WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET49ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้อ่อนลงเล็กน้อย ตามตลาดภูมิภาค-ปัจจัยในปท.ยังถ่วง

   นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเชียพลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวเล็กน้อย โดยสัปดาห์นี้ยังต้องติดตามเรื่องกรีซที่ยอมอ่อนข้อมากขึ้นหลังจากที่ทีมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ถอนตัวออกไป ซึ่งเชื่อว่าสุดท้ายก็ต้องยอมรับบางเงื่อนไข แผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซก็คงจะปรับลงมาบ้าง อย่างไรก็ดีในวันที่ 18 มิ.ย.นี้จะมีการประชุมรมว.คลังยูโรโซน ซึ่งก็คงจะมีการหารือกันเรื่องของกรีซด้วย

   นอกจากนี้ ในวันที่ 16-17 มิ.ย.จะมีการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC) ให้ติดตามถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)โดยเฉพาะเรื่องของการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน่าจะมีการพูดย้ำจะขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ปัจจัยเหล่านี้อาจจะไปกระตุ้นตลาดในแถบเอเชียเหนือได้

  อย่างไรก็ตาม ระยะสั้นวันนี้ตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังมีประเด็นเรื่องการเมือง ที่แผนโรดแมพไม่ชัดเจน และยังมีความเสี่ยงจากกลุ่มต่อต้านด้วย รวมถึง valuation ของตลาดฯที่แพง เทรด P/E 16 เท่า อย่างไรก็ดี เชื่อว่าดัชนีฯคงจะไม่ต่ำกว่าระดับ 1,500 จุด เพราะเริ่มเห็นการฟื้นตัวของหุ้นในบางกลุ่ม อย่างกลุ่มอสังหาฯที่ยัง Laggard อยู่ และแนะเทรดหุ้นในกลุ่มแบงก์เนื่องจากราคาหุ้นยังเทรดในระดับต่ำ

    พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,500-1,520 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(12 มิ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,898.84 จุด ลดลง 140.53 จุด(-0.78%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,051.10 จุด ลดลง 31.41 จุด(-0.62%),ดัชนี S&P500 ปิดที่  2,094.11 จุด ลดลง 14.75 จุด(-0.70%)

   - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 201.98 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.07 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.73 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 11.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 15.75 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.09 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(12 มิ.ย.58)1,508.23 จุด ลดลง 6.58 จุด (-0.43%)

    - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 145.88 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.58

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(12 มิ.ย.58) ปิดที่ 59.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 81 เซนต์ หรือ 1.3%

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(12 มิ.ย.58)ที่ 8.25 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.68 ตลาดรอดูผลประชุม FOMC-จับตาปัญหาหนี้กรีซ

                - คมนาคมตีกรอบเร่งเปิดประมูลก่อสร้าง โครงการรถไฟทางคู่-โครงการรถไฟฟ้าปีนี้ 5 โครงการ วงเงินลงทุนกว่า 2.5 แสนล้าน หวังกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนและแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ มั่นใจมอเตอร์เวย์อีก 3 เส้นทาง วงเงินกว่า 1.54 แสนล้าน สร้างได้ทันรัฐบาลชุดนี้

                - นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า รฟท.จะเปิดประมูลการก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-หัวหิน วงเงินลงทุนรวม 8.1 หมื่นล้านบาท เป็นเงินลงทุนของภาคเอกชนกว่า 8,900 ล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้ กำหนดแล้วเสร็จในปี 2563 เร็วกว่าแผนเดิมที่จะอยู่ในช่วงปี 2562-2567

                - "สราวุธ แก้วตาทิพย์"ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ กระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 มิ.ย.นี้ นาย ณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน จะลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ว่าด้วยเรื่องความร่วมมือด้านไฟฟ้าและพลังงานกับ รมว.ไฟฟ้าเมียนมา และ รมว.พลังงาน เมียนมา โดยมี ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและข้อมูลด้านนโยบายพลังงานที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ในการสร้างความร่วมมือระหว่างสองประเทศในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ร่วมกัน

                - นายภากรณ์ ตั้งเจตสกาว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด เปิดเผยว่า ภายใน 3 เดือนนี้จะเริ่มเห็นการปรับปรุงการให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ครั้งใหญ่ และจะเปิดประมูลการก่อสร้างโครงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงค์ในเส้นทางดอนเมือง-บางซื่อ-พญาไท ระยะทาง 21.4 กิโลเมตร วงเงินประมาณ 3.1 หมื่นล้านบาท

                - แบงก์ชาติเผยปริมาณและมูลค่าเช็คหดตัว 4.5% และ 3.6% จากช่วงเดียวกันปีก่อน อ้างวันทำการลดลง 1 วัน ล่าสุดในระบบมีปริมาณเช็คทั้งสิ้น 5.6 ล้านฉบับ คิดเป็นมูลค่า 3 ล้านล้านบาท พบมูลค่าเช็คลดลงมากในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลเป็นสำคัญ

                - คลังระรื่นรับบาทอ่อน 33-34 บาทต่อดอลลาร์ หนุนมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 5 แสนล้านบาท ยันตัวเลขจีดีพีปีนี้ลุ้นโตตามเป้า 3.7% จ่อทบทวนตัวเลขส่งออกใหม่ ธนารักษ์เร่งเครื่องประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ เชื่อช่วยดันรายได้ท้องถิ่นเพิ่ม 2.7 หมื่นล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

                - TIPCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 18-20 บาท เป็น 1 ในบริษัทที่เข้าร่วมงาน INVEST ASEAN กับเราในวันนี้  โดยคาดว่าจะได้รับ Feedback เชิงบวกจากผู้จัดการกองทุนทั้งในและต่างประเทศที่เข้าร่วมงานกว่า 300 คน โดยมีมุมมองเชิงบวกต่อธุรกิจผลไม้ และเครื่องดื่มของ TIPCO และคาดผลประกอบการได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้วในปีที่ผ่านมา หลังภาวะ Supply ขาดแคลนสับปะรดมีสถานการณ์ที่ดีขึ้น และบริษัทเริ่มปรับกลยุทธ์เพื่อจัดหา Supply สับปะรดร่วมกับชาวไร่ นอกจากนั้น บริษัทยังได้ประโยชน์โดยตรงต่อเงินบาทที่อ่อนค่า เนื่องจากมียอดขายเกือบทั้งหมดในสกุล USD พร้อมประเมินเบื้องต้นคาดกำไรสุทธิปี 2558 ที่ 900-1,000 ล้านบาท

                - NWR(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 2.60 บาท คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างสำหรับการลงทุนใน 2H58 เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากการประมูลงานขนาดใหญ่เป็นจำนวนมากของภาครัฐฯ ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหุ้น Outperform ตลาดได้ และอยู่ระหว่างประมูลงานขนาดใหญ่อีก 1.4 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าจะชนะงานอย่างน้อย 15% นอกจากนั้น NWR เริ่มรุกงานต่างประเทศเพื่อกระจายโครงสร้างรายได้ โดยคาดผลประกอบการ 2Q58 เติบโตสูง qoq และปี 2558 กำไรสุทธิเติบโตถึง +1,716.5% yoy เป็น 176 ล้านบาท และมี Upside Risk ที่ยังไม่รวมไว้ในประมาณการคือรายการพิเศษคดีคลองด่านราว  300-600 ล้านบาท ที่คาดว่าจะบันทึกเป็นกำไรพิเศษได้ในปี 2558 หรือ 2559 และ Valuation ยังค่อนข้างถูก

                - MTLS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 25 บาท การได้รับเลือกเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global Small Cap Index ตั้งแต่ 29 พ.ค. และคาดว่าจะถูกนำเข้าคำนวณ SET100 รอบ 2H15 น่าจะทำให้หุ้นได้รับความสนใจมากขึ้นและราคาหุ้นสะท้อนพื้นฐานมากกว่านี้ สำหรับกำไรมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นชัดเจนตั้งแต่ 2Q15 (คาดกำไร +9% Q-Q, +68% Y-Y) จากการเร่งขยายสาขา และต้นทุนทางการเงินที่ลดลงตามอัตราดอกเบี้ยในตลาดและการ refinance หนี้ และการบุกสู่สินเชื่อที่เป็น High yield มากขึ้นเช่นสินเชื่อบุคคล สินเชื่อจำนำที่ดิน และนาโนไฟแนนซ์ ซึ่งจะส่งผลดีต่อ Spread ในระยะถัดไป

                - TKS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 12 บาท เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่จะได้ประโยชน์จากการพิมพ์บัตรประชามติร่างรธน.สำหรับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 46-49 ล้านคน นอกเหนือจากการพิมพ์ร่างรธน.แจกให้ผู้มีสิทธิ 19 ล้านครัวเรือน หากบริษัทได้งานพิมพ์บัตรประชามติ(อาจเป็นต้นปีหน้า) คาดเพิ่มกำไรให้ไม่ต่ำกว่า 20% ส่วนกำไรปกติในปีนี้คาดเพิ่มเพียง 7% Y-Y ชะลอตามสภาพเศรษฐกิจ แต่กำไร 2H15 จะดีกว่าครึ่งปีแรกจากงานพิมพ์แสตมป์และคูปองให้ร้านสะดวกซื้อและโมเดิร์นเทรด

                - กลุ่มมือถือ(บัวหลวง)จากข่าว CAT คืนคลื่น 1800MHz จำนวน 5MHz ที่ไม่ได้ใช้งานของ DTAC เพื่อประมูลในเดือน พ.ย.ปีนี้ คงคาดว่าจะมีการประมูลคลื่น 1800MHz ในวันที่ 11 พ.ย.นี้ เหมือนเดิม โดยการรวม 5MHz เข้ามาประมูลจะไม่กระทบต่อการเลื่อนประมูล และการรวมคลื่นเข้ามาจะทำให้จำนวนคลื่นที่จะประมูลลงตัวมากกว่าเดิม แบ่งเป็น 2 ใบอนุญาตตกใบละ 15MHz (ดีกว่าเดิมที่ตลาดกังวลว่าจะเหลือเศษ 2.5MHz ทำให้ไม่เต็มประสิทธิภาพ)

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเช้านี้ หลังเจรจาหนี้กรีซล้มเหลว

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ หลังจากมีรายงานว่า กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปไม่สามารถตกลงกันได้ในการเจรจาครั้งล่าสุดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมเมื่อวานนี้

   ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.4% แตะ 147.63 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,205.10 จุด ลดลง 201.98 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,304.66 จุด เพิ่มขึ้น 2.73 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,041.07 จุด ลดลง 11.10 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,338.10 จุด ลดลง 15.75 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,733.28 จุด ลดลง 1.09 จุด

  คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ประกาศว่า กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ยุโรปไม่สามารถตกลงกันได้ในการเจรจาครั้งล่าสุดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมเมื่อวานนี้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ

    ความล้มเหลวในการเจรจาครั้งล่าสุดนี้ส่งผลให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลว่า กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้และอาจจะบั่นทอนเสถียรภาพของยูโรโซน

   ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ เงินช่วยเหลือก้อนปัจจุบันของกรีซจะหมดอายุลง และในวันเดียวกัน รัฐบาลกรีซจะต้องชำระเงินกู้ราว 1.5 พันล้านยูโร (1.69 พันล้านดอลลาร์) คืนให้กับ IMF

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดร่วง 61.82 จุด เหตุวิตกหนี้กรีซ

   ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาหนี้กรีซยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

   ดัชนี FTSE 100 ลดลง 61.82 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 6,784.92 จุด

   นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องให้ทุกฝ่ายกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อแก้ไขวิกฤติหนี้กรีซ หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประกาศระงับการเจรจากับกรีซ โดยระบุว่าไม่ประสบความคืบหน้าในการเจรจา

   "ถ้ามีความพยายาม เราก็จะมีทางออก แต่ทุกฝ่ายต้องใช้ความพยายาม" นายกฯเยอรมันกล่าว

   คำกล่าวของนางแมร์เคิลมีขึ้นหลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ประกาศระงับการเจรจาอย่างเป็นทางการ หลังจากที่การหารือระหว่างกรีซและบรรดาเจ้าหนี้เกี่ยวกับเงื่อนไขในการปลดล็อคเงินช่วยเหลือนั้น ไม่มีความคืบหน้ามาหลายวันแล้ว

     นายเจอร์รี ไรซ์ โฆษก IMF ระบุก่อนหน้านี้ว่า มีความแตกต่างกันอย่างมากในประเด็นสำคัญๆส่วนใหญ่ระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ และยังไม่มีความคืบหน้าในการประสานข้อคิดเห็นที่แตกต่างกันเหล่านี้

     ส่วนข่าวคราวความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจอังกฤษนั้น เจ้าหน้าที่ของธนาคารอังกฤษรายหนึ่งกล่าวว่าความเสี่ยงขาลงต่อเงินเฟ้อ ดูเหมือนว่าจะเริ่มลดลง ซึ่งหมายความว่าอาจจำเป็นต้องมีการขึ้นดอกเบี้ยในอีกไม่นานนี้

     ขณะที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ประกาศปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของอังกฤษ สู่ระดับ "เชิงลบ" จาก "มีเสถียรภาพ"

     S&P ระบุว่า อังกฤษมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAA อันเนื่องจากการที่นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนตัดสินใจที่จะจัดทำประชามติในการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU)

     "การที่รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจทำประชามติในปี 2017 เกี่ยวกับสมาชิกภาพของอังกฤษใน EU บ่งชี้ว่าการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางการเมืองมากกว่าที่ S&P ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้" แถลงการณ์ระบุ

     หุ้นจอห์นสัน แมทธี ร่วงลงหนักสุด 3.12% อักเกรโกปรับตัวลง 2.75% อเบอร์ดีน แอสเสท แมเนจเมนท์ ลดลง 2.27% หุ้นฮิกมา ฟาร์มาซูติคอลส์ ลดลง 2.19% และยูนิลีเวอร์ลบ 2.14%

     ส่วนหุ้นบวกนำโดยหุ้นรอยัล เมล พุ่ง 2.78% ตามด้วยบีที กรุ๊ป 1.49% ไอทีวี 1.16% อีซีเจ็ท 0.63% และอันโตฟากัสตา 0.62%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : วิตกเจรจาหนี้กรีซเหลว ฉุดหุ้นยุโรปปิดร่วงหนัก

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าความพยายามของกรีซในการฟื้นการเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้จะล้มเหลว ซึ่งอาจส่งผลให้กรีซผิดนัดชำระหนี้และอาจต้องออกจากกลุ่มยูโรโซนในที่สุด

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.9% ปิดที่ 389.38 จุด ส่งผลให้ตลอดสัปดาห์ ดัชนีบวกแค่ 0.1%

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 70.18 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 4,901.19 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันร่วง 136.29 จุด หรือ 1.20% ปิดที่ 11,196.49 จุด  ดัชนี FTSE 100 ลดลง 61.82 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 6,784.92 จุด

    ขณะที่ดัชนี ASE ตลาดหุ้นกรีซ ดิ่งลง 5.9% ซึ่งลดลงหนักสุดในบรรดาตลาดหุ้นยุโรป รองลงมาเป็นดัชนี PSI 20 ตลาดหุ้นโปรตุเกส ลดลง 1.5%

     หุ้นเนชั่นแนล แบงก์ ออฟ กรีซ เอสเอ และยูโรแบงก์ เออร์กาเซียส เอสเอ ดิ่งลงกว่า 10%

     กรีซกำลังถูกกดดันเพิ่มขึ้นให้หาทางออกเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้ของประเทศให้ได้โดยเร็วที่สุด หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศยุติการเจรจาแก้ไขวิกฤติหนี้กับกรีซแล้ว เนื่องจากมีความแตกต่างกันอย่างมากในหลายประเด็น โดยกรีซไม่ยอมตัดลงรายจ่ายด้านบำนาญและขอให้มีการปรับโครงสร้างหนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของยุโรปเรียกร้องให้กรีซระบุในข้อเสนอปฏิรูปเศรษฐกิจว่าจะทำให้หนี้ของประเทศมีเสถียรภาพ โดยนางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี จี้ให้นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซิปราส ของกรีซ ยอมรับกรอบการทำงานของกลุ่มเจ้าหนี้เพื่อแลกกับการรับความช่วยเหลือ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นายกฯเยอรมนีได้เริ่มหารือถึงการรับมือกับการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซแล้ว

     นักวิเคราะห์และนักลงทุนกล่าวว่า สถานการณ์ที่พลิกไปพลิกมาของกรีซน่าจะมีผลต่อตลาดไปจนกว่ารัฐบาลกรีซจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มเจ้าหนี้ เพื่อปลดล็อกเงินช่วยเหลืองวดใหม่

     นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี เรียกร้องให้ทุกฝ่ายกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อแก้ไขวิกฤติหนี้กรีซ หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ประกาศระงับการเจรจากับกรีซ โดยระบุว่าไม่ประสบความคืบหน้าในการเจรจา

    "ถ้ามีความพยายาม เราก็จะมีทางออก แต่ทุกฝ่ายต้องใช้ความพยายาม" นายกฯเยอรมันกล่าว

    คำกล่าวของนางแมร์เคิลมีขึ้นหลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ประกาศระงับการเจรจาอย่างเป็นทางการ หลังจากที่การหารือระหว่างกรีซและบรรดาเจ้าหนี้เกี่ยวกับเงื่อนไขในการปลดล็อคเงินช่วยเหลือนั้น ไม่มีความคืบหน้ามาหลายวันแล้ว

    นายเจอร์รี ไรซ์ โฆษก IMF ระบุว่า มีความแตกต่างกันอย่างมากในประเด็นสำคัญๆส่วนใหญ่ระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ และยังไม่มีความคืบหน้าในการประสานข้อคิดเห็นที่แตกต่างกันเหล่านี้

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 140.53 จุด หลังเจรจาหนี้กรีซถึงทางตัน

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (12 มิ.ย.) เนื่องจากความหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงระหว่างกรีซและฝ่ายเจ้าหนี้นั้นริบหรี่ลงเรื่อยๆ หลังจากที่ IMF ประกาศยุติการเจรจาด้วยเหตุผลที่ว่าทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกันมากในหลายประเด็น

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 140.53 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 17,898.84 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 14.75 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 2,094.11 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 31.41 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 5,051.10 จุด

    สำหรับ ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.3% ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.1% ขณะที่ NASDAQ ลบ 0.3%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดวอลล์สตรีท รวมถึงตลาดการเงินทั่วโลกถูกปกคลุมไปด้วยความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้กรีซ หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศได้ประกาศระงับการเจรจาระหว่างกรีซและเจ้าหนี้อย่างเป็นทางการ หลังจากที่การหารือเกี่ยวกับเงื่อนไขในการปลดล็อคเงินช่วยเหลือไม่มีความคืบหน้ามาหลายวันแล้ว

    นายเจอร์รี ไรซ์ โฆษก IMF ระบุว่า มีความแตกต่างกันอย่างมากในประเด็นสำคัญๆส่วนใหญ่ระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ และยังไม่มีความคืบหน้าในการประสานข้อคิดเห็นที่แตกต่างกันเหล่านี้

    อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวในรัฐบาลกรีซเผยในวันศุกร์ว่า บรรดารัฐมนตรีระดับสูงของกรีซเตรียมที่จะเดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์อีกครั้งเพื่อเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้ต่อในวันเสาร์ โดยนายอเลคอส ฟลาโบราริส รมว.กิจการรัฐของกรีซเผยว่า รัฐบาลกรีซหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ในการประชุมกับรมว.คลังยูโรโซนในวันที่ 18 มิ.ย. เพื่อช่วยให้กรีซได้รับเงินช่วยเหลืองวดใหม่และหลีกเลี่ยงภาวะล้มละลายได้

    ทั้งนี้ ในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ เงินช่วยเหลือก้อนปัจจุบันของกรีซจะหมดอายุลง และในวันเดียวกัน รัฐบาลกรีซจะต้องชำระเงินกู้ราว 1.5 พันล้านยูโร (1.69 พันล้านดอลลาร์) คืนให้กับ IMF

     ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวขึ้นในเดือนพ.ค. ตามราคาพลังงาน ซึ่งบ่งชี้ถึงการเพิ่มขึ้นของภาวะเงินเฟ้อ

    ทั้งนี้ ดัชนี PPI สำหรับอุปสงค์ขั้นสุดท้ายเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน

     ด้านผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นของเดือนมิ.ย.อยู่ที่ระดับ 94.6 หลังจากแตะระดับ 90.7 ในเดือนพ.ค.

     ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 91.5 ในเดือนมิ.ย.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

หะน

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 มิ.ย. 2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,898.84 จุด ลดลง 140.53 จุด, -0.78%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,051.10 จุด ลดลง 31.41 จุด, -0.62%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,094.11 จุด ลดลง 14.75 จุด, -0.70%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,901.19 จุด ลดลง 70.18 จุด, -1.41%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,196.49 จุด ลดลง 136.29 จุด, -1.20%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,784.92 จุด ลดลง 61.82 จุด, -0.90%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,425.30 จุด เพิ่มขึ้น 54.32 จุด, +0.21%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,353.85 จุด เพิ่มขึ้น 6.18 จุด, +0.18%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,734.37 จุด ลดลง 0.39 จุด, -0.02%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,935.82 จุด เพิ่มขึ้น 7.01 จุด, +0.14%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,280.54 จุด เพิ่มขึ้น 372.69 จุด, +1.39%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 5,166.35 จุด เพิ่มขึ้น 44.76 จุด, +0.87%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,545.30 จุด ลดลง 11.40 จุด, -0.21%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,552.10 จุด ลดลง 10.50 จุด, -0.19%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,052.17 จุด ลดลง 4.44 จุด, -0.22%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,407.08 จุด เพิ่มขึ้น 24.11 จุด, +0.12%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,301.93 จุด ลดลง 0.56 จุด, -0.00%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (12 มิ.ย.) เนื่องจากความหวังของนักลงทุนเกี่ยวกับการบรรลุข้อตกลงระหว่างกรีซและฝ่ายเจ้าหนี้นั้นริบหรี่ลงเรื่อยๆ หลังจากที่IMF ประกาศยุติการเจรจาด้วยเหตุผลที่ว่าทั้งสองฝ่ายมีความแตกต่างกันมากในหลายประเด็น

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 140.53 จุด หรือ 0.78% ปิดที่ 17,898.84 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 14.75 จุด หรือ 0.70% ปิดที่ 2,094.11 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 31.41 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 5,051.10 จุด

          สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 0.3% ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 0.1% ขณะที่ NASDAQ ลบ 0.3%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (12 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกว่าความพยายามของกรีซในการฟื้นการเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้จะล้มเหลว ซึ่งอาจส่งผลให้กรีซผิดนัดชำระหนี้และอาจต้องออกจากกลุ่มยูโรโซนในที่สุด

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.9% ปิดที่ 389.38 จุด ส่งผลให้ตลอดสัปดาห์ ดัชนีบวกแค่ 0.1%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสร่วงลง 70.18 จุด หรือ 1.41% ปิดที่ 4,901.19 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันร่วง 136.29 จุด หรือ 1.20% ปิดที่ 11,196.49 จุด  ดัชนี FTSE100 ลดลง 61.82 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 6,784.92 จุด

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (12 มิ.ย.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาหนี้กรีซยังคงส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 61.82 จุด หรือ 0.90% ปิดที่ 6,784.92 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ (12 มิ.ย.) เนื่องจากยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากที่ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบสามปี

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 81 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 59.96 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ดี ตลอดสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 83 เซนต์ หรือ 1.4%

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 1.24 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 63.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ทั้งสัปดาห์ น้ำมันเบรนท์เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ หรือ 0.9%

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อวันศุกร์ (12 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวก ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ได้จุดกระแสคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อทองคำ และบดบังปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเจรจาหนี้กรีซ

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 1.2 ดอลลาร์ หรือ 0.10% ปิดที่ 1,179.20 ดอลลาร์/ออนซ์ สำหรับตลอดสัปดาห์ สัญญาทองเพิ่มขึ้น 0.9%

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 13.5 เซนต์ หรือ 0.85% ปิดที่ 15.825 ดอลลาร์/ออนซ์ ในวันศุกร์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.76% ปิดที่ 1,096.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 4.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 738.15 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อวันศุกร์ (12 มิ.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมออกมาในเชิงบวก ซึ่งส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ และเพิ่มกระแสคาดการณ์ในตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1259 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1264 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ปรับตัวขึ้นแตะ 1.5552 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5519 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นแตะ 123.46 เยน เทียบกับระดับ 123.40 เยนในวันก่อน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9283 ฟรังก์ จาก 0.9342 ฟรังก์ และเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.2325 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.2281 ดอลลาร์แคนาดา

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7735 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7751 ดอลลาร์

          

     ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 642.00 จุด เพิ่มขึ้น 13.00 จุด, +2.07%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!