WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET25ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามภูมิภาค แม้เฟดกังวลศก.โลกแต่น้ำมันดีดขึ้นหนุน

     นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากคำแถลงการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว แต่ก็ทำให้มองว่าเฟดอาจไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยการประชุมรอบหน้าในวันที่ 15-16 มี.ค.ทางเฟดอาจจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

      นอกจากนี้ ราคาน้ำมันดิบก็ได้ดีดตัวขึ้นด้วย และเงินบาทก็แข็งค่าทำให้น่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดฯได้ พร้อมให้แนวรับ 1,270 จุด ส่วนแนวต้าน 1,285-1,290 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

     - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (27 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,944.46 จุด ร่วงลง 222.77 จุด (-1.38%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,468.17 จุด ลดลง 99.50 จุด (-2.18%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,882.95 จุด ลดลง 20.68 จุด (-1.09%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 24.40 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 11.65 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 104.08 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 4.61 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 24.61 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 12.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 41.32 จุด

       - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (27 ม.ค.59) 1,278.29 จุด เพิ่มขึ้น 10.22 จุด (+0.81%)

       - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 408.06 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ม.ค.59

       - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (27 ม.ค.59) ปิดที่ 32.33 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 2.7%

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (27 ม.ค.59) ที่ 8.86 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 35.85/87 อ่อนค่าหลังเฟดคงดอกเบี้ย คาดกรอบ 35.80-36.00

    - นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะอยู่ในภาวะที่เติบโตได้ แต่ต้องเผชิญความเสี่ยงของเศรษฐกิจโลก ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดการคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกลงจาก 3.6% เหลือ 3.4%

    - นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ หรือ พีพีพี ว่า โครงการพีพีพี ฟาสต์แทร็ก ที่ดำเนินการอยู่ 5 โครงการ มี 2 โครงการ คือ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง ส่งเรื่องมาให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) แล้ว และจะให้ความเห็นชอบในเดือน ก.พ.

      - ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันโลกเฉลี่ยของปี 2559 จากที่เคยคาดไว้ที่ 52 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เมื่อเดือน ต.ค.2558 มาอยู่ที่ 37 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากผลผลิตล้นตลาดและการชะลอตัวของตลาดเกิดใหม่

    - การประชุมร่วมระหว่าง ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลทั้ง 24 ช่อง ตลอดจนตัวแทนธนาคารและหน่วยงานด้านกฎหมายของรัฐ ครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 27 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาทีวีดิจิทัล ยังไม่มีข้อสรุปแต่อย่างใด

   - "กอบกาญจน์" เผยคณะทำงานสานพลังประชารัฐ 21 องค์กรรัฐ เอกชน ประชาสังคม ลงนามกระตุ้นจัดประชุมสัมมนาและท่องเที่ยวในไทยแทนไปต่างประเทศ ชี้ 8 หมื่นบริษัทรับปาก 1 บริษัท จัดประชุม 1 ครั้งในกลางปีนี้ คาดเพิ่มรายได้เที่ยวไทย 5-10% จาก 8.5 หมื่นล้านบาท ทะลุ 9.3 หมื่นล้านบาท ช่วยยกระดับกระจายรายได้ สร้างความยั่งยืน ยันอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นเสาหลักขับเคลื่อนประเทศ

*หุ้นเด่นวันนี้

      - SMPC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 9.20 บาท ปัจจัยบวกระยะสั้นคือกำไรสุทธิ 4Q15 มีแนวโน้มทำสถิติสูงสุดใหม่ +49% Q-Q, +315% Y-Y จากคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นมากตามความต้องการใช้ LPG ในภาคครัวเรือนแทนการใช้ฟืนที่มากขึ้นหลังน้ำมันดิบร่วง โมเมนตัมยังดีต่อด้วยคำสั่งผลิตล่วงหน้าที่ยาวไปถึง 2Q16 โดยปรับกำไรปกติปี 2015-16 ขึ้นปีละ 21% ราคาปัจจุบันคิดเป็น Forward PE ที่ 11 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 12 เท่าและต่ำกว่าในช่วงที่กำไรเป็นขาขึ้นที่ 15-17 เท่า

     - ERW (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 5 บาท แนวโน้มกำไร 4Q15 ยังแข็งแกร่งแม้ถูกกระทบจากเหตุระเบิด โดยคาดว่าจะพลิกเป็นกำไร 98 ล้านบาทจากขาดทุน 20 ล้านบาทใน 3Q15 และโตถึง 90.7% Y-Y ส่วนปี 2016 ปรับประมาณการกำไรปกติลง 10% จากการฟื้นตัวที่ยังไม่เต็มที่ของโรงแรม Grand Hyatt เอราวัณ และการเลื่อนเปิดโรงแรม Hop Inn บางแห่ง แต่ยังโตได้ถึง 60.6% Y-Y

     - HMPRO (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 10 บาท คาดกำไรสุทธิ 4Q15 +32.3% Q-Q, +3.2% Y-Y ทำจุดสูงสุดใหม่เพราะได้ประโยชน์จากมาตรการลดหย่อนภาษี 15,000 บาทเต็มที่ และคาดกำไรทั้งปี 2015 +3.2% Y-Y แม้ว่ากำลังซื้อในประเทศยังไม่สดใสแต่หากความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีขึ้น HMPRO จะได้ประโยชน์ก่อน GLOBAL เพราะฐานลูกค้าหลักมีกำลังซื้ออยู่แล้ว โดยคาดกำไรปีนี้ +14% Y-Y จากการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ

      - SCC (ดีบีเอส วิคเคอร์ส) "ซื้อ"เป้า 580 บาท กำไรปี 2015 เติบโต 35%YoY หนุนโดยกำไรที่แข็งแกร่งของธุรกิจปิโตรเคมี  และ EBITDA Margin สูงจากมาร์จิ้นปิโตรเคมีที่ดีขึ้น ส่วนธุรกิจปิโตรเคมีและซีเมนต์หนุนการเติบโตต่อในปี 2016

    - QTC (โกลเบล็ก) เป้า 7  บาท คาดกำไรปี 58 +80% YoY เป็น 99 ล้านบาท โดยช่วง 2H58 เป็น High season ของบริษัทและมี Backlog ราว 460 ล้านบาท ส่วนปี 59 คาดกำไร 116 ล้านบาท (+17% YoY) เนื่องจากได้ประโยชน์จากการเปิดประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานต่างๆหนุนต่อ Demand หม้อแปลงไฟฟ้าของบริษัท

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ หลังเฟดแสดงความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัว

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ในวันนี้ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลว่า ความผันผวนในตลาดการเงินอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาดของบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ปรับลง 0.5% เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้

    ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,711.16 จุด ลดลง 24.40 จุด, -0.89% ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,495.57 จุด ลดลง 11.65 จุด, -0.18% ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,059.84 จุด ลดลง 104.08 จุด, -0.61%

     ส่วนดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,541.57 จุด ลดลง 4.61 จุด, -0.18% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,631.48 จุด ลดลง 0.06 จุด, -0.00% ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,825.22 จุด ลดลง 24.61 จุด, -0.31% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,885.38 จุด ลดลง 12.49 จุด, -0.66%

      อย่างไรก็ตาม ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,093.77 จุด เพิ่มขึ้น 41.32 จุด, +0.22%

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ หลังจากเฟดได้แสดงความกังวลว่า ความผันผวนในตลาดการเงินอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยในการประชุมเฟดครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 78.91 จุด รับการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 78.91 จุด หรือ 1.33% ที่ระดับ 5,990.37 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับปัจจัยหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน แม้ว่าสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

   หุ้นบีจีกรุ๊ปเพิ่มขึ้น 3.5% หลังจากผู้ถือหุ้นของบริษัทเชลล์อนุมัติข้อเสนอในการควบรวมกิจการระหว่างบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ทั้งสองแห่ง ในขณะที่ผู้ถือหุ้นของบีจีมีกำหนดจะประชุมออกเสียงในวันนี้

    หุ้น เออาร์เอ็ม โฮลดิ้งส์ ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของอังกฤษลดลง 1.9% หลังบริษัทแอปเปิล อิงค์ ของสหรัฐ เปิดเผยยอดขายโทรศัพท์ไอโฟนประจำไตรมาสที่น่าผิดหวัง

    หุ้นอันโตฟากัสตาลดลง 0.7% หลังผู้ประกอบการเหมืองแร่โลหะเปิดเผยว่า ผลผลิตแร่ทองแดงของบริษัทลดลง 11% ในปีที่ผ่านมา ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าผลผลิตแร่ทองแดงในปี 2559 ของบริษัทจะยังคงชะลอตัวลง

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก หลังราคาน้ำมันพุ่งหนุนหุ้นพลังงาน

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้มีรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.3% ปิดที่ 340.24 จุด

  ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,380.36 จุด เพิ่มขึ้น 23.55 จุด หรือ +0.54% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,880.82 จุด เพิ่มขึ้น 58.07 จุด หรือ +0.59% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,990.37 จุด เพิ่มขึ้น 78.91 จุด หรือ +1.33%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ยังคงปรับตัวขึ้น แม้สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

    ทั้งนี้ การฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับบตัวขึ้นด้วย นำโดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 2.9% หุ้นบีจี กรุ๊ป ปรับขึ้น 3.5%

    หุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นผู้ออกแบบเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับสมาร์ทโฟน ร่วงลง 1.9% หลังจากแอปเปิลออกแถลงการณ์คาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาสแรกปีนี้จะปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2003 เนื่องจากความต้องการ iPhone ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อยอดขายของบริษัทได้เข้าสู่ภาวะอิ่มตัว และการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สินค้าของแอปเปิลมีราคาแพงขึ้น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 222.77 จุด หลังเฟดกังวลศก.ชะลอตัว

     ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลว่า ความผันผวนในตลาดการเงินอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยในการประชุมเฟดครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,944.46 จุด ร่วงลง 222.77 จุด หรือ -1.38% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,468.17 จุด ลดลง 99.50 จุด หรือ -2.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,882.95 จุด ลดลง 20.68 จุด หรือ -1.09%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหลังจากแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของเฟดเมื่อวานนี้บ่งชี้ว่า เฟดได้แสดงความกังวลครั้งใหม่เกี่ยวกับภาวะผันผวนในตลาดการเงิน และการชะลอตัวของเศรษฐกิจในต่างประเทศ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวอาจจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อเศรษฐกิจสหรัฐ

      นอกจากนี้ เฟดกำลังจับตาดูสถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงินการเงินอย่างใกล้ชิด รวมทั้งจับตาดูว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและยุโรป และการร่วงลงของราคาน้ำมันนั้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากน้อยเพียงใด

     ส่วนในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นให้อยู่ในช่วง 0.25-0.50% พร้อมกันนี้ เฟดไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในเดือนมี.ค.

     หุ้นแอปเปิลร่วงลง 6.55% หลังจากแอปเปิลออกแถลงการณ์คาดการณ์ว่า รายได้ในไตรมาสแรกปีนี้จะปรับตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2003 เนื่องจากความต้องการ iPhone ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อยอดขายของบริษัทได้เข้าสู่ภาวะอิ่มตัว และการที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นนั้น ทำให้สินค้าของแอปเปิลมีราคาแพงขึ้นด้วย

    หุ้นโบอิ้งร่วงลง 8.93% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ามีกำไร 1.03 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.51 ดอลลาร์/หุ้นในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว ลดลงจาก 1.47 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2.02 ดอลลาร์/หุ้น ในช่วงเดียวกันของปี 2014

      นอกจากนี้ โบอิ้งยังคาดการณ์ว่า บริษัทจะมีกำไร 8.15-8.35 ดอลลาร์/หุ้นในปีนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 9.43 ดอลลาร์/หุ้น พร้อมกับคาดการณ์ว่า การส่งมอบเครื่องบินจะลดลงสู่ระดับ 740-745 ลำในปีนี้ จาก 762 ลำในปีที่แล้ว

     สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวานนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 10.8% ในเดือนธ.ค. สู่ระดับ 544,000 ยูนิต  ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 502,000 ยูนิตในเดือนธ.ค.

     นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในช่วงค่ำวันนี้ตามเวลาไทย รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 ม.ค.2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,944.46 จุด                         ลดลง 222.77 จุด     -1.38%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,468.17 จุด                      ลดลง 99.50 จุด      -2.18%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,882.95 จุด                       ลดลง 20.68 จุด      -1.09%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,990.37 จุด                    เพิ่มขึ้น 78.91 จุด     +1.33%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,880.82 จุด                            เพิ่มขึ้น 58.07 จุด     +0.59%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,380.36 จุด                        เพิ่มขึ้น 23.55 จุด     +0.54%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,000.80 จุด      ลดลง 56.30 จุด      -1.11%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,946.40 จุด            ลดลง 60.20 จุด      -1.20%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 7,849.83 จุด                            เพิ่มขึ้น 21.16 จุด     +0.27%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,163.92 จุด                      เพิ่มขึ้น 455.02 จุด    +2.72%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,897.87 จุด                         เพิ่มขึ้น 26.18 จุด     +1.40%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,735.56 จุด                     ลดลง 14.23 จุด      -0.52%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,507.22 จุด             เพิ่มขึ้น 195.62 จุด    +3.10%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 19,052.45 จุด                             เพิ่มขึ้น 191.65 จุด    +1.02%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,583.63 จุด      เพิ่มขึ้น 73.16 จุด     +1.62%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,631.54 จุด                      เพิ่มขึ้น 4.88 จุด      +0.30%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,546.18 จุด                      เพิ่มขึ้น 0.57 จุด      +0.02%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,492.39 จุด                        เพิ่มขึ้น 6.44 จุด      +0.03%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลว่า ความผันผวนในตลาดการเงินอาจเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ โดยในการประชุมเฟดครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ย แต่ก็ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค.

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,944.46 จุด ร่วงลง 222.77 จุด หรือ -1.38% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,468.17 จุด ลดลง 99.50 จุด หรือ -2.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,882.95 จุด ลดลง 20.68 จุด หรือ -1.09%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น หลังจากราคาน้ำมันยังคงปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้มีรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.3% ปิดที่ 340.24 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,380.36 จุด เพิ่มขึ้น 23.55 จุด หรือ +0.54% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,880.82 จุด เพิ่มขึ้น 58.07 จุด หรือ +0.59% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,990.37 จุด เพิ่มขึ้น 78.91 จุด หรือ +1.33%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) จากการปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น

          ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 78.91 จุด หรือ 1.33% ที่ระดับ 5,990.37 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งข่าวที่ว่าบริษัทพลังงานของรัสเซียเตรียมเจรจาเพื่อปรับลดกำลังการผลิตร่วมกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และซาอุดิอาระเบีย  

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ หรือ 2.7% ปิดที่ 32.33 ดอลลาร์/บาร์เรล 

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 4.1% ปิดที่ 33.10 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีขึ้นหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการแล้ว

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 4.4 ดอลลาร์ หรือ 0.39% ปิดที่ 1,115.80 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 10.5 เซนต์ หรือ 0.72% ปิดที่ 14.459 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ปิดที่ 882.10 ดอลลาร์/ออนซ์  และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 9.50 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 502.25 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (27 ม.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับเดิม ตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0900 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0849 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4255 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4359 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.70 เยน จาก 118.48 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0141 ฟรังก์ จาก 1.0180 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7035 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7014 ดอลลาร์

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 337.00 จุด ลดลง 8.00 จุด, -2.32% 

อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!