- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 08 July 2015 18:59
- Hits: 3050
วงการคาด SET พรุ่งนี้ แกว่งตัวแดนลบ ปัจจัยใน ตปท.ยังรุมเร้า แต่ยังหวังโครงการรัฐฯเดินหน้าช่วยพยุง แนะลุยหุ้นปันผล
โบรกฯคาด ตลาดหุ้นไทยพรุ่งนี้ SET แกว่งตัวแดนลบ ปัญหาหนี้กรีซ - น้ำมันร่วงกดดัน แถมต่างชาติยังไร้แววกลับมาซื้อหุ้นไทยช่วงนี้ แต่ยังมีหวังได้โครงการรัฐฯเดินหน้าช่วยพยุง ส่วนปัญหาในจีนคาดไม่กระทบหุ้นไทยเล็กน้อย เพระามีกองทุนไปลงทุนแค่ 10% คงเป้าดัชนีสิ้นปี1,560จุด แนะลงทุนระยะสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย หรือลงทุนในหุ้นที่ให้อัตราปันผลสูง หุ้นเด่น ADVANC-IRPC - TVO - BDMS
นายยศพล แสงนิล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ ปรับตัวลงเช่นเดียวกับตลาดภูมิภาค ได้ปัจจัยลบจากกรีซ หลังจากผู้นำยุโรปประกาศขีดเส้นตาย ถึงวันอาทิยต์นี้ ซึ่งมีโอกาสสูงที่กรีซจะหลุดออกจากยูโรโซน ประกอบกับราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรง ปัจจัยกดดันจาก อิหร่านมีแนวโน้มผ่านข้อตกลงนิวเคลียส์เกือบ100% โดยจะได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้ ทั้งนี้หากผ่านข้อตกลง อิหร่านสามารถผลิตน้ำมันดิบได้เป็นจำนวนมาก จึงส่งผลให้ความต้องการขายมีสูงขึ้น ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์ที่เริ่มแข็งค่าขึ้น จากปัญหาดังกล่าวส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ มีโอกาสลงไปแตะ50เหรียญ/บาร์เรลได้
ด้านตลาดหุ้นจีนที่ปรับลดลงแรง จากภาพรวมเศรษฐที่ตกต่ำรวมถึงราคาหุ้นที่แพงกว่าตลาดภูมิภาคโดนผลกระทบรุนแรงจากปัญหาดังกล่าว โดยส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นไทยในเชิงจิตวิทยาระยะสั้น ทั้งนี้จากการประเมินสถานการดังกล่าวคาดว่า มีกองทุนที่ไปลงทุนในตลาดหุ้นจีนได้รับผลกระทบประมาณ10%ของกองทุนในประเทศทั้งหมดรวมถึงมีนักลงทุนรายย่อยประมาณ 5% อีกด้วย ซึ่งถือว่ายังเป็นจำนวนที่อยู่ในระดับต่ำ
ส่วนนักลงทุนต่างชาติยังไม่มีสัญญานซื้อสุทธิ จากเศรษฐกิจในประเทศยังไม่ฟื้นตัว รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ทั้งนี้เม็ดเงินของต่างชาติที่ลงทุนในประเทศยังต่ำที่สุดในรอบ5ปี ส่วนด้านนักลงทุนสถาบัน ก่อนหน้านี้ ซื้อสุทธิจำนวนมาก จากการทำ Window dressing จึงคาดว่าจากนี้มีแนวโน้มทยอยขายออกมาต่อเนื่อง
ด้านโครงการภาครัฐ-เอกชน คาดว่าจะมีการประมูลงานในช่วงไตรมาส3/2558เป็นต้นไปโดยมีงบลงทุนทั้งสิ้น 3แสนล้านบาท อีกทั้งมองว่าอาจจะมีงบเบิกจ่ายของภาครัฐเพิ่มขึ้นด้วย โดยปัจจุบันมีการอัดฉีดเงินเพื่อนำมาปรับปรุงประเทศแล้วประมาน 60% จากจำนวนเต็มที่คาดว่าจะเบิกจ่ายได้ทั้งสิ้น 75%
สำหรับแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีปรับตัวลดลง ประเมินแนวรับ 1,460 จุด แนวต้าน 1,490 จุด เนื่องจากราคาตลาดหุ้นไทยยังแพงกว่าตลาดภูมิภาค อีกทั้งปัญหากรีซที่ยังไม่ได้ข้อสรุปยังกดดันต่อเนื่อง ส่วนราคาน้ำมันดิบยังปรับลดลงต่อส่งผลต่อราคาหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวแดนลบเช่นเดียวกับหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่คาดว่าจะมีแรงขายเข้ามาจากปัญหา NPL ที่ปรับตัวสูงขึ้นซึ่งคาดว่าจะจะสูงขึ้นตลอดทั้งปี
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยไตรมาส3/2558 หากมีการประมูลงานภาครัฐฯ ตามแผนที่วางไว้ ประเมินว่าดัชนีอยู่ที่1,560-1,580จุด และเมื่อการประมูลจบลงจะลงไปอยู่ที่ 1,520จุด
สำหรับดัชนีสิ้นปีคงเป้าที่1,560จุด คาดว่าจะได้แรงหนุนจากการทำ Window dressing ของนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก อีกทั้งคาดราคาน้ำมันดิบตลาดWTIจะอยู่ที่ 60ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนตลาดBrent คาดอยู่ที่ 64 ดอลลาร์/บาร์เรล จากราคาที่ปรับตัวลงไปมาก รวมถึงกำลังการผลิตที่ปรับตัวลดน้อยลง
กลยุทธ์การลงทุน แนะลงทุนระยะสั้น ลงซื้อ-ขึ้นขาย หรือลงทุนในหุ้นที่ให้อัตราปันผลสูง หุ้นเด่น ADVANC ราคาเป้าหมาย 270บาท ,TVO ราคาเป้าหมาย 27บาท,IRPC ราคาเป้าหมาย 6.5บาท,BDMS ราคาเป้าหมาย 25.5บาท
ด้านนายวิกิจ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการสายงานวิจัยลูกค้าบุคคล บล.บัวหลวง เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปรับลงค่อนข้างแรง ตามตลาดหุ้นจีนที่เกิด Panic Sell จากภาวะเก็งกำไรเกินพื้นฐาน จนดัชนีฯ บวกเร็วและแรงในช่วงเวลาสั้น ๆ จนทำให้ค่า PE ปรับขึ้นสูง จึงเกิดแรงขายออกมาทำให้ดัชนีฯ ปรับเข้าสู่สมดุลอีกครั้ง โดยตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้เคยมีค่า PE สูงสุดถึง 25-26 เท่า ก่อนที่ลดลงมาเหลือราว 18 เท่า ส่วนตลาดเซิ่นเจิ้นเคยขึ้นไปสูงถึง 45 เท่า ส่วนข่าวที่คาดว่าเกิดจากความกังวลเศรษฐกิจจีนชะลอตัว มองว่าไม่ใช่ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้น เพราะเป็นเรื่องปกติของประเทศขนาดใหญ่อย่างจีนที่มีประชากรพันกว่าล้านคน การเติบโตควรจะอย่างน้อย 7% ที่จะกระตุ้นการบริโภคได้อย่างเพียงพอ ขณะที่ตลาดหุ้นฮ่องกง ที่ปรับตัวลงแรงนั้น มองว่าน่าจะอิงกับสถานการณ์ในยุโรปมากกว่า
นอกจากนี้ สถานการณ์ปัญหาหนี้กรีซที่ยังยืดเยื้อต่อเนื่อง สิ่งที่ต้องติดตามต่อจากนี้ก็คือ ความเป็นสมาชิกของกรีซในสหภายุโรป เพราะหากกรีซต้องพ้นความเป็นสมาชิก หนี้ที่มีอยู่จะทวีคูณ ฉะนั้น มองว่า กรีซน่าจะอยากคงความเป็นสมาชิกต่อไป แต่อย่างไรก็ตราม ด้วยท่าทีที่แข็งกร้าวของเจ้าหนี้ หลังผลลงประชามติ จึงทำให้กรีซมีโอกาสออกจากกลุ่มสูง หากผิดนัดชำระหนี้จริง ดังเช่นกรณีอาร์เจนติน่าที่เคยผิดนัดชำระหนี้และถูกทิ้งให้โดดเดี่ยวร่วมสิบปี แต่จะส่งผลกระทบต่อเอเชียไม่มากนัก ยกเว้นประเทศที่มีความเสรีด้านการเงินสูง
สำหรับพรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยมีโอกาสรีบาวน์เพื่อลงต่อ ด้วยปัจจัยแวดล้อมที่ยังกดดัน โดยเฉพาะปัญหาหนี้กรีซ ในวันที่ 12 ก.ค. นี้กลุ่มยูโรจะหารือร่วมกันถึงทางออกปัญหาหนี้กรีซ ว่าจะเพิ่มเงื่อนไขให้กรีซได้มากน้อยแค่ไหน ตลอดจนภาวะเศรษฐกิจไทยชะลอตัว ที่ยังหวังการกระตุ้นจากภาครัฐเป็นหลัก ซึ่งมองว่าดัชนีฯ ตอบรับทางลบมากเกินไป (Over Reaction)
ด้านกลยุทธ์ แนะ Wait&See พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,450 จุด แนวต้าน 1,480 จุด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย
