ดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นต่อในกรอบจำกัดหลังราคาน้ำมันยังขยับขึ้น

Details: Category: หุ้นเด่นวันนี้; Published: Friday, 17 April 2015 09:39; Hits: 2170

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นขึ้นต่อในกรอบจำกัดหลังราคาน้ำมันยังขยับขึ้น

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ คาดว่า ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อตามปัจจัยราคาน้ำมันที่สูงขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นจะอยู่ในกรอบที่ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากยังมี 2 ปัจจัยหลักที่กดดันคือ การปรับตัวขึ้นไปอีกจะส่งผลต่อ P/E ของตลาดฯให้ปรับขึ้นไปอยู่ในระดับสูง ประกอบการ อาจมีแรงขายจากกองทุนทริกเกอร์ออกมา

สำหรับ ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนลบ พร้อมให้แนวรับ 1,560 จุด ส่วนแนวต้าน 1,580 จุด

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่อ่อนตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกปัญหาหนี้กรีซ

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการปิดลบของตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้

ดัชนี MSCI Asia Pacific เคลื่อนไหวที่ระดับ 154.44 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,810.40 จุด ลดลง 75.37 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,608.60 จุด ลดลง 48.27 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,142.72 จุด เพิ่มขึ้น 2.82 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,528.17 จุด ลดลง 3.44 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,848.09 จุด เพิ่มขึ้น 0.15 จุด

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังและความสามารถในการชำระหนี้ของกรีซ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติกรีซรายงานว่า ฐานะการคลังสาธารณะของกรีซในปี 2557 ย่ำแย่ลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก ซึ่งจุดปะทุความกังวลว่ากรีซมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้

ด้านสื่อต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของกรีซได้ขอเจรจากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เพื่อขอเลื่อนเวลาในการชำระหนี้ออกไป แต่คำร้องขอดังกล่าวได้ถูกปฏิเสธ ทั้งนี้ กรีซมีกำหนดต้องจ่ายหนี้จำนวน 750 ล้านยูโร (801 ล้านดอลลาร์) ให้กับ IMF ในวันที่ 12 พ.ค.นี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 36.33 จุด เหตุกังวลกรีซผิดนัดชำระหนี้

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกว่ากรีซอาจจะไม่สามารถชำระหนี้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่จะถึงกำหนดในเดือนหน้า

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 36.33 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 7,060.45 จุด

ความวิตกที่ว่ารัฐบาลกรีซอาจผิดนัดชำระหนี้ได้กดดันตลาดหุ้นลอนดอน โดยกรีซมีกำหนดต้องจ่ายหนี้จำนวน 750 ล้านยูโร (801 ล้านดอลลาร์) ให้กับ IMF ในวันที่ 12 พ.ค.นี้

ก่อนหน้านี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติของกรีซเปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า ฐานะการคลังสาธารณะของกรีซในปี 2557 ย่ำแย่ลงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในตอนแรก ซึ่งจุดปะทุความกังวลว่ากรีซมีแนวโน้มที่จะผิดนัดชำระหนี้ในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้

ทางด้านสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของกรีซลงสู่ระดับ CCC+ จาก B- พร้อมกับเตือนว่า ภาระหนี้สินและพันธกรณีด้านการเงินอื่นๆของกรีซนั้น จะได้รับผลกระทบ หากกรีซไม่เดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจในเชิงลึก หรือหากภาระหนี้สินของกรีซไม่ได้รับการบรรเทา

หุ้นดิอาจิโอ ร่วง 3.58% หลังรายได้รายไตรมาสลดลงสวนทางคาดการณ์ โดยได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ที่อ่อนแรงในหลายภูมิภาค ขณะที่หุ้นเม็กจิทท์ ปรับตัวลง 3.1% เนื่องจากยูบีเอส กรุ๊ปแนะนำให้เทขาย

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : วิตกปัญหาหนี้กรีซ ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปฏิเสธคำร้องของกรีซที่จะขอเลื่อนเวลาในการชำระหนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.8% ปิดที่ 410.93 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,224.49 จุด ลดลง 29.86 จุด หรือ -0.57% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,998.86 จุด ร่วงลง 232.48 จุด หรือ -1.90% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,060.45 จุด ลดลง 36.33 จุด หรือ -0.51%

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ของกรีซได้ขอเจรจากับ IMF เพื่อขอเลื่อนเวลาในการชำระหนี้ออกไป แต่คำร้องขอดังกล่าวได้ถูกปฏิเสธ

ทั้งนี้ กรีซมีกำหนดต้องจ่ายหนี้จำนวน 1.95 แสนล้านยูโรให้กับ IMF ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ แต่ในขณะเดียวกัน กรีซก็ต้องหาเงินสดเพื่อนำมาจ่ายค่าจ้างให้แก่บรรดาข้าราชการและลูกจ้างภาครัฐในเดือนเดียวกัน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้มีขึ้น หลังจากเมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา กรีซได้ผ่อนชำระหนี้เงินกู้มูลค่า 458 ล้านยูโร (ประมาณ 492 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับ IMF ซึ่งเป็นความพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงเพื่อขอรับการสนับสนุนทางการเงินจากนานาชาติในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

หุ้นดิอาจิโอ ร่วงลง 3.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ซบเซาทั้งในทวีปยุโรป เอเชีย และละตินอเมริกา

หุ้นยูนิลีเวอร์พุ่งขึ้น 2.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ส่วนหุ้นเรโนลท์ พุ่งขึ้น 2.9% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นกลุ่มรถยนต์

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 6.84 จุด วิตกกรีซผิดนัดชำระหนี้

ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังได้ฉุดตลาดอ่อนแรงลงด้วย อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน

ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,105.77 จุด ลดลง 6.84 จุด หรือ -0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,007.79 จุด ลดลง 3.23 จุด หรือ -0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,104.99 จุด ลดลง 1.64 จุด หรือ -0.08%

นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะการคลังและความสามารถในการชำระหนี้ของกรีซ หลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติกรีซรายงานว่า หนี้สาธารณะในปี 2557 อยู่ในระดับที่สูงกว่าการคาดการณ์

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของกรีซลงสู่ระดับ CCC+ จาก B- พร้อมกับเตือนว่า ภาระหนี้สินและพันธกรณีด้านการเงินอื่นๆของกรีซนั้น จะได้รับผลกระทบ หากกรีซไม่เดินหน้าปฏิรูปเศรษฐกิจในเชิงลึก หรือหากภาระหนี้สินของกรีซไม่ได้รับการบรรเทา

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 11 เม.ย. เพิ่มขึ้น 12,000 ราย แตะ 294,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 290,000 ราย ขณะที่ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงถูกกดดัน แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยจำนองอยู่ในระดับต่ำ

อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่งของเอกชน โดยโกลด์แมน แซคส์ รายงานว่า รายได้สุทธิไตรมาสแรกอยู่ที่ 1.062 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่ซิตี้กรุ๊ปรายงานว่ารายได้ไตรมาสแรกอยู่ที่ 1.9809 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ หุ้นซิตี้กรุ๊ปปรับขึ้น 1.52% แต่หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ขยับลง 0.44%

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมี.ค., ความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนเม.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนมี.ค.จาก Conference Board

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 เม.ย.2558

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,105.77 จุด ลดลง 6.84 จุด -0.04%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,007.79 จุด ลดลง 3.23 จุด -0.06%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,104.99 จุด ลดลง 1.64 จุด -0.08%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,060.45 จุด ลดลง 36.33 จุด -0.51%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,998.86 จุด ลดลง 232.48 จุด -1.90%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,224.49 จุด ลดลง 29.86 จุด -0.57%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,656.87 จุด เพิ่มขึ้น 116.81 จุด +1.22%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,885.77 จุด เพิ่มขึ้น 16.01 จุด +0.08%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,139.90 จุด เพิ่มขึ้น 19.94 จุด +0.94%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,917.60 จุด เพิ่มขึ้น 40.30 จุด +0.69%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,947.50 จุด เพิ่มขึ้น 39.10 จุด +0.66%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,194.82 จุด เพิ่มขึ้น 110.66 จุด +2.71%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,948.20 จุด เพิ่มขึ้น 41.74 จุด +0.53%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,739.71 จุด เพิ่มขึ้น 120.89 จุด +0.44%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,420.73 จุด เพิ่มขึ้น 6.18 จุด +0.11%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,847.94 จุด เพิ่มขึ้น 7.81 จุด +0.42%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,531.61 จุด ลดลง 8.34 จุด -0.24%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,666.04 จุด ลดลง 133.65 จุด -0.46%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังได้ฉุดตลาดอ่อนแรงลงด้วย อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,105.77 จุด ลดลง 6.84 จุด หรือ -0.04% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 5,007.79 จุด ลดลง 3.23 จุด หรือ -0.06% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,104.99 จุด ลดลง 1.64 จุด หรือ -0.08%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า กรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ หลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ปฏิเสธคำร้องของกรีซที่จะขอเลื่อนเวลาในการชำระหนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.8% ปิดที่ 410.93 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,224.49 จุด ลดลง 29.86 จุด หรือ -0.57% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,998.86 จุด ร่วงลง 232.48 จุด หรือ -1.90% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,060.45 จุด ลดลง 36.33 จุด หรือ -0.51%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกว่ากรีซอาจจะไม่สามารถชำระหนี้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่จะถึงกำหนดในเดือนหน้า

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 36.33 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 7,060.45 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางที่ยังไม่สงบ รวมถึงเหตุการณ์สู้รบในเยเมน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ระบุว่า ปริมาณน้ำมันจากสหรัฐจะเริ่มลดลงช่วงครึ่งหลังปีนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 56.71 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 66 เซนต์ ปิดที่ 63.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาส่งสัญญาณดังกล่าว

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ระดับ 1,198.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 0.5 เซนต์ ปิดที่ 16.284 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 2.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,159.20 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ทะยานขึ้น 12.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 779.75 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (16 เม.ย.) เนื่องจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ครั้งแรกของสหรัฐเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0799 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0682 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4961 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4845 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.85 เยน เทียบกับระดับ 118.91 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9550 ฟรังก์ จาก 0.9642 ฟรังก์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7815 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7681 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 593.00 จุด เพิ่มขึ้น 7.00 จุด, +1.19%

อินโฟเควสท์