WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET42โบรกฯ คาดพรุ่งนี้ SET ลงต่อ หลังกรีซยังเจรจาหนี้ไม่สำเร็จ ศก.ไทยอ่อนแอกดดัน แนะลุยหุ้นส่งออกรับบาทอ่อนค่า

 โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยยังลงต่อ หลังกรีซยังเจรจาหนี้ไม่สำเร็จ ส่วนในปท.ยังมีปัญหาศก.อ่อนแอทำต่างชาติเมินหุ้นไทย ประเมินนลท.สถาบันจะรอเก็บหุ้นแถว 1,450 จุด แต่เงินบาทยังมีแววอ่อนค่าต่อเนื่องหนุนหุ้นส่งออก แนะลุยหุ้นส่งออก อย่าง HANA-SVI-TUF-VNG-STA ประเมินแนวรับ 1,470 จุด แนวต้าน 1,485 - 1,500 จุด

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.เอเชียพลัส เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวลงแรง ด้วยแรงกดดันจากต่างประเทศ ต่อกรณีปัญหาหนี้กรีซ ที่การเจรจากกับกลุ่มเจ้าหนี้อย่างกลุ่มทรอยก้า ยังไม่บรรลุข้อตกลงกันได้ ทั้งๆ ที่ใกล้จะถึงกำหนดครบชำระหนี้รอบถัดไปในวันที่ 5 มิ.ย. นี้ และเริ่มมีแนวโน้มว่ากรีซมีโอกาสที่จะออกจากลุ่มยูโร ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง

   นอกจากนี้ ยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยในประเทศ จากภาวะเศรษฐกิจไทยอ่อนแอ ฟื้นตัวช้า ล่าสุดที่ทางกระทรวงพาณิชย์ประกาศอัตราเงินเฟ้อเดือน พ.ค.58 ติดลบอีก 1.27%  ตลอดจนกรณีที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ออกมาปรับลดประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจ รวมถึงผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนลง ยิ่งจะทำให้ค่า PE สูงขึ้น ส่วนอัพไซด์ก็จะจำกัดมากขึ้น

   นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายการเงินจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่า แม้จะส่งผลดีต่อกลุ่มส่งออก แต่จะกดดันหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และจะขวางกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติ เพราะหากค่าเงินบาทอ่อนค่า ก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ในขณะที่ผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา (Capital gain) ก็จำกัดมากขึ้น จากค่า PE หุ้นไทยที่สูงขึ้น

  สำหรับพรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยแกว่งตัวลงต่อ ด้วยแรงกดดันจากปัญหาหนี้กรีซ ที่ยังไม่มีความชัดเจน ตลอดจนภาพรวมเศรษฐกิจไทยอ่อนแอ ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน และไม่จูงใจเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ

    ด้านกลยุทธ์ แนะซื้อหุ้นในกลุ่มส่งออก อาทิ HANA-SVI-TUF-VNG-STA พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,470 จุด แนวต้าน 1,485 จุด

  นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวลบตลอดวัน เนื่องจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ในประเทศ อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติที่มีการลงทุนที่เบาบางโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดล่วงหน้า หลังนักลงทุนต่างชาติมีการสะสมสถานะ Short กว่า 70,000 สัญญาในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ประเด็นหนี้กรีซที่ใกล้ถึงวันชำระหนี้ตามกำหนด ยังกดดันตลาดต่อเนื่อง โดยมีหลายฝ่ายมองว่ากรีซไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนดได้ ส่งผลให้นักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มชะลอการลงทุน

  อีกทั้ง ยังได้ปัจจัยลบในประเทศ จากแรงขายในหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์  ตามยอดสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงยอดสินเชื่อใหม่ที่ปรับตัวลดลง ส่งผลให้หุ้นกลุ่ม แต่อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นลงของหุ้นกลุ่มพาณิชย์ยังอยู่ในกรอบจำกัด

  สำหรับ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ คาดว่าดัชนีฯ มีแนวโน้มปรับตัวลงต่อ เนื่องจากความกังวลต่อปัญหากหนี้กรีซ ที่ต้องชำระหนี้ 300ล้านยูโรภายในวันศุกร์นี้ โดยทางบล.ทรีนีตี้คาดว่าไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดที่วางไว้

   ส่วนนักลงทุนต่างชาติ ยังมีสัญญานการซื้อที่เบาบาง ทางด้านนักลงทุนสถาบันเริ่มชะลอการซื้อสุทธิเพื่อรอจังหวะดัชนีอยู่ประมาณ 1,450 จุด จึงคาดว่าจะเริ่มทยอยกลับมาซื้อสุทธิต่อ

   อย่างไรก็ตาม ภายในครึ่งปีหลัง หุ้นกลุ่มพลังงานมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากทางสหรัฐอเมริกา เริ่มทยอยหยุดการผลิตน้ำมันดิบ ส่งผลให้อุปทานที่ลดลง ราคาน้ำมันจึงเคลื่อนไหวสมดุลมากขึ้น

   ปัจจัยที่ต้องติดตาม มี3กรณี ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 มิ.ย.นี้  ไม่ว่าจะเป็น การชำระหนี้ระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้ 300 ล้านยูโร และ การประชุมกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) ที่มีแนวโน้มลดกำลังการผลิตน้ำมันลงคาดราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว อีกทั้งตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ หากออกมาแย่กว่าคาดจะส่งผลเชิงบวกต่อตลาดทั่วโลกเนื่องจาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) มีโอกาสเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป 

  กลยุทธ์การลงทุน แนะซื้อขายในกรอบ1,470-1,500จุด หากดัชนีปรับตัวลงมาที่แนวรับให้หาจังหวะเข้าซื้อ หรือหากดัชนีปรับตัวผ่านแนวต้านไปได้มีโอกาสขึ้นไปแตะที่ 1,530-1,550จุด ได้ ให้หาจังหวะขาย เน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานเนื่องจากก่อนหน้านี้ปรับตัวลงมาค่อนข้างมาก เช่น PTT ให้ราคาเป้าหมาย 398 บาท

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!