WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามภูมิภาคหลัง ECB ส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงิน

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสรีบาวด์ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อยราว 0.2-0.3% มองว่าคงรับผลดีจากประธานธนาคารกลางยุโรป(ECB)ส่งสัญญาณนโยบายผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้น จากการใช้มาตรการ QE ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในกลุ่มยูโรโซน

    แม้ตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาออกมาไม่ค่อยดี และเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็เข้าสู่ภาวะถดถอย แต่ตลาดฯก็ให้ความสำคัญกับถ้อยแถลงของประธาน ECB มากกว่า อย่างไรก็ดีวันนี้ต้องติดตามการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ)ซึ่งจะมีการประชุมในช่วง 2 วันนี้

   ส่วนบ้านเราวันนี้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)จะพิจารณาโครงการรถไฟรางคู่ 3 เส้นทาง แต่ระหว่างทางตลาดฯอาจมีแรงขายทำกำไรออกมา เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนลงหลังจากที่ผลประกอบการงวดไตรมาส 3/57 ออกมาไม่ดี และลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยด้วย

     พร้อมให้แนวรับ 1,565 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575-1,577 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(17 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,647.75 จุด เพิ่มขึ้น 13.01 จุด(+0.07%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,671.00 จุด ลดลง 17.54 จุด(-0.37%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,041.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด(+0.07%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 215.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 71.82 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 31.69 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9.24 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.04 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(17 พ.ย.)1,569.07 จุด ลดลง 6.81 จุด(-0.43%)

    - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 199.99 ล้านบาท เมื่อวันที่ 17 พ.ย.57

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(17 พ.ย.)ที่ 75.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 18 เซนต์

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(17 พ.ย.)ที่ 7.66 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 32.79/80 แนวโน้มยังแข็งค่าหลังมีแรงขายดอลล์

     - สศช.หั่นเป้าจีดีพีปีนี้เหลือ 1% หลัง 9 เดือนโตแค่ 0.2% ชี้มาจากภาคส่งออก คาดปีนี้ โอกาสโตเป็น 0% จากตลาดโลกไม่ฟื้นตัว แนะใช้ค่าเงินหนุนส่งออก คาดปีหน้า จีดีพีขยายตัวได้ 3.5-4.5% ด้านธปท.เตรียมหั่นเป้าจีดีพีอีกรอบ คาดโตต่ำ 1.5% ขณะเอกชนมองปีหน้าสดใส คาดการค้าลงทุนขยายตัวรับเอเอซี

     - กบง.ปรับขึ้นแอลพีจีภาคครัวเรือน-ขนส่ง อีก 50 สตางค์ต่อลิตร หลังราคาในตลาดโลกร่วง ส่งผลให้ราคาใกล้ต้นทุน ยันไม่กระทบ ผู้มีรายได้-ร้านอาหาร-แผงลอย พร้อมเรียกเก็บเงินจากดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันอีก 60 สตางค์ต่อลิตร เผยเตรียมส่งรายได้ภาษีคืนรัฐ

     - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ครั้งที่ 2/2557 ว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษที่วางไว้มี 12 เขต แต่เบื้องต้นจะจัดตั้ง 5 เขต ประกอบด้วยอ.แม่สอด จ.ตาก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว อ.คลองใหญ่ จ.ตราด จ.มุกดาหาร และอ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งต้องใช้งบลงทุนสูงถึง 4-5 หมื่นล้านบาท

     - การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 18 พ.ย.นี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม จะเสนอโครงการความร่วมมือสร้างรถไฟทางคู่ต่อที่ประชุม เพื่อให้กรอบความร่วมมือมีความชัดเจนยิ่งขึ้นก่อนที่จะเดินทางไปลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ภายในเดือน ธ.ค.นี้ ที่ประเทศจีน

     - "ก้องเกียรติ" ห่วงตลาดหุ้นไทยเข้าสู่ภาวะเสี่ยงสูง เหตุมีหุ้นเก็งกำไรจำนวนมากพื้นฐานไม่ดีผลประกอบการแย่ แต่ราคาปรับตัวสูงเกินพื้นฐาน บอร์ดตลาด มั่นใจมาตรการคุมหุ้นร้อนไม่ "เหวี่ยงแห-กระทบบรรยากาศลงทุน" ชี้เพื่อให้นักลงทุนมีเวลาตัดสินใจข้อมูลมากขึ้น เล็งแก้เกณฑ์แคชบาลานซ์ให้สอดรับกับภาวะปัจจุบันที่มีหุ้นขนาดกลาง-เล็กจำนวนมาก ยอมรับตลาดหุ้นฮ่องกง-จีน เชื่อมระบบกัน ดึงความสนใจหุ้นไทยไปมาก สั่งจับตาใกล้ชิด

*หุ้นเด่นวันนี้

     - WHA(เคทีบี)"เก็งกำไร"ถ้าปลด SP ได้ในวันนี้ มองว่า WHA กำลังก้าวสู่การเป็นบริษัทที่เติบโตเร็วและแรงขึ้นในอนาคต โดยล่าสุด บอร์ดของ WHA ได้อนุมัติการเข้าซื้อหุ้น HEMRAJ โดยวิธี VTO สัดส่วน 22.53% อีกทั้งจะซื้อให้ได้มากกว่า 50% ต่อไป ซึ่งคาดว่า WHA จะเกิด synergy จากนิคมอุตสาหกรรม 6 แห่งของ HEMRAJ นอกเหนือจากธุรกิจที่มีอยู่ในขณะนี้ โดยให้ราคาเป้าหมายตาม IAA Consensus เท่ากับ  44.25 บาท

    - PTT(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 400 บาท ลุ้นดีลขาย BCP ภายในปี 57..เตรียมพร้อมลงทุนเวียดนาม อินโดฯ

     - DCON(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 20 บาท ปัจจัยหนุนราคาหุ้นมาจากการแจก warrants (DCON-W2) อัตราส่วน 6:1 ราคาใช้สิทธิ 0.50 บาท และคาดกำไรใน 4Q14 จะได้รับปัจจัยหนุนจากการขายคอนโดโครงการ Dzio คาดจะมีปันผลพิเศษราว 1.38 บาท คิดเป็น Dividend Yield สูงถึง 7.8% แม้ผลประกอบการ 3Q14 ฟื้นตัวช้ากว่าคาด โดยปรับกำไรปี 2014-16 ลง 4% 19% และ 23% ตามลำดับ

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ จากคาดการณ์ญี่ปุ่นเลื่อนการขึ้นภาษี

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ หลังจากทางการญี่ปุ่นระบุว่าจีดีพีไตรมาส 3 ปีนี้ หดตัวลง 1.6% ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัวราว 2% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจทำให้นายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น ต้องเลื่อนการปรับขึ้นภาษีการบริโภคครั้งที่สองออกไป ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม รวมถึงประกาศยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ในเดือนธ.ค.

   ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) เพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 140.29 จุด เมื่อเวลา 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,188.84 จุด เพิ่มขึ้น 215.04 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,474.18 จุด เพิ่มขึ้น 0.17 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,868.90 จุด เพิ่มขึ้น 71.82 จุด

   ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,951.93 จุด เพิ่มขึ้น 8.30 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,916.08 จุด เพิ่มขึ้น 31.69 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,297.91 จุด เพิ่มขึ้น 9.24 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,806.44 จุด ลดลง 0.04 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 17.60 จุด รับความเห็นปธ.อีซีบี

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) ขานรับถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ระบุว่าอีซีบีจะดำเนินการมากขึ้นเพื่อหนุนเศรษฐกิจของภูมิภาค

    ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 6,671.97 จุด

    ตลาดได้รับปัจจัยหนุน หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวว่า อีซีบีจะดำเนินนโยบายกระตุ้นทางการเงินเพื่อหนุนเศรษฐกิจยูโรโซน โดยโครงการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเติมอาจจะครอบคลุมถึงการซื้อพันธบัตรรัฐบาล

  ทั้งนี้ อีซีบีได้เริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) ในเดือนที่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพื่อผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และจะเข้าซื้อหลักทรัพย์ที่มีสินทรัพย์ค้ำประกัน (asset-backed securities: ABS) ในสัปดาห์นี้

   หุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 2.42% นำหุ้นกลุ่มบลูชิพ ขณะที่หุ้นแรนด์โกลด์ รีซอร์เซส และหุ้นเฟรสนิลโล ต่างดีดตัวขึ้นกว่า 1.5% นำหุ้นกลุ่มเหมืองทะยานขึ้น

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก หลังปธ.อีซีบีส่งสัญญาณหนุนเศรษฐกิจ

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าอีซีบีพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่หดตัวลงในไตรมาส 3 ปีนี้

   ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 337.25 จุด

   ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,306.35 จุด เพิ่มขึ้น 53.41 จุด หรือ +0.58% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,226.10 จุด เพิ่มขึ้น 23.64 จุด หรือ +0.56% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,671.97 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ +0.26%

   ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากนายดรากิ ประธานอีซีบีได้แถลงต่อคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำหนดนโยบายว่า โครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลถือเป็นเครื่องมือนโยบายที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวได้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณว่าอีซีบีพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป

   ถ้อยแถลงของนายดรากิสามารถสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ หดตัวลง 1.6% ซึ่งสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัว

   ทั้งนี้ จีดีพีไตรมาส 3 ของญี่ปุ่นเป็นการหดตัวลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เข้าสู่ภาวะถดถอยในทางเทคนิคแล้ว

   หุ้น Merck KGaA พุ่งขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าอาจจะร่วมมือกับไฟเซอร์ อิงค์ เพื่อพัฒนายารักษาโรคเนื้องอก

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศยูโรโซนในวันนี้เ รวมถึงข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษเดือนต.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของอังกฤษเดือนต.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเยอรมนีจาก ZEW เดือนพ.ย.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 13.01 จุด รับอีซีบีส่งสัญญาณกระตุ้นศก.

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนหลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป  อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่หดตัวลงในไตรมาส 3

   ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,647.75 จุด เพิ่มขึ้น 13.01 จุด หรือ +0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,671.00 จุด ลดลง 17.54 จุด หรือ -0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,041.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด หรือ +0.07%

    ในช่วงแรกนั้น ดัชนีดาวโจนส์เปิดตลาดอ่อนแรงลงหลังจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่นในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ หดตัวลง 1.6% ซึ่งสวนทางกับที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจจะมีการขยายตัว

   ข้อมูลจีดีพีล่าสุดในไตรมาส 3 เป็นการหดตัวลงเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นได้เข้าสู่ภาวะถดถอยในทางเทคนิคแล้ว

    นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนต.ค.ลดลง 0.1% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของภาคเหมืองแร่และภาคสาธารณูปโภค

    อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์พลิกกลับมาปิดในแดนบวก หลังจากนายดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวว่า อีซีบีเปิดกว้างสำหรับโครงการซื้อพันธบัตรของรัฐบาล โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซน

   หุ้นเบเกอร์ ฮิวจ์ พุ่งขึ้น 8.9% หลังจากบริษัทประกาศทำข้อตกลงขายกิจการให้กับฮัลลิเบอร์ตัน ซึ่งเป็นบริษัทขุดเจาะน้ำมันรายใหญ่ของสหรัฐ เป็นเงินมูลค่า 3.46 หมื่นล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ร่วงลง 10.62%

   ส่วนหุ้นกลุมอื่นๆที่ปรับตัวขึ้นนั้น รวมถึงหุ้นธุรกิจเพื่อสุขภาพ และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 17 พ.ย.2557

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,647.75 จุด                       เพิ่มขึ้น 13.01 จุด    +0.07%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,671.00 จุด                    ลดลง 17.54 จุด     -0.37%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,041.32 จุด                      เพิ่มขึ้น 1.50 จุด     +0.07%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,671.97 จุด                  เพิ่มขึ้น 17.60 จุด    +0.26%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,306.35 จุด                           เพิ่มขึ้น 53.41 จุด    +0.58%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,226.10 จุด                      เพิ่มขึ้น 23.64 จุด    +0.56%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,396.60 จุด    ลดลง 37.20 จุด     -0.68%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,412.50 จุด          ลดลง 41.80 จุด     -0.77%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,884.39 จุด                          ลดลง 98.49 จุด     -1.10%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,973.80 จุด                   ลดลง 517.03 จุด    -2.96%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,943.63 จุด                       ลดลง 1.51 จุด      -0.08%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,474.01 จุด                   ลดลง 4.81 จุด      -0.19%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,229.72 จุด           เพิ่มขึ้น 12.38 จุด    +0.17%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,797.08 จุด                            ลดลง 290.30 จุด    -1.21%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,053.94 จุด   เพิ่มขึ้น 4.45 จุด     +0.09%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,806.48 จุด                    ลดลง 7.31 จุด      -0.40%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,288.67 จุด                    ลดลง 27.00 จุด     -0.81%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,177.88 จุด                      เพิ่มขึ้น 131.22 จุด   +0.47%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนหลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป  อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่หดตัวลงในไตรมาส 3

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,647.75 จุด เพิ่มขึ้น 13.01 จุด หรือ +0.07% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,671.00 จุด ลดลง 17.54 จุด หรือ -0.37% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,041.32 จุด เพิ่มขึ้น 1.50 จุด หรือ +0.07%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาณว่าอีซีบีพร้อมที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่หดตัวลงในไตรมาส 3 ปีนี้

          ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 337.25 จุด

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,306.35 จุด เพิ่มขึ้น 53.41 จุด หรือ +0.58% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,226.10 จุด เพิ่มขึ้น 23.64 จุด หรือ +0.56% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,671.97 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ +0.26%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) ขานรับถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ระบุว่าอีซีบีจะดำเนินการมากขึ้นเพื่อหนุนเศรษฐกิจของภูมิภาค

          ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 6,671.97 จุด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการหดตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,183.5 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 25.7 เซนต์ ปิดที่ 16.057  ดอลลาร์/ออนซ์

          ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 11.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,201.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 2.65 ดอลลาร์ ปิดที่ 768.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) หลังจากสำนักงานคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของญี่ปุ่น หดตัวลงในไตรมาส 3 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 18 เซนต์ ปิดที่ 75.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 10 เซนต์ ปิดที่ 79.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (17 พ.ย.) จากคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก ขณะที่ธนาคารกลางในยุโรปและญี่ปุ่นต่างดำเนินนโยบายในการกระตุ้นทางการเงินมากขึ้นเพื่อหนุนเศรษฐกิจ ซึ่งตอกย้ำถึงความแตกต่างกันระหว่างการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐและภาวะเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในยูโรโซนและญี่ปุ่น

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2453 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2525 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5642 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5680 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 116.48 เยน เทียบกับระดับ 116.25 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9647 ฟรังค์ จาก 0.9591 ฟรังค์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8710 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8756 ดอลลาร์

           

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,264.00 จุด เพิ่มขึ้น 8.00 จุด, +0.64%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!