WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

bull market5ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวด์ตามภูมิภาค เล็งกลุ่มพลังงานหนุนหลังน้ำมันขึ้น

   นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้นได้ เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติคงจะไม่เทรดกันแล้วหลังจากที่ได้เข้าสู่ช่วงเทศกาล และตลาดฯคงจะได้แรงหนุนจากการทำ Window Dressing และเม็ดเงินจากองทุน LTF, RMF

    ทั้งนี้ ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็อยู่ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นตลาดหุ้นจีน ภายหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น ทำให้ตลาดบ้านเราอาจะได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,266 จุด ส่วนแนวต้าน 1,288-1,295 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(23 ธ.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,602.61 จุด พุ่งขึ้น 185.34 จุด(+1.06%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,045.93 จุด เพิ่มขึ้น 44.82 จุด(+0.90%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,064.29 จุด เพิ่มขึ้น 25.32 จุด(+1.24%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 184.71 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 4.78 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 167.23 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 35.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 10.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.68 จุด

     ด้านตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Birthday of Prophet Muhammad

     - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(23 ธ.ค.58)1,274.50 จุด เพิ่มขึ้น 12.84 จุด(+1.02%)

      - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 5,241.21 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.58

      - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(23 ธ.ค.58) ปิดที่ 37.5 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 1.36 ดอลลาร์ หรือ 3.8%

       - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(23 ธ.ค.58)ที่ 8.24 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 36.06 อ่อนค่าตามภูมิภาคหลังตัวเลขศก.สหรัฐหนุนดอลล์แข็ง

       - กกพ.มอบของขวัญคนไทย กดค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย. 59 ลดลง 1.57 สตางค์ต่อหน่วย ย้ำปีหน้า จะเน้นนโยบายดูแลค่าไฟฟ้าไม่ให้ขึ้นหรือขึ้นน้อยที่สุด "คลัง" ร่วมแจก ช้อปสินค้า-บริการก่อนปีใหม่ 25-31 ธ.ค. นำใบเสร็จลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 1.5 หมื่นบาท ด้านท่องเที่ยวเสนอผุดดิวตี้ฟรีกลางเมือง พร้อมชงคืนภาษีนักท่องเที่ยว กระตุ้นใช้จ่าย

       - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงผลงานรัฐบาลในรอบ 1 ปี ว่า จะต้องจัดระบบการเงิน การคลัง ภาษี และงบประมาณของประเทศใหม่หมด โดยเฉพาะงบประมาณแผ่นดินต่อไปนี้ทุกกระทรวงต้องหารือกันก่อนจัดทำ ต้องเอานโยบายเร่งด่วน แผนปฏิรูปหรือยุทธศาสตร์ชาติมาดูว่าจะทำอะไรร่วมกันตรงนี้ ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ แล้วมาให้กรรมาธิการตัด

   - นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า มาตรการเยียวยาลูกค้าที่ใช้งานบนสัมปทานความถี่ 900 MHz เดิม จะสิ้นสุดหรือซิมดับเมื่อมีการออกใบอนุญาตแก่ผู้ชนะการประมูลรายใดรายหนึ่ง

     - นางทองอุไร ลิ้มปิติ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การเตรียมความพร้อมของสถาบันการเงินไทยเพื่อรับการประเมินความเสี่ยงมาตรฐานการต่อต้านการฟอกเงินและการสนับสนุนทางการเงินต่อการก่อการร้ายของ Financial Action Task Force หรือ FATF (เฟตเอฟ) ในปีหน้า ประมาณเดือน ต.ค.นั้น ธปท.ได้ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานเจ้าของเรื่องอย่างสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว

*หุ้นเด่นวันนี้

      - CPF(เคทีบี)"ซื้อ"เป้า 24 บาท มองราคาหุ้นที่ผ่านมาอ่อนลงจากมูลค่าเงินลงทุนใน CPALL ที่ปรับตัวลงกว่า 16,131.4 ล้านบาทหรือคิดเป็นมูลค่าราว 2.18 บาทต่อหุ้นหลังผู้บริหารถูก ก.ล.ต. สั่งปรับ สำหรับในแง่การดำเนินงาน เรามองกำไรปกติของ CPF ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหลังธุรกิจกุ้งมีสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนจากการปรับโครงสร้างภายใน โดยคาดกำไรใน 4Q58 มีแนวโน้มอ่อนตัวลงตามฤดูกาลแต่จะได้ผลบวกจากการรวมธุรกิจไก่รัสเซียที่พึ่งซื้อในเดือนธันวาคม และคาดว่ากำไรปกติปีนี้จะอ่อนตัวลงมากสะท้อนจากภาวะอุปทานส่วนเกินในธุรกิจสัตว์บกก่อนจะฟื้นตัวขึ้นอย่างโดดเด่นในปีหน้าจากการปรับฐานกำไรของธุรกิจกุ้ง โดยประเมิน Dividend Yield อยู่ที่ 4.2% จากราคาปัจจุบัน

     - ASEFA(ฟินันเซีย ไซรัส)ไซื้อ"เป้าปีหน้า 7 บาท แนวโน้มกำไรใน 4Q15 จะชะลอตามฤดูกาล แต่ทั้งปี 2015 โดยยังคาดโต 62% Y-Y เป็น 184 ล้านบาท แต่ EPS โต 18% Y-Y จากผลของ dilution จากการเพิ่มทุน IPO สำหรับปี 2016 ผู้บริหารตั้งเป้ารายได้โต 15% สอดคล้องกับประมาณการ ปัจจัยหนุนมาจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เช่น รถไฟฟ้า โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน รวมทั้งการลงทุน 4G และ Data Center ส่วนระยะยาว ASEFA มีแผนเพิ่มสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตดี เช่นสายไฟชนิดพิเศษ งานบริการด้าน Turnkey Automation รวมทั้งขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่างๆ

     - MAJOR(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 35 บาท แนวโน้มกำไรใน 4Q15 แข็งแกร่งเพราะมีหนังเข้าฉายโดดเด่นหลายเรื่อง เช่น Star Wars: Episode VII, The Martian, Bonds 24:007: Spectre และ The Hunger Games: Mockingjay, Part 2 โดยเฉพาะ Star Wars ที่ทำสถิติรายได้เปิดตัวสูงสุดของโลกไปแล้วและกระแสยังแรงต่อเนื่อง หนังฟอร์มยักษ์นี้มาในช่วงเปิดโรงหนังใหม่ที่ Central Festival East Ville ปลายพ.ย. และ Central Westgate ปลายส.ค. พอดี

   - CK(ไอร่า)เป้าปีหน้า 32.75 บาท คาดผลการดำเนินงานส่วนใหญ่ในปี’59 ยังมาจาก Backlog เดิมที่มีอยู่ ประมาณ 77,036 ล้านบาท (ก่อนลงนามสัญญาโครงการรถไฟทางคู่ ถ.จิร – ขอนแก่น) คาดรายได้งานก่อสร้าง 36, 672 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 3% และคาดกำไรสุทธิ (จากการดำเนินงานปกติ) 1,213 ล้านบาท ลดลงจากประมาณการปี’58 ที่ 2,527 ล้านบาท เนื่องจากรวมกำไรจากการขายเงินลงทุน 2,011 ล้านบาท ขณะที่แผนการปรับโครงสร้างเงินลงทุนของ CK ทั้งการขายไซยะบุรี รวมถึงการควบรวม BECL และ BMCL (BEM) คาดส่งผลดีต่อ CK ในระยะยาว โดยเฉพาะ BEM ที่คาด CK จะมีรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ประมาณ 700 – 750 ล้านบาท/ปี จากเดิมที่ได้รับเงินปันผลจาก BECL ประมาณ 350 ล้านบาท/ปี

ตลาดหุ้นเอเชียบวกขึ้นเช้านี้ รับราคาน้ำมันดีดตัว-ข้อมูลศก.สหรัฐ

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ขานรับราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

    ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเวลาประมาณ 9.40 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,071.41 จุด เพิ่มขึ้น 184.71 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,631.31 จุด ลดลง 4.78 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,207.82 จุด เพิ่มขึ้น 167.23 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,351.20 จุด เพิ่มขึ้น 35.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,009.34 จุด เพิ่มขึ้น 10.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,872.33 จุด เพิ่มขึ้น 8.68 จุด, ด้านตลาดหุ้นมาเลเซียปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Birthday of Prophet Muhammad

    นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นในเดือนธ.ค. แตะระดับ 92.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนและเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

    ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 490,000 ยูนิต  ส่วนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 14.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และบ่งชี้ว่ายอดขายบ้านมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดในปีนี้ นับตั้งแต่ปี 2550

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดพุ่ง 157.88 จุด หลังหุ้นเหมือง, หุ้นน้ำมันแกร่ง

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเมืองและกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวแข็งแกร่ง

      ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 157.88 จุด หรือ 2.60% ที่ 6,240.98 จุด

     หุ้นกลุ่มเหมืองที่แข็งแกร่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ตลาดหุ้นลอนดอนทะยานขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ทะยานขึ้น 9.1% และหุ้นเกลนคอร์พุ่ง 8.5% ส่วนหุ้นบีเอชพี บิลลิตันและหุ้นริโอ ทินโต ปรับขึ้น 6.9% และ 6.1% ตามลำดับ

    หุ้นกลุ่มน้ำมันปรับตัวขึ้น หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

     EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ธ.ค. ร่วงลง 5.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 484.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 600,000 บาร์เรล

     หุ้นบีจี พุ่ง 6.3% และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ดีดขึ้น 4.8%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นพลังงานพุ่ง หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่อย่างคึกคัก หลังจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น

     ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.7% ปิดที่ 366.39 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,674.53 จุด เพิ่มขึ้น 106.93 จุด, +2.34% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,727.64 จุด เพิ่มขึ้น 238.89 จุด, +2.28% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,240.98 จุด เพิ่มขึ้น 157.88 จุด, +2.60%

      หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่พุ่งขึ้นขานรับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

     ทั้งนี้ หุ้นทุลโลว์ ออยล์ พุ่งขึ้น 10% ขณะที่หุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นเกล็นคอร์ ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 2%

      ส่วนหุ้นอาร์เซลอร์มิททัล พุ่งขึ้น 11% หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐเตรียมขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กจากจีน

     หุ้นอาดิดาส ปรับขึ้น 2.4% หลังจากไนกี้ซึ่งเป็นบริษัทคู่แข่งได้เปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่ดีเกินคาด

     นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 490,000 ยูนิต  ส่วนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 14.5% บ่งชี้ว่ายอดขายบ้านมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นแข็งแกร่งในปีนี้

     ขณะที่ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นในเดือนธ.ค. แตะระดับ 92.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนและเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 185.34 จุด รับหุ้นพลังงานดีดตัว

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) โดยตลาดปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,602.61 จุด พุ่งขึ้น 185.34 จุด หรือ +1.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,045.93 จุด เพิ่มขึ้น 44.82 จุด หรือ +0.90% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,064.29 จุด เพิ่มขึ้น 25.32 จุด หรือ +1.24%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นในเดือนธ.ค. แตะระดับ 92.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนและเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

    ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 490,000 ยูนิตส่วนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 14.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และบ่งชี้ว่ายอดขายบ้านมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดในปีนี้ นับตั้งแต่ปี 2007

    หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ภายหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว

    ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังานที่คำนวณใน S&P 500 ทะยานขึ้น 2.42% ขณะที่หุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 3% ส่วนหุ้นเวสต์เซาเทิร์น เอนเนอร์จี ทะยานขึ้นกว่า 12%

     การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมันช่วยหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน พุ่งขึ้น 16% ทำสถิติปรับขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่หุ้นอัลโค พุ่งขึ้น 6.6%

     หุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพยังคงปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง นำโดยหุ้นเทเน็ท เฮลธ์แคร์ พุ่งขึ้น 7.5% ขานรับข้อมูลคาดการณ์ที่ว่า จะมีชาวอเมริกันลงทะเบียนในโครงการ "โอบามาแคร์" เพิ่มขึ้นในปีหน้า โดยโอบามาแคร์เป็นโครงการตามกฎหมายประกันสุขภาพ Patient Protection and Affordable Care Act (PPACA) ที่ริเริ่มโดยประธานาธิบดีบารัค โอบามา

   นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทยในวันนี้

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!