WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งคล้ายตลาดภูมิภาค ปัจจัยบวก-ลบในและนอกปท.คละกัน

    นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวออกด้านข้างเคลื่อนไหวคล้ายกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้แกว่งตัวทั้งแดนบวก-ลบเล็กน้อย ปัจจัยหนุนมาจากที่ธนาคารกลางยุโรป(ECB)เริ่มทำ QE ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรของเยอรมันเมื่อคืนที่ผ่านมา

    ขณะที่ต่ตลาดฯยังมีความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด และยังต้องติดตามกรีซเสนอแผนปฏิรูปเศรษฐกิจต่อสหภาพยุโรป(EU) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) และธนาคารกลางยุโรป(ECB)

   นอกจากนี้ พรุ่งนี้ต้องเกาะติดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมทั้งการหารือระหว่างไทยกับจีนเรื่องความร่วมมือโครงการรถไฟรางคู่ที่กำหนดประชุมในวันที่ 10-11 มี.ค.นี้

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,550-1,570 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                -ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(9 มี.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,995.72 จุด พุ่งขึ้น 138.94 จุด(+0.78%), ดัชนี

                NASDAQ ปิดที่ 4,942.44 จุด เพิ่มขึ้น 15.07 จุด(+0.31%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,079.43 จุด เพิ่มขึ้น 8.17 จุด(+0.39%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 100.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 13.32 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 27.63 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 3.27 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 7.84 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 2.85 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 3.08 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(9 มี.ค.58)1,559.71 จุด ลดลง 8.58 จุด(-0.55%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 93.19 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 มี.ค.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(9 มี.ค.58) ปิดที่ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 39 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(9 มี.ค.58)ที่ 9.22 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 32.59/61 อ่อนค่าตามภูมิภาค นลท.รอดูผลการประชุมกนง.

                - คลังสั่งขยับฐานราคาบ้าน 1.5 ล้าน ได้รับยกเว้นภาษีที่ดิน-สิ่งปลูกสร้าง ส่วนบ้าน 4-5 ล้าน จ่ายครึ่งหนึ่งของอัตราจัดเก็บจริง พร้อมหั่นภาษีที่ดินใหม่ทุกประเภท เปิดทางหักค่าเสื่อมสิ่งปลูกสร้าง 69 แบบ เตรียมเสนอแผนจัดเก็บเข้าครม. ภายใน 2 สัปดาห์

                - กบง.ดึงเงินกองทุนลดราคาน้ำมันช่วงขาขึ้น ลิตรละ 1-2 บาท ส่งผลราคาน้ำมันลดลงทันทีวันนี้ 0.50-2 บาทต่อลิตร ยอมตรึงราคา แอลพีจีที่ 24.16 บาทต่อกก. เสนอครม.วันนี้ ปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตดีเซลอีกลิตรละ 1 บาท เป็น 4.25 บาท ส่งผลรัฐมีรายได้เพิ่มเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท

                - "นายกฯ" สั่ง รฟม.เจรจาเดินรถสายสีน้ำเงิน เร่งเปิดบริการ ไตรมาส 3/61 พร้อมเร่งสปีด รถไฟฟ้าอีก 3 สายเข้า ครม. และผุดรถไฟความเร็วสูงเกิดในปีนี้ ยันนักลงทุนไทยเสนอตัวลงทุนเป็นไปได้ "ยอดยุทธ" เผยรอมติ ครม.เป็นทางการ คาด กก.มาตรา 13 ประชุมสัปดาห์หน้า เร่งเคาะเจรจากับ BMCL ตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ 35 เพื่อเดินรถต่อเนื่องตามนโยบาย มั่นใจประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด

                - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เดินหน้าเจรจากับเอกชนเดินรถไฟฟ้ารายเดิม คือ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ (บีเอ็มซีแอล) มาเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และหัวลำโพง-บางแค โดยให้เจรจาให้เร็วที่สุด

                - "สศค." เผยสถานะแบงก์รัฐสิ้นปี 2557 ยังแข็งแกร่ง ไม่ห่วงเรื่องสถานะเงินกองทุนเอ็นพีแอล แม้ตัวเลขหนี้ค้างชำระ 1-3 จะพุ่งแต่ 1.12 แสนล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากลูกหนี้ "ธ.ก.ส." ที่เกิดขึ้นตามปกติในช่วงนอกฤดูเก็บเกี่ยว เผยยอดเอ็นพีแอลโดยรวมเพิ่ม 5.8% แต่ภาคเกษตรลดลงถึง 1 หมื่นล้าน หรือ 24%

                - 'ประจิน' ชงรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-พัทยา-หัวหิน เข้า ครม.พฤษภาคมนี้ พร้อมเปิดทางญี่ปุ่นทำไฮสปีดเทรน กทม.-เชียงใหม่ แทนรางมาตรฐาน เผยนายกฯให้นโยบายเปิดประมูลรัฐบาลนี้ ต้องเสร็จก่อนเลือกตั้ง

*หุ้นเด่นวันนี้

                - NWR(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ซื้อเก็งกำไร"เป้า 2.20 บาท มีมุมมองเชิงบวกหลังผลประกอบการ 4Q57 พลิกกลับเป็นกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นมากเป็น 7.8% ใน 4Q57 จาก -0.4% ใน 3Q57 และ 2.5% ใน 4Q56 จากต้นทุนค่าวัสดุก่อสร้างที่ลดลง หลังเริ่มรับรู้รายได้ Backlog ที่มีกำไรในระดับปกติ พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +1,338.2% เป็น 139 ล้านบาท จากแรงหนุนของธุรกิจก่อสร้างที่ได้ประโยชน์จากต้นทุนพลังงานที่ลดลง และการรับรู้รายได้โครงการคอนโด ISSI ที่ร่วมทุนกับ CI ในสัดส่วน 40% มูลค่ารวม 1.8 พันล้านบาท ซึ่งมียอดขายแล้ว 70% และจะเริ่มโอนตั้งแต่ 4Q58 เป็นต้นไป และมีโอกาสที่จะบันทึกกำไรพิเศษคดีคลองด่านที่ศาลตัดสินให้ชนะแล้วสูงถึง 300-500 ล้านบาท

                - SIM(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 3.30 บาท แม้ธุรกิจขายโทรศัพท์มือถือจะมีการแข่งขันสูงจากผู้เล่นในตลาดทั้งจีนและเกาหลีซึ่งมีต้นทุนต่ำ รวมถึงผู้ให้บริการมือถือในบ้านเราทั้ง 3 ค่าย ทำให้ SIM ขยับราคาขายลงโดยยอมลดอัตรากำไรขั้นต้นของตัวเอง อย่างไรก็ตาม SIM มีแผนรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น เช่นพม่าที่ยังมีอัตราการมีโทรศัพท์มือถือต่ำ และขยายไปตะวันออกกลางชดเชยการแข่งขันในประเทศ ส่วนธุรกิจ MVNO คาดว่าจะเข้าใกล้จุดคุ้มทุนในปีนี้ โดยคาดกำไรในปีนี้จะฟื้นตัว 14% Y-Y จากกำลังซื้อที่ค่อยๆฟื้น และธุรกิจ Content และ MVNO ที่มีทิศทางเติบโตได้ต่อ

                - SC(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้าใหม่ก่อน XD ซึ่งมีปันผลเป็นหุ้นปรับขึ้นเป็น 4.51 บาท น่าสนใจเรื่องการเป็นบริษัทขนาดกลางที่กำลังไต่ระดับไปเป็นบริษัทใหญ่ จากรายได้สูงสุดใหม่ปี 57 ที่ 12.6 พันล้านบาท ตั้งเป้าว่าในปี 62 รายได้จะไปถึง 20 พันล้านบาท และจะทำกำไรสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง หรือโตเฉลี่ยปีละ 11.7% พร้อมปรับคาดการณ์กำไรหลักปีนี้และปีหน้าขึ้นในอัตรา 5% และ 6% ตามลำดับ สะท้อนรายได้รวมที่มากขึ้น ทำให้อัตราการเติบโตกำไรหลักปีนี้และปีหน้าอยู่ในเกณฑ์ดี คือ 12% y-o-y ทั้งสองปี ปัจจุบันมีส่วนครองตลาดอันดับ 1 สำหรับบ้านราคาสูงกว่า 15 ล้านบาท ตั้งเป้าติด Top 5 บ้าน 5-15 ล้านบาท

ตลาดหุ้นเอเชียปรับขึ้นเช้านี้ หลังเยนอ่อนหนุนหุ้นส่งออกญี่ปุ่นทะยาน

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ หลังเงินเยนอ่อนค่าลงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกของญี่ปุ่น ขณะเดียวกันนักลงทุนต่างจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อของจีน ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้

    ดัชนี MSCI Asia Pacific บวกขึ้น 0.1% สู่ระดับ 144.08 จุด เมื่อเวลา 9.01 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,891.01 จุด เพิ่มขึ้น 100.46 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,289.09 จุด ลดลง 13.32 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,150.68 จุด เพิ่มขึ้น 27.63 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,566.25 จุด เพิ่มขึ้น 3.27 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,000.66 จุด เพิ่มขึ้น 7.84 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,407.42 จุด เพิ่มขึ้น 2.85 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,794.82 จุด เพิ่มขึ้น 3.08 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 35.33 จุด เหตุวิตกกรีซ,คาดเฟดขึ้นดอกเบี้ย

   ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) จากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในกรีซ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด หลังสหรัฐรายงานข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่ง

   ดัชนี FTSE 100 ลดลง 35.33 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 6,876.47 จุด

   ตลาดได้รับปัจจัยถ่วง หลังจากที่เจ้าหน้าที่ยุโรปกล่าวว่า ข้อเสนอใหม่ในการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซนั้นไม่สอดคล้องกับสิ่งที่ได้มีการหารือกันเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน

  ทั้งนี้ มีรายงานว่าคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคจากกรีซจะเปิดการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจในวันพุธนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากสหภาพยุโรป (EU), ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

    นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังเผชิญแรงกดดันจากคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด เนื่องจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 295,000 รายในเดือนก.พ. หลังจากเพิ่มขึ้น 239,000 รายในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปีครึ่ง จากระดับ 5.7% ในเดือนม.ค.

    หุ้นบริติช อเมริกัน โทแบคโค ร่วง 1.8% และหุ้นแอสทราเซเนกา อ่อนแรงลง 1.2% ขณะที่หุ้นอาร์เอสเอ อินชัวแรนซ์ กรุ๊ป ปรับลง 1.3% หลังโกลด์แมน แซคส์ ปรับลดความน่าลงทุนหุ้นอาร์เอสเอ

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นกรีซร่วงหนัก ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกรีซ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่กรีซจะเปิดการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจวมกับผู้เชี่ยวชาญจากสหภาพยุโรป (EU) , ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 393.19 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,937.20 จุด ลดลง 27.15 จุด หรือ -0.55% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,582.11 จุด เพิ่มขึ้น 31.14 จุด หรือ +0.27% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,876.47 จุด ลดลง 35.33 จุด หรือ -0.51%

     ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปซบเซาลง หลังจากดัชนี ASE Index ของกรีซร่วงลงอย่างหนัก หลังจากกลุ่มเจ้าหนี้มองว่า นโยบายเศรษฐกิจของกรีซนั้น ยังห่างไกลจากความเป็นจริงเมื่อเทียบกับข้อเสนอที่ได้มีการหารือไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

    นักลงทุนจับตาดูกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซนจะจัดการประชุมขึ้นในวันที่ 10 มี.ค.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่คนหนึ่งของ EU หนึ่งกล่าวว่า คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคนิคจากกรีซจะเปิดการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจในวันพุธนี้ที่กรุงบรัสเซลส์ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจาก EU, ECB และ IMF

    ผลสำรวจของหนังสือพิมพ์ Efimerida ton Syntakton พบว่า ชาวกรีซส่วนใหญ่สนับสนุนให้รัฐบาลประนีประนอมกับเจ้าหนี้ต่างชาติ โดยผู้ถูกสำรวจ 7 ใน 10 ระบุว่า ชาวกรีซต้องการให้มีการหาทางออกที่ยอมรับได้ทั้ง 2 ฝ่ายต่อวิกฤตการณ์หนี้ของกรีซ อย่างไรก็ดี 27.4% ระบุว่า พร้อมที่จะแตกหัก หากเจ้าหนี้กดดันกรีซมากเกินไป แม้จะหมายความว่ากรีซต้องออกจากยูโรโซนก็ตาม

    หุ้นเบเยอร์ เอจี ปรับตัวขึ้น 1.8% ขณะที่หุ้นโฟลค์สวาเกน ขยับขึ้น 1.02% และหุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ดีดขึ้น 0.84%

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของฝรั่งเศสและอิตาลีในวันนี้ ส่วนในวันพฤหัสบดีนี้ ฝรั่งเศสและเยอรมนีจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.พ.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 138.94 จุด รับข่าวควบรวมกิจการ

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของบริษัทเอกชน  นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เริ่มเข้าซื้อพันธบัตรเยอรมนีตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขณะที่หุ้นแอปเปิลได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม หลังจากบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ "แอปเปิล วอทช์"

    ดัชนีเ ฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,995.72 จุด พุ่งขึ้น 138.94 จุด หรือ +0.78% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,942.44 จุด เพิ่มขึ้น 15.07 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,079.43 จุด เพิ่มขึ้น 8.17 จุด หรือ +0.39%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นแข็งแกร่ง ขานรับข่าวการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของบริษัทเอกชน รวมถึงข่าวที่ว่าอัลโค อิงค์ จะเข้าซื้อกิจการบริษัทอาร์ทีไอ อินเตอร์เนชันแนล เมทัลส์ อิงค์ มูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่ไซมอน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป ได้เสนอซื้อกิจการเมซีริช มูลค่า 2.24 หมื่นล้านดอลลาร์

    ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเมซีริชพุ่งขึ้น 7% หุ้นอาร์ทีไอ อินเตอร์เนชันแนล เมทัลส์  อย่างไรก็ตาม หุ้นอัลโค ดิ่งลง 5.4% และหุ้นไซมอน พร็อพเพอร์ตี ปรับตัวลง 0.1%

    นักลงทุนให้ความสนใจหุ้นแอปเปิลอย่างคึกคัก ซึ่งช่วยหนุนราคาหุ้นดีดตัวขึ้น 0.4% หลังจากบริษัทเปิดตัว "แอปเปิล วอทช์" นาฬิกาอัจฉริยะ ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ตัวแรกภายใต้การเข้ากุมบังเหียนของนายทิม คุก ในอาณาจักรแอปเปิล โดยคาดว่าแอปเปิลจะวางจำหน่ายแอปเปิล วอทช์ในเดือนเม.ย.นี้ ในราคาเรือนละ 349 ดอลลาร์ หรือราว 11,400 บาท

    หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ พุ่งขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นจำนวน 5 พันล้านหุ้น ขณะที่หุ้นควอลคอมม์ ดีดขึ้น 2.3% หลังจากบริษัทประกาศแผนการซื้อคืนหุ้นจำนวน 1.5 หมื่นล้านหุ้น

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการที่ ECB เริ่มเข้าซื้อพันธบัตรเยอรมนีเมื่อวานี้ ตามมาตรการ QE ซึ่งได้มีการประกาศไว้ก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน

  นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนม.ค., ดุลงบประมาณเดือนก.พ.ของรัฐบาลกลางสหรัฐ, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนก.พ.สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนม.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนมี.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 มี.ค.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,995.72 จุด                             เพิ่มขึ้น 138.94 จุด     +0.78%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,942.44 จุด                         เพิ่มขึ้น 15.07 จุด      +0.31%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,079.43 จุด                           เพิ่มขึ้น 8.17 จุด       +0.39%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,876.47 จุด                       ลดลง 35.33 จุด       -0.51%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,582.11 จุด                              เพิ่มขึ้น 31.14 จุด      +0.27%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,937.20 จุด                            ลดลง 27.15 จุด       -0.55%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,793.00 จุด         ลดลง 75.60 จุด       -1.29%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,821.30 จุด               ลดลง 77.60 จุด       -1.32%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,562.98 จุด                               ลดลง 82.79 จุด       -0.86%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,790.55 จุด                        ลดลง 180.45 จุด      -0.95%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,992.82 จุด                            ลดลง 20.12 จุด       -1.00%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,302.41 จุด                        เพิ่มขึ้น 61.22 จุด      +1.89%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,820.29 จุด                ลดลง 41.04 จุด       -0.52%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,123.05 จุด                                 ลดลง 40.95 จุด       -0.17%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,444.63 จุด        ลดลง 70.16 จุด       -1.27%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,404.57 จุด                          ลดลง 12.94 จุด       -0.38%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,844.78 จุด                            ลดลง 604.17 จุด      -2.05%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวการควบรวมกิจการและซื้อกิจการของบริษัทเอกชน  นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เริ่มเข้าซื้อพันธบัตรเยอรมนีตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ขณะที่หุ้นแอปเปิลได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม หลังจากบริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ "แอปเปิล วอทช์"

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,995.72 จุด พุ่งขึ้น 138.94 จุด หรือ +0.78% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,942.44 จุด เพิ่มขึ้น 15.07 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,079.43 จุด เพิ่มขึ้น 8.17 จุด หรือ +0.39%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกรีซ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข่าวที่ว่า เจ้าหน้าที่กรีซจะเปิดการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจวมกับผู้เชี่ยวชาญจากสหภาพยุโรป (EU) , ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)

         ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 393.19 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,937.20 จุด ลดลง 27.15 จุด หรือ -0.55% ดัชนี DAXตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,582.11 จุด เพิ่มขึ้น 31.14 จุด หรือ +0.27% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,876.47 จุด ลดลง 35.33 จุด หรือ -0.51%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) จากความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ในกรีซ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด หลังสหรัฐรายงานข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่ง

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 35.33 จุด หรือ 0.51% ปิดที่ 6,876.47 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบ WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดโลกที่สูงเกินไป

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 39 เซนต์ ปิดที่ 50 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.53 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและการคลังของกรีซ ยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.19% ปิดที่ระดับ 1,166.50 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 3.1 เซนต์ ปิดที่ 15.776 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 10.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,148.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 4.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 822.95 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (9 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ดอลลาร์ทะยานขึ้นขานรับข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งของสหรัฐซึ่งเปิดเผยไปเมื่อวันศุกร์

          ค่าเงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0858 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5131 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5048 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 121.18 เยน เทียบกับระดับ 120.69 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9849 ฟรังก์ จาก 0.9848 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7713 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7720 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 568.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.00 จุด, +0.53%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!