- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Wednesday, 11 February 2015 22:47
- Hits: 1964
โบรกฯ คาดพรุ่งนี้หุ้นไทยสดใส ได้แรงเก็งงบบจ.หนุน ชี้นักลงทุนรอความชัดเจนการแก้ปัญหากรีซ แนะซื้อช่วงดัชนีอ่อนตัว
โบรกฯ คาดพรุ่งหุ้นไทยสดใส หลังวันนี้ฟื้นได้ช่วงท้ายตลาด ชี้นลท.เข้ามาเก็งกำไรหุ้นรายตัวตามผลประกอบการ แต่ยังต้องรอความชัดเจนในการเจรจาหนี้กรีซของกลุ่มอียูในวันนี้ แนะนำให้ซื้อช่วงที่ดัชนีฯอ่อนตัว และถือไว้เมื่อดัชนีฯ รีบาวน์กลับ มองแนวรับที่ 1,598-1,595 จุด และแนวต้านที่ 1,610 จุด
นายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส เปิดเผยว่า ภาพรวมของดัชนีตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวผันผวน-ทรงตัวกรอบแคบในการเปิดตลาดฯช่วงเช้า เพราะ ความกังวลจากสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศกรีซเกี่ยวกับข้อสรุปการแก้ปัญหาด้วยวิธีขยายเวลาการชำระหนี้ของกรีซออกไปอีก 6 เดือนจะยังชัดเจนอยู่หรือไม่ ก่อนที่มาตรการช่วยเหลือทางการเงินฉบับปัจจุบันจะหมดอายุสิ้นเดือนนี้ รวมถึงราคาน้ำมันโลกผันผวน กดดันการลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานอย่างต่อเนื่อง ทำให้ดัชนีฯปรับดิ่งแรง 10 จุด
อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายตลาดฯมีแรงซื้อกลับค่อนข้างมาก แม้ขาดปัจจัยภายในประเทศหนุน มีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนเข้าเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 4/57 และเลือกเก็งกำไรเป็นรายกลุ่ม
สำหรับ ทิศทางของดัชนีตลาดหุ้นไทยในพรุ่งนี้คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น หลัง 2 -3 วันที่ผ่านมาดัชนีฯยืนอยู่ในแดนลบ และมีโอกาสผันผวนเพื่อรอข่าวความคืบหน้าและคาดหวังว่าจะมีแนวโน้มเชิงบวกจากการประชุมคณะรัฐมนตรีกระทรวงการคลังของอียูในวันนี้ และการประชุมของผู้นำอียูเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าสิ้นเดือนนี้ยังมีปัญหาและการชำระหนี้กรีซไม่คลี่คลายก็ส่งผลกระทบกับดัชนีฯต่างประเทศรวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย และในระยะต่อไปปัจจัยในประเทศทั้งการเก็งกำไรผลประกอบการบจ.ไตรมาส4/57 และการจ่ายปันผลหุ้นระหว่างกาลจะเป็นประเด็นที่ช่วยหนุนดัชนีฯให้ค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นและมีฐานที่แข็งแกร่งได้
"ตลาดฯจะมีลักษณะค่อยๆขึ้น เพราะ ลุ้นประเด็นชำระหนี้กรีซซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ถ้ากรณีที่ประเด็นกรีซก็ไม่ชัดเจน ราคาน้ำมันยังปรับลงเรื่อยๆ ดัชนีฯไทยก็ค่อนข้างอ่อนไหวสามารถผันผวนปรับตัวลงได้ทันที" นายสมชายกล่าว
ด้านกลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้ซื้อช่วงที่ดัชนีฯอ่อนตัว และถือไว้เมื่อดัชนีฯ รีบาวน์กลับ ทั้งนี้ประเมินแนวรับที่ 1,598-1,595 จุด และแนวต้านที่ 1,610 จุด
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย