WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้มีโอกาสปรับฐานตามตลาดตปท.หลังกลับมาวิตกเฟดจะขึ้นดบ.

     นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะถูก take profit เนื่องจากดัชนีฯยังไม่สามารถที่จะผ่านระดับ 1,600 จุดไปได้ และกนง.ได้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ก่อน ด้านตลาดต่างประเทศก็มี Sentiment ที่เป็นในเชิงลบ

     โดยเช้านี้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ เช่นเดียวกับดาวโจนส์ที่ปรับตัวลงไปราว 195 จุด ส่วนหนึ่งมาจากที่ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯยังไม่ค่อยดี และเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับคำแถลงของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ที่แสดงให้เห็นว่าอาจจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

     ด้วยปัจจัยโดยรวมดังกล่าวแล้ว และตลาดฯขณะนี้ยังไม่ได้มีปัจจัยบวกใหม่เข้ามา ทำให้ตลาดบ้านเราจึงมีโอกาสที่จะปรับฐานได้อยู่ พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(28 ม.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่  17,191.37 จุด ร่วงลง 195.84 จุด(-1.13%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,637.99 จุด ลดลง 43.51 จุด(-0.93%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,002.16 จุด ลดลง 27.39 จุด(-1.35%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 128.82 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 46.74 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 216.61 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 31.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 10.75 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 16.78 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.29 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(28 ม.ค.58)1,592.81 จุด เพิ่มขึ้น 3.00 จุด(+0.19%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 3,599.25 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ม.ค.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(28 ม.ค.58) ปิดที่ 44.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.78 ดอลลาร์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(28 ม.ค.58)ที่ 8.39 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 32.59/61 แนวโน้มทรงตัวหลังเฟดยังคงดอกเบี้ย

                - กนง.ประเมินสถานการณ์ทุนเคลื่อนย้าย หลังจากหลายประเทศเข้าสู่ "สงครามค่าเงิน" ชี้ยังไม่ส่งผลกระทบต่อไทยมาก คาดไหลเข้าไม่มากเหมือนกรณีสหรัฐฯ พร้อมมีมติ 5 ต่อ 2  "คง" ดอกเบี้ยนโยบาย 2% ด้าน "ปรีดิยาธร"เผยเงินไหลเข้า ค่าบาทยังมีเสถียรภาพ ยังไม่เห็นผลกระทบต่อส่งออก ขณะ "บัณฑูร" แนะรัฐควรเร่งเบิกจ่ายมากกว่า

                - กบง.ถกศุกร์นี้ ขึ้นราคาเอ็นจีวี ศุกร์นี้พร้อมเตรียมขึ้นสรรพสามิตดีเซล 1 บาทต่อลิตร ด้านกระทรวงพลังงานโยนให้ปตท.ดูแล ผู้มีรายได้น้อยใช้แอลพีจีราคาถูก หลังลอยตัวราคาในวันที่ 2 ก.พ. 2558

                - "คลัง" ชี้ภาวะเศรษฐกิจปีนี้หนุนธุรกิจอสังหาฯ ขยายตัว 5% ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจตลาดเงิน-สินเชื่อ มองภาพรวมธุรกิจอสังหาฯปีนี้ยังไปได้ แต่ไม่ใช่ปีทอง เหตุสต็อกที่อยู่อาศัยยังเหลือ 1.65 แสนยูนิต กำลังซื้อต่ำ-หนี้ครัวเรือนสูง-ยอดจ่ายหนี้บ้านต่อเดือนลด ระบุผู้ประกอบอยู่ในช่วงปรับตัว ขณะที่แบงก์เพิ่มความระมัดระวังปล่อยสินเชื่อ

                - ปรีดิยาธร เผย "ไอเอ็มเอฟ" เสนอแนะ 3 แนวทาง ให้รัฐบาลไทยเร่งดำเนินการด่วน "เร่งรัดการลงทุน-ปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน-ผลักดันปรับขึ้นภาษี" เพื่อหนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ยอมรับจำเป็นต้องจัดเก็บภาษีเพิ่มเติมบางรายการ เพื่อเพิ่มสัดส่วนงบประมาณการลงทุนเพิ่มขึ้น

                - รมช.คลังคาดจีดีพีปีนี้โต 3.5-4% หนุนภาคอสังหาฯ โตกว่า 5% ยันเศรษฐกิจไทยยังขยายตัวได้ดี แต่ต้องระวังเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน "สมหมายลั่น" เตรียมหามาตรการเพิ่มเติม ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ชง ครม.ภายใน ก.พ.

                - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังนายหลุยส์ อี บริวเออร์ ผู้แทนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เข้าหารือ ว่า ได้ให้ข้อมูลกับไอเอ็มเอฟว่ารัฐบาลมีแผนเร่งการลงทุนและการใช้จ่ายของประชาชน รวมถึงมีมาตรการสนับสนุนการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ภาษีมรดก ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งผู้แทนไอเอ็มเอฟเห็นด้วยและสนับสนุนการปรับโครงสร้างภาษี และยังได้สอบถามถึงการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) แต่ได้ให้ความเห็นไปว่ายังต้องใช้เวลาพิจารณา เพราะขณะนี้ประเทศยังไม่มีรายได้เพียงพอที่จะขึ้นภาษี

                - นายกุลิศ สมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ไทยจะมีการลงทุนด้านโครงสร้าง พื้นฐานของประเทศอีก 1.9 ล้านล้านบาท ในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง ซึ่งคลังตั้งเป้าว่าจะใช้วิธีการร่วมลงทุนรัฐกับเอกชน (พีพีพี) ถึง 20% ของวงเงินลงทุนทั้งหมด หรือประมาณ 3.8 แสนล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

                - SCC(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 520 บาท กำไรสุทธิใน 4Q14 +13% Q-Q, +11% Y-Y ดีกว่าที่คาด 15% จากธุรกิจปิโตรเคมีที่มียอดขายเพิ่มมากกว่าคาด ทำให้กำไรสุทธิทั้งปี 2014 -8% Y-Y โดยยังคงคาดกำไรสุทธิปี 2015 ฟื้น +22% เป็น 4.12 หมื่นล้านบาท จากการขยายกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ในกัมพูชาและอินโดนีเซีย และฟื้นตัวตามการลงทุนในประเทศ รวมถึงธุรกิจปิโตรเคมีที่จะฟื้นจากปีก่อน ทั้งนี้ SCC จะจ่ายปันผล 7 บาท/หุ้น (yield 1.5%) XD 31 มี.ค. จ่ายเงิน 23 เม.ย. 2015

                - DCC(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 6.80 บาท รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/57 ที่ 271 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% YoY และทรงตัว QoQ ต่ำกว่าคาด โดยจะทำการพิจารณาประมาณการอีกครั้งหลังกำไรปี 2557 น่าผิดหวัง ซึ่งโดยหลักเป็นผลจากยอดขายที่อ่อนตัว แม้กำไรสุทธิจะต่ำกว่าคาด แต่กำไรของบริษัทนั้นเติบโต YoY เป็นครั้งแรกตั้งแต่ไตรมาส 3/56 ซึ่งบ่งชี้ถึงสัญญาณฟื้นตัว

                - AAV(โกลเบล็ก)เป้า Consensus สูงสุดที่ 7 บาท คาดกำไรปี 2558 ฟื้นตัวแข็งแกร่งเนื่องจากได้ประโยชน์สูงสุดในกลุ่มสายการบินจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงแรง โดยทำ Hedging ไว้ล่วงหน้าเพียง 15% (ต่ำสุดในอุตฯ) และสัญญา Hedging จะหมดใน ก.พ.2558  ส่งผลให้ต้นทุนลดลงและคาดว่ากำไรจะเติบโตขึ้น อีกทั้งเข้าสู่ช่วง High season การท่องเที่ยว และได้อานิสงส์จากโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล ด้าน consensus คาด 4Q57 พลิกมีกำไรราว 350 ล้านบาท และทั้งปี 57 มีกำไรที่ 100 ล้านบาท

                - ADVANC(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม" เป้า 320 บาท คาดกำไรปกติ 4Q57 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 9,877 ล้านบาท เติบโต +9% yoy และ +12% qoq เนื่องจากรายได้ Non-Voice เติบโตถึง +40% yoy จากจำนวนผู้ใช้บริการ 3G ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2558 เติบโต +17.4% yoy เป็น 43,183 ล้านบาท และการประมูล 4G ในปี 2558 จะเป็น Catalyst ให้กับราคาหุ้น และ ADVANC ได้ประโยชน์โดยตรงเนื่องจากคลื่น 900 MHz จะหมดอายุสัมปทานในปี 2558  ดังนั้น หากการประมูล 4G เกิดขึ้นในปีนี้จะส่งผลให้ตลาดเลิกกังวลต่อการบริหารจัดการคลื่นความถี่ของบริษัท อีกทั้งผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี คาดการณ์เงินปันผล 2H57 หุ้นละ 6.09 บาท คิดเป็น Dividend Yield 2.4% และปี 2558 หุ้นละ 14.23 บาท คิดเป็น Dividend Yield 5.6%

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ หลังราคาน้ำมันร่วง วิตกเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ย

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบร่วงลงต่ำกว่าระดับ 45 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะเดียวกันธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากช่วงกลางปี 2558

    ดัชนี MSCI Asia Pacific ร่วงลง 0.5% เมื่อเวลา 10.12 น.ตามเวลาโตเกียว

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,666.91 จุด ลดลง 128.82 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,645.20 จุด ลดลง 216.61 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,479.36 จุด ลดลง 31.56 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,950.83 จุด ลดลง 10.75 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,402.37 จุด ลดลง 16.78 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,791.59 จุด ลดลง 4.29 จุด

   ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วงลง 1.78 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.45 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด

   นอกจากนี้ ตลาดหุ้นเอเชียยังได้รับแรงกดดันหลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยในการประชุมครั้งล่าสุดว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% อย่างน้อยจนถึงกลางปีนี้ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดพร้อมที่จะเปิดกว้างในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 14.33 จุด รับยอดขายอสังหาฯแข็งแกร่ง

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากสำนักงานรายได้และศุลกากรของอังกฤษ (HMRC) เปิดเผยว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี

    ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 14.33 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 6,825.94 จุด

    สำนักงาน HMRC รายงานเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ยอดขายของอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศเพิ่มขึ้น 14% ในปีที่แล้ว สู่ระดับ 1,226,460 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2007 โดยยอดขายเพิ่มขึ้นในทุกภูมิภาค

    หุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัทแอปเปิล พุ่งขึ้น 1.8% หลังจากแอปเปิ้ลเปิดเผยยอดขายโทรศัพท์ไอโฟนที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อย ขณะตลาดยังวิตกสถานการณ์กรีซ

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยลบในระหว่างวันเนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นกรีซ หลังจากพรรคฝ่ายค้านซึ่งต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 369.08 จุด

     ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,710.97 จุด เพิ่มขึ้น 82.39 จุด หรือ +0.78% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,610.94 จุด ลดลง 13.27 จุด หรือ -0.29% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,825.94 จุด เพิ่มขึ้น 14.33 จุด หรือ +0.21%

    ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงนอร์เดีย แบงก์ และอิเล็กโทรลักซ์ ขณะที่บริษัทแองโกล อเมริกา เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน ซึ่งช่วยหนุนราคาหุ้นดังกล่าวพุ่งขึ้น 2.3%

    อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นกรีซ หลังจากพรรคไซรีซาซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านและต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดด้วยนั้น ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่าสหภาพยุโรปอาจจะยกเลิกเงินช่วยเหลือต่อกรีซ ซึ่งจะทำให้กรีซประสบกับภาวะผิดนัดชำระหนี้ รวมทั้งอาจทำให้กรีซออกจากยูโรโซน

    มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ โดยระบุว่าความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้น หลังการเลือกตั้งในกรีซ ซึ่งพรรคไซรีซาที่มีจุดยืนคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัด ประสบชัยชนะนั้น ถือเป็นปัจจัยลบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของประเทศ

    ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น ยูโรสแตทเปิดเผยว่า อัตราการลงทุนในภาคธุรกิจในยูโรโซนแตะระดับ 21.7% ในไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว แทบไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ซึ่งอยู่ที่ 21.6%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดร่วง 195.84 จุด วิตกเฟดจ่อขึ้นดบ.ปีนี้

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากช่วงกลางปี 2558 นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,191.37 จุด ร่วงลง 195.84 จุด หรือ -1.13% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,637.99 จุด ลดลง 43.51 จุด หรือ -0.93% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,002.16 จุด ลดลง 27.39 จุด หรือ -1.35%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ลงมติในการประชุมครั้งล่าสุด ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ 10-0 ให้คงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% อย่างน้อยจนถึงกลางปีนี้

    คริส โลว์ นักวิเคราะห์จากเอฟทีเอ็น ไฟแนนเชียลกล่าวว่า ถ้อยแถลงของเฟดบ่งชี้ว่า เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากช่วงกลางปีนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากการที่เฟดประเมินภาวะเศรษฐกิจสหรัฐว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวในอัตราที่แข็งแกร่ง ซึ่งถือเป็นการประเมินที่ดีขึ้นกว่าเดิมที่เฟดใช้คำว่า "ขยายตัวในอัตราปานกลาง" ในปีที่แล้ว ขณะที่การจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างมาก และอัตราว่างงานได้ลดต่ำลง ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคงปรับตัวต่ำกว่าเป้าหมายในระยะยาวที่เฟดกำหนดไว้

   นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กยังได้ฉุดราคาหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงรุนแรงถึง 3.87% โดยหุ้นเชฟรอน และหุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลงอย่างหนัก

   อย่างไรก็ตาม หุ้นโบอิ้งพุ่งขึ้น 5.40% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการรายไตรมาสที่แข็งแกร่งเกินคาดถึง 2.54 หมื่นล้านดอลลาร์

   ส่วนหุ้นแอปเปิล พุ่งขึ้น 5.65% หลังจากแอปเปิลเปิดเผยผลกำไรรายไตรมาสอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือ 3.06 ดอลลาร์ต่อหุ้น ขณะที่ยอดขายไอโฟนพุ่ง 46% แตะ 74.5 ล้านเครื่อง ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

   นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนธ.ค., ตัวเลขประมาณการครั้งแรกจีดีพีช่วงไตรมาส 4/2557, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนม.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ม.ค.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,191.37 จุด                         ลดลง 195.84 จุด     -1.13%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,637.99 จุด                     ลดลง 43.51 จุด      -0.93%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,002.16 จุด                       ลดลง 27.39 จุด      -1.35%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,825.94 จุด                   เพิ่มขึ้น 14.33 จุด     +0.21%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,710.97 จุด                          เพิ่มขึ้น 82.39 จุด     +0.78%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,610.94 จุด                        ลดลง 13.27 จุด      -0.29%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,516.60 จุด     เพิ่มขึ้น 5.10 จุด      +0.09%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,552.80 จุด           เพิ่มขึ้น 5.60 จุด      +0.10%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,510.92 จุด                           ลดลง 10.67 จุด      -0.11%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,795.73 จุด                     เพิ่มขึ้น 27.43 จุด     +0.15%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,961.58 จุด                        เพิ่มขึ้น 9.18 จุด      +0.47%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,305.74 จุด                     ลดลง 47.22 จุด      -1.41%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,661.18 จุด             เพิ่มขึ้น 30.61 จุด     +0.40%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,861.81 จุด                              เพิ่มขึ้น 54.53 จุด     +0.22%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,268.85 จุด     ลดลง 8.30 จุด       -0.16%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,419.15 จุด                      เพิ่มขึ้น 6.95 จุด      +0.20%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,795.88 จุด                      ลดลง 7.29 จุด       -0.40%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,559.18 จุด                        ลดลง 11.86 จุด      -0.04%

        ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากช่วงกลางปี 2558 นอกจากนี้ การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบยังเป็นอีกปัจจัยที่ฉุดตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงด้วย

       ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,191.37 จุด ร่วงลง 195.84 จุด หรือ -1.13% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,637.99 จุด ลดลง 43.51 จุด หรือ -0.93% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,002.16 จุด ลดลง 27.39 จุด หรือ -1.35%

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับปัจจัยลบในระหว่างวันเนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นกรีซ หลังจากพรรคฝ่ายค้านซึ่งต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ขยับขึ้น 0.1% ปิดที่ 369.08 จุด

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,710.97 จุด เพิ่มขึ้น 82.39 จุด หรือ +0.78% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,610.94 จุด ลดลง 13.27 จุด หรือ -0.29% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,825.94 จุด เพิ่มขึ้น 14.33 จุด หรือ +0.21%

         ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากสำนักงานรายได้และศุลกากรของอังกฤษ (HMRC) เปิดเผยว่า ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ทั่วประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี

          ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 14.33 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 6,825.94 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันดิบล้นตลาด

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.78 ดอลลาร์ ปิดที่ 44.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.47 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้กดดันให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำ

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.45% ปิดที่ระดับ 1,285.90 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 0.4 เซนต์ ปิดที่ 18.088 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 5.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,258.50 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (28 ม.ค.) ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศว่าจะยังคง "อดทนรอได้" ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเน้นย้ำว่าเศรษฐกิจของสหรัฐมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1309 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1367 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5156 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5201 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.69 เยน เทียบกับระดับ 117.80 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9060 ฟรังก์ จาก 0.8993 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7952 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7938 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 666.00 จุด ลดลง 22.00 จุด, -3.20%

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!