WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET16ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงเช่นเดียวกับตลาดภูมิภาคหลังราคาน้ำมันดิบร่วง

    นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนลบเฉลี่ย 0.3-0.4% โดยมีตลาดหุ้นฮ่องกง และตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ปรับตัวลงมากราว 2% ภายหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 28 เหรียญฯ/บาร์เรล แล้ว และยังมีการมองกันว่าน่าจะมีโอกาสได้เห็นการไต่ลงของราคาน้ำมันมาที่ระดับ 25 เหรียญฯ/บาร์เรลได้ พร้อมให้ติดตามการประชุม ECB ในวันพรุ่งนี้ แต่คาดว่าไม่น่าจะมีอะไร

    ทั้งนี้ วานนี้ตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่ม ICT, กลุ่มแบงก์ และกลุ่มพลังงาน แต่มองว่าการปรับขึ้นของหุ้นทั้งสามกลุ่มยังไม่เสถียร และเป็นแค่ช่วงสั้นเท่านั้น เนื่องจากกลุ่ม ICT ก็ยังไม่แน่นอนเรื่องการจ่ายเงินให้กับทางการสำหรับคนที่ชนะการประมูล 4G, ส่วนกลุ่มแบงก์ช่วงนี้ก็เป็นช่วงของการายงานผลประกอบการ และกลุ่มพลังงานก็มีความเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันที่ยังคงผันผวนอยู่

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,256-1,270 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(19 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,016.02 จุด เพิ่มขึ้น 27.94 จุด(+0.17%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,476.95 จุด ลดลง 11.47 จุด(-0.26%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,881.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด(+0.05%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 18.09 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 14.73 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 303.59 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 19.71 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 4.28 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 25.94 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.06 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ ลดลง 8.43 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(19 ม.ค.59) 1,266.01 จุด เพิ่มขึ้น 20.96 จุด(+1.68%)

     - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 918.46 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 ม.ค.59

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(19 ม.ค.59) ปิดที่ 28.46 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 96 เซนต์ หรือ 3.3%

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(19 ม.ค.59)ที่ 10.97 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 36.29 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ 36.25-36.35 ยังไร้ปัจจัยใหม่

      - ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 ม.ค. มีมติเห็นชอบแนวทางการจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2559 ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ในวงเงินรวม 5.6 หมื่นล้านบาท ทำให้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 เพิ่มขึ้นจากวงเงินเดิม 2.72 ล้านล้านบาท เป็น 2.776 ล้านล้านบาท ซึ่งทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการใช้จ่ายตามภารกิจมากขึ้น

      - แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มี พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน เป็นประธาน ในวันที่ 20 ม.ค. นิ้ จะพิจารณาโครงสร้างราคาน้ำมันดีเซล หลังราคาขายปลีกลดลงต่ำกว่าลิตรละ 20 บาท ซึ่งเห็นว่าอาจต่ำเกินไปทำให้ไม่ใช้อย่างประหยัด และไม่ได้ทำให้ค่าครองชีพลดลง

      - นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักเกณฑ์ คำนวณเงินชดเชยค่างานก่อสร้าง (ค่าเค) หรืออนุมัติหลักเกณฑ์การคำนวณค่าเคในโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค ลงมา เช่นเดียวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง บางซื่อ-บางใหญ่ ที่ ครม.ได้อนุมัติไปก่อนหน้านี้

        - สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้จัดประชุมหารือร่วมกับผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลทั้ง 24 ช่อง ผู้ประกอบการโครงข่ายทีวีดิจิทัล ตัวแทนจากธนาคารผู้ออกหนังสือรับรองเงินกู้ (แบงก์การันตี) ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารกรุงศรีอยุธยา ตัวแทนกระทรวงการคลัง สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหารือแนวทางแก้ไขปัญหาในการให้บริการทีวีดิจิทัล

     - ธนาคารพาณิชย์ไทย 7 แห่ง สำรองเงินสดไว้ประมาณ 166,733 ล้านบาท เพื่อรองรับปริมาณความต้องการเงินสดของประชาชนไว้ใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ พร้อมทั้งสำรองธนบัตรใหม่บางส่วนไว้ใช้เป็นเงินอั่งเปามอบเป็นธรรมเนียมในเทศกาลปีใหม่จีน

       - 'อาคม' เผยจีนยอมลดดอกเบี้ยกู้เหลือ 2% รอคลังเร่งศึกษารูปแบบลงทุน ดันจีนเพิ่มสัดส่วนลงทุนมากกว่าไทย สรุปก่อนประชุมครั้ง 10 ที่ปักกิ่งหลังตรุษจีน 'อาคม' ให้มั่นใจ พ.ค.นี้เริ่มก่อสร้างแน่ ด้านรางไทย-ญี่ปุ่น 27 ม.ค. ทดลองขนส่งสินค้า

*หุ้นเด่นวันนี้

                - EMC-W5 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.อีเอ็มซี (EMC)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 2,107,510,879 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.25 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 เม.ย. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 30 ต.ค. 2560

    - AP(ไอร่า)"ซื้อ"เป้า 6.6  บาท AP หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาชั้นนำที่มี มิตซูบิชิ เป็นผู้ร่วมทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯ ที่แข็งแกร่ง สามารถร่วมกันพัฒนาโครงการแนวสูงตอบโจทย์ความต้องการของคนเมืองได้เป็นอย่างดี โดยพิจารณาได้จากยอดขายที่สูงเฉลี่ยรวมแล้วกว่า 75% โดยคาดปี’59 เป็นต้นไป AP จะกลับมาเติบโตโดดเด่นจากโครงการร่วมทุนหลายโครงการที่จะเริ่มทยอยโอน และอานิสงค์จากนโยบายกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐที่คาดเป็นแรงหนุนยอดโอนโครงการของบริษัทให้เติบโตได้ดีต่อเนื่องจากปี’58 และคาดปันผล 5%

    - SCB(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 166 บาท กำไรสุทธิ 4Q15 +31% Q-Q (สำรองหนี้สูญของ SSI หายไป), -3.6% Y-Y ไม่เซอร์ไพร้ส์เรา แต่ NPL ที่ลดลงเป็นเซอร์ไพร้ส์ในเชิงบวก เหลือ 2.89% จาก 3.02% ใน 3Q15 3Q15 ขณะที่ Coverage ratio ดีขึ้นเป็น 109.8% แม้ว่า SCB จะสู้ KBANK ไม่ได้ในแง่ของ PPOP, NIM และ ROE แต่ความน่าสนใจของ SCB อยู่ที่ Valuation ที่ถูก มี PE เพียง 8 เท่า และ PBV 1.2 เท่าเท่านั้น

       - TCAP(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 43 บาท กำไรสุทธิ 4Q15 ทรงตัวทั้ง Q-Q และ Y-Y ใกล้เคียงกับที่คาดไว้ แต่สิ่งที่น่าประทับใจมากคือ NPL ที่ลดลงเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกันใน 4Q15 ทำให้ NPL Ratio ลดลงเหลือ 2.96% จาก 3.54% ใน 3Q15 และ Coverage ratio แข็งแกร่งมากขึ้นเป็น 117% จาก 84.8% ในปี 2014 นับว่า TCAP เป็นแบงก์ที่มีพัฒนาการเชิงบวกด้านกำไรและคุณภาพหนี้ที่โดดเด่นที่สุดในปี 2015 สอดคล้องกับราคาหุ้นที่ outperform ที่สุดในกลุ่ม +19% นับตั้งแต่ต้นปีก่อนถึงปัจจุบัน ขณะที่ราคาแบงก์อื่นลดลงเฉลี่ย 19%

     - PS(ไอร่า)"ซื้อ"เป้า 32.60 บาท ตั้งเป้ายอดขายและยอดโอนเติบโตต่อเนื่องจากปี’58 ที่ 20.3% และ 10.6% จาก Backlog รอโอนในมือปี’16 ที่ 15,278 ล้านบาท และ โครงการในมือพร้อมโอนกว่า 14,941 ล้านบาท คาดหนุนการเติบโตของบริษัทให้มีรายได้เติบโตต่อเนื่องจากปีนี้ 8% อย่างไรก็ตามแม้ว่ายอดจองของ PS ณ สิ้นปี’58 จะน่าผิดหวัง แต่คาด PS จะมียอดโอนที่โดดเด่นในปี’58 ที่ 48,500 ล้านบาท เติบโต 13% จากแรงหนุนของนโยบายกระตุ้นอสังหาฯของภาครัฐที่ออกมาในช่วงปลายปีที่มอง PS เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ได้รับประโยชน์สูงสุด

         - LIT(เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า Consensus 12.4 บาท จากการเข้าพบผู้บริหาร แนวโน้มกำไรไตรมาส 4/58 ยังทำนิวไฮต่อเนื่อง (อานิสงส์ภาครัฐฯเร่งงานประมูลเล็กๆ  100 ล้านบาท) และ Earnings Momentum ยังโตต่อเนื่องจนถึงไตรมาส 3/59 เป็นอย่างน้อย และ Valuation ยังไม่แพงด้วย PE ปี 2558 – 59 ที่ 26 - 18 เท่า ขณะที่ PE เฉลี่ยกลุ่มลีสซิ่ง 25-35 เท่า และใน Bloomberg consensus คาดกำไรปี 2559 ของกลุ่มฯทรงตัว ขณะที่ประเมินกำไร LIT ปี 2559 โต >30% YoY

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวเช้านี้ หลังราคาน้ำมันร่วงลงต่อเนื่อง

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% แตะ 119.61 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,030.28 จุด ลดลง 18.09 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,993.01 จุด ลดลง 14.73 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,332.22 จุด ลดลง 303.59 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,835.17 จุด ลดลง 19.71 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,885.36 จุด ลดลง 4.28 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,612.53 จุด ลดลง 25.94 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,628.16 จุด ลดลง 1.06 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 6,348.62 จุด ลดลง 8.43 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 96.88 จุด จากคาดการณ์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ

        ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรป เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ทางการจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาเมื่อวานนี้ โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

   ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 96.88 จุด หรือ +1.68% ที่ 5,876.80 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวขึ้นเช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรป หลังมีรายงานว่า ทางการจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2558 ขยายตัว 6.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2533 หรือในรอบ 25 ปี และชะลอลงจากอัตรา 7.3% ในปี 2557

      หุ้นกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้น นำโดยหุ้นเกลนคอร์ หุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ต่างก็พุ่งขึ้นมากกว่า 2% ซึ่งเป็นกลุ่มที่นำตลาดหุ้นลอนดอนดีดตัวขึ้น

       หุ้นพรูเดนเชียลพุ่งขึ้น 3.4% หลังบริษัทประกันยักษ์ใหญ่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับความแข็งแกร่งด้านทุนของบริษัทพร้อมกับแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ประจำภูมิภาคสหราชอาณาจักรและยุโรป

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดพุ่ง รับคาดการณ์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ทางการจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาเมื่อวานนี้

     ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.3% ปิดที่ 332.93 จุด

      ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,272.26 จุด เพิ่มขึ้น 82.69 จุด หรือ +1.97% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,664.21 จุด พุ่งขึ้น 142.36 จุด หรือ +1.50% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,876.80 จุด เพิ่มขึ้น 96.88 จุด หรือ +1.68%

      ตลาดหุ้นยุโรปปิดตลาดดีดตัวขึ้นขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า ทางการจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในปี 2558 ขยายตัว 6.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2533 หรือในรอบ 25 ปี และชะลอลงจากอัตรา 7.3% ในปี 2557

     ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค.ของจีนขยายตัว 5.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ย.ที่ขยายตัว 6.2% ส่วนยอดค้าปลีกของจีนในเดือนธ.ค.ขยายตัว 11.1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากเดือนพ.ย.เช่นกัน

     หุ้นยูนิลีเวอร์พุ่งขึ้น 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่งเกินคาด

     หุ้น Ocado Group ซึ่งเป็นธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 6.9% หลังจากหนังสือพิมพ์เดลี่เมล์รายงานว่า Amazon.com อาจจะจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Ocado

   หุ้นพรูเดนเชียล ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ พุ่งขึ้น 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง และประกาศแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่ในอังกฤษและยุโรป

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 27.94 จุด จากแรงซื้อเก็งกำไร

        ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค รวมถึงหุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) โดยปัจจัยบวกเหล่านี้สามารถชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,016.02 จุด เพิ่มขึ้น 27.94 จุด หรือ +0.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,476.95 จุด ลดลง 11.47 จุด หรือ -0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,881.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด หรือ +0.05%

     ดัชนี ดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ดาวโจนส์ดิ่งลงไปกว่า 390 จุด หรือ 2.39% เมื่อวันศุกร์ อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลที่ว่า วิกฤตราคาน้ำมันอาจจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมพลังงานและประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกน้ำมัน

     ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค โดยหุ้น P&G พุ่งขึ้น 2.3% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขยับขึ้น 0.5% หุ้นยูไนเต็ด เฮลธ์ ปรับขึ้น 3.02% หุ้น Amazon.com  ปรับขึ้น 0.8%

    ทั้งนี้ หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ได้รับแรงหนุนหลังจากทางบริษัทประกาศแผนปรับลดจำนวนพนักงานในอัตราส่วน 6% ในธุรกิจอุปกรณ์การแพทย์ ขณะที่หุ้น Amazon.com ได้รับปัจจัยบวกหลังจากหนังสือพิมพ์เดลี่เมล์ของอังกฤษรายงานว่า Amazon.com อาจจะจับมือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ Ocado ซึ่งเป็นธุรกิจซูเปอร์มาร์เก็ตออนไลน์ของอังกฤษ

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) ของสหรัฐที่ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านทรงตัวที่ระดับ 60 ในเดือนม.ค. แต่ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงสดใส ขณะที่ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น และบ้านมีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ตลาดที่อยู่อาศัยปรับตัวขึ้นต่อไป

    อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงและเป็นปัจจัยถ่วงตลาดในระหว่างวัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ดิ่งลง 1.52% หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 2.58%

     หุ้นมอร์แกน สแตนเลย์ ร่วงลง 1.1% แม้ว่าธนาคารเปิดเผยว่าสามารถกลับมามีผลกำไรในไตรมาส 4 โดยอยู่ที่ระดับ 908 ล้านดอลลาร์ หรือ 39 เซนต์/หุ้น เทียบกับที่ขาดทุน 1.63 พันล้านดอลลาร์ หรือ 91 เซนต์/หุ้นในช่วงเดียวกันของปี 2014

     หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป ร่วงลง 1.52% แม้ว่าธนาคารเปิดเผยรายงานผลกำไรเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.34 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 หรือ 28 เซนต์/หุ้น เทียบกับ 3.05 พันล้านดอลลาร์ หรือ 25 เซนต์/ดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปี 2014

     นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. และตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 19 ม.ค.2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,016.02 จุด                         เพิ่มขึ้น 27.94 จุด     +0.17%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,476.95 จุด                      ลดลง 11.47 จุด      -0.26%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,881.33 จุด                       เพิ่มขึ้น 1.00 จุด      +0.05%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,876.80 จุด                    เพิ่มขึ้น 96.88 จุด     +1.68%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,664.21 จุด                            เพิ่มขึ้น 142.36 จุด    +1.50%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,272.26 จุด                        เพิ่มขึ้น 82.69 จุด     +1.97%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,955.10 จุด     เพิ่มขึ้น 43.30 จุด     +0.88%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,903.10 จุด           เพิ่มขึ้น 44.40 จุด     +0.91%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 7,854.88 จุด                           เพิ่มขึ้น 43.70 จุด     +0.56%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,048.37 จุด                    เพิ่มขึ้น 92.80 จุด     +0.55%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,889.64 จุด                        เพิ่มขึ้น 11.19 จุด     +0.60%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,007.74 จุด                     เพิ่มขึ้น 93.90 จุด     +3.22%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,357.05 จุด             เพิ่มขึ้น 21.96 จุด     +0.35%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 19,635.81 จุด                              เพิ่มขึ้น 398.36 จุด    +2.07%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,491.74 จุด      เพิ่มขึ้น 10.46 จุด     +0.23%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,629.22 จุด                      เพิ่มขึ้น 6.58 จุด      +0.41%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,638.47 จุด                      เพิ่มขึ้น 45.47 จุด     +1.75%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,479.84 จุด                        เพิ่มขึ้น 291.47 จุด    +1.21%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าเพื่อผู้บริโภค รวมถึงหุ้นพร็อคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล (P&G) โดยปัจจัยบวกเหล่านี้สามารถชดเชยการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,016.02 จุด เพิ่มขึ้น 27.94 จุด หรือ +0.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,476.95 จุด ลดลง 11.47 จุด หรือ -0.26% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,881.33 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด หรือ +0.05%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ทางการจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาเมื่อวานนี้

          ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.3% ปิดที่ 332.93 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,272.26 จุด เพิ่มขึ้น 82.69 จุด หรือ +1.97% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,664.21 จุด พุ่งขึ้น 142.36 จุด หรือ +1.50% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,876.80 จุด เพิ่มขึ้น 96.88 จุด หรือ +1.68%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรป เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ทางการจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาเมื่อวานนี้ โดยหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มการเงินปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

          ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 96.88 จุด หรือ +1.68% ที่ 5,876.80 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเปิดเผยว่า เศรษฐกิจจีนในปี 2558 ขยายตัวในอัตราต่ำสุดในรอบ 25 ปี นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากอิหร่านประกาศว่าจะเพิ่มการส่งออกน้ำมัน

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 96 เซนต์ หรือ 3.3% ปิดที่ 28.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 28.76   ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยน นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปซื้อสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่า หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ 

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่1,089.10 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 22.5 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 14.121 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.80 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 830.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 9.85 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 496.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (19 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากทางการจีนเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ว่าจีนอาจจะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินเยนที่ 117.59 เยน จาก 117.31 เยน

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0911 ดอลลาร์ จาก 1.0885 ดอลลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4179 ดอลลาร์ จากระดับ 1.4256 ดอลลาร์

           

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 363.00 จุด ลดลง 6.00 จุด, -1.63%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!