- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 20 March 2015 12:40
- Hits: 1981
ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวน-มีโอกาสอ่อนลง ติดตามปัจจัยการเมืองในปท.
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวน และมีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงได้บ้าง เนื่องจากดาวโจนส์ได้ปรับตัวลงไป 100 กว่าจุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้จะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ราว 0.2-0.3% โดยขณะนี้ปัจจัยจากนอกประเทศยังไม่มีอะไรใหม่
ส่วนในประเทศก็ให้ติดตามปัจจัยทางการเมือง ภายหลังจากที่ศาลฎีกาฯได้รับฟ้องคดี"ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร"อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีทุจริตจำนำข้าว
พร้อมให้แนวรับ 1,522 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(19 มี.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,959.03 จุด ร่วงลง 117.16 จุด(-0.65%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,992.38 จุด เพิ่มขึ้น 9.55 จุด(+0.19%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,089.27 จุด ลดลง 10.23 จุด(-0.49%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 3.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.81 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 51.36 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 30.38 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 0.76 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 1.07 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 5.57 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(19 มี.ค.58) 1,532.13 จุด เพิ่มขึ้น 0.63 จุด(+0.04%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 808.11 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มี.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(19 มี.ค.58) ปิดที่ 43.96 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 70 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(19 มี.ค.58)ที่ 9.78 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.76/77 คาดวันนี้ทรงตัว มองกรอบ 32.70-32.80
- "ปรีดิยาธร"จี้ กสทช.เจรจาขอคลื่นความถี่ 2500-2600 ระบุหากติดข้อกฎหมาย ขอประมูลแค่คลื่น 900-1800 ด้าน "พรชัย" ชี้เป็นแผนระยะยาว หวังมาเสริมในอนาคตหากคลื่นเดิมเริ่มเต็ม ขณะนักวิชาการแนะประมูล 4จี ควรใช้คลื่นตามแผนแม่บท หวั่นใช้คลื่นใหม่ กระทบแผน ผู้ประกอบวางแผนยาก
- ส่งออกเดือน ก.พ.ร่วง ติดลบเป็นเดือน ที่ 2 เหตุเศรษฐกิจโลกไม่ฟื้น "ปรีดิยาธร" ยังมั่นใจเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 โต 4% จากลงทุนภาครัฐ ขณะ ธปท.คลายกังวลหลังมติเฟด คงดอกเบี้ยต่อไป ส่วนค่าเงินบาทแข็งค่า สะท้อนลดดอกเบี้ยไม่เป็นผลให้ค่าเงินอ่อน
- ศาลฎีกานักการเมืองประทับรับฟ้องคดีจำนำข้าว ส่ง "ยิ่งลักษณ์" ขึ้นเขียง ฐานปล่อยให้ชาติเจ๊ง 6 แสนล้าน นัดเปิดคดี 19 พ.ค.นี้ เจ้าตัวโพสต์เฟซฯ ครวญไม่ได้ทำผิด ตั้งแง่เส้นทางคดีน่าสงสัย เชื่อมีการเมืองแทรก ทนายยัน "ปู" ไปศาลแน่ "พี่แม้ว" ยกหูปลอบใจ ชี้คสช.หวังเขี่ยพ้นการเมือง ด้านอัยการสูงสุดมั่นใจหลักฐานแน่น เตรียม 13 ปากให้การมัด "บิ๊กตู่" โยนถามศาลไปนอกได้หรือไม่ พูดมีนัยเด็ดดอกไม้เก่าทิ้งไปบ้าง "ไก่อู" ดักคอคงไม่หนีเหมือนนักการเมืองคนอื่น
- ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ในไตรมาส 2/58 เศรษฐกิจจะขยายตัวได้ถึง 4% สูงกว่าในไตรมาสแรกที่ขยายตัวได้ 3% ที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินไว้ เพราะเงินลงทุนภาครัฐและการลงทุนของเอกชนที่จะเกิดขึ้น ภายหลังการทำสัญญาจัดซื้อจัดจ้าง ที่รัฐบาลได้สั่งให้หัวหน้าส่วนราชการเร่งรัดให้มีการทำสัญญา ซึ่งพบว่าโครงการส่วนใหญ่จะดำเนินการภายในวันที่ 31 มี.ค.นี้
- แบงก์รัฐทยอยปรับลดดอกเบี้ย หลัง กนง. หั่นดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% หวังช่วยลดภาระลูกค้า และกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ "ออมสิน-เอสเอ็มอีแบงก์" นำร่องลดมีผลวานนี้ (19 ก.พ.) ส่วน "ธ.ก.ส." นำเรื่องเข้าที่ประชุมบอร์ด 23 มี.ค.นี้ ระบุขอดูต้นทุนทางการเงินเป็นหลัก หากบริหารให้ลดลงได้ พร้อมปรับดอกเบี้ยลง
- ตลาดหลักทรัพย์ยันไม่มีแนวคิดออกมาตรการคุมหุ้นเพิ่ม ชี้ปัจจุบันยังใช้ไม่ครบทุกระดับ นักลงทุนสถาบันมองแรงขายจากสถาบันและพอร์ตโบรกเกอร์ช่วงเดือน มี.ค.แค่ระยะสั้น เชื่อหากดัชนีลงไป 1,500 จุดมีแรงซื้อกลับ เชื่อกองทุนที่ลงทุนระยะยาวยังมั่นใจในพื้นฐานเศรษฐกิจไทย ขณะที่สรุปปี 57 บจ.จ่ายเงินปันผลรวม 3.58 แสนล้านบาท มีอัตราการจ่ายเงินปันผล 54% สูงกว่าปีก่อน
*หุ้นเด่นวันนี้
- SYNTEC(โกลเบล็ก)คาดรายได้ปี 2015 อยู่ที่ 7.3 พันล้านเติบโต 5%YoY และรายได้ 1Q/15ประมาณ 1.8 พันล้านใกล้เคียงกับ 4Q/57 แต่กำไรมีแน้วโน้มเพิ่มขึ้น ด้านกำไรขั้นต้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 14-16% จากงานในมือที่มีรายได้สูง และต้นทุนวัสดุปรับตัวบง(ราคาเหล็กปรับตัวลงจากต้นปี-15%)นอกจากนี้ 1Q/15 ได้งานเพิ่ม 4 โครงการมูลค่ารวม 2,300 ล้านบาท หนุน backlogมาอยู่ที่ระดับ 1.2 หมื่นล้าน ปัจจุบันประมูลงานใหม่ 18 โครงการมูลค่ารวม 1.5 หมื่น มีโอกาสได้งานประมาณ 4 พัน จะหนุน backlog รวม 1.6 หมื่นล้าน ซึ่งจะทำให้รายได้มีความมั่นคงไปอีก 2 ปี
- TMB(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 3.40 บาท คาดกำไร 1Q15 จะดีกว่ากลุ่ม +56% Y-Y ขณะที่กลุ่มน่าจะโต 6-8% Y-Y จากรายได้ดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและการตั้งสำรองฯที่ลดลง แต่กำไรน่าจะลดลง 16% Q-Q จากภาษีจ่ายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบ 4Q14 ที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี TMB กำลังขึ้นไปเทียบชั้นกับแบงก์ขนาดใหญ่ทั้งในแง่ Credit cost, Loan growth และ ROE พร้อมให้รอรับปันผล 0.06 บาท (yield 2%) XD 21 เม.ย.
- SYMC(ฟินันเซีย ไซรัส)เป้า 21.70 บาท ความชัดเจนของรัฐบาลในการผลักดัน Digital Economy เป็นบวกกับธุรกิจสร้างโครงข่ายโทรคมนาคม โดย SYMC ผ่านการลงทุนหนักสร้างโครงข่ายรอตั้งแต่ปี 2013-14 และจะสร้างเคเบิ้ลใยแก้วใต้น้ำร่วมกับมาเลเซียและกัมพูชาอีกกว่า 3 พันล้านบาทในปี 2015-16 กำไรปี 2015-16 จึงโตไม่สูงนักเพราะถูกดดันจากค่าเสื่อมและดอกเบี้ยจ่าย แต่จะเก็บเกี่ยวผลจากการลงทุนได้ยาว
- IFEC(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 17 บาท ปริมาณการซื้อขายของ IFEC ปรับตัวสูงขึ้นทำให้หุ้นเข้าข่ายที่จะติดเกณฑ์ Cash Balance แล้ว จึงมองว่าราคาหุ้นในระยะสั้นอาจมีการอ่อนตัวจากปัจจัยดังกล่าว อย่างไรก็ดีมองเป็นโอกาสในการซื้อสะสม เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยน ราคาปัจจุบันมี Upside ค่อนข้างสูง
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ลดลงเช้านี้ หลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วง
ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของหุ้นกลุ่มวัสดุและเทคโนโลยี ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้
อย่างไรก็ดี ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้นราว 0.1% แตะที่ 146.79 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,479.71 จุด เพิ่มขึ้น 3.15 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,587.08 จุด เพิ่มขึ้น 4.81 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,417.53 จุด ลดลง 51.36 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,706.35 จุด ลดลง 30.38 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,037.13 จุด ลดลง 0.76 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,385.09 จุด ลดลง 1.07 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,803.56 จุด ลดลง 5.57 จุด
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 17.12 จุด นำโดยหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) ตามการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะเดียวกัน ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ที่ระบุถึงความจำเป็นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 17.12 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 6,962.32 จุด
หุ้นกลุ่มเหมืองปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งนำโดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตันและหุ้นเกล็นคอร์ ที่ดีดตัวขึ้นกว่า 1% ส่วนหุ้นบีจี กรุ๊ป ปรับขึ้น 1.3%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุน หลังจากนายแอนดรูว์ ฮาลเดน หัวหน้านักวิเคราะห์ของธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) แสดงความเห็นเมื่อวานนี้ว่า BOE อาจมีความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอังกฤษเพื่อผลักดันให้เงินเฟ้อกลับสู่ระดับเป้าหมายที่ 2%
เขากล่าวว่า ภาวะเงินเฟ้อต่ำในขณะนี้ อาจดำเนินไปนานกว่าที่คาดไว้ หากการขยายตัวของค่าจ้างยังคงอยู่ในระดับต่ำ หรือแรงกดดันด้านราคาในระดับโลกยังคงเบาบาง
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับเฟดส่งสัญญาณไม่รีบขึ้นดอกเบี้ย
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี Stoxx 600 ปรับขึ้น 0.6% ปิดที่ 400.83 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,037.18 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด หรือ +0.07% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,899.40 จุด ลดลง 23.37 จุด หรือ -0.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,962.32 จุด เพิ่มขึ้น 17.12 จุด หรือ +0.25%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของเฟดซึ่งระบุว่า "การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 'ไม่มีแนวโน้ม' ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนเม.ย. และระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสิ่งชี้นำอัตราดอกเบี้ยไม่ได้หมายความว่าเฟดได้ตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว"
อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ภายหลังการประชุมซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมานั้น เฟดได้ยกเลิกการใช้คำว่า "อดทน" ในการพิจารณาเรื่องกำหนดเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ ปรับขึ้น 1% และหุ้นพรีเมียร์ ออยล์ พุ่งขึ้น 8%
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน พุ่งขึ้น 1.9% และหุ้นเฟรสนิลโล ทะยานขึ้น 5.4%
หุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา พุ่งขึ้น 2.4% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการ
นักลงทุนจับตาดูการเจรจาระหว่างกรีซและยูโรโซน ขณะที่ผู้นำยูโรโซนเตรียมเตือนกรีซว่า เวลาและความอดทนใกล้จะหมดลงแล้วสำหรับกรีซในการดำเนินการปฏิรูปตามที่ได้ตกลงไว้กับชาติเจ้าหนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากการที่กรีซต้องพ้นจากยูโรโซน
ทั้งนี้ รัฐบาลกรีซเรียกร้องให้มีการจัดการประชุมเจรจาระหว่างผู้นำเยอรมนี, ฝรั่งเศส และสหภาพยุโรป (EU) เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 117.16 จุด เหตุดอลล์แข็งฉุดหุ้นพลังงาน
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (19 มี.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,959.03 จุด ร่วงลง 117.16 จุด หรือ -0.65% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,089.27 จุด ลดลง 10.23 จุด หรือ -0.49% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,992.38 จุด เพิ่มขึ้น 9.55 จุด หรือ +0.19%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซาเมื่อคืนนี้ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง โดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่คำนวณในดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 1.7%
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 14 มี.ค. เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 291,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ซึ่งสามารถวัดแนวโน้มตลาดแรงงานได้ดีกว่าเพราะมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์นั้น เพิ่มขึ้น 2,250 ราย แตะระดับ 304,750 ราย
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงหลังจากที่พุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของเฟดที่ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยแถลงการณ์ของเฟดระบุว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 'ไม่มีแนวโน้ม' ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนเม.ย. และระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสิ่งชี้นำอัตราดอกเบี้ยไม่ได้หมายความว่าเฟดได้ตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว"
หุ้นแอปเปิลปรับตัวลง 0.76% หลังจากเข้าจดทะเบียนซื้อขายในดัชนีดาวโจนส์เป็นวันแรก ขณะที่หุ้นเอทีแอนด์ที ดิ่งลง 1.2% หุ้นเลนนาร์ คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ปรับตัวลง 0.1% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกที่ดีเกินคาด
หุ้นทาร์เก็ต คอร์ป ร่วงลง 0.6% หลังจากบริษัทประกาศเพิ่มค่าแรงพนักงาน ภายหลังจากที่วอล์มาร์ท และทีเจเอ็กซ์ คอส ได้ปรับเพิ่มค่าแรงพนักงานไปแล้วก่อนหน้านี้
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจอื่นๆของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยนั้น รวมถึงดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกชะลอตัวสู่ระดับ 5.0 ในเดือนมี.ค. จาก 5.2 ในเดือนก.พ. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI) ประจำเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 0.2% สู่ระดับ 121.4 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.2% และ 0.4% ในเดือนม.ค.และธ.ค.ตามลำดับ
อินโฟเควสท์