทุนโดยเฉพาะในช่วงที่ราคาลดลงตามภาวะตลาดที่มีความผันผวน ภายใต้ปัจจัยบวกในระยะกลาง – ยาว จากแผนการประมูลงานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ซึ่งส่งผลดีโดยตรงต่อผู้ประกอบการกลุ่มรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ รวมถึง CK ที่คาดมีโอกาสในรับงานทุกประเภทที่เปิดประมูล ขณะที่ Backlog ของ CK ปัจจุบันอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง คาดรองรับการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 3 ปีข้างหน้า แม้ไม่มีงานใหม่เข้ามา
- HMPRO (กสิกรไทย) เป้า 8.20 บาท อยู่ในกลุ่ม SET50 ที่ยัง Laggard ตลาด และทิศทางการเติบโตของกำไรสุทธิผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 58 คาดปี 59 เติบโตถึง 18% YoY ด้าน SSSG กลับมาอยู่ในแดนบวกได้แล้วในไตรมาส 4/58 จากตลาดในกรุงเทพฯเป็นตัวผลักดัน อีกทั้งมีแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดย HomePros 5 สาขา, MEGAHomes สาขา และสาขาที่มาเลเซียอีก 1 สาขา ราคาเป้าหมายกลยุทธ์ระยะสั้น 7.70 บาท ตัดขาดทุนที่ 7.20 บาท
- EPG (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 15 บาท ราคาน้ำมันดิบที่ปรับสูงขึ้นไม่ได้เป็นลบ ราคาเม็ดพลาสติกไม่ได้ปรับขึ้นมากนัก ขณะที่ EPG เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีต้นทุนต่ำสุดรายหนึ่งจากกำลังการผลิตสูงและมีประสิทธิภาพ ขณะที่ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์และฉนวนยางยังเติบโตได้ดีในหลายๆประเทศ โดยเฉพาะชิ้นส่วนยานยนต์ที่เป็นดาวเด่นผลักดันการเติบโตใน 2-3 ปีข้างหน้า เราคาดเบื้องต้นกำไร 4Q16 (ม.ค.-มี.ค.16) เพิ่มขึ้นกว่า 10% Q-Q
ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ รับคาดการณ์แบงก์ชาติหลายประเทศกระตุ้นศก.
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า บรรดาธนาคารกลางของประทศต่างๆจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
ดัชนี MSCI Asia Pacific บวก 0.4% สู่ระดับ 125.51 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,811.00 จุด เพิ่มขึ้น 168.80 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,847.57 จุด ลดลง 14.99 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,055.42 จุด เพิ่มขึ้น 59.16 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,633.66 จุด ลดลง 0.45 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,958.87 จุด เพิ่มขึ้น 5.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,828.14 จุด เพิ่มขึ้น 17.71 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,684.69 จุด ลดลง 1.66 จุด
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างจับตาดูการประชุม ECB ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม โดยอาจจะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งขณะนี้มีวงเงินอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 20.88 จุด จากแรงซื้อหุ้นเหมืองแร่
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.88 จุด หรือ 0.34% ที่ 6,146.32 จุด
หุ้นเกลนคอร์เพิ่มขึ้น 2.5% จากการดีดตัวขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ หลังจากที่มีแรงเทขายสูงที่สุดในรอบ 1 เดือน
อย่างไรก็ตาม หุ้นเบอร์เบอร์รี กรุ๊ป ร่วงลง 6.8% หลังจากมีรายงานว่า บริษัทเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ระบุว่า การที่เอชเอสบีซีถือหุ้น 5% ในเบอร์เบอร์รีนั้น ถือเป็นสัดส่วนที่ปกติ ไม่ใช่การเสนอซื้อเพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้น
หุ้น G4S ร่วงลง 12% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการปี 2558 ที่ย่ำแย่กว่าที่คาดไว้
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก รับคาดการณ์ ECB ผ่อนคลายการเงินเพิ่ม
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบเบรท์ที่พุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.5% ปิดที่ 339.14 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,425.65 จุด เพิ่มขึ้น 21.63 จุด หรือ +0.49% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,723.09 จุด เพิ่มขึ้น 30.27 จุด หรือ +0.31% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,146.32 จุด เพิ่มขึ้น 20.88 จุด หรือ +0.34%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดในแดนบวก หลังจากนักวิเคราะห์คาดว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมวันนี้ (10 มี.ค.) โดยคาดว่า ECB อาจทำการเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งขณะนี้มีวงเงินอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน
นอกจากนี้ คาดว่า ECB อาจทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่นำเงินมาฝากไว้ที่ ECB จากขณะนี้ที่ระดับ -0.3% โดยธนาคารพาณิชย์จะต้องเป็นฝ่ายจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวของ ECB มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB และต้องการลดการออมของประชาชน เพื่อให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้นกว่า 3% ขานรับการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงจำกัดการผลิตในการประชุมเดือนนี้ โดยสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียจะประชุมกันในวันที่ 20 มี.ค. เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการผลักดันราคาน้ำมันขึ้น หลังจากที่ทรุดตัวลงก่อนหน้านี้
หุ้นพรูเดนเชียลพุ่งขึ้น 2.9% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด
หุ้นมีเดียเซ็ท เอสพีเอ ทะยานขึ้นกว่า 6% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทเทเลคอม อิตาเลีย จะเสนอซื้อธุรกิจในเครือของมีเดียเซ็ท ด้วยวงเงินราว 200 ล้านยูโร
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 36.26 จุด รับราคาน้ำมันพุ่ง
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากมีการคาดการณ์ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อจำกัดการผลิตในการประชุมเดือนนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับสัญญาณว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหรือไม่
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,000.36 จุด เพิ่มขึ้น 36.26 จุด หรือ +0.21% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,674.38 จุด เพิ่มขึ้น 25.56 จุด หรือ +0.55% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,989.26 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด หรือ +0.51%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นไปยืนเหนือระดับ 17,000 จุด เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 4.9% หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันเบนซินร่วงลง 4.5 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 มี.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 1.4 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงจำกัดการผลิตในการประชุมเดือนนี้ โดยสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และรัสเซียจะประชุมกันในวันที่ 20 มี.ค. เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการผลักดันราคาน้ำมันขึ้น หลังจากที่ทรุดตัวลงก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันได้หนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเชฟรอน ปรับขึ้น 4.6% หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 7.7% หุ้นดาวอน เอนเนอร์จี ปรับขึ้น 6.8% และหุ้นนิวฟิลด์ เอ็กซ์พลอเรชัน ทะยานขึ้น 5.8%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ หุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ และหุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 1%
นักลงทุนจับตาดูการประชุม ECB ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม โดยอาจจะเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งขณะนี้มีวงเงินอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนก.พ. และราคาส่งออกและนำเข้าเดือนก.พ.
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 มี.ค.2559
ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,000.36 จุด เพิ่มขึ้น 36.26 จุด +0.21%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,674.38 จุด เพิ่มขึ้น 25.56 จุด +0.55%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,989.26 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด +0.51%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,146.32 จุด เพิ่มขึ้น 20.88 จุด +0.34%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,723.09 จุด เพิ่มขึ้น 30.27 จุด +0.31%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,425.65 จุด เพิ่มขึ้น 21.63 จุด +0.49%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,215.70 จุด เพิ่มขึ้น 46.20 จุด +0.89%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,157.20 จุด เพิ่มขึ้น 49.20 จุด +0.96%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,634.11 จุด ลดลง 30.20 จุด -0.35%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,642.20 จุด ลดลง 140.95 จุด -0.84%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,952.95 จุด เพิ่มขึ้น 6.83 จุด +0.35%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,862.56 จุด ลดลง 38.83 จุด -1.34%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,948.18 จุด เพิ่มขึ้น 32.67 จุด +0.47%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 19,996.26 จุด ลดลง 15.32 จุด -0.08%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,810.43 จุด เพิ่มขึ้น 31.66 จุด +1.14%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,686.35 จุด ลดลง 1.51 จุด -0.09%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,793.96 จุด เพิ่มขึ้น 134.73 จุด +0.55%
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากมีการคาดการณ์ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อจำกัดการผลิตในการประชุมเดือนนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับสัญญาณว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมหรือไม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,000.36 จุด เพิ่มขึ้น 36.26 จุด หรือ +0.21% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,674.38 จุด เพิ่มขึ้น 25.56 จุด หรือ +0.55% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,989.26 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด หรือ +0.51%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบเบรท์ที่พุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ด้วย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.5% ปิดที่ 339.14 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,425.65 จุด เพิ่มขึ้น 21.63 จุด หรือ +0.49% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,723.09 จุด เพิ่มขึ้น 30.27 จุด หรือ +0.31% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,146.32 จุด เพิ่มขึ้น 20.88 จุด หรือ +0.34%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.88 จุด หรือ 0.34% ที่ 6,146.32 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) ขานรับการคาดการณ์ที่ว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถบรรลุข้อตกลงเพื่อจำกัดการผลิตในการประชุมเดือนนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐทั้งในปีนี้และปีหน้า
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดพุ่งขึ้น 1.79 ดอลลาร์ หรือ 4.9% แตะที่ 38.29 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดพุ่งขึ้น 1.42 ดอลลาร์ หรือ 3.6% แตะที่ 41.07 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) ทำสถิติปิดตลาดปรับตัวลงติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐได้กดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดลดลง 5.5 ดอลลาร์ หรือ 0.44% แตะที่ระดับ 1,257.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดลดลง 2.4 เซนต์ หรือ 0.16% แตะที่ระดับ 15.366 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดร่วงลง 6.6 ดอลลาร์ หรือ 0.67% แตะที่ 982.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดลบ 70 เซนต์ หรือ 0.5% แตะที่ 566.15 ดอลลาร์/ออนซ์
สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ เพื่อจับสัญญาณว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มอีกหรือไม่
ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1010 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1007 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.4221 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4214 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.33 เยน จาก 112.57 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9970 ฟรังก์ จาก 0.9963 ฟรังก์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7511 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7445 ดอลลาร์
ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 376.00 จุด เพิ่มขึ้น 10.00 จุด, +2.73%
อินโฟเควสท์