WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวด์ตามภูมิภาค-คงไปไม่ไกลยังต้องรอดูปัจจัยในปท.

    นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ยังมีโอกาสที่จะรีบาวด์ขึ้นไปได้บ้างแต่ไม่ไกล เนื่องจากตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย โดยต่างก็ยังเฝ้ารอดูเกี่ยวกับมาตรการของธนรคารกลางยุโรป(ECB)

      ส่วนตลาดบ้านเราก็ถือว่าได้ปรับตัวขึ้นไปมากแล้ว และปัจจัยในประเทศต่างก็ยังก็รอดูมาตรการของทางการที่จะเข้ามาควบคุมหุ้นเก็งกำไร และยังโฟกัสไปที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯด้วย รวมถึงคนก็ลุ้นว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมกนง.กลางเดือนหน้า แม้ว่าบรรดานายแบงก์จะออกมาว่ายังไม่น่าจะลดอัตราดอกเบี้ยก็ตาม สำหรับช่วงนี้ก็ติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไปก่อน

พร้อมให้แนวรับ 1,550 จุด ส่วนแนวต้าน 1,570 จุด

                ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(12 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,612.20 จุด ลดลง 2.70 จุด(-0.02%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,675.13 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด(+0.31%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,038.25 จุด ลดลง 1.43 จุด(-0.07%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 5.05 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 29.02 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 0.52 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.37 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 4.63 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.60 จุด, ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนาม เพิ่มขึ้น 1.24 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(12 พ.ย.)1,562.03 จุด ลดลง 9.17 จุด(-0.58%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 579.75 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 พ.ย.57

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(12 พ.ย.)ที่ 77.18 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 76 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(12 พ.ย.)ที่ 7.56 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 32.77/78 จากแรงขายทำกำไร-BOE หั่นคาดการณ์ GDP

                - นายชาติศิริ โสภณพนิชกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยายามใช้นโยบายการเงินดูแลเศรษฐกิจไทยให้สามารถขยายตัวต่อเนื่องและมั่นคง อย่างไรก็ดี ส่วนตัวเห็นว่าดอกเบี้ยนโยบายในระดับปัจจุบันเหมาะสมแล้ว

                - เรกูเลเตอร์เปิดเผยเรื่องทิศทางและยุทธศาสตร์พลังงานของประเทศว่า แนวโน้มอัตราค่าไฟฟ้าของไทยในระยะ 5 ปีข้างหน้า มีโอกาสจะสูงไปที่ระดับ 5 บาท/หน่วย เนื่องจากยังต้องใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก และต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ในปริมาณที่เพิ่มขึ้น และมีราคาที่สูงกว่าราคาก๊าซในอ่าวไทย

                - นายกสมาคมโบรกยอมรับเห็นภาพการเก็งกำไรมากเกินไป จากสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 20% เน้นเทรดเก็งกำไร จึงเห็นว่าควรจะต้องเสนอเกณฑ์คุมหุ้นร้อนใหม่ มากกว่า 1 มาตรการ พร้อมทบทวนเกณฑ์แคชบาลานซ์ใหม่ เชื่อจะไม่ส่งผลกระทบตลาด ด้านรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ ชี้นักลงทุนหันซื้อหุ้นขนาดเล็ก ทำซิงเกอร์สต็อกฟิวเจอร์สซบ มองสัญญาณดีกระจายความเสี่ยงต่างประเทศมากขึ้น

                - ศูนย์วิจัยทองคำแนะจับตา"สหรัฐ"หากขึ้น ดอกเบี้ยเร็วเกินคาด กดราคาทองคำหลุด 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ดัชนีทองคำจะเพิ่มขึ้น แต่มุมมองยังเป็นลบ ผู้ค้าทองคาดราคาทองในประเทศอยู่ที่ 16,000 - 20,500 บาทต่อบาททองคำ  พร้อมประเมินตั้งโกลด์เอ็กเชนจ์ได้ปี 2558 รับ 6 ปีแรก ขาดทุน

    - ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ประเมินจีดีพีไตรมาสสามขยายตัวร้อยละ 1.6 ฟื้นตัวช้ากว่าคาด และเข้าสู่ U-Shape ทำให้ปี 2557 เศรษฐกิจน่าจะขยายตัวได้เพียง 1.3% มองดอกเบี้ยนโยบายที่ 2% ยังเอาอยู่

    - โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวในระบบไลน์ว่าจะมีการปิดบริการตู้เอทีเอ็มของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งระหว่างเวลา 22.00 น. จนถึงช่วงเช้า วันที่ 14-15 พ.ย.นั้น จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท เนชั่นแนล ไอทีเอ็มเอ็กซ์ ผู้ให้บริการเอทีเอ็มพูลระหว่างธนาคาร จะปิดการให้บริการผ่านตู้เอทีเอ็ม และบริการธุรกรรมการเงินผ่านเอทีเอ็มระหว่างไทยกับต่างประเทศจริงจากการย้ายระบบข้อมูลไปยังศูนย์ข้อมูลใหม่ แต่เป็นแค่ช่วงสั้นๆ และไม่น่าส่งผลกระทบมากนัก

*หุ้นเด่นวันนี้

     - FIRE บมจ.ไฟร์วิคเตอร์ เทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์ MAI โดยมีจำนวนหุ้นจดทะเบียนกับตลท. 350 ล้านหุ้น จำนวนหุ้นชำระแล้ว 350 ล้านหุ้น ราคา Par 0.50 บาทต่อหุ้น ทุนชำระแล้ว 175 ล้านบาท จำนวนหุ้น IPO 90 ล้านหุ้นราคา IPO 3.00 บาท

    FIRE นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์วาล์วและอุปกรณ์ระบบดับเพลิง วาล์ว และอุปกรณ์ระบบสุขาภิบาล และปรับอากาศ รวมทั้งให้บริการงานโครงการติดตั้งระบบดับเพลิง

    - BCP(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 36.25 บาท 3Q57 แข็งแกร่ง ธุรกิจโรงกลั่นยังมีกำไร แม้ขาดทุนสต๊อกน้ำมัน 1.4 พันล้าน

     - MINT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 41 บาท คาดธุรกิจใน 4Q57 จะฟื้นตัวดีขึ้น ทั้งในส่วนของธุรกิจโรงแรมและอาหาร เนื่องจากเข้าสู่ High Season ของการท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยในช่วงปลายปี ประมาณการกำไรสุทธิปี 57 เติบโต 8% ซึ่งต่ำกว่าภาวะปกติที่จะขยายตัวเป็นเลขสองหลัก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจซบเซาในช่วง 1H57 แนวโน้มกำไรสุทธิปี 58 แข็งแกร่ง โดยคาดว่าจะขยายตัวก้าวกระโดด 28% ซึ่งเป็นผลจากฐานกำไรที่ต่ำในปี 57 และการขยายการลงทุนทั้งในและต่างประเทศของบริษัท

    - AMATA(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้าปี 2015 ที่ 17.80 บาท กำไรดีกว่าคาดมาก โดยมีกำไรกำไรสุทธิ 138 ล้านบาท ฟื้นจากขาดทุน 12 ล้านบาทใน 2Q14 แต่ลดลง 78% Y-Y ดีกว่าคาดถึงกว่า 70% เพราะรายได้โอนดีกว่าคาดและค่าใช้จ่ายต่ำกว่าคาด บริษัทจ่ายปันผลงวด 1H14 จำนวน 0.20 บาท/หุ้น (Yield 1.3%) XD 25 พ.ย.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ หลังเยนแข็งค่าฉุดหุ้นญี่ปุ่นร่วง

       ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วันทำการในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นญี่ปุ่น หลังเงินเยนแข็งค่าเทียบดอลลาร์

       ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% แตะ 141.06 จุด เมื่อเวลา 9.01 น.ตามเวลาโตเกียว

       ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,192.00 จุด ลดลง 5.05 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,947.97 จุด เพิ่มขึ้น 29.02 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,970.64  จุด เพิ่มขึ้น 3.37 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,288.34 จุด เพิ่มขึ้น 4.63 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,817.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.60 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 16.36 จุด หลังธ.กลางอังกฤษหั่นคาดการณ์ศก.

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษปรับลดแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

      ดัชนี FTSE 100 ลดลง 16.36 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 6,611.04 จุด

     ตลาดได้รับแรงกดดัน เนื่องจากธนาคารกลางอังกฤษได้เปิดเผยรายงานเงินเฟ้อเมื่อวานนี้ ซึ่งระบุว่าธนาคารได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศสำหรับปี 2558 มาอยู่ที่ 2.9% จากเดิมที่ประเมินไว้ 3.1%

    นอกจากนี้ ธนาคารยังระบุถึงความเสี่ยงช่วงขาลงที่เป็นผลมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในยูโรโซน ซึ่งจะถ่วงการส่งออกของอังกฤษและอาจจะทำให้ตลาดการเงินมีความผันผวนมากขึ้น

     หุ้นแคปิตา ร่วงลง 6.5% หลังบริษัทเปิดเผยว่าผู้อำนวยการฝ่ายการเงินของบริษัทจะก้าวลงจากตำแหน่งในช่วงสิ้นเดือนก.พ.ที่จะถึงนี้ ขณะที่หุ้นอาเบอร์ดีน ปรับลง 4.3% เนื่องจากบาร์เคลย์สปรับลดความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นกลุ่มธนาคารร่วง ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีรายงานว่าธนาคารรายใหญ่ได้ถูกสั่งปรับเพื่อยุติคดีเกี่ยวกับการปั่นค่าเงิน และองค์การนาโตได้ออกมายืนยันว่า รัสเซียได้ส่งกองกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าไปยังยูเครน

    ดัชนี Europe Stoxx 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 335.09 จุด

    ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,210.96 จุด ร่วงลง 158.07 จุด หรือ -1.69% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,179.88 จุด ลดลง 64.22 จุด หรือ -1.51% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,611.04 จุด ลดลง 16.36 จุด หรือ -0.25%

   หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากมีรายงานว่าหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ อังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์ มีคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ 5 แห่งจ่ายเงินเพื่อยุติข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปั่นค่าเงินในตลาดปริวรรตเงินตรา โดยธนาคารดังกล่าวได้แก่ซิตี้กรุ๊ป, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, เอชเอสบีซี โฮลดิงส์, รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ และยูบีเอส ส่วนจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพื่อยุติข้อกล่าวหาในครั้งนี้ มีมูลค่ารวม 3.3 พันล้านดอลลาร์

    ทั้งนี้ หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สร่วงลง 2.2% หุ้นธนาคารบังโค ป๊อปปูเลร์ ดิ่งลง 4.2% หุ้นธนาคารยูนิเครดิต ร่วงลง 5.6% หุ้นธนาคารปิเรอุส ร่วงลง 4.6% และหุ้นธนาคารบังคา ป๊อปปูเลร์ เดอ มิลาโน ปรับตัวลง 7.3%

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ยืนยันว่า รัสเซียได้ส่งกองกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าไปยังยูเครนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ขณะที่รัฐบาลของเมืองเคียฟเตือนว่า พื้นที่ทางตอนเหนือของเมืองเคียฟที่กำลังสู้รบกันอยู่นั้น กำลังทวีความรุนแรงจนอาจกลายเป็นสงคราม

    นักลงทุนจับตาดูการประชุมผู้นำกลุ่ม G-20 ที่เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย ในวันที่ 15-16 พ.ย.นี้ โดยที่ประชุมจะหารือกันเกี่ยวกับนโยบายการเงินและการใช้กฎระเบียบต่อระบบธนาคารเงา

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 2.70 จุด จากแรงขายทำกำไร

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) ขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งทำนิวไฮติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีรายงานว่าธนาคารรายใหญ่หลายแห่งได้ถูกสั่งปรับเพื่อยุติข้อหาเกี่ยวกับการปั่นค่าเงินในตลาดปริวรรตเงินตรา

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,612.20 จุด ลดลง 2.70 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,675.13 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,038.25 จุด ลดลง 1.43 จุด หรือ -0.07%

   ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวนเนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทะยานขึ้นปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากการที่นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและผลประกอบการของภาคเอกชนสหรัฐ

     ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐปรับเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากที่ขยายตัว 0.6% ในเดือนส.ค. นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า สต็อกสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 0.8% ขณะที่สต็อกสินค้าไม่คงทนหดตัวลง 0.6% ในเดือนดังกล่าว

     หุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐ อังกฤษและสวิตเซอร์แลนด์ มีคำสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ 5 แห่งจ่ายเงินเพื่อยุติข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปั่นค่าเงินในตลาดปริวรรตเงินตรา โดยธนาคารดังกล่าวได้แก่ซิตี้กรุ๊ป, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, เอชเอสบีซี โฮลดิงส์, รอยัล แบงก์ ออฟ สกอตแลนด์ และยูบีเอส ส่วนจำนวนเงินที่ต้องจ่ายเพื่อยุติข้อกล่าวหาในครั้งนี้ มีมูลค่ารวม 3.3 พันล้านดอลลาร์

     หุ้นซิตี้กรุ๊ปปรับตัวลง 0.7% ขณะที่หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอน์ โค ร่วงลง 1.3% และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับลง 0.2%

     นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ รวมถึงวอล-มาร์ท ซึ่งจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดีนี้ เนื่องจากใกล้จะถึงเทศกาลจับจ่ายใช้สอยในวันหยุดของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานยอดค้าปลีกประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ โดยตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ

     ส่วนบริษัทค้าปลีกที่ได้เปิดเผยผลประกอบการเมื่อวานนั้น บริษัทเมซี อิงค์ ระบุว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 30% เทียบรายปี สู่ระดับ 61 เซนต์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับลดคาดกาณ์ยอดขายในเทศกาลวันหยุดปลายปีนี้ด้วย โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นเมซี พุ่งขึ้น 5.09%

      ขณะที่บริษัทเจซี เพนนี ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่อีกแห่งหนึ่งนั้น รายงานว่าบริษัทมีผลประกอบการ 2.76 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 พ.ย.2557

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,612.20 จุด                         ลดลง 2.70 จุด      -0.02%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,675.13 จุด                     เพิ่มขึ้น 14.57 จุด    +0.31%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,038.25 จุด                       ลดลง 1.43 จุด      -0.07%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,611.04 จุด                   ลดลง 16.36 จุด     -0.25%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,210.96 จุด                             ลดลง 158.07 จุด    -1.69%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,179.88 จุด                         ลดลง 64.22 จุด     -1.51%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,443.00 จุด      ลดลง 51.00 จุด     -0.93%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,463.10 จุด            ลดลง 54.00 จุด     -0.98%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,918.95 จุด                           ลดลง 115.19 จุด    -1.28%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,197.05 จุด                     เพิ่มขึ้น 72.94 จุด    +0.43%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,967.27 จุด                         เพิ่มขึ้น 4.27 จุด     +0.22%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,494.48 จุด                     เพิ่มขึ้น 24.81 จุด    +1.00%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,232.87 จุด             เพิ่มขึ้น 28.32 จุด    +0.39%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,938.18 จุด                              เพิ่มขึ้น 129.90 จุด   +0.55%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,048.84 จุด     เพิ่มขึ้น 16.56 จุด    +0.33%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,816.24 จุด                      ลดลง 8.87 จุด      -0.49%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,283.71 จุด                      ลดลง 8.44 จุด      -0.26%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,008.90 จุด                        เพิ่มขึ้น 98.84 จุด    +0.35%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) ขณะที่ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งทำนิวไฮติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีรายงานว่าธนาคารรายใหญ่หลายแห่งได้ถูกสั่งปรับเพื่อยุติข้อหาเกี่ยวกับการปั่นค่าเงินในตลาดปริวรรตเงินตรา

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,612.20 จุด ลดลง 2.70 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQปิดที่ 4,675.13 จุด เพิ่มขึ้น 14.57 จุด หรือ +0.31% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,038.25 จุด ลดลง 1.43 จุด หรือ -0.07%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากมีรายงานว่าธนาคารรายใหญ่ได้ถูกสั่งปรับเพื่อยุติคดีเกี่ยวกับการปั่นค่าเงิน และองค์การนาโตได้ออกมายืนยันว่า รัสเซียได้ส่งกองกำลังทหารและอาวุธหนักเข้าไปยังยูเครน

          ดัชนี Europe Stoxx 600 ร่วงลง 1.1% ปิดที่ 335.09 จุด

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,210.96 จุด ร่วงลง 158.07 จุด หรือ -1.69% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,179.88 จุด ลดลง 64.22 จุด หรือ -1.51% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,611.04 จุด ลดลง 16.36 จุด หรือ -0.25%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษปรับลดแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 16.36 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 6,611.04 จุด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร หลังจากมีรายงานว่าภาคการผลิตของยูโรโซนขยายตัวต่ำกว่าคาด

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.34% ปิดที่ 1,159.1 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 5.5 เซนต์ ปิดที่ 15.623 ดอลลาร์/ออนซ์

          ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 1.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,205.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 95 เซนต์ ปิดที่ 773.65 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมัน และจากการคาดกาณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐอาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ล้านบาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 76 เซนต์ ปิดที่ 77.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 80.38 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (12 พ.ย.) เนื่องจากสต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐในเดือนก.ย.ขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2432 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2478 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5783 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5922 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 115.54 เยน เทียบกับระดับ 115.40 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9670 ฟรังค์ จาก 0.9645 ฟรังค์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8715 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8700 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 1,327.00 จุด ลดลง 43.00 จุด, -3.14%

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!