- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 03 December 2015 10:21
- Hits: 2875
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้ม
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงต่อ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 40 เหรียญฯ/บาร์เรล ทำให้อาจไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน อีกทั้งเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็แข็งค่าขึ้นหลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ออกมาระบุความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกลางเดือนนี้(ธ.ค.)ทำให้ไปกดดันราคาทองคำด้วย และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็ปรับตัวลงกัน
ส่วนตลาดบ้านเราจะเห็นได้ว่า เมื่อวานนี้ดัชนี SET ปิดต่ำกว่าระดับ 1,340 จุด ทำให้สัญญาณทางเทคนิคเป็นลบ พร้อมมองกรอบสำหรับวันนี้ ให้แนวรับ 1,320 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350-1,355 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(2 ธ.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,729.68 จุด ร่วงลง 158.67 จุด(-0.89%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,123.22 จุด ลดลง 33.09 จุด(-0.64%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,079.51 จุด ลดลง 23.12 จุด(-1.10%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 43.50 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 11.18 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 152.65 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 32.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 9.09 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 19.28 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 4.78 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(2 ธ.ค.58)1,339.45 จุด ลดลง 17.56 จุด(-1.29%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 48.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(2 ธ.ค.58) ปิดที่ 39.94 อลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.91 ดอลลาร์ หรือ 4.6%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(2 ธ.ค.58)ที่ 8.25 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.89 ยังอ่อนค่าต่อตามภูมิภาค หลังเฟดย้ำโอกาสขึ้นดอกเบี้ย
- "ประยุทธ์"ว้ากสื่อ นักการเมือง หยุดขยายความปัญหาการบิน หลังสหรัฐฯ ลดระดับมาตรฐาน ได้ทีสั่งยกเครื่องทั้งระบบ "สมคิด" รื้อการทำงาน ลั่นพลาดอีกไม่ได้ จี้การบินไทยรับมือ EASA แจ้งผลประเมิน 10 ธ.ค.นี้ "อาคม" ลุ้นปลดธงแดง ICAO หลังเดินหน้าแก้ ปัญหาเรื่องความปลอดภัย เผยทีจีมี 11 เส้นทางบินสู่ 9 ประเทศในยุโรป มีสัดส่วนรายได้ 1 ใน 3
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการเปรียบเทียบมีคำสั่งปรับนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล นายพิทยา เจียรวิสิฐกุล และนายอธึก อัศวานันท์ กรณีอาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้นบริษัท สยามแม็คโคร หรือ อินไซเดอร์ เทรดดิ้ง รวม 33,339,500 บาท ส่วนนาย สมศักดิ์ เจียรวิสิฐกุล และ น.ส. อารียา อัศวานันท์ ให้การช่วยเหลือถูกปรับคนละ 333,333.33 บาท
- อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ภาษีใหม่รถยนต์ที่จะเก็บตามการปล่อยค่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่มีผลตั้งแต่ วันที่ 1 ม.ค.59 จะส่งผลให้กรมเก็บภาษีเพิ่มขึ้น 7,000-8,000 ล้านบาท เพราะมีรถยนต์บางรุ่นปล่อย CO2 มากกว่าที่กำหนด จึงทำให้ต้องเสียภาษีเพิ่ม โดยเฉพาะในกลุ่มรถกระบะ รถกระบะดัดแปลง หรือ PPV และรถยนต์นั่งที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ตั้งแต่ 1,800 ซีซีขึ้นไป
- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.)เร่งดำเนินการในโครงการรถไฟฟ้า 5 สาย ประกอบด้วย รถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ รถไฟฟ้าสายสีเหลือง ช่วงลาดพร้าว-สำโรง และการจัดหาบริษัทเดินรถโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินให้เร็วขึ้นกว่าปกติ
- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ออกรายงานผลการประชุมร่วมกันระหว่างคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) และคณะกรรมการนโยบายสถาบันการเงิน(กนส.)เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและไทยที่ช้ากว่าคาด ส่งผลกระทบต่อรายได้และความสามารถในการชำระหนี้ของภาคเอกชน โดยเฉพาะครัวเรือนภาคเกษตร และธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
- ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จะนับเงินหยวนเข้าในตะกร้าสกุลเงินของไอเอ็มเอฟได้รับการยอมรับมากขึ้น มีข้อดีคือทำให้ความเสี่ยงสำรองสกุลเงินหยวนในทุนสำรองทางการของประเทศลดลง เพราะวันนี้ไอเอ็มเอฟยอมรับ ทำให้เรานับเงินในทุนสำรองฯ ได้ตามนิยามสากล
- รมว.คลัง เปิดเผยว่า ภายใน 1-2 สัปดาห์นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอ คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน หรือ ไทยแลนด์ ฟิวเจอร์ ฟันด์ วงเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อระดมเงินมาลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อลดภาระงบประมาณ ซึ่งปีหน้าเป็นปีแห่งการลงทุน ที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้สูง
*หุ้นเด่นวันนี้
- TKN(บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง)เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร หมวดอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีราคาขาย IPO ที่ 4 บาท บล.ทรีนีตี้ แนะ"ซื้อ"ประเมินราคาเป้าหมายที่ 6 บาท อิง PER 18.8 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่เทียบเท่ากับค่าเฉลี่ย PER ของกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่ซื้อขายกันอยู่ในปัจจุบัน โดยคาดกำไรสุทธิปี 2558 ไว้ที่ 367 ล้านบาท เติบโต 85%YoY และในช่วงปี 2559-2561 จะเติบโตเฉลี่ยปีละ 17%
TKN เป็นผู้นำในตลาดขนมขบเคี้ยวสาหร่ายมากว่า 10 ปี ในปี 57 มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 62% และยังมีการกระจายสินค้าไปอีก 35 ประเทศ ซึ่งแนวโน้มยอดขายสินค้าจากต่างประเทศสูงขึ้นต่อเนื่อง การขาย IPO ครั้งนี้จะสนับสนุนการก่อสร้างโรงงานใหม่ พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานเดิม ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มกว่าเท่าตัว และสามารถควบคุมต้นทุนในการผลิตได้ดีขึ้น
- SYNEX(โกลเบล็ก)กำไรสุทธิ 3Q58 ที่ 90.4 ล้านบาท +47%YoY และ +7QoQ เนื่องจากยอดขายเพิ่มขึ้นสู่ 5.89 พันล้านบาทเติบโตขึ้น 16% YoY และกำไร 9M58 อยู่ที่ 252 ล้านบาทเติบโต 108%YoY สำหรับยอดขาย 9M58 อยู่ที่ 16.1 หมื่นล้านบาทเติบโต 14%YoY เนื่องจากยอดขาย Smartphone เติบโตและมีการรับจัดจำหน่ายเพิ่มเติมให้แก่ HUAWEI ส่วนปี 59 แนวโน้มกำไรมีโอกาสเติบโตตามยอดขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทรับจัดจำหน่ายให้แก่ HUAWEI ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรสูงกว่าผลิตภัณฑ์อื่น อีกทั้งขยายไปจับงานภาครัฐเพิ่มเติม
- SAWAD(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 55 บาท ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2016 ขึ้น 12% เป็น 1,756 ลบ. (+32% Y-Y) โดยปรับเพิ่มการเติบโตของสินเชื่อจาก 30% เป็น 35% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อที่มีหลักประกันที่หลากหลายขึ้น รวมถึงแผนการเปิดสาขาอีก 400 สาขาเป็น 2,000 สาขา การเพิ่มผลิตภัณฑ์และเพิ่มธุรกิจติดตามหนี้ (มีแผนซื้อหนี้มาบริหารเพิ่มอีก 1-2 พันล้านบาท) และคาด NPL Ratio น่าจะทรงตัวที่ 3-4%
ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนแรงลงเช้านี้ หลังเฟดส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดบ.เดือนนี้
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ ตามทิศทางของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชัดเจนว่าเฟดพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% แตะที่ 133.59 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,894.63 จุด ลดลง 43.50 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,525.73 จุด ลดลง 11.18 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,327.04 จุด ลดลง 152.65 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,424.54 จุด ลดลง 32.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,000.20 จุด ลดลง 9.09 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,864.36 จุด ลดลง 19.28 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,671.99 จุด ลดลง 4.78 จุด
ทั้งนี้ นางเยลเลนกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตันเมื่อวานนี้ โดยได้ส่งสัญญาณพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนนี้ และยังได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการว่างงานลดต่ำลง และอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 25.28 จุด นำโดยหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) หลังมอร์แกน สแตนลีย์ปรับเพิ่มความน่าลงทุนของหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์รายใหญ่ ซึ่งช่วยหนุนให้หุ้นกลุ่มดังกล่าวทะยานขึ้น
ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 25.28 จุด หรือ 0.40% ที่ 6,420.93 จุด
ตลาดปิดในแดนบวก มอร์แกน สแตนลีย์ ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าลงทุนของหุ้นแอสทราเซเนกา ซึ่งส่งผลให้หุ้นบริษัทผู้ผลิตยารายใหญ่ ดีดตัวขึ้น 1.5%
ส่วนหุ้นแกล็กโซสมิธไคลน์ พุ่งขึ้น 2% เนื่องจากมอร์แกน สแตนลีย์ปรับเพิ่มเป้าหมายราคาหุ้นของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ตลาดบวกขึ้นไม่มากนัก โดยมีแรงถ่วงจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่อ่อนแรงลง ซึ่งรวมถึงหุ้นแองโกล อเมริกัน และหุ้นริโอ ทินโต
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: แรงขายหุ้นเหมืองแร่ ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ
ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากราคาโลหะปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายส่วนใหญ่ยังคงได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมในการประชุมวันนี้
ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับลง 0.02% ปิดที่ 384.17 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,905.76 จุด ลดลง 8.77 จุด หรือ -0.18% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,190.02 จุด ลดลง 71.22 จุด หรือ -0.63% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,420.93 จุด เพิ่มขึ้น 25.28 จุด หรือ +0.40%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง โดยหุ้นอาร์เซลอร์มิททาล ร่วงลง 8.9% หลังจากบริษัทเวล เอสเอ คาดการณ์ว่า ราคาเหล็กจะปรับตัวลงอีกในปีหน้า ขณะที่หุ้นแองโกล อเมริกัน ดิ่งลง 2.2%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากการคาดการณ์ที่ว่า ECB ขยายวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมนี้ เพื่อผลักดันเงินเฟ้อให้แตะระดับเป้าหมาย
การคาดการณ์ดังกล่าวมีน้ำหนักมากขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรปรายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนทรงตัวในเดือนพ.ย.ที่ระดับ 0.1%
ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อดังกล่าวต่ำกว่าระดับ 0.2% ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่เป้าหมายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 2% เล็กน้อย
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 158.67 จุด หลังปธ.เฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ.
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ธ.ค.) นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชัดเจนว่า เฟดพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวลงเมื่อคืนนี้
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,729.68 จุด ร่วงลง 158.67 จุด หรือ -0.89% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,123.22 จุด ลดลง 33.09 จุด หรือ -0.64% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,079.51 จุด ลดลง 23.12 จุด หรือ -1.10%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากนางเยลเลนกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสมาคมเศรษฐกิจแห่งวอชิงตันเมื่อวานนี้ โดยนางเยลเลนส่งสัญญาณพร้อมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเฟดเดือนนี้ และยังได้กล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราการว่างงานลดต่ำลง และอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวขึ้นเข้าใกล้ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด
"ข้อมูลทางเศรษฐกิจและการเงินที่เราได้รับมานับตั้งแต่การประชุมในเดือนต.ค. มีความสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเราเกี่ยวกับการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงานได้ช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่ระดับเป้าหมาย 2% ในระยะกลาง" นางเยลเลนกล่าว
ถ้อยแถลงของนางเยลเลนทำให้นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิด โดยผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง โดยลดลงจากระดับ 271,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.0%
ส่วนข้อมูลแรงงานที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น ผลการสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 217,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. ซึ่งสูงที่สุดในรอบ 5 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 192,000 ตำแหน่ง
หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 2.9% ขณะที่หุ้น Oneok Inc และหุ้นเมอร์ฟีย์ ออยล์ ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 6.7%
ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวผันผวน โดยหุ้น Amazon ปรับลง 0.4% หุ้นยาฮู พุ่งขึ้น 5.8% และหุ้นอัลฟาเบท ขยับลง 0.8%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค. และดัชนีภาคบริการเดือนพ.ย.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
อินโฟเควสท์