WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET30ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้า Sideway Down ตามตลาดตปท.,กังวลศก.จีน-ราคาน้ำมันยังลง

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway Down ตามตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็อยู่ในแดนลบ เช่นเดียวกับตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรป โดยตลาดหุ้นจีนเช้านี้ยังปรับตัวลงไปราว 2%

     ทั้งนี้ เป็นผลจากความกังวลเศรษฐกิจของจีน และความไม่แน่นอนของมาตรการของจีนในช่วงหลังที่ออกมา อีกทั้งราคาน้ำมันดิบก็ยังปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังจากผันผวนก่อนปิดตลาด

พร้อมให้แนวรับ 1,235-1,240 จุด ส่วนแนวต้าน 1,260 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(8 ม.ค.59) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,346.45 จุด ลดลง 167.65 จุด(-1.02%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,643.63 จุด หดตัว 45.80 จุด(-0.98%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,922.03 จุด ลดลง 21.06 จุด(-1.08%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 54.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 456.29 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 38.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 20.44 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 26.13 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.28 จุด

         ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันบรรลุนิติภาวะ

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(8 ม.ค.59)1,244.18 จุด เพิ่มขึ้น 19.35 จุด(+1.58%)

      - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 253.15 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ม.ค.59

      - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(8 ม.ค.59) ปิดที่ 33.16 ดอลลาร์/บาร์เรล  ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.3%

       - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(8 ม.ค.59)ที่ 10.67 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 36.31/33 คาดอ่อนค่าต่อ หลังตัวเลข ศก.สหรัฐฯออกมาค่อนข้างดี

     - นายชลิต ลิมปนะเวช อุปนายกฝ่ายวิชาการสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การขยายธุรกิจในปีนี้ต้องระมัดระวังอย่าใส่เกียร์ลุยเต็มที่ เพื่อรับมือกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ผันผวนจากเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะร้านอาหาร สินค้าแฟชั่น เนื่องจากผู้บริโภคยังมีความระมัดระวังในการจับจ่ายใช้สอยในกลุ่มสินค้าดังกล่าว

      - รองผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟท.มีแผนจะนำที่ดินบริเวณสถานีแม่น้ำย่านคลองเตย เนื้อที่ 260 ไร่ มูลค่า 1.04 หมื่นล้านบาท และที่ดินบริเวณ กม.11 ด้านหลังอาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ 359 ไร่ มูลค่า 1.83 หมื่นล้านบาท มาพัฒนาเชิงพาณิชย์ โดยเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ

     - โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงถึงปัญหาราคายางพาราตกต่ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งไปยังกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ คมนาคม มหาดไทย ศึกษาธิการ สาธารณสุข กลาโหม อุตสาหกรรม พาณิชย์ เกษตรและสหกรณ์ เพื่อรวบรวมว่าแต่ละกระทรวงจะรับซื้ออย่างไรเสนอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแล้วส่งสำเนามาให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รวบรวมภายในเวลา 12.00 น.วันที่ 11 ม.ค.นี้และมีความเป็นไปได้ว่าจะรายงานเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 12 ม.ค.นี้

       - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์เร่งทำตามแผนพัฒนาที่ราชพัสดุ 5 ปีด้านเศรษฐกิจเริ่มตั้งแต่ปี 2559-2563 จะมีการดำเนินการทั้งสิ้น 134 โครงการ มูลค่าโครงการ 3.16 แสนล้านบาท สร้างรายได้ให้ 5.32 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น โครงการใหม่ 120 โครงการ มูลค่า 2.76 หมื่นล้านบาท สร้างรายได้ 3.38 หมื่นล้านบาท และการบริหารโครงการเก่า 14 โครงการ มูลค่า 4.01 หมื่นล้านบาท สร้างรายได้ 1.94 หมื่นล้านบาท

      - ธปท.เผยการใช้จ่ายรวมของบัตรเครดิตเพิ่มขึ้น 8.66 พันล้านบาทแค่เดือนเดียวส่วนใหญ่เป็นการใช้จ่ายในประเทศ ส่วนการใช้จ่ายต่างประเทศลดลงจากผู้ประกอบการทุกประเภท ขณะที่เบิกเงินสดล่วงหน้ายังคงเพิ่มขึ้น ด้านสินเชื่อส่วนบุคคลจำนวนบัญชีและสินเชื่อลดลงจากฝั่งธนาคารพาณิชย์

        - คลังเร่งเปลี่ยนระบบการชำระเงินจากเงินสดมาเป็นอิเล็กทรอนิกส์หวังดึงผู้มีเงินนอกระบบภาษี 3-4 ล้านรายเข้าระบบภาษีถูกต้อง และช่วยเพิ่มรายได้รัฐบาลอีกปีละ 1.5 แสนล้านบาท เตรียม 2 พันล้านวางระบบไอที กลางปีนี้เห็นแน่

*หุ้นเด่นวันนี้

    - ASEFA (เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้าพื้นฐาน 7 บาท คาดกำไรไตรมาส 4/58 โตต่อเนื่องจากไตรมาส 3/58 ขณะที่แนวโน้มปีนี้เป็นขาขึ้นต่อเนื่องจากงานตู้สวิทช์บอร์ดระบบไฟฟ้าเพิ่มขึ้น(ไตรมาส 1/59 ขยายกำลังการผลิต 50% รองรับดีมานด์), โครงการพลังงานทดแทนประเมิน ASEFA มีส่วนแบ่งตลาด 30% และโครงการลงทุนภาครัฐฯ รถไฟฟ้าสีต่าง ๆ จากที่เคยได้งานระบบไฟฟ้าสายสีน้ำเงินและสีเขียว)

      - IRPC(เคจีไอ)"เก็งกำไร"เป้า Consensus 5 บาท ค่าการกลั่นยังสูงล่าสุด = 10.67 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล (สูงกว่าค่าเฉลี่ยในไตรมาส 4/58 ที่ ?8 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล) คาดแนวโน้มไตรมาส 4/58 เด่นตามแนวโน้มค่าการกลั่นเฉลี่ยที่ 8 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล เทียบกับไตรมาส 3/58 เฉลี่ย 6 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล และจะเด่นยิ่งขึ้นในไตรมาส 1/59 ค่าการกลั่นสูง และผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันจะน้อยลง) ขณะที่โครงการปรับปรุงคุณภาพโรงกลั่นที่เพิ่งเสร็จ มีโอกาสทำให้ผลการดำเนินงานเด่นกว่าโรงกลั่นตัวอื่น

     - TCAP(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 43 บาท คาดกำไร 4Q58 ที่ 1,390 ล้านบาท ดีขึ้นเล็กน้อย 3%QoQ และ 2%YoY โดยสินเชื่อยังมีแนวโน้มหดตัวจากพอร์ตเช่าซื้อ แต่เริ่มชะลอลงแล้ว ด้าน NIM คาดลดลงเล็กน้อยจาก Yield อ่อนตัว ขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยคาดจะทรงตัว QoQ แม้ว่าค่าธรรมเนียมลดลง แต่ได้รายการอื่นๆ เข้ามาชดเชย คาดแนวโน้มสำรองหนี้สูญจะลดลงได้ ตาม NPL ของสินเชื่อเช่าซื้อที่ผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว และหากมีสำรองพิเศษ เชื่อว่าจะเป็นการตั้งจากรายการพิเศษที่เข้ามา ซึ่งจะไม่กระทบกำไร พร้อมมองราคาหุ้นยังถูกมาก ไม่สะท้อนพื้นฐานที่แกร่งขึ้น อีกทั้งคาด Div. Yield อีกราว 4-5%

       - TVT(โกลเบล็ก)เป้า Consensus เฉลี่ย 2.60 บาท คาด Q4/15 มีกำไรสูงสุดของปี(Consensus คาด 20 - 26 ล้านบาท +150% QoQ )จากรับรู้รายได้รับจ้างผลิตละคร"ทางผ่านกามเทพ""สาวน้อยร้อยล้าน" และรายได้จัด Event เพิ่ม ส่งผลให้กำไรปี 2015 +ราว 10% เป็น 45 - 50 ล้านบาท พร้อมคาดกำไรปีนี้ยังโตจากรายการรับจ้างผลิตเพิ่มขึ้น 6 รายการ นอกจากนี้ คาด Q1/59 มีการปิดดีล M&A ธุรกิจผลิตรายการทีวี 1 ราย

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ หลัง CPI จีนขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมาย

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนขยายตัวต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาล

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ไม่รวมญี่ปุ่น ลดลง 0.8% แตะที่ 379.13 จุด เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น.ตามเวลาฮ่องกง

     ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,131.85 จุด ลดลง 54.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 19,997.42 จุด ลดลง 456.29 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,855.80 จุด ลดลง 38.17 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,897.18 จุด ลดลง 20.44 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,725.10 จุด ลดลง 26.13 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,657.89 จุด เพิ่มขึ้น 0.28 จุด ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันบรรลุนิติภาวะ

       ดัชนี ราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีน ขยายตัว 1.4% ในปี 2558 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมาย 3% ที่รัฐบาลจีนตั้งไว้ นอกจากนั้นยังต่ำกว่าตัวเลขปี 2557 ที่โต 2%

      สำหรับ ดัชนี CPI เดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 1.6% หลังจากที่ขยายตัว 1.5% ในเดือนพ.ย. สำนักข่าวซินหัวรายงาน

       ขณะเดียวกัน ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อระดับค้าส่ง ปรับตัวลง 5.2% ในปี 2558 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

      สำหรับ ในเดือนธ.ค. ดัชนี PPI ร่วงลง 5.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนพ.ย.ที่หดตัวลง 5.9% เช่นกัน

     ทั้งนี้ ดัชนี PPI ของจีนปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 46 ติดต่อกันแล้ว

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 41.64 จุด หลังนักลงทุนยังวิตกศก.จีน

   ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

       ดัชนี FTSE 100 ลดลง 41.64 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 5,912.44 จุด

     ก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางจีนได้ปรับลดค่ากลางเงินหยวนลงสู่ระดับระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี ส่งผลให้ตลาดหุ้นจีนผันผวนอย่างหนัก จนจีนต้องประกาศระงับการซื้อขายตามกลไกเซอร์กิตเบรกเกอร์ถึง 2 ครั้งในเวลาเพียง 4 วัน อย่างไรก็ดี คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ประกาศระงับการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์แล้วเมื่อวานนี้

      นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนได้ปรับค่ากลางเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 9 วัน หลังจากมีการปรับลดค่ากลางเงินหยวนลง 8 วันติดต่อกัน ถึงกระนั้นนักลงทุนก็ยังมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดร่วงลง เหตุวิตกสถานการณ์ราคาน้ำมัน

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ได้บดบังปัจจัยบวกอย่างข้อมูลจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดทางการเงินในจีนที่เริ่มคลี่คลาย

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.5% ปิดที่ 341.35 จุด

       ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันลดลง 130.51 จุด หรือ 1.31% ปิดที่ 9,849.34 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลง 69.82 จุด หรือ 1.59% ปิดที่ 4,333.76 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนลดลง 41.64 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 5,912.44 จุด

      ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ม.ค. พุ่งขึ้น 17,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.219 ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง

     ส่วนสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมัน เพิ่มขึ้น 917,000 บาร์เรล สู่ระดับ 63.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 10.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 232 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.8 ล้านบาร์เรล

    นอกจากนี้ กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะลดกำลังการผลิตน้ำมัน แม้ว่าน้ำมันจะล้นตลาดโลกแล้วก็ตาม

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 167.65 จุด แม้ข้อมูลจ้างงานสหรัฐสดใส

      ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (8 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก แม้ธนาคารกลางจีนได้ปรับเพิ่มค่ากลางเงินหยวนและตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ดีดตัวขึ้นแล้วก็ตาม

      ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 167.65 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 16,346.45 จุด ดัชนี S&P 500 อ่อนแรงลง 21.06 จุด หรือ 1.08% ปิดที่ 1,922.03 จุด ดัชนี Nasdaq หดตัว 45.80 จุด หรือ 0.98% ปิดที่ 4,643.63 จุด

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดในแดนบวก แต่สุดท้ายก็ร่วงลงมาปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน แม้ว่าธนาคารกลางจีนได้ปรับค่ากลางเงินหยวนแข็งค่าขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 9 วัน หลังจากมีการปรับลดค่ากลางเงินหยวนลง 8 วันติดต่อกัน

    ขณะเดียวกัน คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ยังประกาศระงับการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หลังจากที่ใช้ถึง 2 ครั้งในเวลาเพียง 4 วัน

    นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใสก็ไม่สามารถทำให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกได้ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 292,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค. จากระดับ 252,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานทรงตัวที่ระดับ 5.0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปีครึ่ง

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ม.ค.2559

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,346.45 จุด ลดลง 167.65 จุด, -1.02%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,643.63 จุด ลดลง 45.80 จุด, -0.98%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,922.03 จุด ลดลง 21.06 จุด, -1.08%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,333.76 จุด ลดลง 69.82 จุด, -1.59%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,849.34 จุด ลดลง 130.51 จุด, -1.31%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,912.44 จุด ลดลง 41.64 จุด, -0.70%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,934.33 จุด เพิ่มขึ้น 82.50 จุด, +0.33%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,751.23 จุด เพิ่มขึ้น 21.32 จุด, +0.78%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,657.61 จุด เพิ่มขึ้น 2.48 จุด, +0.15%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,546.29 จุด เพิ่มขึ้น 15.84 จุด, +0.35%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,453.71 จุด เพิ่มขึ้น 120.37 จุด, +0.59%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,575.43 จุด ลดลง 43.45 จุด, -0.66%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,186.41 จุด เพิ่มขึ้น 61.41 จุด, +1.97%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,917.62 จุด เพิ่มขึ้น 13.29 จุด, +0.70%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,697.96 จุด ลดลง 69.38 จุด, -0.39%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดวันนี้ที่ 7,893.97 จุด เพิ่มขึ้น 41.91 จุด, +0.53%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 4,990.80 จุด ลดลง 19.50 จุด, -0.39%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,049.40 จุด ลดลง 19.40 จุด, -0.38%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (8 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก แม้ธนาคารกลางจีนได้ปรับเพิ่มค่ากลางเงินหยวนและตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ดีดตัวขึ้นแล้วก็ตาม

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 167.65 จุด หรือ 1.02% ปิดที่ 16,346.45 จุด ดัชนี S&P 500 อ่อนแรงลง 21.06 จุด หรือ 1.08% ปิดที่ 1,922.03 จุด ดัชนี Nasdaq หดตัว45.80 จุด หรือ 0.98% ปิดที่ 4,643.63 จุด

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (8 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ได้บดบังปัจจัยบวกอย่างข้อมูลจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง รวมถึงสถานการณ์ตึงเครียดทางการเงินในจีนที่เริ่มคลี่คลาย 

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.5% ปิดที่ 341.35 จุด

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันลดลง 130.51 จุด หรือ 1.31% ปิดที่ 9,849.34 จุด ดัชนีCAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสลดลง 69.82 จุด หรือ 1.59% ปิดที่ 4,333.76 จุด ดัชนี FTSE 100ตลาดหุ้นลอนดอนลดลง 41.64 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 5,912.44 จุด

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (8 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 41.64 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 5,912.44 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (8 ม.ค.) เนื่องจากยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูงเกินไป

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 11 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 33.16ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.พ.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 33.55 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นตลาดหุ้น

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 9.9ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ 1,097.90 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 42.6 เซนต์ หรือ 2.97% ปิดที่ 13.918ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. บวก 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 878.70ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อวันศุกร์ (8 ม.ค.) หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินคาดในเดือนธ.ค.

          เงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0902 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0925ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะ 1.4522 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4617 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.6984 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 0.7001 ดอลลาร์สหรัฐ

          เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบเยนสู่ระดับ 117.67 เยน จาก 117.54 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิสที่ 0.9955 ฟรังก์ จาก 0.9933 ฟรังก์

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 429.00 จุด ลดลง 16.00 จุด, -3.60%

           อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!