WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET4 copyภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงตามตปท.รับ Sentiment ลบจากเหตุรุนแรงในฝรั่งเศส

     นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้าราว 1% และคาดว่าตลาดในยุโรปที่จะเปิดในช่วงบ่ายนี้ก็น่าจะปรับตัวลงด้วย เนื่องจากมี Sentiment ลบจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่ฝรั่งเศส ซึ่งทำให้มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และการค้าระหว่างประเทศด้วย อีกทั้งยังส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกด้วย

       ส่วนปัจจัยในประเทศวันนี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 3/58 ซึ่งตลาดคาดว่าจะเติบโต 2.6% อย่างไรก็ดี เชื่อว่านักลงทุนคงจะระมัดระวังการลงทุนในวันนี้ เพราะแม้แต่ MSCI แนะให้ลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นไทย อีกทั้งในส่วนของกลุ่ม ICT ก็ยังต้องมีการประเมิน Valuation กันอีกที

      พร้อมให้แนวรับ 1,370 จุด หากยืนไม่อยู่ก็จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,350 จุด ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,380-1,390 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(13 พ.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,245.24 จุด ลดลง 202.83 จุด(-1.16%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,927.88 จุด ลดลง 77.20 จุด(-1.54%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,023.04 จุด ลดลง 22.93 จุด(-1.12%)

   - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 332.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 58.38 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 437.86 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 51.38 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 27.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 22.77 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 7.60 จุด

        - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(13 พ.ย.58)1,382.46 จุด ลดลง 1.83 จุด(-0.13%)

      - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,468.07 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 พ.ย.58

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(13 พ.ย.58) ปิดที่ 40.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.01 ดอลลาร์ หรือ 2.8%

       - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(13 พ.ย.58)ที่ 9.24 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

       - เงินบาทเปิด 35.94/95 มองกรอบวันนี้ 35.90-36.05 จับตาตัวเลขเงินเฟ้อยูโร

       - หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทมส์ ของอังกฤษ รายงานอ้างนักวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกอาจเปิดตลาดดิ่งลงต่ำกว่า 2% ในเช้าวันที่ 16 พ.ย. และค่าเงินยูโรอาจอ่อนค่าลงอีก ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีสของฝรั่งเศส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 129 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก

     - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เดือน ต.ค. 2558 ซึ่งเป็นเดือนแรกของงบประมาณปี 2559 ปรากฏว่ามีการเบิกจ่าย งบลงทุน 2.35 หมื่นล้านบาท หรือ 4.4% ของงบลงทุนทั้งหมด 5.38 แสนล้านบาท ขณะที่การเบิกจ่ายงบภาพรวมทำได้ 3.59 แสน ล้านบาท หรือ 13.2% เนื่องจาก มีการเบิกจ่ายงบประจำได้ 3.36 แสนล้านบาท

     - นายหลี่ หมิน ประธานกรรมการ บริษัท รอยัล ลี เอสแซท ซึ่งเป็น กลุ่มทุนจากประเทศจีน เปิดเผยว่า บริษัทได้ทุ่มงบประมาณกว่า 2 หมื่นล้านบาท ลงทุนร่วมกับเอกชนชาวไทยสร้าง "โครงการ เดอะ เทอร์มินัล ภูเก็ต" ใกล้สนามบินนานาชาติภูเก็ต บนพื้นที่กว่า 75 ไร่

      - นายเชาว์ เก่งชน กรรมการ ผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภัยแล้งเป็นความเสี่ยงที่สำคัญของเศรษฐกิจไทยปีหน้า โดยกลุ่มธุรกิจที่น่ากังวลจะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) มากที่สุด คือ โรงสี เพราะธุรกิจนี้ต้องมีผลผลิตข้าว ถ้าไม่มีก็ดำเนินธุรกิจไม่ได้ โดยเฉพาะโรงสีขนาดเล็กที่สายป่านสั้นน่าเป็นห่วงมากกว่าโรงสีขนาดใหญ่ที่สายป่านยาว สต๊อกผลผลิตก่อนแล้งได้

*หุ้นเด่นวันนี้

  - TMILL-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.ที เอส ฟลาวมิลล์(TMILL)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 57,000,000 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 30 ตุลาคม 2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 เม.ย. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 29 ต.ค. 2561

    - WHABT ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ เริ่มซื้อขายในตลาด SET ในวันนี้วันแรก สังกัดกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ โดยเป็นทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) กองแรกที่ลงทุนในอาคารสำนักงานให้เช่า ด้วยมูลค่า 2,020 ล้านบาท

       WHABT ลงทุนในกรรมสิทธิ์และสิทธิการเช่า 30 ปีในที่ดินและกรรมสิทธิ์ในอาคารสำนักงานโครงการ เอส เจ อินฟินิท วัน บิสซิเนส คอมเพล็กซ์  บนถนนวิภาวดี-รังสิต และโครงการบางนา บิสซิเนส คอมเพล็กซ์ บนถนนนางนา-ตราด มีพื้นที่เช่ารวมประมาณ 30,250 ตรม. โดยผู้เช่าหลักเป็นบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ

       - PS (โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 35 บาท กำไร 3Q58 เท่ากับ 1,638 ลบ.(-24%qoq, -11%yoy)  9M58 มีกำไร 4,697 ลบ. คิดเป็น 71% ของเป้าทั้งปีที่ 4.7 หมื่นลบ. เหลือที่ต้องทำอีก 1.39 หมื่นลบ. ซึ่งผู้บริหารเชื่อว่าน่าจะทำได้เนื่องจาก มี backlog 1.65 หมื่นลบ. , บ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทมี 46% ของพอร์ต ส่วนคอนโดที่จะโอนในไตรมาส 4 มี 4 โครงการ มียอดจองแล้ว 45-64% ทั้งนี้ บริษัทเลื่อนเปิดขายโครงการใหม่ไปปี 59 แต่ยังคงเป้าพรีเซล 4.7 หมื่นล้านบาทเท่าเดิม 9M58 มียอดพรีเซล 34,445 ลบ. +10%yoy คิดเป็น 73% ของเป้า ผู้บริหารเชื่อว่าทั้งปีทำได้ตามเป้า นอกจากนี้ยังได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาเนื่องจากราคาเฉลี่ยของโครงการปัจจุบันอยู่ที่ 2.52 ล้านบาท

        - GUNKUL(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อเก็งกำไร"เป้าปีหน้า 26 บาท ถ้าไม่รวมขาดทุน FX กำไรปกติดีมากตามคาด +97% Q-Q, 119% Y-Y จากรายได้ที่เพิ่มแรงทั้งจากการขายอุปกรณ์ไฟฟ้าและงานก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่ค้างท่อ โดยคาดกำไรปกติปีนี้ +38% Y-Y และปี 2016 +44% Y-Y จากรายได้เต็มปีของโรงไฟฟ้า IAE 58MW และโครงการลม WED เฟสแรก 10MW เริ่มปลาย 1Q16 และเฟส 2 50MW กลาง 2Q16 นอกจากนี้ยังมีลุ้นได้งานโซลาร์ฟาร์มราชการและสหกรณ์ ที่จะรู้ผล 24 ธ.ค.นี้

      - EPCO(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 7.75 บาท กำไรสุทธิลดลง 33% Q-Q เพราะเป็น Low season ของทั้งธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์และโรงพิมพ์ แต่เพิ่ม 61% Y-Y เพราะปีที่แล้วยังไม่มีโซลาร์รูฟ 1.078MW โดยยังคงคาดกำไรสุทธิปีนี้โตเพียง 8% Y-Y แต่เชื่อว่าปี 2016 จะโต 17% Y-Y จากการ COD โรงไฟฟ้าในญีปุ่น 3 โรงรวม 5.336MW ใน 3Q16 ขณะที่ปี 2017 จะโตก้าวกระโดด 35% Y-Y จากการ COD เพิ่มอีก 20MW และโตต่ออีก 33% Y-Y ในปี 2018 จากการ COD ส่วนที่เหลือ 23MW แม้ระยะสั้นยังไม่มีปัจจัยหนุนแต่ราคาหุ้นยังไม่สะท้อนสัญญาโรงไฟฟ้าใหม่

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ หลังนลท.วิตกเหตุโจมตีปารีส

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากเหตุการณ์โจมตีกรุงปารีสซึ่งคร่าชีวิตประชาชนจำนวนมากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนถือครองสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.6% แตะ 131.47 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,263.96 จุด ลดลง 332.95 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,522.46 จุด ลดลง 58.38 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 21,958.28 จุด ลดลง 437.86 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,278.12 จุด ลดลง 51.38 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,945.68 จุด ลดลง 27.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,902.91 จุด ลดลง 22.77 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,651.31 จุด ลดลง 7.60 จุด

     ทั้งนี้ เกิดเหตุผู้ก่อการร้ายโจมตีกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทั้งในร้านอาหาร ร้านกาแฟ สถานที่จัดแสดงคอนเสิร์ต และสนามกีฬา โดยใช้ยุทธิวิธีต่างๆร่วมกัน ทั้งการยิง การระเบิดฆ่าตัวตาย และการจับตัวประกัน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ขณะที่กลุ่ม IS ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์โจมตีในครั้งนี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นโรลส์-รอยซ์ร่วงหนัก ฉุดฟุตซี่ปิดลบ 60.40 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นโรลส์-รอยซ์ หลังจากทางบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปีนี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง หลังจากราคาโลหะชะลอตัวลง

       ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,118.28 จุด ลดลง 60.40 จุด หรือ 0.98%

       นักลงทุนยังคงเดินหน้าเทขายหุ้นโรลส์-รอยซ์ ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นดังกล่าวปิดตลาดร่วงลง 4.29% ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 7 วันทำการ หลังจากบริษัทระบุว่าผลประกอบการในปีหน้าจะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ลดลงสำหรับเครื่องยนต์อากาศยาน

     ส่วนการปรับตัวลงของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ก็เป็นปัจจัยฉุดตลาดเช่นกัน หลังจากที่ราคาโลหะต่างๆอ่อนแรงลง โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน ร่วงลง 1.4%

        ขณะที่หุ้นเอเบอร์ดีน แอสเซท เมเนจเมนท์ ร่วงลง 3.4% หุ้นเบอร์เบอรี่ ดิ่งลง 3.4% และหุ้นคิงฟิสเชอร์ ร่วงลง 3.23%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ เหตุวิตกเศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัว

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนชะลอตัวลงในไตรมาส 3 นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.81% ปิดที่ 369.53 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,807.95 จุด ลดลง 48.70 จุด หรือ -1.00% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,708.40 จุด ลดลง 74.23 จุด หรือ -0.69% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,118.28 จุด ลดลง 60.40 จุด หรือ -0.98%

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงหลังจากยูโรสแตทรายงานว่า เศรษฐกิจยูโรโซนมีการขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3 ซึ่งลดลงจากระดับ 0.4% ในไตรมาส 2  โดยการชะลอตัวดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากเศรษฐกิจเยอรมนีมีการขยายตัว 0.3% ในไตรมาส 3 จากระดับ 0.4% ในไตรมาส 2

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณดังกล่าว โดยล่าสุด นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า กำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสหรัฐกำลังใกล้เข้ามาแล้ว และเฟดไม่ควรชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อันเนื่องจากความวิตกกังวลต่อปฏิกริยาในเชิงลบของตลาด หรือความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะยาวของสหรัฐ

   ก่อนหน้านี้ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า เฟดควรออกจากนโยบายที่กำหนดให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ใกล้ 0% เนื่องจากนโยบายดังกล่าวได้บรรลุผลส่วนใหญ่ตามที่ต้องการแล้ว

    ดัชนี หุ้นกลุ่มพลังงานและเหมืองแร่ร่วงลงกว่า 5% หลังจากราคาน้ำมันดิบและราคาโลหะปรับตัวลง

    อย่างไรก็ดี หุ้นซินเจนตา เอจี ทะยานขึ้น 11% หลังจากมีรายงานว่าบริษัทไชน่า เนชันแนล เคมิคอล กำลังเจรจาซื้อกิจการซินเจนตา

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 202.83 จุด หลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.อ่อนแอ

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (13 พ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่หน้าผิดหวัง

  ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 202.83 จุด หรือ 1.16% ปิดที่ 17,245.24 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 22.93 จุด หรือ 1.12% ปิดที่ 2,023.04 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 77.20 จุด หรือ 1.54% ปิดที่ 4,927.88 จุด

      ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวลดลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลง 0.4% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน

     ดัชนี PPI ดังกล่าวบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับต่ำ ท่ามกลางการร่วงลงของราคาน้ำมัน และดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น

     ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารและพลังงาน ลดลง 0.3% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน

   นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ดัชนี PPI จะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนต.ค. ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานจะเพิ่มขึ้น 0.1%

   ในขณะเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% ในเดือนต.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 4.473 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้ว่าชาวสหรัฐยังคงมีท่าทีระมัดระวังต่อการใช้จ่าย

    นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค.

    ผู้บริโภคใช้จ่ายมากขึ้นสำหรับเฟอร์นิเจอร์ และสินค้าเพื่อสุขภาพ แต่ลดการซื้อรถยนต์

    หากไม่รวมยอดขายรถยนต์ และน้ำมัน ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนต.ค.

     ด้านผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ในเดือนพ.ย. อยู่ที่ระดับ 93.1 โดยสูงกว่าระดับ 90.0 ของเดือนต.ค.

     ดัชนี ความเชื่อมั่นเดือนพ.ย.อยู่สูงกว่าระดับ 91.5 ที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้

    หุ้นซิสโกลดลง 5.82% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ลง โดยอ้างถึงการชะลอตัวลงของอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ถึงแม้ว่าบริษัทจะมีผลประกอบการประจำไตรมาสที่สูงเกินคาดก็ตาม

    หุ้นนอร์ดสตรอม ซึ่งเป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐร่วงลง 14.98% หลังเปิดเผยผลประกอบการในไตรมาส 3 ที่น่าผิดหวัง ในขณะที่บริษัทได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มรายได้สำหรับตลอดทั้งปีลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!