WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งขึ้นตามภูมิภาคหลัง GDP สหรัฐฯออกมาดีกว่าคาด

     นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวขึ้นได้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ภายหลังจากที่ตัวเลข GDP ของสหรัฐฯงวดไตรมาส 3/57 รอบ 2 ออกมา 3.9% ดีกว่าที่ตลาดคาด จากรอบแรกที่ออกมา 3.5% ทำให้เป็นผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง

     ส่วนปัจจัยในประเทศก็มีแรงหนุนจากภาพระยะกลางเศรษฐกิจไทยน่าจะฟื้นตัวได้ หลังจากที่จะมีการเซ็นสัญญา MOU รถไฟรางคู่กับทางจีนได้ในช่วงเดือนธ.ค.นี้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการเก็งการประชุมกนง.ด้วยหลังจากที่เศรษฐกิจไทยมีการชะลอตัว และยังมีสัญญาณจากทางผู้ว่าแบงก์ชาติในช่วงที่ผ่านมาด้วย ซึ่งภาพรวมมองเป็นบวก รวมทั้งยังมีแรงหนุนจากเม็ดเงินของกองทุน LTF,RMF ไหลเข้าตลาดฯด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,589-1,584 จุด ส่วนแนวต้าน 1,602-1,610 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(25 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,814.94 จุด ลดลง 2.96 จุด(-0.02%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,758.25 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด(+0.07%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,067.03 จุด ลดลง 2.38 จุด(-0.12%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 59.65 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 10.72 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 5.05 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 8.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.62 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 2.12 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.96 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(25 พ.ย.)1,596.80 จุด เพิ่มขึ้น 6.66 จุด(+0.42%)

      - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,800.73 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 พ.ย.57

      - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(25 พ.ย.)ที่ 74.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.69 ดอลลาร์

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(25 พ.ย.)ที่ 7.94 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 32.78/80 แข็งค่าตามสกุลภูมิภาค

     - รัฐบาลไฟเขียวดึงต่างชาติตั้งสนง.ใหญ่ในไทย ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี-แก้ กฎระเบียบการขออนุญาต ด้าน "โจนส์ แลง" ชี้หนุนอสังหาฯในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะอาคารสำนักงาน ขณะส.อ.ท.มั่นใจสิทธิประโยชน์จูงใจต่างชาติมากขึ้น

      - "แบงก์ชาติ" เล็งถก "รมว.คลัง-ปรีดิยาธร" หาแนวทางรับมือผลกระทบ กฎหมายลดภาระผู้ค้ำประกัน เผยอยู่ระหว่างรอธนาคารพาณิชย์รวบรวมผลกระทบ ระบุ ช่วงพิจารณากฎหมายใน สนช. ทาง"แบงก์ชาติ"ไม่ได้มีส่วนร่วมให้ความเห็น ขณะที่สมาคมแบงก์นัดถกประเด็นปัญหาวันนี้ ด้านไทยพาณิชย์ มองธุรกิจเอสเอ็มอีโดนผลกระทบโดยตรง

      - ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยบทวิเคราะห์ "การแข่งขันสินค้าไทยและอาเซียนในตลาดจีนอีก 5 ปีข้างหน้า" ว่า หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี) ปลายปี 2558 ไทยจะโดนประเทศกลุ่มซีแอลเอ็มวีแย่งตลาดส่งผลให้มูลค่าส่งออกไปตลาดจีนหายไป 1.17 แสนล้านบาท

     - คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างการบันทึกความร่วมมือ(เอ็มโอยู)ในการพัฒนารถไฟประเทศไทย-จีน พ.ศ.2558-2565 เป็นการก่อสร้างรถไฟขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมาแก่งคอย-ท่าเรือมาบตาพุด ระยะทาง 731 กิโลเมตร และเส้นทางกรุงเทพฯ-แก่งคอยระยะทาง 133 กิโลเมตร โดยเป็นความร่วมมือในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)

     - บอร์ดบีโอไอไฟเขียว"ยุทธศาสตร์การส่งเสริม การลงทุนในระยะ 7 ปี" (2558-2564) เริ่มใช้กับโครงการที่ขอรับ ส่งเสริมตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 เป็นต้นไป พร้อมไฟเขียวส่งเสริมฯ 23 โครงการลงทุนเกือบ 8 หมื่นล้านบาทอีโคคาร์เฟส 2 จำนวน 4 ราย

     - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่ 21 พ.ย.57 มีการเบิกจ่ายงบประมาณในภาพรวม 2.57 ล้านล้านบาท แต่เบิกจ่ายได้จริงเพียง 5.02 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 1.11 แสนล้านบาทหรือ 18.23%

*หุ้นเด่นวันนี้

     - MTLS (บมจ.เมืองไทย ลิสซิ่ง)เทรดวันนี้วันแรก บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส ประเมินราคาพื้นฐานไว้ที่ 8.82 บาท สูงกว่าราคาจอง IPO ที่ 5.50 บาทอยู่ 60% แต่เนื่องจากนักลงทุนให้ส่วนเพิ่ม(premium) จากธุรกิจประเภทนี้มาก จนราคา SAWAD ตอนนี้สูงกว่าจองที่ 6.90 บาท เป็น 3 เท่าตัวเป็น 21.30 บาท จึงมีโอกาสเช่นกันที่ราคาหุ้น MTLS จะไปไกลกว่าราคาพื้นฐานจากส่วนเพิ่มที่นักลงทุนให้ ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ในฐานะผู้นำตลาดเบอร์หนึ่งสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์ที่เชี่ยวชาญสินเชื่อทะเบียนรถ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ ฐานลูกค้ากว่า 7 แสนบัญชี บริหารจัดการความเสี่ยงมีประสิทธิภาพ NPL อยู่ในระดับต่ำเทียบกับอุตสาหกรรม

     - IRCP-W2(ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.อินเตอร์เนชั่นแนล รีเสริช คอร์ปอเรชั่น(IRCP)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 56,791,566 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 6.30 บาทต่อหุ้นอายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี 6 เดือนจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ(วันที่ออกคือ 17 พฤศจิกายน 2557)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 15 พ.ค. 2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 16 พ.ค. 2560

    - PS (ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 42 บาท เยี่ยมชมโรงงานพรีคาสต์โรงที่ 6 ที่นวนคร ใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรจากเยอรมันเป็นระบบอัตโนมัติควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์และใช้ Robot ช่วยประหยัดแรงงานคนได้มาก ลดระยะเวลาก่อสร้าง ทำให้ส่งมอบและโอนบ้านเร็วขึ้น ได้รับเงินสดจากการขายบ้านเร็วขึ้น ใช้เวลาก่อสร้างถึงโอนเฉลี่ย 90 วัน ลดต้นทุนการก่อสร้างและแรงงาน คาดกำไรปี 57-58 โต 8% และ 14% PS เป็นหนึ่งใน Top pick ในกลุ่มฯ

    - ERW(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 6 บาท คาดปี 2015 จะขาย รร.ในเครือ 2 แห่ง เข้ากอง REITs คาดมูลค่าประมาณ 1.5 พันล้านบาท สำหรับแนวโน้มกำไร 4Q14 คาดพลิกมีกำไร ต่อเนื่องไปถึงปีหน้า

    - KTB(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 27 บาท ประเด็นการลงทุน 1) สินเชื่อปี 2015 คาดโตได้ 7% จากการลงทุนภาครัฐฯ โดย KTB มีเงินกองทุนสูงถึง 15.4% สามารถปล่อยกู้ได้อีกมากโดยไม่ต้องเพิ่มทุน 2) PBV ปี 57-58 ปัจจุบัน 1.48-1.36 เท่า ถูกกว่า Peak รอบก่อนที่ 1.7 เท่า 3) คาดผลตอบแทนเงินปันผลปี 57-58 ราว 4.2%

ตลาดหุ้นเอเชียขยับขึ้นเช้านี้ หลังหุ้นวัสดุและเฮลธ์แคร์บวก

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นกลุ่มวัสดุและเฮลธ์แคร์

     ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ขยับขึ้น 0.1% แตะ 140.90 จุด เมื่อเวลา 9.03 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,347.97 จุด ลดลง 59.65 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,833.19 จุด ลดลง 10.72 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,125.08 จุด เพิ่มขึ้น 8.84 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,984.83 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,342.87 จุด ลดลง 2.12 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,840.52 จุด เพิ่มขึ้น 1.96 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 1.35 จุด แม้หุ้นเหมืองร่วง

   ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) ขานรับข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ขณะที่การทะยานขึ้นของหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ ได้ช่วยสกัดการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมือง

    ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 1.35 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 6,731.14 จุด

   ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกขึ้น หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพีของสหรัฐขยายตัว 3.9% ในช่วงไตรมาส 3 ปี 2557 ซึ่งเป็นการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 3.5% และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการบริโภคส่วนบุคคลที่แข็งแกร่ง

    การเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 2 ของจีดีพีสหรัฐเมื่อคืนนี้ ได้เน้นย้ำถึงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ เมื่อเทียบกับเศรษฐกิจยุโรปที่ชะลอตัว และเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ประสบภาวะถดถอย

    อย่างไรก็ตาม ตลาดขยับขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากหุ้นกลุ่มเหมืองอ่อนแรงลง นำโดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นแองโกล อเมริกัน ขณะที่การปรับตัวขึ้นกว่า 1.8% ของหุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ (RBS) ได้ช่วยชดเชยการร่วงลงดังกล่าวไว้ได้บ้าง

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับ GDP เยอรมนีขยายตัวใน Q3

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) ขานรับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) ที่ระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของเยอรมนียังคงขยายตัวในไตรมาส 3

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 346.28 จุด

     ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,861.21 จุด เพิ่มขึ้น 75.67 จุด หรือ +0.77% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,382.31 จุด เพิ่มขึ้น 13.87 จุด หรือ +0.32% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,731.14 จุด เพิ่มขึ้น 1.35 จุด หรือ +0.02%

    ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีเปิดเผยว่า จีดีพีไตรมาส 3 ขยายตัว 0.1% ในไตรมาส 3 ซึ่งสอดคล้องกับการประเมินเบื้องต้น หลังจากหดตัวลง 0.1% ในไตรมาส 2 และหากเทียบรายปี จีดีพีของเยอรมนีในไตรมาส 3 ขยายตัว 1.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากข้อมูลเบื้องต้น

   ปัจจัยที่ทำให้จีดีพีเยอรมนียังคงขยายตัวในไตรมาส 3 มาจากการบริโภคภาคเอกชนที่ปรับตัวสูงขึ้น  0.7% ในไตรมาส 3 และการบริโภคภาครัฐขยายตัว 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ขณะที่ยอดการค้าสุทธิปรับตัวขึ้น 0.2% และยอดส่งออกเพิ่มขึ้น 1.9%

   หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้น โดยหุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นธนาคารโซซิเอเต เจเนอราล ดีดขึ้น 1.8% และหุ้นดอยช์ แบงก์ ปรับขึ้น 1.9%

    หุ้น ING Groep พุ่งขึ้น 1.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยแผนการปรับลดจำนวนพนักงานลง 1,700 ตำแหน่งในช่วง 3 ปีข้างหน้า

    อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลดลง โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นแองโกล อเมริกัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองรายใหญ่ ร่วงลง 1.7% และ 1.8% ตามลำดับ ขณะที่หุ้นโททาล และหุ้นบีพี ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของยุโรป ร่วงลง 1.6% และ 1.1% ตามลำดับ

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 2.96 จุด หลังข้อมูลศก.สหรัฐซบเซา

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ย.ของสหรัฐปรับตัวลง สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น ขณะที่ราคาบ้านในสหรัฐก็ชะลอตัวลงเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย เพราะตลาดได้รับแรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในไตรมาส 3

   ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,814.94 จุด ลดลง 2.96 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,758.25 จุด เพิ่มขึ้น 3.36 จุด หรือ +0.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,067.03 จุด ลดลง 2.38 จุด หรือ -0.12%

   ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดดีดตัวขึ้น ขานรับรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า จีดีพีของสหรัฐขยายตัว 3.9% ในช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2557 ซึ่งเป็นการปรับทบทวนขึ้นจากตัวเลขประมาณการเบื้องต้นที่ 3.5% และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% โดยมีสาเหตุหลักมาจากการบริโภคส่วนบุคคลที่แข็งแกร่ง

    อย่างไรก็ตาม ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อข้อมูลเศรษฐกิจบางรายการของสหรัฐ รวมถึงดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ติดตามสำรวจราคา เพิ่มขึ้น 4.9% เมื่อเทียบรายปีในเดือนก.ย. เทียบกับที่เพิ่มขึ้น 5.6% ในเดือนส.ค. บ่งชี้ว่าการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยยังคงชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง

    ขณะที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐลดลงแตะ 88.7 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 94.1 ในเดือนต.ค. สวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าน่าจะปรับตัวขึ้นแตะ 96 จากระดับ 94.5 ของเดือนต.ค.ในรายงานเบื้องต้น

   หุ้นแอปเปิล อิงค์ ขยับลง 0.9% อย่างไรก็ตาม มูลค่าทางตลาดของแอปเปิลปรับตัวขึ้นสูงกว่าระดับ 7 แสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกและสูงกว่าบริษัทอื่นๆในสหรัฐ

   หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวลง 1% ขณะที่หุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.2%

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!