WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET23ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าดีดขึ้นรับน้ำมันบวกแรง,เล็ง ECB-BOJ กระตุ้นศก.เพิ่ม

    นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่จะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวกกันหมดเฉลี่ยราว 1% ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันได้บวกแรงเป็นวันที่ 2 และนักลงทุนยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มจากธนาคารกลางยุโรป(ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) ซึ่งทาง ECB ก็ว่าอาจจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มในการประชุมรอบหน้าเดือนมี.ค. ส่วนทาง BOJ จะมีการประชุมในวันที่ 28-29 ม.ค.นี้ ซึ่งก็ต้องติดตามดู

   ส่วนตลาดหุ้นไทยก็เริ่มมีสัญญาณบวกจากนักลงทุนต่างชาติ และเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นด้วย น่าจะหนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อได้ในระยะสั้น โดยน่าจะมีแรงซื้อคืนตามมาด้วย

     พร้อมให้แนวรับ 1,265 จุด ส่วนแนวต้าน 1,290-1295 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(22 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,093.51 จุด เพิ่มขึ้น 210.83 จุด(+1.33%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,591.18 จุด เพิ่มขึ้น 119.12 จุด(+2.66%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,906.90 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด(+2.03%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 187.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 17.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 260.90 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 57.55 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 10.72 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 24.75 จุด

   ด้านตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดชดเชยเทศกาลไทปูซัม

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(22 ม.ค.59)1,268.03 จุด เพิ่มขึ้น 22.42 จุด(+1.80%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 815.20 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 ม.ค.59

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(22 ม.ค.59) ปิดที่ 32.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับตัวขึ้น 2.66 ดอลลาร์ หรือ 9%

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(22 ม.ค.59)ที่ 10.04 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเช้านี้แข็งค่าขึ้นเหนือ 36 ลุ้นผลประชุม FOMC-BOJ สัปดาห์นี้

                - การยางแห่งประเทศไทย(กยท.)เตรียมเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 26 ม.ค.นี้ให้ใช้งบบริหารจัดการของ กยท.อีก 2,000 ล้านบาท เพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ที่บอร์ดอนุมัติไป 500 ล้านบาทเพื่อเข้าซื้อยางตามนโยบายของรัฐบาล และให้สำนักงบประมาณตั้งงบใช้คืนให้ กยท.โดย กยท.มีงบประมาณ 2 หมื่นล้านบาทที่จะสามารถให้ยืมใช้ได้

                - สมาคมอุตสาหกรรมเหล็กไทยเตรียมยื่นหนังสือให้รัฐบาลทบทวนการอนุญาตตั้งโรงงานเหล็ก โดยเบื้องต้นอยากให้เริ่มชะลอการอนุญาตตั้งโรงงานเหล็กเส้นทุกประเภทโดยเฉพาะโรงหลอมและโรงรีด จากปัจจุบันที่มีมากกว่า 50 โรง กำลังการผลิต 13 ล้านตัน/ปี ขณะที่มีความต้องการใช้เหล็กเพียงปีละไม่เกิน 4 ล้านตัน เชื่อว่าแนวทางดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในมาตรการที่ช่วยแก้ไขปัญหาราคาเหล็กตกต่ำได้

                - ปลัดกระทรวงพลังงาน มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.)ไปศึกษาต้นทุนราคาเอทานอล ตั้งแต่พืชวัตถุดิบ ด้านการตลาด รวมทั้งนำไปเปรียบเทียบกับราคาเอทานอลของประเทศเพื่อนบ้านว่าสูงไปหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาราคาเอทานอลที่ใช้ในปัจจุบันส่งผลต่อต้นทุนการผลิตแก๊สโซฮอล์ที่ยังสูง สวนทางกับภาวะที่ราคาน้ำมันอยู่ในช่วงขาลงเช่นนี้

                - แบงก์ชาติตามติดการปรับตัวและฐานะการเงินของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายเล็ก ห่วงพฤติกรรมรายใหญ่หันระดมทุนช่องทางอื่นจะเกิดความเสี่ยง เผยในปี 58 ธปท.นำการตรวจสอบพิเศษช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีปัญหา แนะรัฐคำนึงความเสี่ยงอาจเพิ่มขึ้นจากการใช้มาตรการทางการเงินผ่าน SFIs

                - รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยยอดธุรกรรมการโอนเงินรายย่อย ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 2558 พบว่า ทั้งระบบมียอดการโอนเงิน 3.6 ล้านรายการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 11.2% มีมูลค่า 2.52 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.6% ตามความต้องการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมากเป็นพิเศษในช่วงสิ้นปี และผลบวกจากมาตรการช็อปช่วยชาติ ที่รัฐให้สิทธิหักลดหย่อนภาษี 1.5 หมื่นบาท ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเร่งให้คนจ่ายมากขึ้นด้วย

                - บอร์ด กสท.เล็งเพิ่มโทษปรับทรูฯ ไม่เรียงช่อง พร้อมถกฟรีทีวีที่อยู่ใน 10 ช่องแรกผิดหรือไม่

*หุ้นเด่นวันนี้

                - NCL-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.เอ็นซีแอล อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์(NCL)มีจำนวน 139,997,497 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 4.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 20 มกราคม 2559) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 มิ.ย. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 19 ม.ค. 2561

                - PTTGC(โกลเบล็ก)เป้า 71 บาท เป็น TOP Pick เนื่องจากมี Upside 42% ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มปตท. โดยผลประกอบการถูกกดดันจากธุรกิจโอเลฟินส์ที่ส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปรับตัวลงในปี 58 แต่ในปัจจุบันเริ่มทรงตัว อีกทั้งธุรกิจโรงกลั่นของบริษัทยังมีค่าการกลั่นที่ทรงตัวในระดับสูงเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการเพิ่มเติม โดยระดับราคาปิดล่าสุดคิดเป็น PBV 0.8 เท่าต่ำกว่าบริษัทอื่นๆ ที่ดำเนินธุรกิจคล้ายคลึงกันในกลุ่มปตท

                - CPF(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 24 บาท คาดกำไรปกติ 4Q58 ที่ 484 ล้านบาท อ่อนตัวลง 62%QoQ หลังราคาสัตว์บกในประเทศมีแนวโน้มอ่อนตัวลง ธุรกิจกุ้งผ่าน High Season มาแล้วทำให้ยอดขายอาจลดลง ธุรกิจต่างประเทศรับความผันผวนเศรษฐกิจและความวุ่นวายในบางประเทศ ปี 59 คาดภาวะ Over Supply ของธุรกิจฟาร์มสัตว์บกเริ่มจำกัด และเห็นราคาในประเทศดีขึ้น ขณะที่ธุรกิจกุ้งจะฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ หลังคาดผลผลิตในประเทศฟื้นตัว แต่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากเศรษฐกิจโลกและอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความไม่แน่นอนสูง

                - SCB(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 158 บาท ผลกระทบจาก NPL ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในไตรมาส 3 และราคาหุ้นได้ปรับลงรับข่าวร้ายไปเยอะแล้ว ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวยังดีจากการเป็นแบงก์ขนาดใหญ่ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่คาดจะเห็นผลดีชัดเจนในปีนี้  ขณะที่ฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง อัตราส่วนเงินกองทุนตามเกณฑ์ BIS ratio เท่ากับ 17.3% และมีเงินกองทุนชั้นที่ 1(Tier I) เท่ากับ 14.1%

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับน้ำมันดีดตัว, ECB ส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงิน

            ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ฟื้นตัว รวมถึงถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่ส่งสัญญาผ่อนคลายนโยบายรอบใหม่

                ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.5% แตะ 119.07 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,145.81 จุด เพิ่มขึ้น 187.28 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,934.08 จุด เพิ่มขึ้น 17.52 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,341.41 จุด เพิ่มขึ้น 260.90 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,813.73 จุด เพิ่มขึ้น 57.55 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,890.15 จุด เพิ่มขึ้น 10.72 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,601.84 จุด เพิ่มขึ้น 24.75 จุด ด้านตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดชดเชยเทศกาลไทปูซัม

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 210.83 จุด รับราคาน้ำมันฟื้น, ECB ส่งสัญญาณกระตุ้นศก.

            ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (22 ม.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันฟื้นตัว และถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งสัญญาผ่อนคลายนโยบายรอบใหม่

            ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,093.51 จุด เพิ่มขึ้น 210.83 จุด หรือ +1.33% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,591.18 จุด เพิ่มขึ้น 119.12 จุด หรือ +2.66% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,906.90 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด หรือ +2.03%

                ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของราคาน้ำมัน

                ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังพุ่งขึ้นรับถ้อยแถลงของนายดรากี ประธาน ECB โดยนายดรากีเผย ECB จะทำการทบทวนนโยบายการเงินในการประชุมครั้งหน้าในเดือนมี.ค. ซึ่งถ้อยแถลงของนายดรากีเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB อาจผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนมี.ค.

                นายดรากีกล่าวว่า ภาวะปั่นป่วนในตลาดการเงิน และตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และตลาดเกิดใหม่ จะเป็นปัจจัยทำให้ ECB มีการปรับนโยบายในการประชุมครั้งต่อไป นอกจากนี้ นายดรากียังกล่าวว่า ECB จะพิจารณาขยายระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรออกไปอีก หากมีความจำเป็น

                ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นมากที่สุด โดยหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ และ หุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี ต่างพุ่งขึ้นมากกว่า 6.1%

                หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้น โดยหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 5.32%

                หุ้นธนาคารปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเจพีมอร์แกนพุ่งขึ้นกว่า 3.1%

                สำหรับ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 0.7% ดัชนี S&P500 เพิ่มขึ้น 1.4% และดัชนี NASDAQ พุ่งขึ้น 2.3%

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ม.ค.2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,093.51 จุด เพิ่มขึ้น 210.83 จุด, +1.33%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,591.18 จุด เพิ่มขึ้น 119.12 จุด, +2.66%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,906.90 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด, +2.03%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,336.69 จุด เพิ่มขึ้น 130.29 จุด, +3.10%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,764.88 จุด เพิ่มขึ้น 190.72 จุด, +1.99%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,900.01 จุด เพิ่มขึ้น 126.22 จุด, +2.19%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,435.66 จุด เพิ่มขึ้น 473.45 จุด, +1.98%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,577.09 จุด เพิ่มขึ้น 44.39 จุด, +1.75%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,625.21 จุด เพิ่มขึ้น 24.29 จุด, +1.52%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,456.74 จุด เพิ่มขึ้น 42.61 จุด, +0.97%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 19,080.51 จุด เพิ่มขึ้น 538.36 จุด, +2.90%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,208.05 จุด เพิ่มขึ้น 123.77 จุด, +2.03%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,916.56 จุด เพิ่มขึ้น 36.08 จุด, +1.25%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,879.43 จุด เพิ่มขึ้น 38.90 จุด, +2.11%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,958.53 จุด เพิ่มขึ้น 941.27 จุด, +5.88%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 7,756.18 จุด เพิ่มขึ้น 92.17 จุด, +1.20%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,916.00 จุด เพิ่มขึ้น 52.00 จุด, +1.07%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,969.60 จุด เพิ่มขึ้น 52.00 จุด, +1.06%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (22 ม.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันฟื้นตัว และถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งส่งสัญญาผ่อนคลายนโยบายรอบใหม่

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,093.51 จุด เพิ่มขึ้น 210.83 จุด หรือ +1.33% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,591.18 จุด เพิ่มขึ้น 119.12 จุด หรือ +2.66% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,906.90 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด หรือ +2.03%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ (22 ม.ค.) เนื่องจากตลาดมีความเชื่อมั่นมากขึ้น ภายหลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจ

          ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 3% ปิดที่ 338.36 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,336.69 จุด เพิ่มขึ้น 130.29 จุด หรือ +3.10% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,764.88 จุด เพิ่มขึ้น 190.72 จุด หรือ +1.99% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,900.01 จุด เพิ่มขึ้น 126.22 จุด หรือ +2.19%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งเมื่อวันศุกร์ (22 ม.ค.) ตามทิศทางการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นยุโรป เนื่องจากนักลงทุนขานรับการส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมของธนาคารกลางยุโรป (ECB)

          ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 5,900.01 จุด เพิ่มขึ้น 126.22 จุด หรือ +2.19%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันศุกร์ (22 ม.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการส่งสัญญาณผ่อนคลายนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และสภาพอากาศที่หนาวจัดในสหรัฐและยุโรป

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้น 2.66 ดอลลาร์ หรือ 9% ปิดที่ 32.19 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้น 2.93 ดอลลาร์ หรือ 10% ปิดที่ 32.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (22 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยและหันไปซื้อหุ้น ซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า ภายหลังตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งเป็นวันที่ 2

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ปรับตัวลง 1.9 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 1,096.3 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ปรับตัวลง 3.7 เซนต์ หรือ 0.26% ปิดที่ 14.057 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 12.1 ดอลลาร์ หรือ 1.48% ปิดที่ 831.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (22 ม.ค.) หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่า ECB จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมเดือนมี.ค.

          ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.0792 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0882 ดอลลาร์  เงินปอนด์แข็งค่าสู่ระดับ 1.4273 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ  1.4216 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าสู่ระดับ 0.7007 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6986 ดอลลาร์สหรัฐ

          สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 118.83 เยน จากระดับ 117.46 เยน แข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0163 ฟรังค์ จากระดับ 1.0068 ฟรังค์ และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.4153 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.4286 ดอลลาร์แคนาดา

          ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 354.00 จุด ลดลง 1.00 จุด, -0.28%                

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!