WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET80โบรก คาด SET สัปดาห์หน้าขยับกรอบแคบ รอดูงบบจ. Q2/58 แต่ราคาน้ำมัน-ศก.ซบเซายังกดดัน แนะเลือกหุ้นปันผลสูง

   โบรกคาดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่งตัวกรอบแคบ เหตุนักลงทุนรอดูงบบจ.Q2/58 ราคาน้ำมันดิบกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน ส่งออกปีนี้ยังทรุดหนัก เหตุเศรษฐกิจใน-นอกประเทศซบเซา พร้อมติดตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯคืนนี้ มีผลต่อทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของเฟด แนะลงทุนหุ้นDefensive หรือ ปันผลสูง อย่าง BTS-ADVANC-INTUCH ประเมินแนวรับ 1,420 จุด แนวต้าน 1,450 จุด

  นางสาวอาภาภรณ์ แสวงพรรค ผอ.ฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ ดัชนีแกว่งในกรอบแคบ ได้รับปัจจัยกดดันจากตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวลดลง แต่ในขณะเดียวกันนักลงทุนหันไปสนใจหุ้นกลุ่มขนาดกลาง-เล็ก ในตลาด mai มากกว่าจึงเป็นปัจจัยบวกให้ดัชนีฯ ขยับแดนในบวกได้ เนื่องจากมีแรงซื้อเก็งกำไรจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/2558 ที่มีแนวโน้มว่าจะออกมาโดดเด่น โดยในภาพรวม ทางบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานยังมีผลประกอบการที่ออกมาเติบโตค่อนข้องดีกว่ากลุ่มอื่น เนื่องจากได้กำไรจากการทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว

   ส่วนราคาน้ำมันยังปรับตัวลงต่อ ได้ปัจจัยกดดันจากกำลังการผลิตทั่วโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับประเทศอิหร่านใกล้บรรลุสถานะคว่ำบาตร ซึ่งจะสามารถผลิตน้ำมันออกสู่ตลาดโลกได้อีกครั้ง จากการคาดการณ์ในระยะยาวราคาน้ำมันดิบอาจลงไปได้อีกราว10-15%จากปัจจุบันราคาปิดตลาดวานนี้อยู่ที่ 44.66เหรียญ/บาร์เรล 

   ด้านแนวโน้มส่งออกของไทยปีนี้คาดว่าจะติดลบ4% จากเดิมที่คาดไว้0% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศยังค่อนข้างซบเซา

   สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า คาดว่า ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบโดยนักลงทุนส่วนใหญ่รอการประกาศตัวเลขผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน รวมถึงยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน ส่วนปัจจัยสำคัญคือราคาน้ำมันที่ยังปรับตัวลดลงต่อเนื่องคอยกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีโอกาสแกว่งตัวในแดนลบ

   ทั้งนี้ ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามคือการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจในสหรัฐคือตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.ค.58 ซึ่งมีนักวิเคราะห์หลายฝ่ายออกมาคาดการว่าจะอยู่ประมาณ 200,000ต้นๆ ส่วนในกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้นยังต้องรอดูการฟื้นตัวอีกหลายปัจจัย ซึ่งทาง  บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส คาดว่า จะปรับขึ้นในช่วง ธ.ค.58หรืออาจจะเร็วกว่านั้นหากตัวเลขเศรษฐกิจรวมถึงปัจจัยต่างๆภายในประเทศมีการฟื้นตัวอย่างชัดเจน

   กลยุทธ์การลงทุน แนะซื้อขายในกรอบแนวรับแนวต้าน หรือลงทุนให้หุ้น Defensive ประเมินแนวรับ 1,420 จุด หากหลุดแนวรับมีโอกาสลงไปแตะ 1,410-1,400จุด ได้ ส่วนแนวต้าน 1,440-1,450จุด

   นายประกิต  สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเชียพลัส เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ มูลค่าการซื้อขายเบาบาง หลังตอบรับปัจจัยลบต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจไทยชะลอตัวไปแล้ว ส่วนค่าเงินบาทอ่อนค่า แม้จะส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก แต่ก็ต้องระวัง เพราะอาจจะกระทบต่อภาคส่วนที่ต้องนำเข้า และมีหนี้ต่างประเทศที่อยู่ในรูปสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ

   ส่วนภาคการท่องเที่ยวไม่ค่อยจะได้รับผลดีมากนัก เนื่องจากนักท่องเที่ยวยุโรปไม่ค่อยจะเข้ามาท่องเที่ยวในไทย มีเพียงนักท่องเที่ยวจีน ที่เข้ามาในรูปแบบที่เรียกว่า "ทัวร์ศูนย์บาท"

   ด้านกระแสเงินทุนของนักลงทุนต่างชาติ ปีนี้นักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นไทยหนัก จนมองว่าถือหุ้นไทยค่อนข้างน้อยมากแล้ว หากค่าเงินบาทอ่อนค่าระดับ 36 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ก็อาจจะเห็นแรงซื้อกลับบ้าง

   ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ คืนนี้ติดตามตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าน่าจะออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ แต่ไม่น่าจะส่งผลต่อการพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ มากนัก โดยคงคาดการณ์เดิมว่าเฟดน่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งในปีนี้ และน่าจะปรับขึ้นในเดือน ก.ย. นี้

   สำหรับสัปดาห์หน้า คาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ แม้จะตอบรับปัจจัยลบต่าง ๆ ไปแล้ว แต่ยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามาสนับสนุน เพียงแต่ยังมีความหวังจากกองทุนทริกเกอร์ฟันด์ 2 กองทุน มูลค่ารวมราว 2 พันล้านบาท ที่แม้ว่าเม็ดเงินจะไม่ได้มากนัก แต่หากเทียบกับมูลค่าการซื้อขายของตลาดหุ้นไทยที่เบาบาง ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่พอจะส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุน รวมถึงความหวังว่าจะมีเม็ดเงินจากกองทริกเกอร์ฟันด์ใหม่เพิ่มเติมเข้ามาด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีแรงกดดันจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน Q2/2558 ที่ส่วนใหญ่ออกมาแย่กว่าคาด

   ด้านกลยุทธ์ แนะซื้อหุ้นที่มีปันผลสูง อาทิ BTS-ADVANC-INTUCH พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,423 จุด แนวต้าน 1,440 จุด

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!