- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 12 February 2016 10:19
- Hits: 2908
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดภูมิภาค เหตุกังวลเศรษฐกิจโลกมากขึ้น
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงต่อ ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ติดลบเฉลี่ย 0.5-0.6% ยกเว้นตลาดญี่ปุ่นที่ติดลบถึง 4% เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกมากขึ้น และทางประธานธนาคารกลางสหรัฐ ก็ออกมาย้ำว่า ความผันผวนของเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเริ่มไม่แน่นอน และในเดือนมี.ค.นี้เฟดคงจะไม่ขึ้นดอกเบี้ยแล้ว
ส่วนทางยุโรปก็มีปัจจัยลบจากที่วานนี้ทางธนาคารโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ธนาคารรายใหญ่ของฝรั่งเศส ได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/58 ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้นักลงทุนกังวลสถานะแบงก์ในยุโรปมากขึ้น จากความสามารถในการทำกำไรที่แย่ลง และกังวลเรื่องหนี้เสียด้วย รวมทั้งราคาน้ำมันดิบก็ได้ปรับตัวลง แต่เช้านี้ราคาน้ำมันฟิวเจอร์สได้ดีดกลับขึ้นมา ภายหลังจากที่สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้ออกมาบอกว่าทางกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) น่าจะลดกำลังการผลิตได้แล้ว
อย่างไรก็ดี นักลงทุนขณะนี้อยู่ในโหมดของความเสี่ยง ทั้งราคาน้ำมันที่ปรับลง, หุ้นที่ปรับตัวลง, เงินเยนแข็งค่า ขณะที่ราคาทองคำก็พุ่งแรง การลงทุนจึงต้องระมัดระวังด้วย
พร้อมให้แนวรับ 1,275-1,260 จุด ส่วนแนวต้าน 1,290-1,295 จุด
ประเด็นการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (11 ก.พ.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,660.18 จุด ร่วงลง 254.56 จุด (-1.60%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,266.84 จุด ลดลง 16.75 จุด (-0.39%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,829.08 จุด ลดลง 22.78 จุด (-1.23%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 287.12 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 267.00 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 10.87 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.29 จุด
ส่วนตลาดหุ้นจีน, ตลาดหุ้นไต้หวัน ยังคงปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (11 ก.พ.59) 1,280.74 จุด ลดลง 24.00 จุด (-1.84%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 190.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ก.พ.59
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (11 ก.พ.59) ปิดที่ 26.21 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 4.5%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (11 ก.พ.59) ที่ 6.74 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.25/27 มีโอกาสแข็งค่าต่อเนื่อง มองกรอบวันนี้ 35.10-35.35
- นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงสุนทรพจน์ประจำปีเรื่อง "แนวโน้มเศรษฐกิจไทย และทิศทางการดำเนินนโยบาย ธปท. ปี 2559"ว่า เศรษฐกิจไทยยังต้องเผชิญกับความผันผวนในตลาดเงินตลาดทุนต่อไปตลอดทั้งปี และยังมีโอกาสที่จะผันผวนเพิ่มขึ้นด้วย และอาจจะทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้าออกเปลี่ยนแปลงเร็ว ส่งผลต่อค่าเงินบาทผันผวนตาม
- อธิบดีกรมบัญชีกลาง เผยการแก้ปัญหาการเบิกจ่ายงบลงทุนเร่งด่วนตำบลละ 5 ล้านบาทในช่วงที่ผ่านมา โดยการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของคลังจังหวัดในการบันทึกการเบิกจ่าย และขยายเวลาทำงาน ส่งผลให้แต่ละจังหวัดมีการเบิกจ่ายเพิ่มขึ้น และคาดว่าการเบิกจ่ายเงินทั้งหมด 3.6 หมื่นล้านบาท จะหมดได้ภายในสิ้นเดือน มี.ค.2559 ตามที่รัฐบาลกำหนดไว้
- พลังงานยันไม่เก็บเงินเข้ากองทุนเพิ่ม อยากให้ประชาชนใช้น้ำมันถูกตามราคาตลาดโลก ด้าน กกพ.เผยต้นทุนเอฟที พ.ค.ขยับ แต่จะกดค่าไฟไว้เท่าเดิม เพื่อลดภาระประชาชน เบนซินลดอีก 50-70 สต.
- รัฐหนุนเต็มสูบ อัดงบปี 60 กว่า 2 พันล้านบาท จ่ายสมทบสมาชิก พร้อมเคาะงบประมาณปี 59 อีก 170 ล้านบาท ปูพรมประชาสัมพันธ์ดูดสมาชิก 1.5 ล้านราย
*หุ้นเด่นวันนี้
- PSTC-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 442,251,470 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 29 มกราคม 2559) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 ก.ค. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 28 ม.ค. 2562
- ICHI (ซีไอเอ็มบี) "ซื้อ"เป้า 15.80 บาท เชื่อราคาหุ้นจะถูกกดดันด้วยผลกำไรที่อ่อนตัวใน 4Q15 พร้อมปรับลดประมาณการกำไรของ ICHI 19-21.6% สะท้อนกำไรที่ต่ำกว่าคาดในปี FY15 เพราะยอดขายอ่อนตัว และค่าใช้จ่ายสูงกว่าคาด ด้านราคาหุ้น ICHI คาดจะปรับตัวลงหลังประกาศผลประกอบการ FY15 ซึ่งมองว่าเป็นโอกาสดีที่จะเข้าซื้อก่อนเปิดตัวแคมเปญสำหรับหน้าร้อน
- SPALI (โกลเบล็ก) เป้า 27 บาท ยอดขาย presale ปี 58 ทำได้ตามเป้า 2.3 หมื่นล้านบาท คาดกำไร 4Q58 ราว 1.4 พันล้านบาท -22%YoY แต่ +9%QoQ กำไรปี 58 ที่ 4.6 พันล้านบาท +3% YoY ส่วนปี 59 มียอดขายรอโอน (backlog) 1.37 หมื่นล้านบาท คาดรายได้และกำไรปี 59 ที่ 2.2 หมื่นล้านบาทและ 5.2 พันล้านบาทซึ่ง +6% และ +12% ตามลำดับ ทั้งนี้แนวโน้มกำไร 1Q59 สดใสจากมาตรการลดหย่อนภาษีที่จะสิ้นสุดปลายเดือน เม.ย.ด้านเงินปันผลโดดเด่นราว 6% (คาดปันผลปี 58 ราว 1.13 บาท/หุ้น จ่ายระหว่างกาลแล้ว 0.50 บาทเหลืออีก 0.63 บาท )
- TPCH (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 23.20 บาท ราคาหุ้นสะท้อนประเด็นลบแล้วทั้งความล่าช้าการก่อสร้างโรงไฟฟ้า แนวโน้มค่า Ft ที่ลดลง และความล่าช้างานประมูลภาครัฐ คาด ROE ปี 59 ที่ 21% สูงกว่า WACC ที่ 11% ประเมิน upside 1 บาทต่อหุ้นจากแผนซื้อโรงไฟฟ้าชีวมวล 2 แห่งรวม 20 MW และได้เปรียบด้านต้นทุนและความเสี่ยงเมื่อเทียบกับคู่แข่ง คาดปี 59 เติบโตก้าวกระโดดแรงหนุนจาก 3 โครงการเตรียม COD (MGP TSG SGP) ส่วน 4Q58F คาดกำไรสุทธิ 21 ล้านบาท +294%QoQ
ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเช้านี้ เหตุวิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันเงินเยนที่แข็งค่าก็ฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นร่วงลง
ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 1.7% สู่ระดับ 114.50 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.10 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,426.27 จุด ลดลง 287.12 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 18,278.80 จุด ลดลง 267.00 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,850.67 จุด ลดลง 10.87 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,536.55 จุด ลดลง 1.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,643.66 จุด ลดลง 0.29 จุด ส่วนตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นไต้หวันยังคงปิดทำการวันนี้เนื่องในเทศกาลตรุษจีน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐวันนี้ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกเดือนม.ค., ราคาส่งออกและนำเข้าเดือนม.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดร่วง 135.33 จุด จากแรงขายหุ้นแบงก์, หุ้นเหมือง
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) เนื่องจากมีแรงเทขายอย่างหนักในหุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นกลุ่มเหมือง ซึ่งฉุดตลาดให้แตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปี
ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 135.33 จุด หรือ 2.39% ที่ 5,536.97 จุด
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวย่ำแย่ จากความวิตกเกี่ยวกับศักยภาพในการทำกำไรที่ระดับต่ำของภาคอุตสาหกรรมธนาคาร ท่ามกลางภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ขณะเดียวกัน ความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีการใช้น้ำมันและโลหะรายใหญ่ของโลก ก็ได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองให้ย่ำแย่ลง
หุ้นริโอ ทินโต ปรับลง 3.4%, หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ติดลบ 3% และหุ้นแองโกล อเมริกัน ลดลง 3.4% ขณะที่หุ้นเกลนคอร์ ร่วง 6.2% หลังบริษัทรายงานว่าผลผลิตทองแดงและสังกะสีลดลงในช่วงไตรมาส 4
นักวิเคราะห์กล่าว่า การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบและความวิตกต่อเนื่องเกี่ยวกับภาคธนาคารกำลังเป็นปัจจัยที่ถ่วงตลาดหุ้นลอนดอน
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดร่วง วิตกราคาน้ำมันซบ,เศรษฐกิจโลกชะลอตัว
ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเศรษฐกิจทั่วโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.7% ปิดที่ 303.58 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2556
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,896.71 จุด ร่วงลง 164.49 จุด หรือ -4.05% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,752.87 จุด ลดลง 264.42 จุด หรือ -2.93% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,536.97 จุด ลดลง 135.33 จุด หรือ -2.39%
นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมัน WTI ตลาดนิวยอร์กที่ร่วงลงหลุดจากระดับ 27 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคูชิง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐ พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจโลกได้สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ พร้อมกับแสดงความกังวลต่อการทรุดตัวลงอย่างมากของราคาพลังงาน และการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์
หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงอย่างหนักและเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ฉุดตลาดหุ้นยุโรปอ่อนแรงลงด้วย โดยหุ้นเครดิต สวิส ร่วงลง 8.4% และปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2534 หุ้นยูนิเครดิต ร่วงลง 7%
หุ้นโซซิเอเต เจเนอราล (ซอคเจน) ธนาคารรายใหญ่ของฝรั่งเศส ดิ่งลง 13% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรสุทธิในไตรมาส 4/2558 ที่ระดับ 656 ล้านยูโร (741 ล้านดอลลาร์) ซึ่งแม้ว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2557 ที่ระดับ 549 ล้านยูโร แต่ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 944 ล้านยูโร
หุ้นริโอ ทินโต บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในปี 2558 ร่วงลงอย่างหนักถึง 51% สู่ระดับ 4.5 พันล้านดอลลาร์ จากปี 2557 ที่ระดับ 9.3 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลง จากผลพวงของเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 254.56 จุด เหตุวิตกศก.ฉุดหุ้นแบงก์ดิ่ง
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 250 จุดเมื่อคืนนี้ (11 ก.พ.) โดยตลาดได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นกลุ่มธนาคาร อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกจะยังคงสร้างแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ ตลาดยังอ่อนแรงลงหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เน้นย้ำในการแถลงวันที่ 2 ว่า ความผันผวนของเศรษฐกิจทั่วโลกได้สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,660.18 จุด ร่วงลง 254.56 จุด หรือ -1.60% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,266.84 จุด ลดลง 16.75 จุด หรือ -0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,829.08 จุด ลดลง 22.78 จุด หรือ -1.23%
หุ้นกลุ่มธนาคารถูกกระหน่ำขายอย่างหนักและเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงเมื่อคืนนี้ โดยนักลงทุนวิตกกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกจะยังคงสร้างแรงกดดันต่ออัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ หุ้นเจพีมอร์แกน ดิ่งลง 4.4% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 6.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ปปรับตัวลงมากกว่า 6.5% ขณะที่หุ้นโกลด์แมนแซค ร่วงลงกว่า 4%
หุ้นโบอิ้งร่วงลง 6.8% หลังจากมีรายงานว่า คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐกำลังตรวจสอบกรณีการคาดการณ์ยอดขายเครื่องบินและการคำนวณต้นทุนของโบอิ้ง รวมทั้งข่าวที่ว่าโบอิ้งกำลังวางแผนปรับลดจำนวนพนักงานในแผนกเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดของบริษัท เนื่องจากบริษัทต้องการลดต้นทุนค่าใช้จ่าย เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
หุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก และหุ้นยูเนียน แปซิฟิก ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 1.8%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังร่วงลงหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้กล่าวแถลงเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาเมื่อวานนี้ว่า การเปลี่ยนแปลงในเศรษฐกิจโลกได้สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ แต่ก็ยังเป็นการเร็วเกินไปที่จะรู้ว่าความเสี่ยงเหล่านั้นมีความรุนแรงมากพอที่จะทำให้เฟดเปลี่ยนแปลงทิศทางนโยบายอัตราดอกเบี้ยหรือไม่
นางเยลเลนยังยอมรับว่า เฟดมีความประหลาดใจต่อการทรุดตัวลงอย่างมากของราคาพลังงาน และการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์
สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 269,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ก.พ. โดยอยู่ต่ำกว่าระดับ 281,000 ที่คาดการณ์ไว้
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐวันนี้ รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนม.ค., ราคาส่งออกและนำเข้าเดือนม.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.
อินโฟเควสท์