- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Tuesday, 08 September 2015 11:22
- Hits: 5365
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซต์เวย์ รอดูมาตรการกระตุ้นศก.เข้าครม./ปัจจัยนอกปท.นิ่ง
นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าดัชนีฯจะแกว่งไซต์เวย์ เพื่อรอให้ตลาดสหรัฐกลับมาเทรดในคืนนี้หลังจากทีเมื่อวานนี้ได้ปิดทำการไป อีกทั้งรอดูการประชุมครม.วันนี้ด้วย เกี่ยวกับประเด็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงวันนี้จะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD หุ้นขนาดใหญ่หลายตัว โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มแบงก์ นอกจากนี้เงินบาทก็อ่อนค่าทะลุ 36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯไปแล้ว
สำหรับ ปัจจัยนอกประเทศดูจะนิ่ง ๆ แต่ยังรอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้แกว่งทั้งในแดนบวก-ลบ
พร้อมให้แนวรับ 1,355-1,360 จุด ส่วนแนวต้าน 1,380-1,386 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการเมื่อวานนี้(7 ก.ย.) เนื่องในวันแรงงานสหรัฐฯ
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 81.44 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 25.98 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 53.31 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.35 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(7 ก.ย.58) 1,371.40 จุด เพิ่มขึ้น 0.65 จุด (+0.05%)
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,956.81 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ก.ย.58
- ตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(7 ก.ย.)เนื่องในวันแรงงานสหรัฐฯ
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(7 ก.ย.58)ที่ 7.46 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.20 แนวโน้มอ่อนค่าต่อตามภูมิภาค-กังวลสถานการณ์การเมืองในปท.
- นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 8 ก.ย.จะชี้แจงโรดแมปใหม่ให้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบ หลังสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เช่น การตั้งคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ การตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และการบริหารเวลาจากนี้จะใช้เวลา 20 เดือน เพื่อการเลือกตั้งใหม่ตามสูตร 6-4-6-4 (กราฟฟิก)
- ตลาดเงินเมื่อวานนี้ เกิดความผันผวนมาก โดยเงินบาทอ่อนค่าลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีครึ่งในการซื้อขายระหว่างวัน ที่ 36.12 บาท/เหรียญสหรัฐ และปิดตลาดที่ระดับ 36.10-36.12 บาท/เหรียญสหรัฐ เนื่องจากมีแรงซื้อเงินเหรียญสหรัฐเข้ามาอย่าง ต่อเนื่อง บวกความกังวลกับการคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ ส่งผลให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไป และตลาดยังคาดว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 16 ก.ย.นี้ อาจมีโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงเพิ่มอีก
- ธปท.ระบุเงินบาทอ่อนค่าในรอบ 6 ปี 6 เดือน แตะ 36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ การอ่อนค่าสอดคล้องสกุลเงินภูมิภาค ผลจากตลาดคาดเฟดมีโอกาสจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย.นี้ หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลายตัวปรับตัวดีขึ้น ขณะที่เงินไหลออกไทย 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐล่าสุดในเดือน ก.ค. นักบริหารเงินแจงค่าบาทอ่อนสุดที่ 36.12 จากปัจจัยทั้งใน-นอกรุมเร้า
- พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน ประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กบง.อนุมัติให้ ปรับราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) เพิ่มขึ้น 50 สตางค์/กิโลกรัม (กก.) ทำให้ราคาขยับขึ้นจากเดิม 13 บาท/กก. เป็น 13.50 บาท/กก. สำหรับ รถยนต์ทั่วไป แต่ให้คงราคาขายปลีกสำหรับรถยนต์โดยสารสาธารณะที่ 10 บาท/กก. โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 8 ก.ย.เป็นต้นไป
- นายเจน นำชัยศิริ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ประเมินภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและปัจจัยที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ว่า เศรษฐกิจในปี 2559 จะสามารถขยายตัวได้ดีกว่าในปี 2558 เนื่องจากเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าจะขยายตัวได้ 3% จากปีนี้ 2.5% ขณะที่เศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซนนั้นปัญหาด้านการเงินจะผ่อนคลายลง เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะเริ่มดีขึ้น
- นางสร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อพิจารณาแนวทางการถ่ายโอนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ให้กับกรุงเทพมหานคร(กทม.)ว่า ที่ประชุมได้ข้อยุติเรื่องบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเกี่ยวกับการโอนรถไฟฟ้าทั้ง 2 ช่วงดังกล่าวของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้กับ กทม.เป็นผู้ดำเนินการบริหารจัดการเดินรถเพื่อให้เกิดการเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าบีทีเอสที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน คาดว่าจะลงนามได้ภายในเดือนกันยายนนี้ ส่วนเรื่องการถ่ายโอนทรัพย์สินและหนี้สินจาก รฟม.ไปให้ กทม.จะต้องหารือให้ได้ข้อสรุปก่อนเปิดเดินรถต่อไป "การโอนรถไฟฟ้าทั้ง 2 ช่วงจะช่วยให้การเดินรถรวดเร็วขึ้น"
*หุ้นเด่นวันนี้
- KTB(โกลเบล็ก)เป้า 26.60 บาท/หุ้น คาดกำไรปี 58 ที่ 3.5 หมื่นลบ. (+6%) จากเป้าสินเชื่อขยายตัวขึ้น 6-7% เน้นสินเชื่อ SME เพื่อให้ NIM > 2.6% , รักษา NPL อยู่ที่ระดับ 2.3% ,ตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นเป็น 700 ลบ./เดือน ฐานการเงินแข็งแกร่งจาก Coverage ratio เพิ่มขึ้นเป็น 132% และได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นศ.ก. เนื่องจากมีสินเชื่อภาครัฐสูง อีกทั้ง AQ(เดิม KMC)ศาลฯสั่ง KMC จ่าย 1 หมื่นลบ.คืน KTB
- LH(เคเคเทรด)"ซื้อ"ลงทุนระยะยาว เป้า 10 บาท ยอดขายสะสมใน 8M58 จะทำได้เพียง 1.5 หมื่นล้านบาทลดลง 31% YoY แต่ยอดขายในเดือน ส.ค.เริ่มเห็นการฟื้นตัวดีขึ้น โดยเฉพาะสินค้าแนวราบที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวขึ้น โดยคาดจะเห็นการเติบโตของยอดขายเกิดขึ้นเด่นใน 4Q58 ตามทิศทางแผนเปิดตัวโครงการใหม่ โดยคาดยอดขายทั้งปีทำได้ราว 2.5-2.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่ใน 3Q58 ผลประกอบการอาจยังไม่เด่นนัก แต่คาดใน 4Q58 คาดว่าจะเห็นผลประกอบการเติบโต จากการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ของโครงการคอนโดมีเนียมรวมถึงการบันทึกกำไรจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน REIT ของ Terminal 21 ในส่วนของโรงแรม ซึ่งบันทึกกำไรราว 700 ล้านบาท พร้อมทั้งทิศทางการเติบโตของรายได้จากงานในมือของปี 59
- CFRESH (กสิกรไทย)"ซื้อ"เป้า 10.10 บาท เชื่อจะยังคงสร้างผลงานแข็งแกร่งกว่าอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขาลงของอุตสาหกรรมผ่านไป โดยในระยะสั้น บริษัทจะมีแรงหนุนจาก High season, ราคาวัตถุดิบที่มีเสถียรภาพ และค่าเงินบาทที่อ่อนค่าในช่วงครึ่งหลังของปี ขณะที่บริษัทยังอยู่ระหว่างมองหาการเข้าซื้อกิจการที่น่าสนใจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งน่าจะมีความชัดเจนในปี 2559
- PS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 32.50 บาท นอกจากปัจจัยบวกจากยอดขายที่ทำได้ดีต่อเนื่องแล้ว PS ยังมีประเด็นบวกจากแนวโน้มของผลประกอบการ 2H58 ที่คาดเติบโตกว่า 1H58 ส่วนหนึ่งจากงานในมือกว่า 2 หมื่นล้านบาท ที่รองรับรายได้จากประมาณการแล้ว 85% จากแผนการโอนกรรมสิทธิ์ของสินค้าคอนโดมีเนียมกว่า 8 แห่ง โดยคาดเห็นการบันทึกรายได้เติบโตสูงสุดของปีเกิดขึ้นใน 4Q58 โดยมีปัจจัยบวกที่ติดตามคือนโยบายภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจซึ่งอาจให้การสนับสนุนการเติบโตของภาคอสังหาฯ ซึ่งคาดกลุ่มลุกค้าของ PS มีโอกาสได้ประโยชน์โดยเฉพาะสินค้าทาวน์เฮาส์ราคาระดับกลาง-ล่าง
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับตลาดหุ้นญี่ปุ่นดีดตัว
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นญี่ปุ่น ขณะที่นักลงทุนกำลังจับตาดูข้อมูลการค้าต่างประเทศเดือนส.ค.ของจีน ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้
ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้น 0.1% แตะ 124.25 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,941.91 จุด เพิ่มขึ้น 81.44 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,636.83 จุด เพิ่มขึ้น 53.31 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,993.10 จุด เพิ่มขึ้น 6.54 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,889.14 จุด เพิ่มขึ้น 5.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,859.94 จุด เพิ่มขึ้น 7.53 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,584.20 จุด เพิ่มขึ้น 1.35 จุด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 31.60 จุด นำโดยหุ้นเหมือง
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) โดยหุ้นเกลนคอร์หนุนตลาดพุ่งขึ้น หลังบริษัทระบุถึงแผนที่จะปรับลดหนี้สิน ขณะตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน จากถ้อยแถลงผู้ว่าการแบงก์ชาติจีน
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 31.60 จุด หรือ 0.52% ที่ 6,074.52 จุด
ตลาดได้รับแรงหนุนจากหุ้นเกลนคอร์ ซึ่งพุ่งขึ้น 7% หลังบริษัทเปิดเผยว่าจะขายสินทรัพย์และหุ้นเพื่อลดภาระหนี้สินของบริษัท
ขณะเดียวกัน ตลาดได้คลายวิตกเกี่ยวกับจีนไปได้บ้าง หลังจากนายนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ระบุว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นจีนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาใกล้สิ้นสุดลงแล้ว และคาดว่าตลาดการเงินจะกลับมานิ่งและมีเสถียรภาพมากขึ้น
ถ้อยแถลงสร้างความเชื่อมั่นของผู้ว่าแบงก์ชาติจีนมีขึ้นในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ที่ประเทศตุรกี ในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินของจีนได้จุดชนวนให้เกิดการปรับฐานหลายระลอกในช่วงที่ผ่านมา
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองอื่นๆก็ปรับตัวในแดนบวก นำโดยหุ้นอันโตฟากัสตา พุ่ง 7.5% และหุ้นแองโกล อเมริกัน บวก 1.4%
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขณะคลายวิตกศก.จีน-จับตาประชุมเฟด
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีนไปได้บางส่วน และหันมาให้ความสนใจกับการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า ขณะที่ข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีก็เป็นปัจจัยบวกต่อตลาด
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.70 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 354.81 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 26.56 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 4,549.64 จุด ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ดีดตัวขึ้น 70.57 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 10,108.61 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน บวก 31.60 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 6,074.52 จุด
ตลาดมีมุมมองที่ดีขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจีน หลังจากนายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ระบุว่าการปรับฐานของตลาดหุ้นจีนที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมานี้ใกล้สิ้นสุดลงแล้ว และคาดว่าตลาดการเงินจะกลับมานิ่งและมีเสถียรภาพมากขึ้น
ถ้อยแถลงสร้างความเชื่อมั่นของผู้ว่าแบงก์ชาติจีนมีขึ้นในระหว่างการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G20 ที่ประเทศตุรกี ในช่วงสุดสัปดาห์ หลังจากที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางการเงินของจีนได้จุดชนวนให้เกิดการปรับฐานหลายระลอกในช่วงที่ผ่านมา
ขณะเดียวกน ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่ปรับตัวขึ้นก็ช่วยหนุนมุมมองบวกของนักลงทุนด้วย โดยกระทรวงเศรษฐกิจเยอรมนีเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ผลผลิตภาคอุคสาหกรรมเยอรมนีเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า จากอานิสงส์การผลิตรถยนต์และการก่อสร้างที่ปรับตัวสดใส
หุ้นกลุ่มเหมืองนำตลาดทะยานขึ้น โดยหุ้นเกลนคอร์ พุ่ง 7% ขณะที่หุ้นอันโตฟากัสตา ทะยานขึ้น 7.5% หลังราคาโลหะต่างๆปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟดที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า เพื่อประเมินสัญญาณบ่งชี้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค.ของสหรัฐยังไม่ได้แสดงถึงความชัดเจนเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงานสหรัฐ
World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7ก.ย.2558
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,074.52 จุด เพิ่มขึ้น31.60 จุด +0.52%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,108.61 จุด เพิ่มขึ้น70.57 จุด +0.70%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,549.64 จุด เพิ่มขึ้น 26.56จุด +0.59%
ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 7,986.56 จุด ลดลง 14.04จุด -0.18%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,860.47 จุด เพิ่มขึ้น 68.31จุด +0.38%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,883.22 จุด ลดลง 2.82จุด -0.15%
ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,051.00 จุด ลดลง 9.80จุด -0.19%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,030.40 จุด ลดลง 10.20จุด -0.20%
ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,080.42 จุด ลดลง 79.75จุด -2.52%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,926.82 จุด ลดลง 124.96จุด -1.77%
ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 20,583.52 จุด ลดลง257.09 จุด -1.23%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,301.37 จุด ลดลง 113.97จุด -2.58%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,852.41 จุด ลดลง 11.40จุด -0.40%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,582.85 จุด ลดลง 6.31จุด -0.40%
ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 24,893.81 จุด ลดลง308.09 จุด -1.22%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดทำการวันจั
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กปิดทำการวั
ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการวันจั
ตลาดเงินนิวยอร์กปิดทำการวันจั
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื
ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.70 จุด หรือ 0.48% ปิดที่ 354.81 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เพิ่มขึ้น 26.56 จุด หรือ 0.59% ปิดที่ 4,549.64 จุด ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ดีดตัวขึ้น 70.57 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 10,108.61 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน บวก 31.60 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 6,074.52 จุด
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื
ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 31.60 จุด หรือ 0.52% ที่ 6,074.52 จุด
ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 876.00 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด, +0.11%
อินโฟเควสท์