WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET24ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นตามราคาน้ำมัน-สัญญาณ Flow ต่างชาติบวก

   นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นได้ เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวขึ้น 4 วันติดต่อกัน และทางธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)มีนโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบด้วย ทั้งนี้เช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้อยู่ในแดนบวก แต่ก็ขณะนี้เมื่อตลาดหุ้นจีนเปิดมาก็เริ่มเห็นการอ่อนตัวลงบ้าง

      อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลขดัชนีภาคการผลิต(PMI)ของหลายประเทศที่จะทยอยประกาศออกมา วันนี้เป็นคิวของจีน แต่ถึงจะออกมาไม่ดี แต่ก็เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยน่าจะยังอยู่ในแดนบวกได้ เนื่องจากเริ่มเห็นสัญญาณเงินทุนต่างชาติไหลเข้าจากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ และผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาแล้วดีกว่าคาดเฉลี่ยราว 6% ทำให้มองว่าน่าจะมีการเข้ามาเล่นเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทที่เหลือ และหุ้นปันผล อีกทั้งปกติในช่วงเดือน ก.พ.ของทุกปีหุ้นก็มักจะปรับตัวขึ้นด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,290 จุด ส่วนแนวต้าน 1,310-1,315 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (29 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,466.30 จุด เพิ่มขึ้น 396.66 จุด (+2.47%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,613.95 จุด เพิ่มขึ้น 107.27 จุด (+2.38%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,940.24 จุด เพิ่มขึ้น 46.88 จุด (+2.48%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 181.30 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 6.62 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 87.85 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.03 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.56 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.94 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 17.90 จุด

   ด้านตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Federal Territory Day

       - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ม.ค.59)1,300.98 จุด เพิ่มขึ้น 12.58 จุด (+0.98%)

      - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,471.10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ม.ค.59

       - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (29 ม.ค.59) ปิดที่ 33.62 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ 1.2%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ม.ค.59) ที่ 8.49 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 35.73/75 ทิศทางแข็งค่าต่อหลัง BOJ ใช้นโยบายดบ.ติดลบ-รอผลกนง.

      - นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า คลังจะเสนอมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยและได้รับผลกระทบจากภัยแล้งให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบเพิ่มเติม ซึ่งเป็นมาตรการใหม่ที่คลังได้หารือกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ปล่อยกู้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับทั้งเกษตรกรและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่เป็นเกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนมากขึ้น

      - น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศ ตรวจสอบราคาสินค้าตามตลาดต่างๆ อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะเนื้อหมู เนื้อไก่ ไข่ไก่ และผลไม้บางชนิดที่อาจขาดแคลนช่วงตรุษจีน จนผู้บริโภคเดือดร้อน หากในพื้นที่ใดมีราคาแพงมากเกินไปจะประสานงานกับตลาดกลางในการกระจายสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

     - นายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) และนักวิชาการ เปิดเผยในงานสัมมนาทางวิชาการเรื่อง "ทิศทางเศรษฐกิจ พลังงาน การลงทุนปี 2559 จะทำกำไรได้อย่างไร?" จัดโดยชมรมตุลาประชาธิปไตย และสถาบันพัฒนาศักยภาพนักลงทุน ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจ พลังงาน และการลงทุน มีความผันผวน โดยมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามใกล้ชิด พร้อมคาดว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะลดลงต่อไปใน 3-6 เดือนข้างหน้า ซึ่งดัชนีตลาดหุ้นหลักมีโอกาสอ่อนตัวลง 5-15%

      - แบงก์ตรวจเข้มก่อนปล่อยเงินกู้อนุมัติแบงก์การันตีทรู-แจสจ่ายค่าประมูล 4จี หวั่นซ้ำรอยผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลเจอปัญหาการเงินอย่างหนักจนจอดำ ชี้อุตฯโทรคมนาคมต้องลงทุนทั้งค่าใบอนุญาต โครงข่ายจำนวนมาก จนอาจทำธุรกิจไม่ได้ ด้าน กสทช.ให้เวลา 90 วัน ก่อนจัดประมูลใหม่ หรือให้สิทธิอันดับ 3 และ 4 แทน

*หุ้นเด่นวันนี้

     - BJCHI (เคทีบี) เป้า 8.90 บาท จากราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น คาดเป็นผลบวกต่อ BJCHI เนื่องจากบริษัทฯมีลูกค้าหลักที่ทำธุรกิจที่อิงกับน้ำมัน และปี 2559 บริษัทฯมีแผนเข้าร่วมประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นงาน ประเภทโครงเหล็กและวิศวกรรมต่างๆ ในต่างประเทศ คิดเป็นมูลค่าเกือบ 7 พันล้านบาท โดยจะทยอยประกาศผลหรือสรุปได้ในช่วงต้นปี 59 หากบริษัทฯได้รับงานมาก จะช่วยเสริมรายรับในอนาคต พร้อมประมาณรายได้ปี 2559 จะเติบโตราว 21% YoY และกำไรจะเติบโตราว 12% YoY อีกทั้งยังอยู่ระหว่างซื้อหุ้นคืน 40 ล้านหุ้น วงเงินไม่เกิน 250 ล้านบาท เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทฯให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยคาดว่า Dividend Yield ทั้งปี 58 จะสูงประมาณ 5-6%

     - IRPC (ยูโอบี เคย์เฮียน) เป้า 5.70 บาท ได้ประโยชน์จากค่าการกลั่นและ olefins spread ที่แข็งแกร่งและโครงการ UHV และ Everest จะเข้ามาช่วยหนุนกำไรในปีนี้อย่างชัดเจนด้วย

      - PS (ยูโอบี เคย์เฮียน) เป้า 34 บาท มี Townhouse ราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทพร้อมโอนในมือค่อนข้างสูง ได้ประโยชน์จากนโยบายกระตุ้นการโอนและยอด presales ที่แข็งแกร่งด้วย บวกกับได้เน้นบ้านเดี่ยวและ segment ที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งไม่มีความเสี่ยงสูงและยังคงได้ประโยชน์จาก demand ที่ดีอยู่

    - SYNEX (โกลเบล็ก) เป้า 5.30 บาท คาดกำไรปี 2015 โตก้าวกระโดดเป็น  337 ล้านบาท +86% YoY  จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะ Smart phone  Huawie ที่บริษัทได้เป็นตัวแทนรายเดียวในไทย รวมถึงการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงปลายปีของภาครัฐที่สามารถนำไปหักภาษี 15,000 บาท พร้อมคาดกำไรปี 2559 ที่ 354 ล้านบาท  +5% YoY ขยายตัวได้ดีจากการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้า margin สูง, การขยายตลาดอินโดไชน่า

     - TRUE (โกลเบล็ก) มองการที่บริษัทประกาศเพิ่มทุน 6 หมื่นล้านบาท โดยออกหุ้นใหม่ 1.5 หมื่นล้านหุ้น เสนอขายผู้ถือหุ้นเดิมนั้น เป็นปัจจัยกดดันต่อราคาหุ้นแต่คาดว่าไม่มากนักเนื่องจากมีการคาดการณ์ก่อนหน้าแล้วว่า TRUE มีโอกาสที่จะเพิ่มทุนสูงหลังจากฐานะทางการเงินอ่อนแอ ทั้งนี้ มูลค่าทุนส่วนที่เพิ่มคิดเป็น 24.38% ของทุนที่เรียกชำระแล้ว

     - SPRC หลุดจากการบังคับให้ต้องวางเงินสดไว้ล่วงหน้าเต็มจำนวนก่อนที่จะซื้อ (Cash Balance) ตั้งแต่วันนี้ หลังจากที่สิ้นสุดการใช้ Cash Balance ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 21 ธ.ค.58 ถึงวันที่ 29 ม.ค.59

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับ BOJ ใช้นโยบายดอกเบี้ยติดลบ

   ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ

     ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.4% แตะ 121.82 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,699.60 จุด เพิ่มขึ้น 181.30 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,730.98 จุด ลดลง 6.62 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,770.96 จุด เพิ่มขึ้น 87.85 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,164.24 จุด เพิ่มขึ้น 19.03 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,919.62 จุด เพิ่มขึ้น 7.56 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,637.05 จุด เพิ่มขึ้น 7.94 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,705.52 จุด เพิ่มขึ้น 17.90 จุด ด้านตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Federal Territory Day

    ทั้งนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินไว้ในการประชุมเมื่อวันศุกร์ พร้อมกับมีมติให้ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ

    BOJ จะเรียกเก็บดอกเบี้ยที่อัตรา -0.1% สำหรับเม็ดเงินที่สถาบันการเงินต่างๆนำมาสำรองฝากไวักับ BOJ โดยเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของ BOJ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 4 ในการตัดสินใจใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบดังกล่าว

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดพุ่ง 152.01 จุด ขานรับ BOJ กระตุ้นศก.

  ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งแรงเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มสถาบันการเงิน หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ประกาศใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบอย่างเหนือการคาดหมาย ซึ่งกระตุ้นความเชื่อมั่นว่า BOJ มีความมุ่งมั่นที่จะกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 152.01 จุด หรือ 2.56% ที่ระดับ 6,083.79 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นหลังจาก BOJ มีมติคงนโยบายการเงินไว้ในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับมีมติให้ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ

    BOJ จะเรียกเก็บดอกเบี้ยที่อัตรา -0.1% สำหรับเม็ดเงินที่สถาบันการเงินต่างๆนำมาสำรองฝากไวักับ BOJ โดยเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของ BOJ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 4 ในการตัดสินใจใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบดังกล่าว

    ขณะเดียวกัน BOJ ยังให้คำมั่นที่จะเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 80 ล้านล้านเยนต่อปี

    นอกจากนี้ BOJ ยังได้เลื่อนช่วงเวลาในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ออกไปอีก

     หุ้นกลุ่มสถาบันการเงินนำโดยหุ้นอะเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ หุ้นพรูเดนเชียล หุ้นบาร์เคลย์ และหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ต่างก็พุ่งขึ้นไม่น้อยกว่า 2.5% ในขณะที่หุ้นโอลด์ มิวชวล และหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ ก็ปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกัน

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับ BOJ ใช้นโยบายกระตุ้นศก.

   ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ม.ค.) ขานรับการใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งช่วยกระต้นมุมมองที่เป็นบวกว่า นโยบายดังกล่าวจะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

   ดัชนี Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 2.2% ปิดที่ 342.27 จุด โดยปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.2% ในสัปดาห์นี้ หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุว่า ECB อาจจะพิจารณาทบทวนนโยบายของธนาคารอีกครั้งในเดือนมี.ค.

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,417.02 จุด เพิ่มขึ้น 94.86 จุด หรือ +2.19% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 9,798.11 จุด เพิ่มขึ้น 158.52 จุด หรือ +1.64% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,083.79 จุด เพิ่มขึ้น 152.01 จุด หรือ +2.56%

    ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มสถาบันการเงินในอิตาลีและสเปน โดยหุ้นบังโค ป๊อปปูเลร์ เอสปานอล พุ่งขึ้น 7% หลังจากเปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ปรับตัวดีขึ้น

   หุ้นบังโค เดอ ซาบาเดลล์ เอสเอ พุ่งขึ้น 12% หลังธนาคารเปิดเผยผลประกอบการที่สูงเกินคาด

    หุ้นเทเลโฟนิกา เอสเอ เพิ่มขึ้น 3.6% หลังระบุว่า การใช้แผนเกษียณงานก่อนครบอายุเกษียณจะช่วยให้บริษัทลดค่าใช้จ่ายลงได้ในระยะยาว

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 396.66 จุด รับ BOJ ใช้นโยบายดบ.ติดลบ

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ (29 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ

     ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 396.66 จุด หรือ 2.47% ปิดที่ 16,466.30 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 46.88 จุด หรือ 2.48% ปิดที่ 1,940.24 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 107.27 จุด หรือ 2.38% ปิดที่ 4,613.95 จุด

    ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นหลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) มีมติคงนโยบายการเงินไว้ในการประชุมเมื่อวันศุกร์ พร้อมกับมีมติให้ใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ

    BOJ จะเรียกเก็บดอกเบี้ยที่อัตรา -0.1% สำหรับเม็ดเงินที่สถาบันการเงินต่างๆนำมาสำรองฝากไวักับ BOJ โดยเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของ BOJ ลงมติด้วยคะแนนเสียง 5 ต่อ 4 ในการตัดสินใจใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบดังกล่าว

   ขณะเดียวกัน BOJ ยังให้คำมั่นที่จะเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 80 ล้านล้านเยนต่อปี

    นอกจากนี้ BOJ ยังได้เลื่อนช่วงเวลาในการบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ออกไปอีก

     ความเคลื่อนไหวของ BOJ อยู่เหนือการคาดหมายของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท ซึ่งส่วนใหญ่คาดว่า BOJ จะใช้มาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมและไม่คาดว่าจะใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบ

    BOJ ระบุว่าจะเริ่มใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ. เป็นต้นไป เนื่องจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันส่งผลให้ธนาคารไม่สามารถบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ได้ ในขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ใช้นยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบไปก่อนหน้านี้แล้ว

    นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐยังได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่เปิดเผยว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เบื้องต้นสำหรับไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ขยายตัวเพียง 0.7% โดยลดลงจาก 2.0% ในไตรมาส 3 และต่ำกว่าระดับ 3.9% ในไตรมาส 2

    ข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ

    หุ้น Amazon.com ร่วงลง 7.61% หลังบริษัทอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่เปิดเผยผลประกอบการประจำไตรมาสที่ต่ำเกินคาด

     หุ้นฮันนีย์เวลล์ อินเตอร์เนชั่นแนล อิงค์ พุ่งขึ้น 5.6% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการสำหรับปี 2559

     หุ้นวีซ่า อิงค์ พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนหลังเปิดเผยผลประกอบการที่สูงเกินคาด เนื่องจากยอดค่าใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น

อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!