- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 01 October 2015 13:26
- Hits: 2972
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นตามตลาดภูมิภาคจากปัจจัยนอกปท.ที่ผ่อนคลายลง
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน เนื่องจากจะเห็นได้ว่ากระแสเงินทุนไหลออกจากตลาดในภูมิภาคได้อ่อนตัวลง และเริ่มที่จะมีแรงซื้อกลับบ้าง รวมถึงสกุลเงินแต่ประเทศในเอเชียเริ่มที่จะกลับมาแข็งค่า
นอกจากนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ก็ไม่ได้พูดเรื่องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ รวมถึงตลาดเซี่ยงไฮ้ก็ได้ปิดทำการระยะยาวถึง 7 วัน ดังนั้นตลาดบ้านเราวันนี้มีโอกาสที่จะเกิดเทคนิคเคิลรีบาวนด์ได้
ในทางกลยุทธ์ยังคงแนะนำหุ้นที่อิงเศรษฐกิจในประเทศ และหุ้นได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า อาทิ หุ้น SVI, GLOBAL, BH เป็นต้น พร้อมให้แนวรับ 1,345 จุด ส่วนแนวต้าน 1,358 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(30 ก.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,284.70 จุด พุ่งขึ้น 235.57 จุด(+1.47%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,620.16 จุด เพิ่มขึ้น 102.84 จุด(+2.28%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,920.03 จุด เพิ่มขึ้น 35.94 จุด(+1.91%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 91.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 13.06 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 0.74 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.51 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.57 จุด
ส่วนตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดเฉลิมฉลองวันชาติจีน
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(30 ก.ย.58) 1,349.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.16 จุด(+0.01%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,207.17 ล้านบาท เมื่อวันที่ 30 ก.ย.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(30 ก.ย.58) ปิดที่ 45.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 14 เซนต์ หรือ 0.3%
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(30 ก.ย.58)ที่ 11.35 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดวันนี้ 36.33/35 แนวโน้มผันผวนทิศทางยังไม่ชัด มองกรอบ 36.25-36.45
- องค์การการค้าโลก(ดับเบิ้ลยูทีโอ)ได้ปรับลดการเติบโตการค้าโลกปี 2558 ลงมาอยู่ที่ 2.8% จากประมาณการเดิมที่ 3.3% ทำให้การค้าโลกเติบโตต่ำกว่า 3% ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 โดยมีปัจจัยมาจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลงทั่วโลกและแรงซื้อที่ชะลอตัวจากกลุ่มประเทศใหญ่อย่างจีน
- ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ รฟท. มีมติเห็นชอบให้ดำเนินการจัดประกวดราคาในโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เส้นทางชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ระยะทาง 185 กิโลเมตร (กม.) วงเงิน 26,007 ล้านบาทแล้ว โดยคาดว่าจะประกาศประกวดราคาได้ในวันที่ 2 ต.ค.นี้
- ธปท.เผยภาวะเศรษฐกิจไทยอ่อนแอต่อเนื่อง หวังความเข้มแข็งเศรษฐกิจกลุ่ม G3 และสัญญาณภายในประเทศดีขึ้นในบางจุด เผยเงินบาทอ่อนค่าไม่กระทบจำนวนนักท่องเที่ยว แต่กระทบการผ่านการใช้จ่าย ชี้ภาคท่องเที่ยวยังเป็นตัวสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในปีนี้และปี หน้า พบหนี้ครัวเรือนพุ่งต่อเนื่องล่าสุดแตะ 10.71 ล้านล้านบาท หรือขยับเป็น 80.6% จีดีพี
- ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 อาจโตได้แค่ 2.8% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3% จากเครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจในเดือน ส.ค.ที่ยังสะท้อนภาพการหดตัวเป็นส่วนใหญ่ หวังมาตรการกระตุ้นรัฐออกผลช่วงโค้งสุดท้ายของปี
- นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ในอัตรา 0.18% ต่อปี ของยอดเงินที่ได้รับจากประชาชน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอจากเพดานไม่เกิน 1% โดยให้เริ่มนำส่งตั้งแต่งวดที่ 2 ของปีนี้ หรือตั้งแต่ 1 ก.ค. 2558
- สศอ.เผยดัชนีเอ็มพีไอ ส.ค. ติดลบ 8.3% ต่ำสุดรอบ 17 เดือน เหตุ อสังหาฯซบทำยอดเครื่องใช้ไฟฟ้าลดตาม ส่งออกไปตลาดหลักทั้งยุโรป ญี่ปุ่นยังไม่ฟื้น ผู้ผลิตย้ายไปอาเซียน เตรียมปรับฐาน เอ็มพีไอใหม่ ต.ค.นี้ ชี้ตัวเลขอาจช็อกเล็กน้อย แต่มีโอกาสบวก เพราะคำนวณจากสถานการณ์จริง
*หุ้นเด่นวันนี้
- KBANK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปีหน้า 225 บาท คาดกำไรก่อนการตั้งสำรองใน 3Q15 จะลดลง 5% Q-Q ตามอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ลดลงและค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสูงขึ้น ส่วนกำไรสุทธิคาด -6% Q-Q, -13.8% Y-Y เพราะมีการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนสะท้อน NPL ที่ยังมีทิศทางสูงขึ้น กรณี NPL ที่ยังสูงขึ้นอีกใน 4Q15 ไม่ได้เกินความคาดหมายของเราและตลาด โดยยังเชื่อว่า KBANK จะมีผลประกอบการเหนือกว่ากลุ่ม และคุณภาพหนี้ยังอยู่ในวิสัยที่บริหารจัดการได้
- SPALI(โกลเบล็ก)เป้า 27 บาท ปี 58 มี Backlog รองรับกว่า 1.8 หมื่นลบ. คาดกำไรปี 58 ราว4.6 พันล้านบาทเติบโตเพียง 3% จากปี 57 และคาดเติบโตต่อเนื่องราว 23% ในปี 59 ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง Gross margin สูงสุดในกลุ่มอสังหาฯ อีกทั้งหากทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาคอสังหาริมทรัพย์จะช่วยหนุนให้หุ้นน่าสนใจมากขึ้น
- ANAN(ไอร่า)เป้า 4.40 บาท ปีนี้มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ไม่ต่ำกว่า 12 โครงการ เพื่อเพิ่มยอด Presale โดยมีเป้าหมายในปี’58 ที่ประมาณ 26,000 ล้านบาท คาดเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการที่เปิดขายในปี 56-58 ตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป และคาดปี 59 รายได้และกำไร เติบโต 19% และ 25% ส่วนหนึ่งจากโครงการคอนโดฯ รอโอนปีหน้ามากถึง 5 โครงการ
- JAS(คันทรี่ กรุ๊ป)"เก็งกำไร"เป้า 6.45 บาท(อิง PER 20 เท่า) ปริมาณลูกค้าใหม่ในธุรกิจ Broadband ยังแข็งแกร่งโดยในช่วง2Q58 ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 9.8 หมื่นราย (+21%QoQ,+56%YoY) พร้อมประเมินกำไรปกติปี 58 อยู่ที่ 3.2 พันลบ.(EPS 0.31 บาท/หุ้น) และการประมูลคลื่น 4G มีความคืบหน้า
- SYNTEC(โกลเบล็ก)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 3.55 บาท คาด 2H58 รายได้ก่อสร้างอยู่ที่ 3.8 พันล้านบาทเติบโต 13% จากครึ่งปีแรก และมีขยายธุรกิจไปสู่ Service Apartment เพื่อสร้างรายได้ประจำในอนาคต อีกทั้งมีมูลค่าแฝงจากทรัพย์สินกว่า 500 ล้านบาทและมี Tax Shield อีก 500 ล้านบาท
ตลาดหุ้นเอเชีย ดีดขึ้นเช้านี้ ตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก นักลงทุนจับตา PMI จีน
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานขึ้นเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนหลายรายการที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้
ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.2% แตะ 124.09 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,479.97 จุด เพิ่มขึ้น 91.82 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,194.30 จุด เพิ่มขึ้น 13.06 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,963.55 จุด เพิ่มขึ้น 0.74 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,795.40 จุด เพิ่มขึ้น 4.51 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,622.61 จุด เพิ่มขึ้น 1.57 จุด
ทั้งนี้ ข้อมูลที่จีนจะเปิดเผยในวันนี้ประกอบด้วย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย. โดยสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย. และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนก.ย.โดยไฉซิน
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดพุ่ง 152.37 จุด ตามทิศทางตลาดหุ้นยุโรป
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นอื่นๆในยุโรป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตลาดได้รับแรงกดดันอย่างหนักจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก
ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 152.37 จุด หรือ 2.58% ที่ 6,061.61 จุด
หุ้นเซนเบอรีพุ่งขึ้น 14% หลังจากบริษัทคาดว่า อาจจะมีกำไรต่อปีสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เนื่องจากยอดขายปรับตัวดีขึ้น
หุ้นเกลนคอร์พุ่งขึ้น 14% หลังจากที่ร่วงหนักเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนคลายวิตกกังวลเกี่ยวกับภาระหนี้สินที่สูงเกินไปหลังบริษัทระบุวานนี้ว่า ไม่มีแผนจะยื่นล้มละลาย
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : แรงซื้อหุ้นรถยนต์ หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่ง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มรถยนต์ หลังจากที่ราคาหุ้นดิ่งลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากข่าวโฟล์คสวาเกนโกงผลตรวจสอบมลพิษรถยนต์ดีเซล
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.5% ปิดที่ 347.77 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,455.29 จุด พุ่งขึ้น 111.56 จุด หรือ +2.57% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,660.44 จุด พุ่งขึ้น 210.04 จุด หรือ +2.22% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,061.61 จุด เพิ่มขึ้น 152.37 จุด หรือ +2.58%
หุ้นโฟล์คสวาเกนพุ่งขึ้น 2.7% ซึ่งช่วยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มรถยนต์ดีดตัวขึ้นด้วย หลังจากหุ้นกลุ่มดังกล่าวร่วงลงอย่างหนักก่อนหน้านี้ ภายหลังจากที่โฟล์คสวาเกนออกมายอมรับว่า รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ของบริษัทราว 1.8 ล้านคันมีการติดตั้งซอฟท์แวร์ที่ทำให้ดูเหมือนว่ามีการปล่อยมลพิษน้อยกว่าความเป็นจริง
สำหรับ ข่าวความคืบหน้าล่าสุดของโฟล์คสวาเกนนั้น นายสเตเฟน เลอ โฟลล์ โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส กล่าวว่า รัฐบาลฝรั่งเศศไม่ได้พิจารณาสั่งห้ามจำหน่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกนบางรุ่นในฝรั่งเศส หลังจากที่ทางการสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่าอาจมีการออกคำสั่งห้ามจำหน่ายรถยนต์โฟล์คสวาเกนในประเทศ
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวที่ปิดพุ่งขึ้น 2.7% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดพุ่งขึ้นกว่า 1%
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย.ในวันศุกร์นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 173,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 235.57 จุด รับตลาดหุ้นทั่วโลกทะยาน
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกปรับฐานขึ้นเมื่อวานนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,284.70 จุด พุ่งขึ้น 235.57 จุด หรือ +1.47% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,620.16 จุด เพิ่มขึ้น 102.84 จุด หรือ +2.28% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,920.03 จุด เพิ่มขึ้น 35.94 จุด หรือ +1.91%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนขานรับตลาดหุ้นทั่วโลกที่พากันปรับฐานขึ้นเมื่อวานนี้ โดยเฉพาะดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวที่ปิดพุ่งขึ้น 2.7% จากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) จะเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป หลังจากญี่ปุ่นเปิดเผยผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวลงในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ส่วนความเคลื่อนไหวด้านอื่นๆที่มีส่วนช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กด้วยนั้นสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ด้วยคะแนนเนียง 277 ต่อ 151 เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล หรือชัตดาวน์ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะเป็นการให้อำนาจรัฐบาลสหรัฐในการใช้จ่ายงบประมาณตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. จนถึงวันที่ 11 ธ.ค.
หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบปรับตัวขึ้น โดยหุ้นฟรีพอร์ท-แมคมอแรน ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ พุ่งขึ้น 6.4% ขณะที่หุ้นเชซาพีค เอนเนอร์จี ทะยานขึ้น 8%
หุ้นที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากที่ถูกเทขายอย่างหนักก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากข่าวอื้อฉาวของโฟล์คสวาเกน โดยหุ้นเดลฟี ออโตโมทีฟ และหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2.9%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนก.ย.
ส่วนในวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขการจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 173,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 7 ปี
อินโฟเควสท์