- Details
- Category: หุ้นเด่นวันนี้
- Published: Friday, 09 January 2015 11:31
- Hits: 3263
ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นต่อตามภูมิภาค ตอบรับปัจจัยตปท.
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเช้าวันนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ ชี้ว่า เฟดจะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในขณะเดียวกันประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ส่งสัญญาณพร้อมเพิ่มมาตรการอัดฉีด สภาพคล่องทางการเงิน รวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลในการประชุมวันที่ 22 ม.ค. นี้
แต่อย่างไรก็ตามต้องมีความระมัดระวังในการซื้อขายหุ้นวันนี้ เนื่องจากดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงใน
ช่วง 2 วันที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบันตลาดหุ้นไทยมี P/E ปรับตัวขึ้นไปสู่ระดับ 17 เท่าอีกครั้ง แนะนำให้นักลงทุนระยะสั้นขายทำกำไร ที่แนวต้าน 1,530
พร้อมให้แนวต้าน 1,530 จุด แนวรับ 1,510 จุด
ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :
- ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(8 ม.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,907.87 จุด พุ่งขึ้น 323.35 จุด(+1.84%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,736.19 จุด เพิ่มขึ้น 85.72 จุด(+1.84%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,062.14 จุด เพิ่มขึ้น 36.24 จุด(+1.79%)
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 151.64 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ ลดลง 16.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 214.17 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 15.15 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 23.31 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.55 จุด
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(8 ม.ค.58)1,521.62 จุด เพิ่มขึ้น 20.87 จุด(+1.39%)
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,247.89 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 ม.ค.58
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(8 ม.ค.58) ปิดที่ 48.79 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 14 เซนต์
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(8 ม.ค.58)ที่ 6.40 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 32.84/86 แข็งค่าสวนทางภูมิภาคจากทุนไหลเข้า
- "ดีเอสไอ" เร่งสอบคดีปั่นหุ้น "โซลูชั่น คอนเนอร์" เรียก"ก.ล.ต." เข้าให้ปากคำ ยันดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน ขณะ"กมธ. ยกร่างฯ" เล็งห้ามซื้อหุ้นครอบงำสื่อ หวังสกัดอิทธิพลต่อการแสดงความเห็น และปิดกั้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสาร เกรงกระทบต่อสิทธิการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน
- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ไม่กังวลกับระดับเงินเฟ้อที่ต่ำในช่วงนี้ เพราะแม้จะลดลงจนแตะหรือต่ำกว่ากรอบเป้าหมายเงินเฟ้อปีนี้ที่ 2.5% โดยบวก/ลบ 1.5% บ้าง แต่ก็เป็นเพราะปัจจัยราคาน้ำมันโลกที่ลดลงแรง ไม่ใช่เพราะความต้องการของผู้บริโภคลดลง จึงไม่ถึงขั้นต้องเปลี่ยนทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินหรือดอกเบี้ยเพื่อดูแลเงินเฟ้อ แต่อย่างใด
- แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 ตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค.2557 การเบิกจ่ายงบประมาณยังทำได้ต่ำ โดยเบิกจ่ายได้ 7.66 แสนล้านบาทหรือ 29.76% น้อยกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่เบิกได้ 30.13%
- "นพพร เทพสิทธา"ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย เผยขณะนี้ ผู้ส่งออกกำลังติดตามสถานการณ์และผลกระทบจากการปรับลดค่าเงินด่องลงของเวียดนามอย่างใกล้ชิด เพราะมีนัยสำคัญที่มีผลทางการค้าขายระหว่างประเทศ
- นายพรชัย รุจิประภา รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า กระทรวงจะสนับสนุนให้มีการประมูลคลื่นความถี่ 1800 และ 900 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) เพื่อพัฒนาระบบ มือถือสู่ 4จี ภายในปีนี้ โดยอำนาจเต็มในการกำหนดหลักเกณฑ์และการจัดการประมูล ให้ใบอนุญาต และกำกับดูแล ยังเป็นของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ตามเดิม แต่ในส่วนของคลื่นย่านความถี่ใดที่จะนำไปใช้ในการจัดประมูล กสทช.จะต้องมาขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก่อน
- "ประสาร ไตรรัตน์วรกุล" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ ธปท.กำลังพิจารณาว่าจะอนุญาตให้มีการซื้อขายทองคำและหุ้นโดยใช้เงินตราต่างประเทศได้หรือไม่ ตามที่ก่อนหน้านี้มีผู้สนใจยื่นขอเข้ามา ซึ่งผู้ที่สนใจจะใช้เงินตราต่างประเทศซื้อขายลงทุน จะมีทั้งผู้ค้าทองคำที่สนใจซื้อลงทุนในทองคำ และนักลงทุนที่สนใจลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ ธปท.ต้องนำไปดูให้รอบคอบว่า หากเปิดให้ใช้เงินตราต่างประเทศในการทำธุรกรรมซื้อขายเหล่านี้ได้ จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินนโยบายการเงิน หรืออัตราแลกเปลี่ยนอย่างไร ก่อนจะตัดสินใจว่าจะอนุญาตหรือไม่
*หุ้นเด่นวันนี้
- CYBER-W1 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ (CYBER)เทรดวันนี้วันแรกมีจำนวน 279,974,316 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 3.00 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 3 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ออก 23 ธ.ค.57)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 22 ธ.ค. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 22 ธ.ค. 2560
- AKR(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อเก็งกำไร"เป้าเทคนิค 3.5 บาท คาดกำไร 4Q57 และปี 58 เติบโตก้าวกระโดด ปัจจุบันมีมูลค่างานในมือ 500 ล้านบาท และกำลังรออนุมัติเซ็นสัญญากับกฟน.อีก 200 กว่าล้านบาท บริษัทเตรียมประมูลงานหม้อแปลงไฟฟ้าของการไฟฟ้า 2 แห่งในปี 58 อีก 4-5 พันล้านบาท คาดว่าจะได้งาน 450-600 ล้านบาท (10-15% ของงานที่ประมูลไป) รายได้ปี 58 โตก้าวกระโดดเท่าตัวเป็น 4.2 พันล้านบาท(เป็นรายได้จากการขายหม้อแปลงไฟฟ้า 2.2 พันล้านบาท และรายได้จากแผงโซลาร์อีก 2 พันล้านบาท ซึ่งในปี 57 ไม่มีรายได้ส่วนนี้เลย)สำหรับ 9M57 มีรายได้ 1.3 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 43 ล้านบาท คาด 4Q57 มีผลประกอบการโดดเด่นจากรายได้ราว 700 ล้านบาท สำหรับปี 58 คาดกำไรสุทธิโตก้าวกระโดด YoY จากรายได้ที่เพิ่มเป็นเท่าตัว
- PTT(บัวหลวง)MS แนะนำ Overweight จากข่าวลอยราคาก๊าซ คาดบวกต่อกำไร PTT ราว 10% และ เชื่อว่าราคาหุ้น PTT จะ Outperform กลุ่ม โดยพบว่าราคาหุ้นมีความสัมพันธ์กับราคาน้ำมันดิบโลกในเดือนที่ผ่านมา ลดลงเหลือ แค่ 6% จากก่อนหน้าที่ 36% (สะท้อนราคาน้ำมันลงแต่หุ้นไม่ลง)
- AOT(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 295 บาท รายงาน Air traffic เดือน ต.ค.-ธ.ค. ดีตามคาด และหนุนให้กำไร 1Q15 (งวด ต.ค.-ธ.ค.14) จะเติบโตก้าวกระโดด โดย Passenger numbers +13% YoY และ +21% QoQ เป็น 25.9 ล้านคน Aaircraft movement +9% YoY และ +18% QoQ เป็น 170,953 flights.
- SPALI(โกลเบล็ก)"ซื้อ"ราคาพื้นฐาน 32.20 บาท คาดกำไร Q4/57 ทุบสถิติ จากการโอนและบันทึกรายได้กว่า 7 พันลบ. และ gross margin สู่งสุดในกลุ่มที่ราว 40% หนุนให้กำไรปี 2557 อยู่ที่ 4.2 พันลบ. +47% ส่วนปี 2558 มี Backlog รองรับกว่า 1.8 หมื่นลบ. คาดกำไรปี 58 ที่ 4.7 พันลบ. +11% ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง Gross margin ราว 40% สูงสุดในกลุ่มอสังหาฯ
ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับราคาน้ำมันฟื้นตัว
ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากที่ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้น
ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.5% เมื่อเวลา 9.58 น.ตามเวลาโตเกียว
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,318.74 จุด เพิ่มขึ้น 151.64 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,276.97 จุด ลดลง 16.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,049.70 จุด เพิ่มขึ้น 214.17 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,247.40 จุด เพิ่มขึ้น 9.37 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,919.80 จุด เพิ่มขึ้น 15.15 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,368.42 จุด เพิ่มขึ้น 23.31 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,734.61 จุด เพิ่มขึ้น 6.55 จุด
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้น หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 294,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ ADP รายงานไว้ก่อนหน้านี้ว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 241,000 รายในเดือนธ.ค.2014 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 226,000 ราย
ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดพุ่ง 150.13 จุด นำโดยหุ้นเทสโก้
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) นำโดยการพุ่งขึ้นของหุ้นเทสโก้ หลังจากบริษัทประกาศมาตรการปรับลดรายจ่าย ขณะที่ราคาน้ำมันที่มีเสถียรภาพและความหวังเกี่ยวกับการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ก็เป็นปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาด
ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 150.13 จุด หรือ 2.34% ปิดที่ 6,569.96 จุด
หุ้นเทสโก้ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 15% หลังจากยอดขายช่วงคริสต์มาสออกมาสูงเกินคาด ขณะที่บริษัทประกาศแผนที่จะปิดสาขาหลายแห่ง รวมทั้งมาตรการประหยัดค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอนยังได้รังแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าอีซีบีจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อหนุนเศรษฐกิจของภูมิภาค โดยมีข่าวว่านายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี ได้ส่งสัญญาณว่าอีซีบีพร้อมจะหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมครั้งหน้าที่มีกำหนดจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้
ส่วนราคาน้ำมันที่มีเสถียรภาพมากขึ้นก็ช่วยหนุนบรรยากาศการซื้อขายในตลาด โดยเมื่อคืนนี้ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกขึ้น ขานรับข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 294,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค. ซึ่งส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง
ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดพุ่ง รับคาดการณ์อีซีบีใช้ QE,หุ้นเทสโก้พุ่ง
ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในช่วงต้นปีนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งของหุ้นเทสโก้
ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.8% ปิดที่ 342.35 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,260.19 จุด พุ่งขึ้น 147.46 จุด หรือ +3.59% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,837.61 จุด พุ่งขึ้น 319.43 จุด หรือ +3.36% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,569.96 จุด เพิ่มขึ้น 150.13 จุด หรือ +2.34%
ตลาดหุ้นยุโรปทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากตลาดยังคงขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีจะใช้มาตรการ QE ครั้งใหม่ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตร หลังจากสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ -0.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 0.3% ในเดือนพ.ย. โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ CPI ยูโรโซนอยู่ในระดับติดลบ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นถึง 15% ของหุ้นเทสโก้ หลังจากมีรายงานว่าเทสโก้วางแผนปิดสำนักงานใหญ่ที่เมืองเชสฮันท์ ประเทศอังกฤษ และร้านสาขาที่ไม่สามารถทำกำไรได้ 43 แห่ง พร้อมทั้งขายสินทรัพย์ต่างๆ อาทิ ธุรกิจวิเคราะห์ข้อมูล
เทสโก้เปิดเผยเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ยอดขายที่ไม่นับรวมน้ำมันเบนซิน ปรับตัวลดลง 2.9% ในช่วง 19 สัปดาห์จนถึงวันที่ 3 ม.ค. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวออกมาดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และดีกว่าในช่วงไตรมาส 2 ที่ปรับตัวลดลงถึง 5.4%
หุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ปรับตัวลง 3.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรายไตรมาสปรับตัวลดลง 5.8% ซึ่งย่ำแย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 323.35 จุด ขานรับข้อมูลแรงงาน,เฟดไม่รีบขึ้นดบ.
ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ม.ค.) ขานรับข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่า จำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ปรับตัวลดลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บ่งชี้ว่า เฟดจะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,907.87 จุด พุ่งขึ้น 323.35 จุด หรือ +1.84% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,736.19 จุด เพิ่มขึ้น 85.72 จุด หรือ +1.84% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,062.14 จุด เพิ่มขึ้น 36.24 จุด หรือ +1.79%
ข้อมูลแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่หนุนตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 4,000 ราย สู่ระดับ 294,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ม.ค.
ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานสหรัฐระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 241,000 รายในเดือนธ.ค.2557 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 226,000 ราย
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่า เฟดจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาจากรายงานการประชุมของเฟดเมื่อวันที่ 16-17 ธ.ค. ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดได้แสดงความวิตกเกี่ยวกับความเสี่ยงช่วงขาลงที่อาจจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่เศรษฐกิจโลกอาจเผชิญความเสี่ยง หากการลดลงของราคาน้ำมันได้ส่งผลกระทบเชิงลบอย่างรุนแรงต่อตลาดการเงินทั่วโลก หรือหากไม่มีการรับมือด้านนโยบายอย่างเพียงพอ
ตลาดได้รับแรงหนุนมากขึ้นหลังจากนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟดสาขาชิคาโก กล่าวว่าแนวโน้มเกี่ยวกับเงินเฟ้อของสหรัฐเป็นเรื่องที่น่าวิตกมากขึ้น และสหรัฐอาจไม่สามารถบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อได้จนกว่าจะถึงปี 2561 นอกจากนี้ นายอีแวนส์ยังแสดงความไม่เห็นด้วยกับการเร่งรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่าไม่ควรมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปจนกว่าปี 2559
หุ้นกลุ่มการขนส่งพุ่งขึ้น 2.2% โดยหุ้นยูเนียน แปซิฟิก คอร์ป หุ้นเซาท์เวสต์ แอร์ไลน์ส และหุ้นเฟดเอ็กซ์ คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.3%
หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 1.7% หุ้นเชฟรอน คอร์ป ทะยานขึ้น 2.3% หุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี พุ่งขึ้น 5.7%
ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีทะยานขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นไมโครซอฟท์ และหุ้นอินเทล คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้น 1.9%
นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐประจำเดือนธ.ค. ซึ่งกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยในเวลา 20.30 น. ตามเวลาไทยในวันนี้ และจากนั้นในเวลา 22.00 น. สหรัฐจะเปิดเผยสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนพ.ย.
อินโฟเควสท์