- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Thursday, 05 March 2015 18:25
- Hits: 2231
โบรกฯ คาด SET พรุ่งนี้ซึมต่อ ไร้ปัจจัยหนุน แต่ภาพรวมทั้งเดือนยังสดใส รับเงินนอกไหลเข้า- กนง.ลดดอกเบี้ย แนะสะสมช่วงอ่อนตัว
โบรกฯ คาด SET พรุ่งนี้ ซึมต่อหลังตลาดฯไร้ปัจจัยขับเคลื่อน แต่เชื่อหุ้นไทยเดือน มี.ค.ยังคงเป็นบวก ด้วยทิศทาง Fund Flow ที่ไหลเข้า - ลุ้นกนง.ลดดอกเบี้ยหนุน แนะ เข้าสะสมช่วงดัชนีฯ อ่อนตัว พร้อมประเมินแนวรับที่ 1,530-1,540 จุดและแนวต้านที่ 1,580-1,590 จุด
นายเอกภาวิน สุนทราภิชาติ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ กล่าวว่าตลาดหุ้นไทยในวันนี้อ่อนตัวลงเนื่องจากเจอแรงขายทำกำไร หลังตลาดฯไร้ปัจจัยใหม่ขับเคลื่อนการลงทุน ประกอบกับราคาของหุ้นขนาดใหญ่อย่างกลุ่มสื่อสาร และ กลุ่มพลังงานปรับตัวลดลง เป็นปัจจัยส่งผลต่อภาพรวมของดัชนีฯ ให้เคลื่อนไหวในแดนลบ
สำหรับทิศทางของตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ มองว่า เนื่องจากตลาดฯหุ้นไทยยังคงไม่มีปัจจัยที่โดดเด่นเข้ามาหนุนการลงทุนจึงมีโอกาสที่ดัชนีฯจะอ่อนตัวลงต่อ ขณะที่ยังคงให้น้ำหนักต่อทิศทางของกระแสเงินทุนต่างชาติ(Fund Flow)ตามการทำนโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE)ของธนาคารกลางยุโรป(ECB) ประกอบกับโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน(กนง.)จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 11 มี.ค.นี้ นอกจากนี้มองว่าช่วงที่ดัชนีฯ อ่อนตัวลงเป็นโอกาสในการเข้าสะสมตามบริเวณแนวรับที่ 1,530-1,540 จุด พร้อมประเมินแนวต้านที่ 1,580-1,590 จุด
ขณะที่ บล.ไทยพาณิชย์ มองว่ามีโอกาสที่คณะกรรมการนโยบายทางการเงิน(กนง.)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง เนื่องจากที่ผ่านมาตัวเลขเศรษฐกิจของไทย บ่งชี้ว่ายังไม่ฟื้นตัวอย่างชัดเจน ประกอบกับเริ่มเห็นปัญหาภาวะเงินฝืดที่จะเกิดขึ้น หลังตัวเลขเงินเฟ้อออกมาเป็นลบ ติดต่อกันสองเดือน นอกจากนี้ค่าเงินบาทที่จะแข็งค่าขึ้นจากเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก
นอกจากนี้ คาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(FED) น่าจะเกิดในช่วงไตรมาสที่3/2557 แต่มีโอกาสที่จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำนานกว่าที่ตลาดฯคาดการณ์ เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน เป็นสิ่งที่มีความเสี่ยงต่อการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกอบกับอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ด้านทิศทางของตลาดหุ้นไทยตลอดเดือน มี.ค. ถึงแม้ว่าในช่วงต้นของเดือนจะอยู่ในทิศทางที่อ่อนตัวลง แต่สุดท้ายยังคงมีมุมมองเป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทยด้วยแนวต้านที่ 1,600-1,620 จุด โดยแรงขับเคลื่อนหลักๆนั้นมาจากทิศทางของกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทย ประกอบกับหากคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน(กนง.) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมครั้งนี้ จะช่วยหนุนให้ตลาดฯปรับตัวขึ้นได้ ทั้งนี้แนะนำให้นักลงทุนเลือกลงทุนในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เนื่องจากเห็นกระแสเงินทุนต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ อีกทั้งราคาหุ้นกลุ่มดังกล่าวก่อนหน้านี้ปรับตัวลดลงมาพอควร จึงเป็นกลุ่มที่น่าสนใจ
"เรามองว่างบของบริษัทจดทะเบียนใน Q1/58 น่าจะฟื้นตัวขึ้น รวมถึงกลุ่มพลังงานด้วยที่ใน Q4/57 ขาดทุนจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลง" นายเอกภาวินกล่าว
ด้านนายวิวัฒน์ เตชะพูลผล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาดลูกค้าส่ว่นบุคคล บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงแย่กว่าคาด ด้วยปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบ 3 ปัจจจัย ได้แก่ บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มส่งสัญญาณไม่ดี หลังจากที่หลาย ๆ ตลาดหุ้นทำจุดสูงสุดใหม่ (All time new high) โดยเฉพาะดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ทำจุดสูงสุดใหม่แล้วปรับตัวลงค่อนข้างแรง อยู่ในลักษณะที่หุ้นลงแรงบนข่าวดี เป็นภาวะของฟองสบู่ ขณะที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไทย Q4/2557 และทั้งปี 2557 ออกไม่ไม่ดี ฉะนั้น ถ้าปีนี้การเติบโตรายได้ (Earning growth) ปีนี้ โตได้ไม่ถึง 20% ก็จะส่งผลกดดันต่อบรรยากาศการลงทุนได้ อีกทั้งมองผลประกอบการ Q1/58 ยังคงแย่ต่อเนื่องจาก Q4/57 ส่วนด้านเทคนิด ในระยะกลาง ส่งสัญญาณขาลงชัดเจน มองว่ากรอบขาลงใน 2 เดือน จนถึงเดือน เม.ย. ไปสู่แนวรับ 1,510 จุด ซึ่งภาวะเช่นนี้จะทำให้นักลงทุนรายใหญ่ขายออกมาลดความเสี่ยง ดังนั้น โดยรวมแล้ว ในช่วงสั้น ดัชนีฯ เผชิญกับ sentiment เชิงลบเป็นส่วนใหญ่
สำหรับพรุ่งนี้ คาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน หลังปรับตัวลงมาต่อเนื่อง แรงความหวังเม็ดเงินจากมาตรการ QE ของธนาคารกลางยุโรปเริ่มน้อยลง ดัชนีฯ ไม่ค่อยจะตอบสนองต่อประเด็นดังกล่าว โดยมองว่านักลงทุนได้เก็งกำไรจากประเด็นดังกล่าวไปส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนการประชุมรอบถัดไปของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 11 มี.ค. นี้ คาดว่า กนง. จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ระดับเดิม แม้เสียงที่คาดการจะเริ่มแตกมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม มองว่ามีโอกาสที่ กนง. จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายได้เช่นกัน ในลักษณะที่สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนคล้ายกรณีการดำเนินนโยบายทางการเงินของอินเดีย
ด้านกลยุทธ์ แนะเก็งกำไรในหุ้นที่ปรับตัวลงแรง โดยมองว่าในกรอบการลงทุน 2 เดือนนี้ เดือนมี.ค. หุ้นไทยมีโอกาสฟื้นตัวไปสู่แนวต้าน 1,580-1,590 จุด จากการทำ window dressing และแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ตามสถิติย้อนหลัง 5 ปี มักจะซื้อสุทธิ ส่วนเดือนเม.ย. คาดว่าดัชนีจะอ่อนตัวลงไปสู่แนวรับ 1,510 จุด ส่วนพรุ่งนี้ประเมินแนวรับ 1540 จุด แนวต้าน 1,570 จุด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย