WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET10ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับตัวลงก่อนที่จะมีลุ้นรีบาวน์-เล็งกลุ่มแบงก์หนุน

     นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.ไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้อาจจะปรับตัวลงต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ที่ปรับตัวลงไปแรง แต่เชื่อว่าดัชนีฯน่าจะรีบาวน์กลับขึ้นมาได้เมื่อไหลลงไปแถวแนวรับที่ 1,440 จุด แต่หากไม่ได้ก็มีแนวรับถัดไปที่ 1,434 จุด

      โดยคาดหวังแรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่น่าจะมีแรงซื้อกลับมาได้บ้างหลังจากที่ราคาได้ปรับตัวลงไปมากแล้ว และผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ออกมาก็ไม่ได้แย่กว่าที่คาดกันไว้ อย่างธ.กรุงไทย(KTB) ก็ไม่ได้แย่มากซึ่งน่าจะช่วยหนุนตลาดฯได้ และหากดัชนีฯสามารถยืนเหนือ 1,450 จุดได้ก็มีแนวต้านถัดไปที่ 1,460-1,470 จุด

     ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวลงตามตลาดสหรัฐฯ และตลาดในยุโรปที่ต่างอยู่ในแดนลบ คาดว่าจะเป็นผลจากเรื่องผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ และยุโรปต่างออกมาไม่ดี

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(21 ก.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,919.29 จุด ร่วงลง 181.12 จุด(-1.00%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,208.12 จุด ลดลง 10.74 จุด(-0.21%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,119.21 จุด ลดลง 9.07 จุด(-0.43%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 184.17 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 21.25 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 134.64 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 50.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 12.56 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 2.25 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 5.07 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(21 ก.ค.58) อยู่ที่ 1,447.44 จุด ลดลง 19.27 จุด (-1.31%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 363.71 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ก.ค.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(21 ก.ค.58) ปิดที่ 50.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 21 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(21 ก.ค.58)ที่ 5.35 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเช้านี้แตะ 34.54/55 จากเปิด 34.44/46 อ่อนค่าสวนทางภูมิภาค

                - ค่าเงินบาทอ่อนค่าในรอบ 6 ปี ตลาดคาดการณ์ เฟด-เศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัว ธปท.รับค่าเงินบาทอ่อนมากกว่าภูมิภาค แต่ยังไม่พบเงินทุนเคลื่อนย้ายผิดปกติ ขณะ "บัณฑูร" ประเมินครึ่งปีหลังมีหลายปัจจัยลบโอกาสสูงจีดีพีโตต่ำกว่า 3%

                - ครม.ไฟเขียวมาตรการช่วยเหลือผลกระทบภัยแล้ง สั่งมหาดไทยดึงงบป้องกันฯจังหวัดละ 10 ล้านบาท 76 จังหวัด จ้างงานประชาชนในพื้นที่ ด้านเกษตรฯ เตรียมจ่ายน้ำวันนี้ ประเมินความเสียหายน้อยกว่าคาด เหตุฝนตก-ระดับน้ำเพิ่ม ส่วน ทบ.ส่งทหารช่วยดูแลระบายน้ำ ขณะ ส.อ.ท.เรียกร้องสมาชิกประหยัดน้ำ 5-10%

                - "ไทยคม" เจรจารัฐบาลลาวสำเร็จ ขยายไลเซ่นส์ "ลาว เทเลคอม" ต่ออีก 25 ปีใช้เงินขยายใบอนุญาต 2,000 ล้านบาท รั้งผู้นำตลาดต่อ ครองส่วนแบ่ง 48% เผยไทยคม 8 กำหนดยิงไตรมาสแรกปีหน้า คาดใช้งบสร้างดาวเทียม 150 ล้านดอลลาร์ เผยปีนี้บริษัทมีรายได้เติบโต 5-7% ลดลงจากคาดการณ์ 10% เหตุเศรษฐกิจครึ่งปีแรกหดตัว

                - กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ประกาศปรับเป้ายอดผลิตปีนี้เหลือ 2.05 ล้านคัน ลดลง 1 แสนคันในส่วนการผลิตเพื่อขายในประเทศ คงเป้าส่งออก หลังยอดขายในประเทศทรุดต่อเนื่องครึ่งปีปิดยอดขาย 3.69 แสนคัน ลดลง 16.3% ส่งออก 5.76 แสนคัน เพิ่มขึ้นจาก 2.86%

                - สมาคมอาคารชุดไทย คาดตลาดคอนโดมิเนียมทั้งปี โต 27% จับตาสต๊อกรอโอน 1.9 แสนหน่วย หวั่นทิ้งดาวน์เพิ่มหลังเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง ฉุดกำลังซื้อลด เตือนเก็งกำไรตลาดคอนโดฯ หรู ส่อแววฟองสบู่ ย้ำผู้ประกอบการอย่าแห่เปิดตาม

*หุ้นเด่นวันนี้

                - KBANK(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 221 บาท คาดราคาหุ้นกลุ่มธนาคารจะฟื้นตัวได้ในวันนี้ หลังรายกลุ่มธนาคารรายงานผลประกอบการ 2Q58 ครบทุกธนาคารแล้ว และส่วนใหญ่ออกมา Inline หรือ ดีกว่าคาดการณ์ของตลาด แม้ภาพรวมการลงทุนจะยังมีความเปราะบาง แต่กระแสการปรับครม.เศรษฐกิจ เชื่อว่าจะช่วยหนุน Sentiment การลงทุน พร้อมทั้งความคาดหวังในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระลอกใหม่ และ Valuation หุ้นกลุ่มธนาคารเข้าสู่ระดับที่น่าสนใจ มี Downside Risk จะค่อนข้างจำกัด

                - KTB(ฟินันเซีย ไซรัส)กำไรดีกว่าคาด +7.4% Q-Q, +10.9% Y-Y ดีกว่าคาด ทั้งจากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มได้ดี ทำให้ NIM เพิ่มเป็น 3.1% สวนทางธนาคารอื่นที่ปรับลง และ NPL ลดลงโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้ารายย่อย โดยคงกำไรปีนี้ที่คาดหดตัว 6.7% Y-Y คงเป้าหมาย 20 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันสะท้อนภาพ NPL ที่เลวร้ายเกินไป คิดว่าน่าซื้อลงทุน

                - INTUCH(เป้า 98 บาท) และ ADVANC (เป้า 288 บาท)ปันผลสูง, ราคาแข็งแกร่งกว่า SET, ได้รับผลบวกจากการประมูล 4G ที่มีความคืบหน้ามากขึ้นตามลำดับ(ทรีนีตี้)

                - INTUCH(โกลเบล็ก)เป้า 88 บาท คาดกำไรปี 2015 ที่ 1.6 หมื่นลบ. (+9%YoY) ตามส่วนแบ่งรายได้และกำไรของบ.ลูกที่ขยายตัวขึ้น ได้แก่ ADVANC การใช้งาน data เติบโตขึ้นและได้ประโยชน์จากการประมูลคลื่น 4G ในช่วง 4Q58 , THCOM กำไรแกร่งจากการรับรู้รายได้ TC6 และ TC7 เต็มปี โดย TC7 คาดว่าอัตราการใช้งานจะเพิ่มขึ้นเป็น 100% (ปัจจุบัน 50%) ใน Q3/15 และโดดเด่นด้านเงินปันผล คาด div yield ปี 2015 ที่ 6.6%

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเช้านี้ หลังหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลง

                ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงลง หลังบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

                ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.5% แตะ 144.56 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,657.80 จุด ลดลง 184.17 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,996.43 จุด ลดลง 21.25 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,401.79 จุด ลดลง 134.64 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,955.59 จุด ลดลง 50.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,071.06 จุด ลดลง 12.56 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,369.16 จุด ลดลง 2.25 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,731.12 จุด ลดลง 5.07 จุด

                ทั้งนี้ IBM รายงานกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปีนี้ ลดลง 15% เทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 3.58 ดอลลาร์ ขณะที่แอปเปิลเผยรายได้สุทธิในไตรมาส 2 อยู่ในระดับสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดเพียงเล็กน้อย ส่วนไมโครซอฟท์ก็เปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 19.62 จุด นำโดยหุ้นอีซีเจ็ท

                ตลาดหุ้นลอนดอนปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) หลังจากมีการปรับตัวผันผวน โดยมีแรงถ่วงจากหุ้นอีซีเจ็ท แม้ว่าหุ้นกลุ่มเหมืองดีดตัวขึ้น

                ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 19.62 จุด หรือ 0.29% ที่ 6,769.07 จุด

                หุ้นอีซีเจ็ท ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำ ร่วงลง 3.2% หลังจากคอมเมิร์ซแบงก์แนะนำให้นักลงทุนเทขายหุ้น โดยคาดถึงอุปสงค์ที่ชะลอลงในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว

                นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยยอดขาดดุลงบประมาณที่ 9.4 พันล้านปอนด์ (1.45 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนมิ.ย.2558 ซึ่งลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 8.7 พันล้านปอนด์

                อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองส่วนใหญ่ได้ช่วยให้ตลาดติดลบไม่มากนัก แม้ว่าราคาโลหะต่างๆยังคงปรับตัวย่ำแย่ โดยราคาทองปรับตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี

                หุ้นเฟรสนิลโล พุ่ง 3.7% ขณะที่หุ้นแรนด์โกลด์ ดีดขึ้น 2% และหุ้นริโอ ทินโต บวกขึ้น 0.3%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : ผิดหวังผลประกอบการเอกชน ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วง

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) ซึ่งเป็นการปิดลบวันแรกในรอบ 10 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนทั้งในสหรัฐและยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) ซึ่งปัจจัยดังกล่าวได้ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ด้วย

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 402.66 จุด

   ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,106.57 จุด ลดลง 35.92 จุด หรือ -0.70% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,604.80 จุด ร่วงลง 130.92 จุด หรือ -1.12% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,769.07 จุด ลดลง 19.62 จุด หรือ -0.29%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทเอกชนทั้งในสหรัฐและยุโรป รวมถึงบริษัท IBM ซึ่งเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปีนี้ ลดลง 15% เทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 3.58 ดอลลาร์ และเวอไรซอน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไวร์เลสรายใหญ่สุดในสหรัฐ เปิดเผยรายได้ต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ 1.04 ดอลลาร์ ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ระดับ 1.01 ดอลลาร์

   หุ้นโนวาร์ติส ร่วงลง 2.1% หลังจากบริษัทรายงานยอดขายปรับตัวลดลง ขณะที่หุ้น Remy Cointreau ซึ่งเป็นผู้ผลิตสุรารายใหญ่ของฝรั่งเศส ดิ่งลง 2.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น้อยกว่าคาดการณ์

     หุ้นซาแลนโด เอสเอ ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเสื้อผ้าทางออนไลน์ของเยอรมนี ร่วงลง 5.2% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 2 อาจจะออกมาน้อยกว่าคาด เนื่องจากต้นทุนปรับตัวสูงขึ้น

     หุ้นอีซีเจ็ท ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำของยุโรป ปรับตัวลง 3.2% เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าอีซีเจ็ทอาจจะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ด้านการเดินทางทางอากาศที่ซบเซาลง

    สำหรับประเด็นกรีซที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุนนั้น รัฐสภากรีซจะลงมติในวันพุธนี้เพื่อรับหรือไม่รับมาตรการปฏิรูปธนาคาร และกระบวนการยุติธรรมตามข้อตกลงที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรี ทำไว้กับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้ เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน

     ทั้งนี้ คาดว่ารัฐสภากรีซจะมีมติอนุมัติมาตรการดังกล่าว แต่นายซิปราสจะต้องพึ่งคะแนนเสียงจากพรรคฝ่ายค้าน หลังจากสมาชิกพรรคไซรีซาของเขาจำนวน 39 คนหันไปยกมือคัดค้านร่างกฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 181.12 จุด เหตุผลประกอบการเอกชนอ่อนแอ

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (21 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ รวมถึงอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงก่อนหน้านี้

   ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,919.29 จุด ร่วงลง 181.12 จุด หรือ -1.00% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,208.12 จุด ลดลง 10.74 จุด หรือ -0.21% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,119.21 จุด ลดลง 9.07 จุด หรือ -0.43%

   ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากตลาดปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะดัชนี NASDAQ ที่ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐ รวมถึง IBM ซึ่งเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปีนี้ ลดลง 15% เทียบเป็นรายปี สู่ระดับ 3.58 ดอลลาร์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ฉุดหุ้น IBM ร่วงลง 5.86%

    หุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ซึ่งเป็นบริษัทอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 7% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 2 ลดลง 8% และยังได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการปี 2558

    หุ้นเวอไรซอน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการไวร์เลสรายใหญ่สุดในสหรัฐ ดิ่งลง 2.35% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ต่อหุ้นในไตรมาส 2 ปีนี้อยู่ที่ 1.04 ดอลลาร์ ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปีที่แล้วที่ระดับ 1.01 ดอลลาร์

     หุ้นแอปเปิล ปรับตัวลง 1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิในไตรมาส 2 อยู่ที่ 10.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดเล็กน้อย

     หุ้นไมโครซอฟท์ ร่วงลง 3.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง

    อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน พุ่งขึ้น 2.8% และหุ้นคอนโซล เอนเนอร์จี ดีดตัวขึ้นกว่า 2%

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สหรัฐจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนมิ.ย. ส่วนวันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนมิ.ย.จากเฟดชิคาโก และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมิ.ย.จาก Conference Board สำหรับวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ค. และยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย.

     นอกจากนี้ นักลงทุนยังติดตามดูสถานการณ์ของกรีซอย่างใกล้ชิด โดยรัฐสภากรีซจะลงมติในวันพุธนี้เพื่อรับหรือไม่รับมาตรการปฏิรูปธนาคาร และกระบวนการยุติธรรมตามข้อตกลงที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรี ทำไว้กับกลุ่มประเทศเจ้าหนี้ เพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงิน

 

อินโฟเควสท์  

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!