WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET13ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตลาดตปท.,กังวลศก.ในประเทศ-หุ้นจีนร่วงแรง

     นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี โอเอสเค (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะเปิดในแดนลบ และทิศทางโดยรวมน่าจะปรับตัวลงต่อเนื่องไม่แตกต่างจากตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ต่างปรับตัวลงกัน โดยคาดว่าแรงขายจะยังมีเข้ามา แต่แรงซื้ออาจเป็นได้แค่เทคนิคเคิลรีบาวน์

    เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงหลักของตลาดฯยังเป็นเรื่องเดิมจากเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ดี และยังมาย้ำที่ตัวเลขการส่งออกที่ไม่ดีด้วย ซึ่งทำให้มีโอกาสที่จะถูกปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ(GDP) ได้อีกรอบ และจะไปกระทบบริษัทจดทะเบียนให้ถูก Down grade ลงมา รวมถึงตลาดยังรอดูการปรับคณะกรัฐมนตรี (ครม.)ด้านเศรษฐกิจอีกด้วย

   ส่วนปัจจัยจากต่างประเทศตอนนี้ก็หันมาโฟกัสที่จีน จากที่ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนไม่ดี ตลาดหุ้นจีนมีความผันผวนค่อนข้างมาก และเช้านี้ตลาดจีนก็ร่วงลงแรง ขณะที่จีนนับเป็นผู้บริโภครายใหญ่ในอาเซียน โดยเฉพาะในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งหากเศรษฐกิจจีนมีปัญหาก็อาจจะกระทบต่อเนื่องได้

    ส่วนสหรัฐฯเวลานี้อยู่ในช่วง Wait & See รอดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,420 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

   - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(27 ก.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,440.59 จุด ร่วงลง 127.94 จุด(-0.73%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,039.78 จุด ลดลง 48.85 จุด(-0.96%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,067.64 จุด ลดลง 12.01 จุด(-0.58%)

    - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 161.53 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 152.42 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 82.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 9.74 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 12.48 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 8.16 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 1.14 จุด

   - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(27 ก.ค.58) อยู่ที่ 1,412.55 จุด ลดลง 25.53 จุด (-1.78%)

   - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,508.87 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 ก.ค.58

   - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(27 ก.ค.58) ปิดที่ 47.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 75 เซนต์

   - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(27 ก.ค.58)ที่ 5.83 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

   - เงินบาทเช้านี้เปิด 34.83/85 แกว่งแคบ รอปัจจัยชัดเจนจากเฟดที่เริ่มประชุมวันนี้

   - ส่งออกเดือนมิ.ย.ร่วงหนัก 7.87% ติดลบต่อเนื่อง เดือนที่ 6 มากสุดรอบ 3 ปีครึ่ง เหตุส่งออกรถกระบะ ทรุดหนัก 48.3% จากการเปลี่ยนรุ่น ขณะที่ตลาด หลักลดลง โดยเฉพาะสหรัฐ ติดลบครั้งแรกรอบ 9 เดือน หวังบาทอ่อนดันยอดครึ่งปีหลัง ด้าน"เอกชน-นักเศรษฐศาสตร์"รับปีนี้หมดโอกาสขยายตัว หวั่นทรุดยาว ขณะสรท.เล็งปรับเป้า คาดติดลบ 2-3.5%

    - ค้าปลีกวูบ"หนี้ครัวเรือนสูง-กำลังซื้อ รากหญ้าหาย" ฉุดธุรกิจครึ่งปีแรกโตต่ำ 2.8% ชี้ 6 เดือนหลังไร้สัญญาณบวก คาดปีนี้โตต่ำ 3% ระบุกลุ่มซ่อมแซม-สร้างบ้าน-ไฮเปอร์มาร์เก็ต น่าห่วง กระทุ้งรัฐเร่งขับเคลื่อนเมกะโปรเจค ส่งเสริมท่องเที่ยว ทบทวนลดภาษีนำเข้า ฟื้นเศรษฐกิจ

   - นายกรัฐมนตรีลั่นปรับครม.แน่เมื่อทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่ใช่เพราะรัฐมนตรีทำงานไม่ดี ยันไม่นำนักการเมืองเข้าร่วม ระบุดึง"สมคิด"ร่วมหรือไม่ขอพิจารณาเอง

    - กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยรายงานการค้ามนุษย์ประจำปี 2015 (TIP) เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ค. โดยจัดให้ไทยอยู่ในระดับเทียร์ 3 เท่าเดิม ร่วมกับรัสเซียและอิหร่าน แม้ว่าทางการไทยจะแก้ไขปัญหาหลายอย่างแล้วก็ตาม โดยเฉพาะการใช้แรงงานด้านประมง

    - พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังประชุมระดับรัฐมนตรีไทย-ลาว ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงความคืบหน้าในการดำเนินงานเชื่อมการขนส่งในโครงการรถไฟจีน-ลาว-ไทย ให้ต่อเนื่องกัน โดยไทยและลาวเห็นชอบที่จะผลักดันเรื่องนี้ร่วมกัน จึงเป็นการยืนยันว่า โครงการนี้เกิดขึ้นแน่นอน

   - สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยถึงฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ต.ค. 2557-มิ.ย. 2558) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 1.63 ล้านล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.21 หมื่นล้านบาท หรือ 5.3% เนื่องจากการจัดเก็บภาษีน้ำมันและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน และการนำส่งสภาพคล่องส่วนเกินของกองทุนหมุนเวียนและการนำส่งรายได้จากการประมูลคลื่นความถี่ 3จี ความถี่ 2.1 GHz

    - ธนาคารแห่งประเทศไทย รายงานตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิด รายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบสถาบันการเงิน ล่าสุด ณ สิ้นเดือน มิ.ย. 2558 หรือสิ้นไตรมาส 2 ปีนี้ พบว่า ทั้งระบบมีเอ็นพีแอลรวมที่ยังไม่หักกันสำรอง (Gross NPLs) ทั้งสิ้น 3.06 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 2.49% ของสินเชื่อรวมเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่มี 2.93 แสนล้านบาท คิดเป็น 2.4% ของสินเชื่อรวม เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นถึง 1.31 หมื่นล้านบาท หรือ 4.49%

*หุ้นเด่นวันนี้

    - WICE บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ ราคาเสนอขาย IPO หุ้นละ 2.10 บาท ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,260 ล้านบาท

    บมจ.ไวส์ โลจิสติกส์ เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ทั้งการนำเข้าและส่งออก

    โดยการขนส่งทางทะเลและทางอากาศครอบคลุมกว่า 100 ประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งให้บริการด้านพิธีการศุลกากรและการขนส่งในประเทศ

    - PK (เดิมชื่อย่อ PATKL)ตลท.อนุมัติให้พ้นเหตุการณ์ถูกเพิกถอนและให้กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ตั้งแต่วันนี้ โดยไม่มี ceiling และ floor สำหรับการซื้อขายในวันนี้ ทั้งนี้ ราคาปิดครั้งสุดท้ายของ PK ก่อนติดเครื่องหมาย SP และ NC อยู่ที่ 0.40 บาท/หุ้น เมื่อ 7 พ.ค.53

    - IFEC-W2 ใบสำคัญแสดงสิทธิในการจองซื้อหุ้นสามัญของบมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ วิศวการ ครั้งที่ 2 เทรดวันนี้วันแรก ทั้งนี้ได้เป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 1 : Cash Balance โดยมีผลตั้งแต่ 28 ก.ค. - 14 ส.ค.2558 โดยมีจำนวน 456,086,420 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 25 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันออกใบสำคัญแสดงสิทธิ(วันที่ 9 กรกฎาคม 2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 พ.ค. 2559 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 6 ก.ค. 2561

    - ABC-W2 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ. แอสเซท ไบร์ท(ABC)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 1,755,998,608 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 1.50 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 29 มิ.ย. 2561 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 5 มิ.ย. 2563

     - MAJOR(ฟินันเซีย ไซรัส)เป้า 31 บาท คาดกำไรสุทธิ 2Q15 +137% Q-Q, +6% Y-Y เพราะมีกำไรจากการขายหุ้น SF 48 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าว กำไรปกติยังเพิ่ม 158% Q-Q เพราะมีหนังฟอร์มใหญ่ทำเงินหลายเรื่อง คือ Fast & Furious 7, ตำนวนสมเด็จพระนเรศวร 6, The Avengers: Age of Ultron,  และ Jurassic World แต่ลดลง 10% Y-Y เพราะรายได้จากบริษัทย่อยลดลง แนวโน้มกำไร 2H15 มีทิศทางที่ดีเพราะยังมีหนังฟอร์มยักษ์อีกหลายเรื่องเช่น Terminator, Minions, Ant-Man, Star Wars และการคุมต้นทุน

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเช้านี้ เหตุวิตกตลาดหุ้นจีนทรุด

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีนเมื่อวานนี้  เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.7% แตะ 139.94 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,188.57 จุด ลดลง 161.53 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,573.14 จุด ลดลง 152.42 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,269.90 จุด ลดลง 82.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,566.42 จุด เพิ่มขึ้น 9.74 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,026.33 จุด ลดลง 12.48 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,305.26 จุด ลดลง 8.16 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,708.62 จุด ลดลง 1.14 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 74.68 จุด เหตุวิตกเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

     ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) โดยดัชนีแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวดับเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 74.68 จุด หรือ 1.13% ที่ระดับ 6,505.13 จุด

    ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงหลังจากดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 8.48% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 8 ปี อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนชะลอตัวลง

    รายงานระบุว่า บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนมีผลกำไรในเดือนมิ.ย.ลดลง 0.3% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 5.8857 แสนล้านหยวน หลังจากที่ขยายตัว 0.6% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.ค.ลดลงแตะ 48.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน จาก 49.4 ในเดือนมิ.ย.

    หุ้นเพียร์สันร่วงลง 4.8% ซึ่งเป็นบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 4.8% หลังจากมีรายงานว่า เพียร์สันกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาขายหุ้น 50% ในนิตยสารอิโคโนมิสต์ ซึ่งเป็นนิตยสารที่มีอายุยาวนานถึง 172 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เพียร์สันได้ตกลงขายกิจการ FT Group ที่รวมถึงหนังสือพิมพ์ Financial Times ให้กับนิกเกอิ อิงค์ สำนักข่าวชั้นนำของญี่ปุ่น

    หุ้นเมอร์ลิน เอนเตอร์เทนเมนท์ ลดลง 4.3% หลังบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการลง อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุรถไฟเหาะ

    หุ้นไรอันแอร์ โฮลดิ้งส์ ลดลง 1.4% แม้ว่าไรอันแอร์ โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัดรายใหญ่ที่สุดของยุโรป ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารสำหรับปีงบการเงินปัจจุบันเป็น 103 ล้านคน จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 100 ล้านคน

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง เหตุนักลงทุนวิตกหุ้นจีนดิ่งหนัก

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีน อันเป็นผลมาจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะภาคการผลิตที่หดตัวลง

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.2% ปิดที่ 385.91 จุด

   ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,927.60 จุด ร่วงลง 129.76 จุด หรือ -2.57% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,056.40 จุด ลดลง 291.05 จุด หรือ -2.56% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,505.13 จุด ลดลง 74.68 จุด หรือ -1.13%

    ตลาดหุ้นยุโรปถูกกดดันอย่างหนักหลังจากดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 8.48% เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 8 ปี อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาคการผลิตของจีนชะลอตัวลง

  รายงานระบุว่า บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนมีผลกำไรในเดือนมิ.ย.ลดลง 0.3% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 5.8857 แสนล้านหยวน หลังจากที่ขยายตัว 0.6% ในเดือนพ.ค. ขณะที่ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.ค.ลดลงแตะ 48.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน จาก 49.4 ในเดือนมิ.ย.

    หุ้นเดมเลอร์ และหุ้นบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งมีความอ่อนไหวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจีนนั้น ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 2.6%

   หุ้นยูบีเอส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ร่วงลง 2.3% หลังจากธนาคารเปิดเผยว่า หน่วยงานด้านการบริหารความมั่งคั่งมีการเติบโตในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบกว่า 4 ปีในไตรมาส 2

    อย่าไงรก็ตาม ยูบีเอสเปิดเผยว่า ผลกำไรไตรมาส 2/2558 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.21 พันล้านฟรัง หรือ 1.26 พันล้านดอลลาร์ จากระดับ 792 ล้านฟรังค์ของไตรมาส 2 ปีที่แล้ว และปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 878 ล้านฟรังก์สวิส

   หุ้นไรอันแอร์ ร่วงลง 2.2% แม้ว่าไรอันแอร์ โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัดรายใหญ่ที่สุดของยุโรป ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายจำนวนผู้โดยสารสำหรับปีงบการเงินปัจจุบันเป็น 103 ล้านคน จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 100 ล้านคน

    หุ้นเพียร์สัน ซึ่งเป็นบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ร่วงลง 4.8% หลังจากมีรายงานว่า เพียร์สันกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาขายหุ้น 50% ในนิตยสารอิโคโนมิสต์ ซึ่งเป็นนิตยสารที่มีอายุยาวนานถึง 172 ปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เพียร์สันได้ตกลงขายกิจการ FT Group ที่รวมถึงหนังสือพิมพ์ Financial Times ให้กับนิกเกอิ อิงค์ สำนักข่าวชั้นนำของญี่ปุ่น

    รายงานระบุว่า การขายหุ้น 50% ในอิโคโนมิสต์ อาจทำให้เพียร์สันได้รับเงินสูงถึง 400 ล้านปอนด์ (620 ล้านดอลลาร์) โดยการขายสินทรัพย์ใน FT Group และการขายหุ้นในนิตยสารอิโคโนมิสต์ ถือเป็นการส่งสัญญาณว่า เพียร์สันกำลังหันมามุ่งเน้นธุรกิจด้านการศึกษา ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 127.94 จุด เหตุวิตกหุ้นจีนดิ่งหนัก

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีนและยุโรป โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ปิดตลาดดิ่งลงกว่า 8% เมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,440.59 จุด ร่วงลง 127.94 จุด หรือ -0.73% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,039.78 จุด ลดลง 48.85 จุด หรือ -0.96% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,067.64 จุด ลดลง 12.01 จุด หรือ -0.58%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนได้กระตุ้นให้เกิดแรงเทขาย โดยเมื่อวานนี้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดร่วงลง 8.48% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 8 ปี อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของภาคการผลิต

   ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า บริษัทอุตสาหกรรมรายใหญ่ของจีนมีผลกำไรในเดือนมิ.ย.ลดลง 0.3% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 5.8857 แสนล้านหยวน หลังจากที่ขยายตัว 0.6% ในเดือนพ.ค.

    ขณะที่ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.ค.ลดลงแตะ 48.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน จาก 49.4 ในเดือนมิ.ย.

     นอกจากนนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นยุโรป โดยเฉพาะดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันที่ร่วงลงเกือบ 300 จุดเมื่อคืนนี้

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กแทบจะไม่ได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เพิ่มขึ้น 3.4% ในเดือนมิ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.7%

    หุ้นของบริษัทที่ต้องพึ่งพายอดขายในประเทศจีนต่างก็ปรับตัวลงถ้วนหน้า โดยหุ้น Yum! Brands ปรับตัวลง 0.8% หุ้นแอปเปิล อิงค์ ซึ่งมีฐานตลาดที่ใหญ่ในประเทศจีน ร่วงลง 1.4% หุ้นไป่ตู้ และหุ้นอาลีบาบา ร่วงลงกว่า 1.9% และหุ้นยาฮู ซึ่งถือหุ้นใหญ่ในอาลีบาบา ร่วงลง 2.6%

    นักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 28-29 ก.ค. เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด เน้นย้ำในการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสครั้งล่าสุดว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

   นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงราคาบ้านเดือนพ.ค.จากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเบื้องต้นเดือนก.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.จาก Conference Board และดัชนีภาคการผลิตเดือนก.ค.จากเฟดสาขาริชมอนด์

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 ก.ค.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,440.59 จุด                         ลดลง 127.94 จุด     -0.73%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,039.78 จุด                      ลดลง 48.85 จุด      -0.96%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,067.64 จุด                       ลดลง 12.01 จุด      -0.58%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,505.13 จุด                    ลดลง 74.68 จุด      -1.13%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,056.40 จุด                           ลดลง 291.05 จุด     -2.56%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,927.60 จุด                        ลดลง 129.76 จุด     -2.57%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,556.68 จุด                           ลดลง 211.18 จุด     -2.41%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,350.10 จุด                    ลดลง 194.43 จุด     -0.95%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,038.81 จุด                        ลดลง 7.15 จุด       -0.35%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,579.20 จุด     เพิ่มขึ้น 22.40 จุด     +0.40%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,589.90 จุด            เพิ่มขึ้น 23.80 จุด     +0.43%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,725.56 จุด                     ลดลง 345.35 จุด     -8.48%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,547.44 จุด            ลดลง 118.08 จุด     -1.54%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,351.96 จุด                              ลดลง 776.55 จุด     -3.09%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,771.29 จุด     ลดลง 85.31 จุด      -1.76%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,709.76 จุด                      ลดลง 11.00 จุด      -0.64%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,313.42 จุด                      ลดลง 39.23 จุด      -1.17%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,561.38 จุด                        ลดลง 550.93 จุด     -1.96%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 5 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นจีนและยุโรป โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนที่ปิดตลาดดิ่งลงกว่า 8% เมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,440.59 จุด ร่วงลง 127.94 จุด หรือ -0.73% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,039.78 จุด ลดลง 48.85 จุด หรือ -0.96% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,067.64 จุด ลดลง 12.01 จุด หรือ -0.58%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีน อันเป็นผลมาจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ โดยเฉพาะภาคการผลิตที่หดตัวลง

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.2% ปิดที่ 385.91 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,927.60 จุด ร่วงลง 129.76 จุด หรือ -2.57% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,056.40 จุด ลดลง 291.05 จุด หรือ -2.56% และดัชนีFTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,505.13 จุด ลดลง 74.68 จุด หรือ -1.13%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) โดยดัชนีแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวดับเศรษฐกิจจีนชะลอตัว

          ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 74.68 จุด หรือ 1.13% ที่ระดับ 6,505.13 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านอาจจะผลิตและส่งออกน้ำมันได้มากขึ้น เมื่อการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านมีผลบังคับใช้

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 75 เซนต์ ปิดที่ 47.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นจีนได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อจับทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟด

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 10.9 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ระดับ 1,096.40 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 11.7 เซนต์ ปิดที่ 14.605 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปรับขึ้น 8.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 988.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 9.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 613.10 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและเยนเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายดอลลาร์จากความวิตกที่ว่าตลาดหุ้นจีนที่ไร้เสถียรภาพอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1097 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0980 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5559 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5511 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 123.24 เยน จาก 123.75 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9631 ฟรังก์ จาก 0.9627 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7282 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7278 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,090.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด, +0.37%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!