- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 16 February 2016 10:10
- Hits: 1562
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามภูมิภาค,FDI จีนแกร่ง-หวัง ECB กระตุ้นศก.
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกราว 0.3-0.7% ภายหลังจากตัวเลขFDI ของจีนงวดเดือนม.ค.59 เพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 1.4 หมื่นล้านหยวน ขณะที่ในเดือนธ.ค.58 จีนได้รับ FDI ลดลง 5.8% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 7.702 หมื่นล้านหยวน
นอกจากนี้ ทางธนาคารกลางยุโรป (ECB) ก็ออกมาบอกว่าพร้อมทำการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 10 มี.ค.พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆในยูโรโซนดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย ซึ่งทำให้เป็นบวกต่อตลาดในยุโรป และส่งผลมาถึงตลาดภูมิภาคในเช้านี้ด้วย ส่วนคืนนี้ก็คาดว่าดัชนีดาวโจนส์คงจะปรับตัวขึ้นเช่นกัน
พร้อมให้แนวรับ 1,275 จุด ส่วนแนวต้าน 1,295-1,300 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (15 ก.พ.59) ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 173.11 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 12.38 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 95.60 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 24.40 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 7.90 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.07 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.47 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (15 ก.พ.59) 1,288.40 จุด เพิ่มขึ้น 11.91 จุด (+0.93%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 143.53 ล้านบาท เมื่อวันที่ 15 ก.พ.59
- ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (15 ก.พ.59) ปิดทำการเนื่องในวันประธานาธิบดี
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (15 ก.พ.59) ที่ 7.41 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.62/64 แนวโน้มอ่อนค่ารอปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง
- เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ผลจากที่สถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกได้เปลี่ยนแปลงไปจากที่ประมาณการไว้ในช่วงเดือน พ.ย. 2558 มากกว่าที่คาด ทำให้ส่งผลกระทบต่อการส่งออกได้ สศช.จึงได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปีนี้ลงเหลือ 2.8-3.8% มีค่ากลางที่ 3.3% จากเดิมน่าจะโตได้ 3-4%
- "คมนาคม-กพท."สั่งนกแอร์รายงานข้อเท็จจริงใน 3 วัน เหตุนักบินประท้วงยกเลิก 9 เที่ยวบิน "ออมสิน" เรียก 14 แอร์ไลน์ทำความเข้าใจ ป้องกันเหตุซ้ำรอย สั่งทำแผนรับมาตรการฉุกเฉินและมอบอำนาจนายสถานีตัดสินใจได้ทันที ขู่ผิดซ้ำโดนพักใบอนุญาต ซ้ำครั้งที่ 3 อาจต้องเพิกถอน ด้าน "นกแอร์" เมินไม่ร่วมประชุม
- รฟม.เสนอของบประมาณอุดหนุนรถไฟฟ้าสายสีม่วงช่วง 11 ปีแรกหลังคำนวณพบแบกขาดทุนก่อนจะมีกำไรในปี 12 ส่วนเดินรถ 1 สถานี BEM ยันขยายเวลาจ้างแค่ 2 ปี เตรียมแผนสำรองรวมสัญญากับสีน้ำเงิน
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมเพื่อซักซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 ว่า ขณะนี้ส่วนราชการขอใช้งบมา 3.31 ล้านล้านบาท เกินกรอบงบประมาณที่ตั้งไว้ที่ 2.73 ล้านล้านบาท ถึง 5.8 แสนล้านบาท จึงสั่งหน่วยงานต่างๆ กลับไปพิจารณาตัดงบส่งกลับมาใหม่ในอีก 1 เดือน
*หุ้นเด่นวันนี้
- JASIF (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 11 บาท การชนะการประมูลใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900MHz ทำให้ความน่าสนใจของ JASIF และ JAS ลดลงในเชิงพื้นฐาน ราคาหุ้น JASIF ปรับลง 15% สะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว คาด downside ราคาหุ้นจำกัด จากการเข้าสู่ตลาด 4G ของ JAS อีกทั้งคาด Upside ราคาหุ้นอยู่ที่การประกาศผู้ร่วมทุนของ JAS มองการเล่นรอบของราคาหุ้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยหุ้นจะเป็นรูปแบบของการซื้อขายตามสถานการณ์
- TVT (โกลเบล็ก) เป้า Consensus เฉลี่ย 2.19 บาท คาด Q4/15 มีกำไรสูงสุดของปี (Consensus คาด 20 - 26 ล้านบาท +150% QoQ ) จากการรับรู้รายได้จากการรับจ้างผลิตละครและรายได้จัด Event เพิ่มส่งผลให้กำไรปี 58 +ราว 10% เป็น 45-50 ล้านบาท พร้อมคาดกำไรปี 59 ยังคงเติบโตจากจำนวนรายการที่รับจ้างผลิตออกอากาศเพิ่มขึ้น 6 รายการ และคาด Q1/59 มีการปิดดีล M&A ธุรกิจผลิตรายการทีวี 1 ราย
- PTTGC (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 65 บาท ปีนี้ได้แรงหนุนธุรกิจโรงกลั่นเป็นหลักท่ามกลางภาวะราคาน้ำมันดิบอ่อนตัวส่งผลให้อุปสงส์ปรับเพิ่มขึ้น, ปี 59 ได้แรงหนุนจากโครงการ debottlenecking และ Phenol II และ upside 22% มากกว่า downside risk ที่ประเมินไว้ที่ 13% จากการคำนวนมูลค่าเลิกกิจการที่ 46.05 บาท อิงสมมติฐานกรณีเลวร้ายสุดที่มีการบันทึกด้อยค่าเม็ดเงินลงทุน 450 ล้านเหรียญฯ ในบริษัท Myriant, NatureWork, Vencorex และ dividend yield 2H58 2.45% จากปันผล 1.30 บาทต่อหุ้น (XD 25 ก.พ.) ส่วน 4Q58 มีกำไรสุทธิ 4,691 ล้านบาท
- GL (เคจีไอ) "ซื้อ"เป้า 26.50 บาท ผลงาน 4Q15 แสดงธุรกิจในกัมพูชาไปได้ดีมีโอกาสเติบโตได้อย่างมากจากทั้งการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อรถมอเตอร์ไซค์ และสินเชื่อ SME ให้ดีลเลอร์ คาดพอร์ตสินเชื่อโตอย่างแข็งแกร่ง (จาก +100% ในปี 58) หนุนพอร์ตสินเชื่อรวมโตได้ถึง 37% ในปี 58 และจากการขยายธุรกิจในลาวเริ่มทำกำไร คาดรายได้ลาวเริ่มมีนัยสำคัญในปีนี้ ในขณะที่อินโดนีเซียจะเป็นประเทศถัดไปในปี 60
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับ FDI จีนแข็งแกร่ง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากมีรายงานว่าตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีน ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในเดือนม.ค. อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดอ่อนแรงลงเนื่องจากแรงขายทำกำไร
ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้น 0.1% สู่ระดับ 117.63 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,849.47 จุด ลดลง 173.11 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,758.58 จุด เพิ่มขึ้น 12.38 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,013.74 จุด เพิ่มขึ้น 95.60 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,090.91 จุด เพิ่มขึ้น 24.40 จุด
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,870.10 จุด เพิ่มขึ้น 7.90 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,602.83 จุด ลดลง 5.07 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,651.43 จุด เพิ่มขึ้น 1.47 จุด
ตลาดหุ้นบางแห่งในเอเชียได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 1.41 หมื่นล้านหยวน
นอกจากนี้ จีนสามารถดึงดูดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศนอกภาคการเงินทั้งปีที่แล้ว สู่ระดับ 1.2627 แสนล้านดอลลาร์ หรือ 7.814 แสนล้านหยวน เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 6.4% ในปี 2014 ถึงแม้จีนประสบภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวก็ตาม
ส่วนในเดือนธ.ค. จีนได้รับ FDI ลดลง 5.8% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 7.702 หมื่นล้านหยวน (1.223 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดพุ่ง 116.68 จุด รับความหวัง ECB,BOJ กระตุ้นศก.
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความคาดหวังว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติม โดยเมื่อวานนี้นายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB ส่งสัญญาณว่า ECB มีความพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมเดือนหน้า
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,824.28 จุด พุ่งขึ้น 116.68 จุด หรือ +2.04%
ตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้นหลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวต่อรัฐสภายุโรปเมื่อวานนี้ว่า ECB พร้อมทำการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 10 มี.ค. หากความผันผวนในตลาดการเงินในระยะนี้ และผลกระทบในระยะยาวของราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง มีแนวโน้มที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า BOJ จะเดินหน้าใช้นโยบายการเงินเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในเมื่อวานนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2558 ของญี่ปุ่น หดตัวลง 1.4% โดยมีมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแอลง
หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ปรับตัวขึ้น 1.4% หลังจากคณะกรรมการของเอชเอสบีซีมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงสำนักงานใหญ่เอาไว้ที่กรุงลอนดอน และจะไม่ย้ายไปที่ฮ่องกงหรือที่อื่น หลังจากที่ได้ดำเนินการทบทวนเป็นเวลา 10 เดือน
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 5.1% และหุ้นเกลนคอร์ ปรับตัวขึ้น 2.8%
เร็คกิตท์ เบนไคเซอร์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตถุงยางอนามัย Durex และยาแก้ปวด Nurofen ปรับตัวขึ้น 6.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2558 ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดพุ่ง รับ ECB ส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงิน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) ขานรับนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ส่งสัญญาณว่า ECB มีความพร้อมที่จะผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมเดือนหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวขึ้นของหุ้นกลุมการเงิน
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 3% ปิดที่ 321.76 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,115.25 จุด พุ่งขึ้น 120.19 จุด หรือ +3.01% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,206.84 จุด ทะยานขึ้น 239.33 จุด หรือ +2.67% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,824.28 จุด เพิ่มขึ้น 116.68 จุด หรือ +2.04%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นหลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB กล่าวต่อรัฐสภายุโรปเมื่อวานนี้ว่า ECB พร้อมทำการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 10 มี.ค. หากความผันผวนในตลาดการเงินในระยะนี้ และผลกระทบในระยะยาวของราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลง มีแนวโน้มที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ
นอกจากนี้ นายดรากียังได้เรียกร้องให้รัฐบาลต่างๆในยูโรโซนดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศด้วยการออกนโยบายทางการคลังที่สนับสนุนการขยายตัวของประเทศ และเพิ่มการลงทุนในภาครัฐ ขณะที่ลดอัตราภาษีลง
ทั้งนี้ นายดรากียังกล่าวด้วยว่า ผู้กำหนดนโยบายของประเทศต่างๆในยูโรโซนจะต้องให้ความร่วมมือมากขึ้น หากต้องการทำให้ยูโรโซนฟื้นตัว และเอาชนะความท้าทายในตลาดโลก
หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นดอยช์แบงก์ พุ่งขึ้น 12% หลังจากดอยช์แบงก์ยืนยันว่า ทางธนาคารจะซื้อคืนหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ์มูลค่ากวา 5 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ดอยช์แบงก์จะทำคำเสนอซื้อหุ้นกู้ไม่มีประกันสกุลยูโรมูลค่า 3 พันล้านยูโร (3.38 พันล้านดอลลาร์) และทำคำเสนอซื้อหุ้นกู้สกุลดอลลาร์มูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์
ขณะที่หุ้นคอมเมิร์ซแบงก์ พุ่งขึ้น 18% หลังจากธนาคารประกาศแผนจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550 ส่วนหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปรับตัวขึ้น 5.6%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวผันผวน โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 5.1% แต่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับตัวลง 0.43%
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการคืนนี้ เนื่องในวันประธานาธิบดี
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดทำการคืนนี้ (15 ก.พ.) เนื่องในวันประธานาธิบดี
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อวันศุกร์ (12 ก.พ.) โดยตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้น หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้แสดงความพร้อมที่จะเจรจากับผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,973.84 จุด เพิ่มขึ้น 313.66 จุด หรือ +2.00% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,337.51 จุด เพิ่มขึ้น 70.67 จุด หรือ +1.66% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,864.78 จุด เพิ่มขึ้น 35.70 จุด หรือ +1.95%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวก หลังนายซูฮาอิล บิน โมฮัมเหม็ด อัล-มาซรูเอ รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) กล่าวว่า กลุ่มโอเปกพร้อมให้ความร่วมมือในการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันร่วมกับกลุ่มผู้ส่งออกรายอื่นๆ เพื่อผลักดันให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นในเวลาต่อไป
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นกว่าคาดการณ์ ช่วยบรรเทาความวิตกเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนม.ค. สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 0.1% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.
อินโฟเควสท์